แก้ไข DS 160 ได้ไหมหลังจากได้วันนัดสัมภาษณ์วีซ่าแล้ว


ผู้ที่กรอกฟอร์ม DS 160 เสร็จแล้วหลายคนพบว่า ได้กรอกข้อมูลใน DS 160 ผิด ภายหลังจากกดคลิกยืนยันการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าเรียบร้อยแล้ว  และเกิดความต้องการแก้ไขแบบฟอร์ม DS 160 ที่กรอกเสร็จแล้วใหม่  ผู้ยื่นขอวีซ่ายังมีสิทธิ์เข้าไปแก้ไขข้อมูลในแบบฟอร์ม DS 160ได้ จนกว่าจะถึงวันที่ทางสถานทูตกำหนดไว้ว่า ห้ามเปลี่ยนแปลงแก้ไขวันนัดสัมภาษณ์วีซ่า ซึ่งวันเดียวกันนั้นเองก็จะเป็นวันสุดท้าย ที่ห้ามเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลที่กรอกไว้ในแบบฟอร์ม DS 160 ด้วย

อนึ่งการแก้ไขฟอร์ม DS 160 ในบางครั้ง อาจมีความจำเป็นต้องกรอกฟอร์ม DS 160 ใหม่เกือบทั้งหมด ซึ่งมีผลทำให้หมายเลข Confirmation Number เปลี่ยนแปลงไป ผู้ยื่นขอวีซ่าอาจเป็นกังวลว่า จะแก้ไขได้ไหม สถานทูตจะยอมให้เข้าไปสัมภาษณ์วีซ่าไหม เพราะคลิกยืนยันจองวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้วนั้น เมื่อได้ลองเข้าไปแก้ไขฟอร์ม DS 160 ด้วยตนเอง จึงพบว่า ยังมีโอกาสแก้ไขได้ และถ้าต้องการแจ้งหมายเลข  DS 160 Confirmation Number  ใหม่ก็ยังแก้ไขได้อยู่ *(โปรดดูหมายเหตุ)ขั้นตอนการแก้ไขมีดังนี้ คือ

  1. เปิดเว็บไซต์นัดสัมภาษณ์วีซ่า  http://thailand.us-visaservices.com แล้ว log in โดยใช้ Username และ Password เดิม ผู้ยื่นขอวีซ่าจะเห็นหน้าเว็บไซต์ตามแบบตัวอย่างข้างล่างนี้
  2. ให้คลิก Edit application info ถ้ายังไม่เลยวันที่กำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ ตัว Edit application info จะเป็นตัวอักษรสีน้ำเงิน แต่ถ้าพ้นกำหนดวันสุดท้ายของการแก้ไขวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว ตัวอักษร Edit application info จะเป็นตัวอักษรสีเทา กรณีจองวันนัดสัมภาษณ์ไว้หลายคนด้วย Pin เดียวกัน จะขึ้นหน้าจอแบบข้างล่างนี้ เพื่อให้เราเลือกว่า จะแก้ไขรายละเอียดของผู้ยื่นขอวีซ่าคนใด
  3. ข้างล่างจะมีรายละเอียดนามสกุล ชื่อ หมายเลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปีเกิด และช่องสุดท้ายให้เลือกคลิก คลิก edit ชื่อคนที่ต้องการแก้ไขข้อมูล
  4. เมื่อกดคลิกเลือกที่จะ edit ผู้ยื่นขอวีซ่าคนใด เว็บไซต์หน้าถัดไปจะมีรายละเอียด เกี่ยวกับชื่อและนามสกุลผู้ยื่นขอวีซ่า วันเดือนปีเกิด ประเภทวีซ่าที่ขอ มีคำถามหนึ่งถามว่า เคยขอวีซ่าแล้วหรือยัง ถ้าเคยมีวีซ่าแล้ว ให้ระบุประเภทวีซ่า และวันที่ได้รับวีซ่า หมายเลขโทรศัพท์ที่บ้าน อีเมล์ ในหน้านี้จะมีช่องหนึ่งให้กรอก Confirmation Number ซึ่งจะอยู่ใกล้ช่องที่ถามว่า เคยมีวีซ่าแล้วหรือยัง ให้คลิกที่ช่องดังกล่าว เพื่อแก้ไขหมายเลข DS 160 Confirmation Number เดิมเป็น Confirmation Number ใหม่ แล้วคลิก save เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการแก้ไข DS 160 Confirmation Number ให้ตรงกันกับ Confirmation Number ฉบับใหม่ที่จะนำไปใช้ในวันนัดสัมภาษณ์วีซ่า

* หมายเหตุ ขอ อัพเดท ข้อมูลล่าสุด (6-07-2554) เมื่อพบว่า ต้องการแก้ไขข้อมูลที่กรอกใน DS 160 ใหม่ เพราะกรอกข้อความผิด ก่อนตัดสินใจที่จะทำการแก้ไขแบบฟอร์ม Ds-160 ขอให้ผู้ยื่นขอวีซ่าลองเข้าไปดูเว็บไซต์นัดสัมภาษณ์ก่อนว่า ยังจะทำการแก้ไขหมายเลข DS -160 ได้อยู่อีกหรือไม่ ถ้าตัวอักษร Edit application info เป็นสีน้ำเงิน ให้เข้าไปแก้ไขได้ ให้คลิกเข้าไปที่หน้าดังกล่าว แล้วเลื่อน cursor ลงมาดูตรงช่องที่ให้กรอก DS-160 Confirmation Number ลองคลิกเปลี่ยนตัวเลขตัวสุดท้ายดูก่อนว่า จะแก้ไขได้หรือไม่ เนื่องจาก เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของปลายเดือนมิถุนายน 2554 แบบฟอร์ม DS-160 มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย  ทำให้มีผู้ที่เตรียมตัวยื่นขอวีซ่าบางท่านเขียนมาถามในบล็อกเกี่ยวกับการกรอกฟอร์มวีซ่า DS-160 ว่า ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขหมายเลข DS-160 ได้ ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ผู้ต้องการแก้ไขข้อมูลดังกล่าว ได้ลองพิสูจน์ด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์นัดสัมภาษณ์ แล้วทำตามขั้นตอนที่แนะนำก่อน หากแก้ไขหมายเลข DS-160 ไม่ได้ และต้องการแก้ไขสิ่งที่กรอกไปแล้วในแบบฟอร์ม DS-160 ให้กรอกฟอร์ม DS-160ใหม่ แล้ว print หมายเลข DS-160 Confirmation Number ใหม่เข้าไปยืนยันพร้อมใบเก่า แล้วชี้แจงเหตุผลที่จำเป้นต้องแก้ไขแบบฟอร์ม DS-160 ให้เจ้าหน้าที่สถานทูตทราบ

Copyright © 2010-2011 GoVisa All rights reserved.

Post a comment or leave a trackback: Trackback URL.

Comments

  • เจี๊ยบ  On May 30, 2011 at 6:40 pm

    จะทำอย่างไร เมื่อ ไม่สามารถเดินทางเข้าถึงอเมริกาภายใน 30 วันของวันเริ่ม exchange program ซึ่งระบุใน DS2019

    • govisa  On May 31, 2011 at 4:58 am

      น้องเจี๊ยบคะ ความหมายที่ว่าเดินทางเข้าไปก่อนได้ไม่เกินกว่า 30 วันคือ วันไหนก็ได้ในช่วง 30 วัน ก่อนหน้าวันที่กำหนดไว้ใน DS 2019 น้องอาจไปถึงก่อนหน้าวันที่ระบุไว้ใน DS 2019 เพียงวันเดียวก้ได้ เช่น เขากำหนดว่า ให้เข้าประเทศเขา not later than 08-25-2011 น้องจะเข้าประเทศเขาหลังวันที่ 25 สิงหาคม 2011 ไม่ได้ค่ะ น้องสามารถเข้าประเทศอเมริกาได้ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 25 สิงหาคม (รวม 30 วัน) ถ้าน้องไม่เหนื่อยมาก อยากจะเข้าประเทศอเมริกา 25 สิงหาคม ถึงอเมริกา 25 สิงหาคมก็ได้ค่ะ แต่พี่คิดว่า กว่าจะปรับตัวเรื่องเวลาได้ เวลาในไทยกลางคืน เวลาในอเมริกาเช้า น้องคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว 2-3 วัน ค่ะ มันอาจจะทำให้น้องอ่อนเพลีย ง่วงนอนค่ะ

  • เจี๊ยบ  On May 31, 2011 at 6:12 am

    ใน DS2019 ระบุวันเริ่มโปรแกรม 1 กรกฏาคม สิ้นสุด 30 ธันวาคม 54 แต่ตอนนี้คิวจองสัมภาษณ์วีซ่ายาวมากถึง 19 กรกฏาคม และระบบจะรับจองเพียง 4-8 สัปดาห์ล่วงหน้าเท่านั้นทำให้ไม่สามารถจองคิวได้ในตอนนี้ เมื่อบวกเวลาในการรอวีซ่าอีก 2 สัปดาห์ คาดว่าจะเข้าอเมริกาได้ก่อนปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเลย 30 วันหลังจากโปรแกรมเริ่ม จึงต้องติดต่อให้เค้าออก DS2019 ให้ใหม่ อยากทราบว่าจะได้หมายเลขใหม่เลยรึเปล่าคะ แล้วต้องทำ SEVIS ใหม่รึเปล่า หรือว่าเค้าเพียงแก้ไขวันที่ระยะเวลาของโปรแกรมเท่านั้นคะ

    • govisa  On May 31, 2011 at 9:53 pm

      น้องเจี๊ยบคะ พี่คาดว่า น้องน่าจะได้หมายเลข DS 2019 เดิมค่ะ ไม่ต้องทำ sevisใหม่ค่ะ ที่จริงครั้งแรก เขาน่าจะแก้ไขแค่วันที่ค่ะ ว่าแต่น้องได้รับ DS 2019 จากสถานศึกษาชื่ออะไรคะ
      ตอนแรกที่ยังไม่ได้แจ้งสถานศึกษาขอเปลี่ยนวัน น้องน่าจะลอง scan หน้าแรกของ DS 2019 ส่งไปที่ visabkk@state.gov พร้อมทั้งเขียนอีเมล์ขอเร่งรัดสัมภาษณ์วีซ่าว่า โครงการของน้องจะเริ่มวันที่เท่าไรค่ะ ส่วนใหญ่ กงสุลจะช่วยเลื่อนวันนัดให้เร็วขึ้นได้ ถ้าเป็นวีซ่า F-1 กับ J-1 ค่ะ

      • เจี๊ยบ  On May 31, 2011 at 10:52 pm

        เจี๊ยบได้ DS2019 จาก Oregon State University ค่ะ และตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าจองคิวได้เลย และวันนี้ระบบก็ล่มจึงทำให้เข้าเว็บจองคิวสัมภาษณ์ไม่ได้เลย อยากทราบว่ามีโอกาสเป็นไปได้มั้ยคะที่เราจะไปสถานฑูตเพื่อแจ้งความจำนงและความจำเป็น และเนื่องจากว่าเป็นการไปปฏิบัติราชการโดยการส่งตัวจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปที่โอเรกอน อย่างนี้ทางสถานฑูตเค้าจะช่วยเรามั้ยคะ

      • govisa  On June 1, 2011 at 5:29 am

        ช่วงนี้คงจะเจอระบบล่มบ่อย เพราะใกล้เปิดเทอมแล้วค่ะ พี่เองก็เจอระบบล่มเกือบทั้งวันตอนทำคิวนัด B-2 ให้เพื่อนเมื่อวานนี้ พี่ยังไม่ได้วันนัดสัมภาษณ์ให้เพื่อนเหมือนกันค่ะ ที่น้องถามพี่มา น้องลองไปที่สถานทูตดูแล้วถามเจ้าหน้าที่เขานะคะว่า จะขอเข้าไปสัมภาษณ์ได้ไหม ตามเหุผลที่น้องบอกพี่ค่ะ แต่จากประสบการณ์พี่ คือ คงต้องทำคิวนัดเองก่อนค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่เขาคงบอกว่า เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะหน่วยงานที่ทำคิวนัดเป็น Outsource ที่ทางสถานทูตเขาจ้างอีกทีค่ะ คำตอบจากพี่อาจทำให้น้องไม่ค่อยยินดีนัก แต่เคยได้ฟังจากคนที่ไปที่สถานทูต แล้วได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่แบบที่บอกข้างต้น จึงแจ้งน้องทราบค่ะ

  • เจี๊ยบ  On June 1, 2011 at 10:42 am

    เมื่อวานใช้อินเตอร์เน็ทที่ม.เกษตร ไม่สามารถเข้าเว็บได้เลย (run time error) จึงลองให้เพื่อนที่ทำงานในสถาบันของรัฐบาลอเมริกาเข้าเว็บจองคิว ปรากฎว่าสามารถเข้าระบบได้แต่ก็ช้าๆค่ะ และตารางจองก็ยังคงเต็มถึงวันที่ 19 ก.ค. เหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ระบบไม่เปิดให้เราจองทางอินเตอร์เน็ทก็ควรจะไม่รับจองทางโทรศัพท์ในช่วงเวลาเดียวกันใช่มั้ยคะ เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ถ้าเปรียบเทียบระหว่างจองคิวทางอินเตอร์เน็ทกับทางโทรศัพท์ อย่างไหนจองได้รวดเร็วกว่ากันคะ

    • govisa  On June 1, 2011 at 10:41 pm

      เห็นใจค่ะน้องเจี๊ยบ แต่วันนี้ โปรแกรมนัดสัมภาษณ์ไม่ล่มนะคะ แต่ก้ยังไม่เจอวันนัดสีเขียวค่ะ

      ถ้าจะจ่ายเงินค่าจองทางโทรศัพท์ทำได้ค่ะ แพงกว่าทางอินเทอร์เน็ตนิดหน่อย (โทรศัพท์ 20 เหรียญ อินเทอร์เน็ต 12 เหรียญ)การโทรศัพท์เข้าไปจองทำได้เฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.00-17.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการไทยและอเมริกันงดการติดต่อทางโทรศัพท์ค่ะ ดูเพิ่มเติมที่ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw ค่ะ

      คำถามสุดท้ายตอบยากนะคะว่า อันไหนได้เปรียบเสียเปรียบกว่ากัน เพราะบอกว่าขึ้นกับดวง ก็ไม่อยากให้น้องเข้าใจพี่ผิด บางทีน้องบางคนไปพบจังหวะได้คิวนัดทางโทรศัพท์เกิดบอกต่อเพื่อน แต่พอเพื่อนทำเลียนแบบบ้าง กลับต้องรอ 2 เดือนยังไม่ได้คิวนัดก็มีค่ะ

      พี่ทราบว่าทางอินเทอร์เน็ตมีข้อได้เปรียบกว่าทางโทรศัพท์ ตรงจุดที่ว่าเปิดดูตารางนัดได้ 24 ชั่วโมงออนไลน์ไม่มีวันหยุดค่ะ

  • govisa  On July 10, 2011 at 8:26 pm

    ขอโทษคุณ Ann และขออนุญาตตอบคุณ Ann Supaphan มาณ ที่นี้นะคะ เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาอ่านในวันหลังนะคะ อยากให้คุณ Ann เข้าไปดูในบล็อกเรื่อง ฟอร์มใหม่วีซ่าเข้าอเมริกา DS-160 ที่น้อง RR (horkaew_2008@hotmail.com) เขียนมาถามค่ะ คือ ใช้ฟอร์ม DS-160 ที่กรอกใหม่สมบูรณ์ได้ค่ะ แต่อย่าลืมนำเอาแบบฟอร์ม DS-160 ที่มีหมายเลขเก่าที่คุณ Ann ใช้นัดสัมภาษณ์เข้าไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์นะคะ

  • iamblue  On July 21, 2011 at 12:33 am

    พี่คะ หนูอยากรบกวนถามว่าถ้าหนูยังไม่ได้วันจอง แต่ต้องการจะเปลี่ยน หมายเลข DS-160 ต้องซื้อพินใหม่ได้เลยใช่มั้ยคะ เพราะว่า ชื่อล๊อกอินอันเก่า มันเปลี่ยนหมายเลขที่ยืนยันไม่ได้อะค่ะ รบกวนตอบหนูหน่อยนะคะ ขอบคุณคร่า

    • govisa  On July 21, 2011 at 9:17 pm

      ไม่ต้องซื้อ Pinใหม่ค่ะน้อง Blue ให้น้องกรอก DS160 ใหม่ให้เสร็จ Print DS-160 อันใหม่ที่ถูกต้อง แล้วนำ DS-160 ทั้งใหม่และเก่าไปให้เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตดูเวลาสัมภาษณ์ค่ะ ถ้าเขาถามเหตุผลแจ้งเขาว่า ตอนกรอกฟอร์มนัดสัมภาษณ์ใส่หมายเลขเก่า ทีนี้มาพบว่า น้องกรอกผิด อยากแก้ที่ผิดให้ถูก ปรากฏว่าแก้ไข DS-160 ในหน้านัดไม่ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม เวลาจองคิวนัดสัมภาษณ์ก็คงต้องใช้หมายเลขเก่าไปนะคะ เพราะตั้งแต่แรกตอนกรอกฟอร์มนัดสัมภาษณ์ น้องใช้ DS-160 อันเก่าใช่ไหมล่ะคะ

  • เมย์  On August 31, 2011 at 6:30 pm

    ลองเข้าไปในลิงค์ที่ให้มา แต่ว่า พอล็อกอินเข้าไป มันก็ไปแต่หน้าให้ซื้อพินอ่ะค่ะ ทำยังไงดีคะ จะเข้าไปแก้หมายเลข DS-160 ใหม่ แต่ทำยังไงมันก็เข้ามาแต่หน้าให้ซื้อพินตลอดเลย ช่วยแนะนำให้หน่อยค่ะ วันนี้วันสุดท้ายที่ให้แก้ไขข้อมูลด้วย ขอบคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำค่ะ

    • govisa  On August 31, 2011 at 8:48 pm

      @ น้อง May คะ ถ้าน้องหมายความว่า น้องต้องการเข้าไปดูรายละเอียดของน้องในหน้านัดสัมภาษณ์ พอน้องเข้าไปที่เว็บไซต์ http://thailand.us-visaservices.vom ให้น้องคลิก log in ใส่ Username และ Password ค่ะ แต่ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการแก้ไขข้อมูล อาจเข้าไปดูอะไรไม่ได้ เพราะมีบางครั้งที่โปรแกรมเกิดรวนขึ้นมาค่ะ ส่วนหมายเลข DS-160 พี่ได้ เขียนหมายเหตุไว้ว่า ตั้งแต่ประมาณสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน 2554 สถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มคำถามในแบบฟอร์ม เช่น ให้ใส่ telecode number(ถ้ามี)และ ฯลฯ รวมทั้งมีคำแปลภาษาไทยเพิ่มให้ด้วย ตั้งแต่ช่วงนั้น พี่ก็ได้สังเกตเห็นว่า เราจะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขหมายเลข DS-160 Confirmation Number ได้ รววมทั้งระยะนั้นใครๆที่กรอกไว้ตอนเดือนพฤษภาคม จะมากรอกเพิ่มใหม่ก็ต้องทำการกรอกฟอร์มใหม่ในบางจุดที่ทางสถานทูตเขามีคำถามเพิ่มค่ะ ถ้าไม่กรอก โปรแกรมจะไม่ยอมปล่อยให้เราผ่านเลยข้อมูลที่ไม่ได้กรอกไปทำรายการอื่นค่ะ แต่เหตุการณ์นั้นก็ผ่านมาแล้วนะคะ เพราะนี่กำลังจะเข้าเดือนกันยายนแล้ว คนที่กรอกไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม คงผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์ไปแล้วค่ะ

      ทีนี้มาว่าเรื่องของน้อง พี่เคยเขียนตอบน้องบางคนไปแล้วตอนที่มีการปรับปรุงการใช้ฟอร์ม DS-160 อาทิตย์แรกๆของเดือนมิถุนายน กล่าวคือ ให้น้องกรอกฟอร์ม DS 160 ใหม่แล้วถือแบบฟอร์ม DS-160 ใบเก่าและใบใหม่เข้าไปในสถานทูต โดยอธิบายให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ได้ไปตรวจทานฟอร์มที่กรอกหลังจากได้วันนัดสัมภาษณ์แล้ว พบข้อผิดพลาด จึงต้องการเข้าไปแก้ไขข้อมูล แต่แก้ไขไม่ได้ จึงกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ แต่เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดว่า จะไม่ใช่คนๆเดียวกัน จึงได้นำหลักฐาน DS-160 Confirmation Number ทั้งเก่าและใหม่มาแสดงค่ะ

  • sujitra  On September 8, 2011 at 4:36 pm

    สวัสดีค่ะ ขอสอบถามได้ไหมคะเรื่องการแก้ไข ds-160
    พอดีกรอกไปแล้ว ไปสัมภาษณ์แล้ว ก่อนที่จะเจอเจ้าหน้่าที่อเมริกันที่สัมภาษณ์ จะมีผู้หญิงคนนึงเช็คเอกสาร ถามเราเกี่ยวกับข้อมูล เรากรอกไปว่าพักบ้านว่าที่หลานเขย แต่ใน ds-160 เรากรอกว่าไม่มีญาติใกล้ชิด เค้าเลยปฎิเสธการสัมภาษณ์ให้มากรอกข้อมูลให้ตรง
    คราวนี้เราก็เลยคิดว่าถ้าจะเปลี่ยนข้อมูลจากพักบ้านญาติ ไปเป็นไปเที่ยวกับทัวร์ และพักโรงแรม จะได้ไหมคะ

    • govisa  On September 8, 2011 at 8:52 pm

      @น้อง Sujitra การเคยถูกปฏิเสธครั้งที่ 1 กงสุลจะยังคงมีข้อมูลของเราเก็บไว้อยู่ การที่จะหลีกเลี่ยงโดยใส่ว่า เราจะไปพักโรงแรมแล้วจองทัวร์ไป ก็ขึ้นอยู่กับท่านกงสุลที่จะเป็นคนสัมภาษณ์ว่า จะเชื่อใจน้องได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ อนึ่ง ในแบบฟอร์ม DS-160 จะมีถามว่า Contact person ในสหรัฐอเมริกาคือใคร ที่ถูกต้องน้องควรใส่ชื่อหลานสาว ไม่ใช่หลานเขยค่ะ เพราะการผูกพันกันทางกฎหมายหรือนิตินัย มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้ค่ะ เมื่อเปลี่ยนแปลงไปหลานเขยก็จะกลายเป็นอดีตไปค่ะ ลองนำข้อมูลนี้ไปตัดสินใจดูเองนะคะว่า จะเลือกแบบไหน คือ

      1. อาจจะใส่ชื่อที่พักเป็นโรงแรม และไปเที่ยวกับทัวร์ ถ้าถูกถามถึงญาติก็ต้องตอบไปว่า ญาติเขาติดต่อกลับมาว่า เขาคงจะลางานช่วงที่เราจะเดินทางไปเที่ยวไม่ได้ เราเลยเปลียนใจไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ค่ะ และอาจจะแวะเยี่ยมเขาก่อนกลับ หรืออาจะตอบว่า ไว้โอกาสหลังค่อยไปเยี่ยมเขาค่ะ

      2. ใสชื่อหลานสาวไป แล้วบอกว่าไปเยี่ยมหลานค่ะ ( กรณีนี้ ให้ข้อสังเกตว่า ลองดูเงินในบัญชีธนาคารของตนเองที่จะนำไปแสดง ถ้ามีน้อย ก็อาจจะต้องให้หลานสาวทำจดหมายเชิญมาว่า จะไปพักบ้านหลานสาวค่ะ แล้วหลานสาวจะรับผิดชอบค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเที่ยวค่ะ แต่ก็อีกนะคะ หลานสาวจำเป็นต้องกรอก I-134, แสดงหลักฐานบัญชีเงินฝาก และการจ่ายภาษี ถ้าหลานสาวรายได้น้อยขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินของหลานเขย ก็คงต้องเสี่ยงวัดดวงกันแล้วค่ะว่า กงสุลจะเชื่อไหมว่า หลังจากเที่ยวเสร็จ เราจะกลับเมืองไทยค่ะ

      ขอเอาใจช่วยให้ได้วีซ่าค่ะ

  • govisa  On September 12, 2011 at 9:52 pm

    พี่ขออนญาตตอบน้อง K.Kornprasertkitti ที่ถามเข้ามาทางอีเมล์เมื่อวันเสาร์ พี่ขอโทษที่ตอบช้าค่ะ เพราะไม่ได้เปิดอีเมล์ดูค่ะ และขออนุญาตตอบใน WordPress เพื่อเป็นวิทยาทานแก่น้องๆท่านอื่นค่ะ ประโยคที่น้อง copy มาให้พี่อ่าน ” Please correct all areas in error as indicated below. Once you have finished, click ‘Retrieve Application’ button to continue completing your online application form. No matching data found.” น่าจะหมายถึงบริเวณที่มีลูกศรสีแดงให้น้องแก้ไขข้อมูลค่ะ ถ้ายังไม่ได้ submit ให้เข้าไปที่ https://ceac.state.gov/genniv/ เลือก location เป็น Thailand Bangkok คลิก start application จะได้หน้านี้ออกมา
    https://ceac.state.gov/genniv/General/complete/complete_gettingstarted.aspx?node=GetStarted ให้เลื่อน cursor ลงมาข้าล่างๆหน่อยจะเห็นคำว่า Option C “Retrieve Application” เลือกตรงนี้ ฟอร์มจะถามถึง Application ID ก็คือ AA 001และหมายเลขบวกตัวอักษรของ file น้อง ซึ่งก็คือ DS-160 Confirmation Number นั่นเอง ต่อไปกรอก 5 ตัวอักษรของนามสกุล ปีคศ.ที่เกิด และคำตอบของคำถามที่น้องเลือกไว้ในตอนแรกที่กรอกข้อความ เช่น ถามว่า แม่ของแม่ชื่ออะไรค่ะ หลังจากที่ Retrieve จะได้ข้อมูลทั้งหมดกลับมาถ้าน้องยังไม่ได้กด submit ก็น่าจะแก้ไขข้อมูลได้ค่ะหลังจากคลิกคำว่า review ที่อยู่ต่อจาก upload รูปหน้าน้องค่ะ แต่ถ้ากด submit ไปแล้วก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วค่ะ แนะนำให้กรอกฟอร์มใหม่ แต่เวลาถือ DS-160 Confrimation Number เข้าไปในสถานทูตวันสอบสัมภาษณ์ ให้ถือเข้าไปทั้งใบใหม่ละใบเก่าค่ะ

  • kaew  On October 13, 2011 at 10:26 pm

    กรอกข้อมูลขอนัดสัมภาษณ์DS-160 ไปแล้วค่ะ แล้วดูวันนัดได้ที่ไหนค่ะ หรือต้องรอทางสถานฑูตตอบกลับมาค่ะ ใน DS-160 ไม่เห็นมีวันนัดสัมภาษณ์เลยค่ะ
    มีแต่วันที่กรอกข้อมูล แต่วันนัดสัมภาษณ์ไม่เห็นมีเลยค่ะ จะไปช่วงธันวาคม 54 กรอกข้อมูลขอนัดสัมภาษณ์ตุลาคม 54 ไม่ทราบว่าจะทันหรึเปล่าค่ะ และยังไม่ได้โหลดรูปค่ะ ถ้าจะกลับไปแก้ไขต้องทำยังงั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On October 14, 2011 at 5:18 am

      น้องแก้วคะ น้องต้อง upload รูปถ่ายใบหน้าน้องใส่ไปในฟอร์ม DS-160 ก่อน แล้วจะไปถึง Part ที่ให้น้อง Review คือตรวจทานสิ่งที่กรอก น้องสามารถตรวจทานแก้ไขให้เรียบร้อยได้ เมื่อมั่นใจแล้วคลิกคำว่า sign and confirmation น้องกรอกหมายเลขหนีงสือเดินทางแล้วพิมพ์ Code ประจำตัวน้องตามที่เขาให้มาแล้วคลิก confirm หลังจากนั้น Print application ออกมา ตรงตัว Application จะพิมพ์ได้แค่ครั้งเดียว หลังจกนั้นน้องจะไม่สามารถเห็นตัว Application และ Print ได้ถึงแม้จะอยาก print ก็ตาม ส่วนตัว DS-160 Confirmation จะพิมพ์กี่ครั้งก้ได้ ถ้าถามพี่ว่า ต้องยื่นใบไหนเวลาสอบสัมภาษณ์ คำตอบคือ ยื่น DS-160 Confirmation Number เท่านั้น ส่วน Application แค่เก็บไว้อ่านทบทวนที่ตัวน้องเองเท่านั้นว่า ตัวเองได้กรอกอะไรไปแล้วบ้างค่ะ

      หลังจากได้ DS-160 Confirmation Number ให้เข้าไปที่ http://thailand.us-visaservices.com เพื่อทำการนัดหมายวันสัมภาษณ์ เมื่อเข้าเว็บไซต์ดังกล่าวได้ ให้คลิก Visa appointment and information น้องตั้ง Username and password แล้วใส่พินที่ซื้อจากไปรษณีย์จำนวน 372 บาทที่ช่องสุดท้ายของหน้าเว็บไซต์นี้ แต่ถ้าไม่ได้ซื้อพินที่ไปรษณีย์ ตรง 3 ช่องสุดท้ายไม่ต้องกรอกอะไร คลิกไปที่หน้าถัดไป เพื่อตัดเงินค่าทำคิวนัดวันสัมภาษณ์จำนวน 372 บาทผ่านบัตรเครดิตค่ะ บัตรเครดิตจะเป็นของน้องเอง หรือบัตรเครดิตของคนอื่นก็ได้ค่ะ แล้วกรอกข้อความไปเรื่อยๆจนถึงหน้าปฏิทินนัดสัมภาษณ์ ถ้ามีสีเขียวตรงวันที่นัดแปลว่าวันนั้นว่าง คลิกเลือกวันที่ต้องการเองค่ะ หลังจากนั้นจะมีให้เลือกเวลา แล้วคลิก เลือกเวลา กด confirm พร้อมทั้ง print ออกมาด้วยค่ะ ดูเพิ่มเติมจาก video ที่ สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพเขาสร้างไว้ที่ Youtube คือ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw โชคดีค่ะ

  • supachaya  On November 11, 2011 at 7:17 pm

    สวัสดีค่ะ คืออยากสอบถามว่า1. ได้กรอกds 160 ไปแล้วค่ะ และได้ยืนยัน อจงวันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ในต้นเดือนธันวาค่ะ คราวนี้เพอ่งมารู้ว่าตอนที่กรอกไปนั้นิดตรงที่ให้ใส่ชื่อบุคคล 2 คน ที่สามารถยืนยันได้ว่าเราอยู่ที่ประเทศไทยนี้ค่ะ แต่ตอนนั้นได้กรอกไปในชื่อของสถานศึกษาค่ะ ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาอะไรมั้ยค่ะ
    2. ได้กรอกที่พักไปเป็นที่อยู่ที่โรงเรียนค่ะและ ไม่มีญาติอยู่ที่นั่นเลย แต่จริงๆแล้วมีน้องที่เรียนอยู่ที วอชิงตันอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คุยกับน้องเลยไม่รู้ว่าต้องกรอกที่อยู่ที่น้องหาให้
    3. ที่อยู่ใน I-20 ไม่ตรงกันตรงบ้านเลขที่ผิดไปตัวเลขเดียวไม่ทราบว่าจะมีปัญหามั้ยคะ
    4.ได้กรอกsevis fee แล้ว ยืนยันและกรอกเลขบัตรเครดิตไปแล้ว แต่สุดท้ายไม่ขึ้นหน้าใบเสร็จให้เราปริ้นแต่ขึ้น ตารางเล็กๆมาว่า มีเลข ซีวิสฟรี ของเราแล้ว แต่บอกว่า not paid หมายความว่ายังไงคะต้องไปกรอกเพื่อที่จะจ่ายใหม่หรือเปล่า

    • govisa  On November 11, 2011 at 8:48 pm

      น้อง Supachaya คะ
      1. ถ้าต้องการแก้ไข DS-160 ทำได้ทางเดียวแล้วในเวลานี้ คือ ต้องกรอกฟอร์ม DS-160 พร้อมทั้ง submit ไปใหม่ด้วยค่ะ ในวันยื่นเอกสารสัมภาษณ์ให้น้องนำใบยืนยัน DS-160 ใบเก่าและใบใหม่ไปด้วย ถ้าเจ้าหน้าที่ถาม อธิบายได้ว่า ตอนกรอกรีบกรอก เพราะเกรงว่าจะไม่ได้วันนีดสัมภาษณ์ เมื่อจองวันนัดสัมภาษณ์ได้แล้ว กลับมาตรวจทานพบที่ผิดมากจึงกรอกใหม่ และนำมายื่นให้ดูพร้อมกันทั้งใบเก่าและใบใหม่ค่ะ
      2. อะไรที่กรอกผิดไปครั้งแรก ช่วยแก้ไขให้ถูกต้องด้วย เช่น ชื่อบุคคลอ้างอิง 2 คนก็ใส่ชื่อเพื่อนไป, ที่อยู่ที่จะไปพัก ถ้าไม่รู้จักอะไรหรือใครเลย ให้น้องใส่ที่อญู่ของโรงเรียนไปได้ค่ะ
      3. เรื่องที่อยู่ผิดหมายความว่า
      3.1 น้องกรอกที่อยู่ผิดตั้งแต่ส่งใบสมัครใช่ไหมคะ น้องจึงเป็นกังวลในข้อ 3 ที่เขียนถามมา หรือ
      3.2 ใน DS-160 Confirmation Number ใบแรกเขียนที่อยู่สถานศึกษาที่ปรากฏใน I-20 ผิด
      ถ้าเป็นความหมายในข้อ 3.2 ก็จัดการแก้ไขใหม่ให้ถูกในการกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ แต่ถ้าเป็นอย่างข้อ 3.1 เมื่อแก้ไขที่อยู่ใหม่ได้ถูกแล้ว ให้นำทะเบียนบ้านไปด้วย เผื่อกงสุลถามเรื่องที่น้องเป็นกังวลถามพี่มา จะได้บอกว่า น้องลืมตรวจทานอีกครั้งก่อนส่งใบสมัคร ทำให้ที่อยู่ผิด คิดว่า เมื่อได้วีซ๋าและได้เดินทางไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาแล้ว จะไปติดต่อสถานศึกษาเพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกค่ะ
      4. Not paid แปลว่า การตัดเงินจากบัตรเครดิตยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ น้องสามารถโทรศัพท์ไปสอบถามบริษัทหรือธนาคารที่เป็นเจ้าของบัตร เช่นบัตรเครดิตนั้นเป็นของธนาคารใดให้โทรไปถาม call center ของธนาคารนั้นว่า เงินถูกตัดไปแล้วหรือยัง ถ้ายัง ให้น้องเข้าไปที่ http://www.fmjfee.com แล้วเริ่มกรอกข้อความใหม่ทั้งหมดค่ะ ค่อยๆทำ อย่าคลิก enter เร็วนัก บางทีโปรแกรมยังดำเนินการไม่เสร็จดีนักเราก้อาจจะใจร้อนเปลี่ยนหน้าเร็ว เครื่องอาจหยุดชะงักได้ค่ะ

      พี่ขอแถมท้ายเกี่ยวกับ Print Sevis I-901 จากเว็บไซต์ http://www.ice.gov/sevis/i901/faq5.htm#_Toc81222119

      5.E. What if I need another copy of my receipt?
      To have SEVP send you another copy of your receipt, call the Customer Service hotline. If you do not have access to the hotline, you can also e-mail or write SEVP. Put Copy of Receipt in the subject line and include your SEVIS ID number, your original receipt number (if available), your full name and date of birth. Include the address where you would like to have the receipt sent.
      See the section on sources of help for the hotline phone number and the addresses for SEVP.
      5.E.1. Can a reprinted receipt be sent to a different address than the original receipt?
      Yes. See the directions in the question, What if I need another copy of my receipt?
      5.E.2. Can I reprint my electronic receipt?
      No. You will not be able to return to the receipt page. Be sure your printer is ready before starting the online payment process. Do not exit the receipt page until you have successfully printed the receipt.
      5.E.3. Will I get a receipt if my exchange visitor program sponsor pays for me?
      You should get a copy of the receipt from your sponsor. If you do not receive a copy, contact your exchange visitor program sponsor directly. You may also contact SEVP for a copy of the receipt. See the directions in the question, What if I need another copy of my receipt?
      5.E.4. Is there a charge for sending a copy of my receipt?
      No. There is no charge for sending a copy of your receipt.
      5.E.5. If I request a copy of my receipt, how soon will I receive it?
      All copies of receipts are sent by mail. You cannot get expedited delivery for copies of receipts. In most cases, it takes about 2 weeks to receive a receipt through the mail. Allow more time if your local mail circumstances warrant.
      5.E.6. Can receipts be e-mailed or faxed?
      No. We do not e-mail or fax receipts.

  • supachaya  On November 12, 2011 at 10:27 am

    ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำตอบ
    พี่คะ คือ 1. ในใบ I-20 ที่ทางโรงเรียนนั้นส่งมาให้เป็นบ้านเลขที่ ที่ผิดค่ะ จาก 197(ถูก) เป็น 191(ผิด) และ จากหมู่ 15(ถูก) เป็น หมู่ 10(ผิด) แต่น้อง ได้กรอกใน ds160 ไปตามที่อยู่ในพาสปอร์ตค่ะ
    2. ในการกลับไปแก้ไข ds 160 ใหม่นั้น จะไม่มีปัญหากับจองวันสัมภาษณ์ไปแล้วใช่มั้ยคะ เพราะตอนนี้เหลืออยู่แค่โทรไปเช็คกับทางธนาคารว่าได้มีการตัดยอดไปหรือยังและไปจ่ายค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์ที่ไปรษณีย์ค่ะ
    3. หากยังไม่ตัดยอดที่ชำระค่า ซีวิสฟรี แล้วต้องกรอกใหม่สามารถกรอกและไปจ่ายที่ไปรษณีย์เลยได้มั้ยคะ ในการกรอกนั้นจะมีช่องให้ คลิ๊ก 2 ข้อค่ะ คือ แสตนดาร์ด และ เอ็กซเพ็ด…. และช่องถัดลงมาคือให้เลือกว่าจะจ่ายอย่างไร …เครดิต หรือ….เช็ค or มันนี่ ออเดอร์ค่ะ ควรจะเลือกตัวไหนคะ ที่สามารถไปจ่ายทางไปรษณีย์ได้เลย (ในกรณีที่ทางธนาคารยังไม่ได้ตัด เงินค่าชำระนะคะ)
    4. สรุปว่า ตอนนี้น้องเหลือแค่ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์ และ ค่า ซีวิสฟรี ค่ะ ถ้าจะแก้ไข ดีเอส 160 จะไม่มีปัญหากับการจองวันไปแล้วใช่มั้ยคะ และไม่ต้องไปซื้อ พิน ใหม่ด้วยใช่มั้ยคะ

    • govisa  On November 12, 2011 at 9:23 pm

      1. พี่แนะนำให้น้องกรอกที่อยู่ให้ถูกต้อง ขณะเดียวกันเขียนอีเมล์แจ้งโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาเรื่องความผิดพลาดนี้ด้วยค่ะ เพราะอย่างน้อยถ้าโรงเรียนตอบกลับมา จะได้เป็นหลักฐาน Print อีเมล์โต้อตอบระหว่างน้องกับทางโรงเรียนออกมาให้กงสุลดูได้ว่า เราได้มีความพยายามในการติดต่อกับทางโรงเรียนไปแล้ว หลังจากพบข้อมูลผิดพลาดเรื่องที่อยู่ค่ะ
      2. พี่ได้อธิบายไปแล้วว่า ต้องนำ Ds-160 Confirmation Number ที่กรอกใหม่และใบเก่าไปด้วย เพราะหมายเลขเก่าของ DS-160 เกี่ยวข้องกับการนัดวันสัมภาษณ์ ส่วนหมายเลขใหม่ คือ การคีย์ข้อมูลที่แก้ไขให้ถูกต้องค่ะ
      3. ค่า Sevis fee ไม่สามารถจ่ายทางไปรษณีย์ได้ค่ะ พี่ได้อธิบายเรื่องนี้ไปให้น้องแล้วค่ะว่า ทำได้อีก 2 วิธี การส่งแบบ Standard คือ ส่งไปรษณีย์ธรรมดา จะใช้เวลา 3 อาทิตย์ถึง 3 อาทิตบ์ขึ้นไป จึงจะได้รับใบเสร็จตัวจริงค่ะ ส่วนการส่งแบบ Express คือน้องยอมจ่ายค่าส่งเพิ่มอีก 35 US$ น้องจะได้รับใบเสร็จตัวจริงภายในเวลา 7 วันทาง Fedex ค่ะ
      4. ตอบไปแล้วค่ะ

  • Nokky  On December 11, 2011 at 9:30 am

    สวัสดีค่ะพี่ admin govisa น้องมีข้อสงสัยนิดนึงค่ะ
    เรื่องมีอยู่ว่า มีแพลนจะไปเที่ยว อเมริกา ช่วงปีใหม่ เลยเริ่มทำวีซ่า ตามรายละเอียดดังนี้

    1. เริ่มกรอก DS 160 –> วันที่ 28 พย.
    (กรอกไป save ไป แ้ล้ว Retrieve Application ไปเรื่อยๆ)
    2. ซื้อพินและจองวันสัมภาษณ์ –> วันที่ 1-2 Dec
    (confirm วันสัมภาษณ์คือ 14 ธค.เวลา 13.00 น.)
    3. ชำระเงินค่าวีซ่าที่ไปรษณีย์ –> วันที่ 10 ธค.

    ** แต่ตอนนี้ น้องยังไม่ได้ submit DS 160 เลยค่ะ คือ อ่านทบทวน แก้ไข ตรวจรายละเอียดไปเรื่อยๆ โดยการใช้ Application ID ครั้งแรกที่เริ่มกรอก DS 160 โดยการ Retrieve Application ที่ยังไม่กรอกให้เรียบร้อยก่อนคอนเฟริ์มวันนัดสัมภาษณ์ ก้อเพราะว่า วันนัดสัมภาษณ์หายากมาก พอเจอว่างเ้ลยกดเลือกเลยน่ะค่ะ แล้วก้อเรื่อง อัพโหลดรูปด้วยค่ะ เลยทำให้ช้ายิ่งขึ้น แพลนจะ submit confirm DS 160 วันที่ 13 ธค. นี้จิงๆ แล้ว

    ตามที่น้องเล่ามาทั้งหมดนี่ เปนวิธีการที่ถูกต้อง หรือผิิดหรือป่าวคะ
    คือ หาข้อมูลหลายที่มาก บ้างก้อบอกว่า ถ้ายืนยันการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถแก้ไข DS 160 เนื่องจาก Confirmation Number จะไม่ตรงกะใบนัด

    รบกวนพี่ตอบด้วยนะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On December 11, 2011 at 12:57 pm

      @น้อง Nokky คะ ที่น้องถามมา พี่ขอสรุปดังนี้คือ

      1. น้องได้ confirm วันนัดสัมภาษณ์เป็นวันที่ 14 ธันวาคม 2554 เรียบร้อยแล้วนะคะ

      2. ในวันสอบสัมภาษณ์น้องต้องนำใบยืนยัน Confirmation DS-160 Number ไปยื่นที่สถานทูตเพื่่อสอบสัมภาษณ์วีซ่า

      หมายเหตุ น้องจะ submit DS-160 ก่อนหรือหลัง ไม่เป็นปัญหานะคะ ที่หลายเว็บเขาเตือนคนกรอกฟอร์มวีซ่า เพราะคนกรอกฟอร์มวีซ่าบางท่านหลังจาก submit ไปแล้วกลับไปนั่งดูใบ Application ที่ Print ออกมาพบข้อผิดพลาด อยากจะแก้ไข ซึ่งในอดีตเคยแก้ไขได้ แต่ในปัจจุบันหลังจากที่สถานทูตเขาปรับปรุงแบบฟอร์มที่กรอกใหม่ทำให้แก้ไขข้อมูลไม่ได้ ทีนี้คนจะยื่่นสัมภาษณ์วีซ่าก็มีบุคคลิกหลายแบบ บางคนก็เป็นคนขี้กังวลเครียดมาก นอนไม่หลับ บางคนพอบอกให้แก้ไขกรอกใหม่อีกฟอร์มอีกครั้งแล้วนำใบยืนหมายเลข DS-160 Confirmation Number ทั้งใบเก่าและใบใหม่ไปด้วยก็ไม่ได้วิตกอะไรมากมาย ดังนั้นจึง ไม่มีคำว่า’ผิดหรือถูก”หรือกฎว่าต้อง submit ก่อนแล้วจึงนัดหมาย ทีมีการเตือนให้ submit ก่อนแล้วนัด ก็เพื่อจะได้เป็นไปตามลำดับว่า ทำรายการนี้เสร็จแล้วค่อยทำอีกรายการ ถ้าน้อง Nokky คิดว่าข้อมูลเรียบร้อยแล้วจะ submit แล้ว print ออกมาให้เสร็จก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะวันที่ 13 ธันวาคม เราอาจจะมีธุระไปทำอะไรข้างนอก กลับมาบ้านเพลียลืม submit และ print หรือถ้าเกิดไฟฟ้าดับ printer เสียกระทันหัน พรุ่งนี้ (14 ธันวา) จะไปสอบสัมภาษณ์จะทำอย่างไร คิดเผื่อไว้หลายกรณีนะคะ

      3. ชำระเงินที่ไปรษณีย์ก็เช่นเดียวกัน เคยพบคนอายุ 61 ปีท่านหนึ่งวางแผนคล้ายๆแบบนี้ แล้วติดธุระโน่นนี่เกิดลืมไปว่า ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ เลยต้องไปซื้อตอนเช้าวันนัดสัมภาษณ์ เผอิญที่ทำการไปรษณ๊ย์ยังไม่เปิดทำการ คุณท่านนี้มีนัดสัมภาษณ์เวลา 7.45 น. เป็นอันว่าต้องบอกเจ้าหน้าที่หน้าสถานทูตเขาว่า ยังไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์ ขออนุญาตไปจ่ายก่อน แล้วนั่งแท็กซี่ไปหาไปรษณ๊ย์แถวถนนสีลม เพราะจะเดินข้ามสะพานลอยไปที่ไปรษณีย์ฝั่งตรงข้ามก็เดินไม่ไหว ปวดหัวเข่า เป็นต้น ดังนั้นถ้าอะไรทำเตรียมไว้ก่อนได้ทำไปเลย ซึ่งพี่ไม่แน่ใจว่า น้องจะจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าในวันที่ 10 ธันวาคมอย่างที่วางแผนไว้ได้ไหม เพราะเป็นวันหยุดราชการค่ะ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกอย่างน้องทำเสร็จทันวันที่ 13 ธันวาคมนะคะ และขอให้โชคดีสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่านค่ะ

  • Nokky  On December 12, 2011 at 9:13 pm

    ขอบคุณพี่ admin govisa มากค่ะ ตอนนี้น้องได้ทำตามที่พี่แนะนำเรียบร้อยแล้วค่ะ คือ
    1. ชำระเงินค่าวีซ่าที่ไปรษณย์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 10 ธค (เป็นวันหยุด แต่จะมีบางไปรษณีย์ที่เปิดทำการโดยไม่มีวันหยุด แต่จะเปิดบริการแค่ครึ่งวันค่ะ)
    2. submit DS-160 และปรินท์ Confirmation Page (2 หน้า) กับ application มาแล้วค่ะ (5 หน้า)
    แต่…. ยังอุตส่าห์เจอปัญหาที่ทำให้สงสัยได้อีกอ่ะ่ค่ะพี่ คือ มันมีความแตกต่างระหว่างของน้อง และของเพื่อนน้องค่ะ คือ
    1. Confirmation Page ของเพื่อนน้องปรินท์ออกมาได้ 2 หน้า แต่ของน้องปรินท์ได้ หน้าเดียวเท่านั้น (หน้าแรก คือหน้าที่มีบาร์โค๊ด, ส่วนหน้า 2 เปน NOTE ทั่วๆ ไป
    2. Print application page ที่เปนข้อมูทั้งหมดที่กรอกใน DS-160 ของเพื่อนน้องปรินท์ออกมาได้ 5 หน้า แต่ของตัวน้่องปรินท์ได้ หน้าเดียวเท่านั้นจากข้อมูลใน DS-160 ถึงแม้จะสั่งปรินท์ทั้งหมด แล้วก้อตาม
    >> 2 ข้อนี้ คงไม่มีปัญหากับเอกสารที่จะไปยื่นในวันสัมภาษณ์ใช่มั๊ยคะ ??

    และอีกข้อที่น้องสงสัยค่ะ คือ ข้อมูลด้านการศึกษา Education, Provide a List of Languages You Speak, Have you traveled to any countries within last five years?

    ของเพื่อนน้องมีให้กรอกค่ะ แต่ของน้องไม่มี 3 หัวข้อนี้เลย ตอนที่ review ครั้งสุดท้ายก่อนจะ submit ก้อดูแล้วดูอีก ก้อไม่มีค่ะ ก้อเลย submit ไปตามนั้น
    >> พี่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรตอนสัมภาษณ์หรือป่าวคะ ?? เพราะ 3 หัวข้อ น้องมีข้อมูลจริงค่ะ แต่ไม่เห็นช่องให้กรอก คือ เรียนจบจากมหาวิทยาลัย, สามารถพูดภาษาที่ 3 ได้, และเคยไปเที่ยวต่างประเทศมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่ะ

    รบกวนพี่ตอบด้วยนะคะ
    ขอบคุณพี่อีกครั้งค่ะ ^_^

    • govisa  On December 13, 2011 at 4:16 am

      ไม่มีปัญหาค่ะน้อง Nokky ที่ของเพื่อนมีคำถามนั้นแสดงว่าเขากรอกว่าทำงานอะไรเสร็จ มีคำถามว่า เราเคยเรียนอะไรหลังจากระดับ secondary school ไหมวึ่งน้องเขาคงตอบ Yes จะมีคำถามให้กรอเกี่ยวกับสถานศึกษา และ ภาษา รวมทั้งเคยเดินทางไปประเทศไหนไหมค่ะ

      หมายเหตุ พี่มีข้อสังเกต คือ ถ้ากรอกแล้วยังไม่ sign ชื่อจะสามารถ print application ได้ 5 หน้าแต่ถ้า sign ชื่อแต่ยังไม่ submit แล้วทำซ้ำกลับไปกลับมาดูเหมือนจะ print ไม่ได้ 5 หน้าแต่ก็มีบางกรณีนะคะ ที่ถึงแม้ไม่ได้ทำอย่างที่พี่บอกแต่ก็ print ไม่ได้ 5 หน้าอย่างที่น้องว่ามาค่ะ
      อย่ากังวลเจ้าหน้าที่เห้นหมายเลข DS 160 Confirmation กับบาร์โค้ด เขาดูข้อมูลทั้งหมดของน้องได้ค่ะ โชคดีนะคะ

  • cartoon  On December 24, 2011 at 1:51 pm

    รบกวนสอบถามนะคะ พอดีตูนแก้ไขds160ใหม่แล้ว แต่ds160ใบเก่าไม่ได้ปริ้นออกมาอย่างนี้ตูนสามารถเอาแต่ใบใหม่ไปให้เค้าอย่างเดียวได้ไหมคะ และเอาใบคอมเฟริมนัดหมายอันเก่าไปด้วยแบบนี้พอจะได้ไหมคะ

    • govisa  On December 24, 2011 at 10:10 pm

      น้องการ์ตูนสามารถสั่ง print DS-160ใบเก่า โดยเข้าไปที่ https://ceac.state.gov คลิกเลือกประเทศ คลิก start application form และคลิก retrieve หลังจากนั้นใส่ DS-160 confirmation number อันเก่า กรอกนามสกุล
      5 ตัวอักษรแรก, ปี่ค.ศ.ที่น้องเกิด , และคำตอบของคำถามที่น้องเลือกในตอนแรกที่เริ่มกรอกฟอร์ม DS-160 เมื่อ retrieve เสร็จ รายละเอียดเกี่ยวกับ DS-160 เก่าจะปรากฏออกมา น้องสั่ง print ได้เลยค่ะ

  • tip  On December 26, 2011 at 4:43 am

    สวัสดีค่ะพี่ ต้องการขอวีซ่าไปศึกษาอบรมระยะสั้น ประมาณ 6 สัปดาห์ อยากประชุมวิชาการและท่องเที่ยวต่อประมาณ สองสัปดาห์ ที่โรงเรียนให้จดหมายรับรองมา 6 สัปดาห์พอดีค่ะ
    1. ทีนี้ควรขอเป็นแบบไปเรียน หรือไปท่องเที่ยวดีคะ มีคนแนะนำว่าขอเป็นท่องเที่ยวไปจะได้ระยะเวลานานกว่า แต่อีกคนให้ความเห็นว่าจะถูกปฏิเสธได้ง่ายกว่า เลยอยากถามว่าเลือกแบบไหนดีคะ
    2.แล้ววันไปกลับที่เขาให้แจ้ง ถ้าเราไม่ได้กลับตามนั้นแต่ใกล้เคียงได้ไหมคะ ตั๋เครื่องบินยังไม่ได้จองค่ะ มันไปประมาณเมษาน่ะค่ะ
    3.ส่วนเรื่องที่พักที่ให้กรอกข้อมูล ตอนนี้ apartment แค่เปิดให้จองยังไม่ confirm เอาที่อยุ่ไปใช้ก่อนได้ไหมคะ

    • govisa  On December 27, 2011 at 8:13 am

      น้อง Tip คะ
      1.น้องได้รับจดหมายตอบรับจากทางโรงเรียนเป็น I-20 หรือ DS-2019 ถ้าได้รับ I-20 ต้องขอวีซ่า F-1 แต่ถ้าได้รับจดหมายตอบรับอยู่ในรูป DS-2019 น้องต้องขอวีซ่าJ-1 ค่ะ ส่วนวีซ่านักท่องเที่ยวและไปเรียนได้ด้วย คือ ผู้ที่ได้รับจดหมายตอบรับจากสถานศึกษาที่มีจำนวนชั่วโมงต่ำกว่า 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ค่ะ ลองศึกษาเพิ่มเติมที่เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพตรงไอคอน visa สำหรับ non-immigrant จะแสดงคว่มหมายแต่ละประเภทของวีซ่าให้ศึกษาค่ะ เช่นวีซ่าประเภท B-1/B-2, J-1,F-1 ดังนั้นควรระบุประเภทวีซ่าให้ถูกนะคะ เพราะโรงเรียนในอเมริกาก็ต้องส่งรายละเอียดการรับน้องเข้าอบรมไปที่ Immigration, Homeland Security และ สถานทูตสหรัฐอเมริกาที่ผู้ยื่นมีถิ่นพำนักอยู่ค่ะ
      2. อบรมเสร็จถ้าจะเที่ยวต่ออีก 2 อาทิตย์อธิบายให้กองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาทราบเวลาน้องถูกสัมภาษณ์และตั๋วเครื่องบินควรระบุเที่ยวบินกลับด้วยค่ะ
      3. ไม่ได้กลับตามวันที่กำหนดก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยผู่กับน้องจะได้รับการประทับตราให้อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้นานเท่าไรจากเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาด้วยค่ะอย่าเกินวันที่ที่ทางกองตรวจคนเข้าเมืืองระบุ เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาได้ในภายหลังที่มีการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯค่ะ
      4. เรื่องที่พักถ้ายังไม่ confirm น้องก็ต้องพอช่วยตัวเองได้ในระดับหนึ่งว่า เมื่อเดินทางไปถึงเมืองนั้น น้องจะไปพักที่ไหน มีเพื่อนหรือมีคนรู้จักที่จะสอบถามหรือขอคำแนะนำเรื่องที่พักได้ไหมค่ะ

  • cartoon  On December 28, 2011 at 1:19 pm

    ขอบคุณมากนะคะ พอดีตูนไม่สามารถเข้าไปในds160อันเก่าได้คะ มันขึ้นว่านามสกุลกับปีเกิดผิดทั้งที่ก็กรอกเหมือนเดิม อย่างนี้ทำไงดีคะถ้าไม่มีใบเก่าจะได้รึป่าวคะ
    และเอกสารที่ต้องเตรียมไปนี่ตูนต้องเอาใบจบการศึกษาไปด้วยไหมคะ
    และคุณแม่สามีเป็นสปอนเซอร์ให้ เค้าได้ไปขอใบรับรองการเป็นสปอนเซอร์จากธนาคารมาให้ตูนมา1ใบคะ แล้วตูนต้องถ่ายเอกสารสมุดบัญชีของคุณแม่ไปด้วยไหมคะ

    • govisa  On December 31, 2011 at 12:55 am

      น้องตูนคะ
      1. เพื่อความสบายใจของน้องนะคะ เขียนอีเมลืไปที่ visabkk@state.gov อธิบายเหุผลว่าเข้าไป print ใบเก่าไม่ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เขาส่งคำตอบมา จะได้ print ไว้เป็นหลักฐานค่ะ
      2. ถ้าน้องไปเรียนนำหลักฐานการศึกษาไปให้เขาดูแต่ถ้าน้องไปเที่ยว ไม่ต้องนำหลักฐานการเรียนไปแสดงค่ะ
      3. น้องตูนนำบุ๊คบัญชีตัวจริงไปค่ะ สำหรับสถานทูตอเมริกาไม่ต้องแสดงสำเนาเอกสาร สถานทูตต้องการดูตัวจริงค่ะ

  • nai  On December 29, 2011 at 5:32 pm

    สวัสดีค่ะ
    1อยากทราบว่า passport book number คือส่วนไหนของเล่มค่ะ
    2 ถ้าต้องการแก้ไขข้อมูล DS160 แต่ว่าไม่สามรถแก้ไขได้แล้วแต่อยากจะจองวันสัมภาษณ์ใหม่ต้องซื้อ pin และจ่ายเงินค่าสัมภาษณ์ใหม่รึป่าวค่ะ
    ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On December 31, 2011 at 12:41 am

      น้อง Nai คะ
      1. passport book number ใส่หมายเลขหนังสือเดินทาง หรือถ้าไม่ต้องการใส่ ให้เลือก does not apply ค่ะ
      2. ถ้าน้อง confirm วันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว แก้ไขฟอร์ม DS-160 ไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าต้องการจองวันนัดสัมภาษณ์ใหม่ น้องสามารถ delete วันนัดเดิมแล้วเปลี่ยนใหม่ได้ 2 ครั้งค่ะ ส่วนเงินค่าสอบสัมภาษณ์ 4,340 บาท ไม่ต้องซื้อใหม่ค่ะ

  • nai  On December 29, 2011 at 8:29 pm

    ขออธิบายอีกนิดที่กรอกผิดคือ ใส่หมายเลยโทรศัพท์เป็นขึ้นต้นเป็นเลข 0 ไม่ใช่ 66 จะเป็นอะไรรึป่าวค่ะ
    และอีกอย่างคือ ตรงที่ให้ใส่ข้อมูลบุคคลที่จะยืนยันว่าเราอยู่ประเทศไทยอย่างน้อยสองคน
    คนแรกใส่เจ้านายเก่าไปแต่ ไม่ได้ใส่เบอร์โทรติดต่อ และ email
    ส่วนคนที่สองใส่ชื่อเพื่อนนักเรียนด้วยกันแต่ใส่แต่ email จะเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ
    ตอนนี้ comfirm DS160 ไปแล้วแก้ไขไม่ได้แล้ว
    ถ้าอยากจะนัดสัมภาษณ์ใหม่เพื่อจะได้ submit DS160 อันใหม่ ต้องซื้อ pin ใหม่ด้วยรึป่าวค่ะ
    ช่วยตอบด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On December 31, 2011 at 12:50 am

      น้อง Nai พี่ขอโทษจริงๆค่ะ ที่ตอบช้านะคะ
      1. หมายเลขโทรศัพท์จะใส่เป็นหมายเลขที่ประเทศไทยโดยไม่ใส่รหัสต่างประเทศก็ได้ไม่มีปัญหาค่ะ
      2. รายละเอียดของ 2 คนที่เป็นชื่อบุคคลอ้างอิง ถ้าไม่ทราบข้อมูลดังกล่าวไม่ใส่ ไม่เป็นไรค่ะ
      3. ถ้าต้องการนัดสัมภาษณ์ใหม่และกรอกฟอร์มใหม่ ให้เขียนไปแจ้ง visabkk@state.gov ด้วย น้องควรจะอธิบายเหตุผลให้เขาทราบว่า น้องขอยกเลิกการนัดครั้งที่แล้วทั้งหมดเพราะอะไรค่ะ ถ้าไม่ต้องการเขียนอีเมล์ไปที่สถานทูตให้น้องกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ และนำใบยืนยัน DS-160 ทั้งใบใหม่และใบเก่าไปที่สถานทูตในวันสอบสัมภาษณ์ด้วยค่ะ

  • cartoon  On January 4, 2012 at 6:22 pm

    สวัสดีคะพี่ นี่ตูนเองนะคะวันนี้เพิ่งไปสัมภาษณ์มาคะ คนเยอะมากไปถึง7.30นัด8โมงเช้า
    ได้สัมภาษณ์ตอน12.00คุยไม่ถึง5นาที ได้มา10ปีดีใจมากเลยคะคุ้มค่าแก่การรออิอิ
    หลักฐานบางอย่างเอาไปแต่เค้าก็ไม่ได้เรียกดูก็มีคะ
    เลยมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนะคะที่กำลังทำเรื่องของอยู่ว่า วีซ่าเมกาไม่ยากอย่างที่คิด^ ^v
    (เพราะพาสปอร์นตูนหน้าขาวสะอาดเลยคะ เล่มเก่านี่ไปแค่ฮ่องกงกับมาเก๊าเอง)

    • govisa  On January 4, 2012 at 8:14 pm

      ขอบคุณน้องตูนมากค่ะที่เขียนมาให้กำลังใจเพื่อนๆทุกคนค่ะ ว่าแต่ว่ากงสุลท่านถามอะไรน้องตูนบ้างคะ ถ้ามีเวลาเขียนมาให้อ่านกันบ้างนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ

  • cartoon  On January 4, 2012 at 8:41 pm

    ยินดีแชร์ประสบการณ์คะ
    ทักทายกับเจ้าหน้าที่ และสวัสดีปีใหม่คะ
    เจ้าหน้าที่:คุณจะไปอเมริกาทำไมครับ?
    ตูน:ไปฮันนีมูลและก็เยี่ยมญาติคะ (ชูแหวนให้ดู อิิอิ)
    เจ้าหน้าที่:ยินดีด้วยนะครับ แล้วถามว่าไปนานเท่าไหร่?
    แล้วสามีไม่มาขอด้วยหรอครับ?
    ไปกับสามีแค่2คนหรอ มีคนอื่นไหม?
    คุณทำงานอะไรครับ?
    ในอนาคตจะไปอยู่ที่อเมริการึป่าวครับ?
    แล้วเจ้าหน้าที่พิมพ์คอม ประทับตรา ยืนใบสีฟ้าให้ พร้อมกับยินดีด้วยครับ

    ตูนดีใจมากเลยคะตอนนั้น เพราะกรณีตูน คือ ไม่ได้ทำงานคะ มีสามีเป็นคนไทยสัญชาติอเมกัน แต่งงานกันได้1ปี
    ทั้งครอบครัวเค้าถือกันคนละ10ปีทุกคน ถ้าตูนไม่ผ่านสงสัยต้องเป็นแกะดำแน่ๆเลย โชคดีผ่านค่ะ
    และตูนก็บอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่าขอบคุณสำหรับของขวัญปีใหม่คะ ^ ^

    รอตั้งแต่เช้าจนเที่ยงหิวข้าวมากๆแถมง่วงสุดๆ แต่ก็คุ้มค่าแก่การรอคอยคะ
    เป้าหมายต่อไปคือวีซ่าญี่ปุ่นคะ อยากขอให้ได้จะได้ทันดูดอกซากุระเดือนมีนาเมษา^ ^v

    เอาใจช่วยทุกคนนะค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ ^ ^

    • govisa  On January 5, 2012 at 3:15 am

      ขอบคุณมากๆค่ะน้องตูน ถ้าได้วีซ่าอเมริกาแล้ว วีซ่าญี่ปุ่นไม่มีปัญหาค่ะ น้องได้ไปดูดอกซากุระบานแน่นอนค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

  • Jay  On January 7, 2012 at 12:31 am

    สวัสดีคะ มีข้อสงสัยบางเรื่่องนะคะ ได้สัมภาษณ์ วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2555 เวลา 7 น.
    คือแฟนเป็นชาวอเมริกา แต่ได้เรสซิเดนท์ ที่ประเทศ South Afria คะ และแฟนก็อยู่ที่ South Africa มีธุรกิจและบ้านอยู่ที่นี่ คืออย่างนี้นะคะใน application ถามว่าถ้าไปอเมริกา และจะไปพักที่ไหน ดิฉันก็ตอบไปว่าจะพักบ้านแฟน แต่พอคำถามที่ว่าคุณมีญาติอยู่ที่อเมริกาหรือเปล่า ดิฉันตอบว่าไม่มีคะ มันจะค้านกันหรือเปล่าคะ เพราะแฟนไม่ได้อาศัยอยู่อเมริกามานาน 2 ปี แล้ว เพราะอยู่ที่ South Africa ดังนั้น เวลาไปสัมภาษร์จะมีปัญหาหรือไม่คะ เพราะแฟนจะพาไปเที่ยวที่อเมริกาคะเดือนเมษายน เราหมั้นกันแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งคะ หมั้นที่ South Africa คะ แต่ดิฉันก็ได้เตรียมสำเนาทะเบียนบ้านทั้งที่ อเมริกา ละ South Africa ไปด้วยคะ เพราะได้อ่านปัญหาของพี่ข้างบนกระทู้ เค้าตอบไปในลักษณะอย่างนี้แล้ววีซ่าไม่ผ่าน ดิฉันเลยเป็นกังวลมากค่ะ

    • govisa  On January 7, 2012 at 8:50 pm

      น้อง Jay คะ พี่เกรงว่า ถ้าน้องตอบว่า น้องหมั้นกับแฟนแล้ว กงสุลอาจจะแนะนำให้น้องขอวีซ่าใหม่เป็นวีซ่าคู่หมั้นหรือ K-1 visa มากกว่าค่ะ ส่วนเรื่องที่แฟนไปทำงานที่ South Africa และการที่น้องตอบว่า น้องไม่มีญาติอยู่ที่อเมริกาในแบบฟอร์ม DS-160 ไม่ใช่ปัญหามากนักค่ะ การมีแฟนเป็นชาวอเมริกันซึ่งตอนนี้ทำงานอยู่ที่ South Africa ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการยื่นขอวีซ่าค่ะ ปัญหาที่อาจจะเกิดกับน้องคือ อย่างที่ได้แจ้งไว้ข้างต้นว่า กงสุลอาจถามน้องว่า เมื่อหมั้นกันแล้ว ทำไมไม่ขอวีซ่า K-1 มากกว่าค่ะ พี่แนะนำว่า อย่าเพิ่งบอกว่าหมั้นกันดีไหมคะ ที่บ้านมีใครมีวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาไหมคะ น้องจะหลีกเลี่ยงว่า จะไปเที่ยวกับญาติคนหนึ่งด้วยการซื้อทัวร์ไป (ถ้าขอรายละเอียดทัวร์ไม่ทัน ลองดูว่ามีทางที่จะ Print จากเว็บไซต์ไหมค่ะ) น้องและญาติจะถือโอกาสไปเยี่ยมชมบ้านเแฟน และแฟนจะพาไปเที่ยวด้วยค่ะ เพื่อดูว่า น้องจะอยู่ที่อเมริกาได้ไหม ถ้าอยู่ไม่ได้เพราะหนาวไป หรืออืนๆ อาจจะตัดสิจไปอยู่ South Africa กับแฟนก่อนค่ะ

  • Jay  On January 7, 2012 at 1:41 am

    Jay ค่ะสวัสดีอีกครั้งนะคะ พอดี มีอีกเรื่องทีสงสัยคะและเป็นกังวล ชื่อจริงดิฉันชื่อว่า Miss Jarayu Paosuphan และในใบ Confirmation ก็เป็นชื่อนี้ ค่ะ แต่พอเป็นในใบยืนยันการนัดหมาย กับเป็นชื่อ Jarayu Non Paosuphan ค่ะเพราะตอนที่กรอกข้อมูลในยืนยันการนัดหมาย มีช่องให้ใส่ชื่อกลางแต่ดิฉันไม่มีชื่อกลางก็เลยใส่ Non ไป พอปริ้นท์ออกมาดันเป็น Jarayu Non Paosuphan พอจะกลับมาแก้ไขมันแก้ไม่ได้แล้ว ค่ะ อย่างนี้จะเป็นปัญหาตอนเราไปสัมภาษร์หรือเปล่าคะ ทางสถานฑูตจะว่าเรากรอกข้อมูลไม่ตรงหรือเปล่าค่ะ ช่วยตอบด้วยด่วนนะคะ ขอบพระคุณเป็นอย่างมากเลยคะ
    และถ้าไปสัมภาษณ์เสร็จแล้วจะมาแชร์ประสบการณ์นะค่ะ

    • govisa  On January 7, 2012 at 8:33 pm

      ไม่มีปัญหาค่ะ น้อง Jay เรื่องชื่อกลางที่กรอกไปว่า Non ค่ะ

  • Jay  On January 7, 2012 at 10:23 pm

    ขอบคุณมากค่ะคุณพี่คะ พอดีถามแฟนไปเหมือนกันค่ะเรื่องที่เรากรอกในใบสมัครไปแล้วคะว่าไปกับคู่หมั้น ซึ่งแฟนแนะนำว่าให้เราบอกความจริงไปว่า เราไปอเมริกาเพื่อไปเที่ยวอย่างเดียวและไม่คิดที่จะไปอยู่ที่นั่น และแฟนเองก็ไม่คิดที่จะกลับไปอยู่ที่อเมริกา เพราะถ้าเราจะแต่งงานกันเราจะแต่งที่ South Africa ค่ะดังนั้นเราจึงไม่ได้ขอวีซ่าประเภทคู่หมั้นอ่ะค่ะ เพราะเราจะไปเที่ยวอย่างเดียว ขอถามความคิดเห็นนะคะว่าจะมีปัญหาไหมคะ ขอบคุณมาก ๆ เลยคะ

    • govisa  On January 8, 2012 at 4:07 pm

      น้อง Jay คะ ถ้าตกลงกับแฟนไว้แบบนั้นก็อธิบายให้กงสุลเข้าใจว่า ที่ไม่ได้ขอวีซ่าแบบ K-1 เพราะแฟนมีวัตถประสงค์จะทำธุรกิจที่ South Africa และคงอยู่ที่ South Africa อีกนานหลายปีมากกว่านะคะ ขอให้ใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างนุ่มนวลในการอธิบายเพื่อแสดงให้กงสุลท่านเห็นว่า มันเป็นเตุผลทางธุรกิจของว่าที่สามีนะคะ และ ไม่เป็นการตัดอนาคตของเราด้วยว่า วันหลังน้องอาจจะต้องขอวีซ่าเพื่ออพยพไปอยู่ที่บ้านเดิมของสามีในสหรัฐอเมริกาค่ะ อีกประการหนึ่ง การขอวีซ่าแบบ K-1 อาจจะต้องเสียเวลาดำเนินการนาน และทางแฟนมีแผนการจะไปเที่ยวในระยะเวลาสั้นๆประมาณไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น เพราะทิ้งงานบริษัทที่ South Africa ไปนานๆไม่ได้ เป็นต้นนะคะ

  • Jay  On January 9, 2012 at 12:18 am

    ขอบคุณคำกับคำตอบและคำแนะนำของพี่โกวีซ่า มากเลยค่ะมีกำลังใจขึ้นเยอะนี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้วตื่นเต้นมากค่ะนอนไม่หลับเลย พรุ่งนี้ ตี สี่ ต้องตื่นแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยกับกำลังใจนะคะ
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ คงไม่ช้าไปนะคะ 🙂 แลัวพรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง สู้ๆๆๆๆ

  • Nannie  On January 10, 2012 at 6:48 pm

    พี่ขาวันนี้แนนเพิ่งกรอก DS-160 ไป ประเภท F ไป ค่ะ ทุกอย่างดูราบรื่่นดี แนนปริ้นท์ใบ Confirmation มาแล้วค่ะ แต่พอไปเทียบกับเพื่อนที่สมัครวันเดียวกัน ปรากฎว่าแนนกรอก
    ข้อมูลไม่ครบค่ะ เรื่องเคยเดินทางไปประเทศไหนมาบ้าง กับพวกการศึกษา
    คือมันไม่ปรากฏในหน้า DS ที่แนนกรอกอ่าค่ะ ไม่มีจริงๆ
    เพราะถ้าแนนลืมทางระบบก็ต้องเตือนแล้วว่าใส่ไม่ครบ
    แล้วแนนก็ปริ้นท์ใบ Confirmation และก็จ่ายค่าพินไปแล้วด้วยค่ะ
    แต่ยังไม่ได้จองวันนะคะ เพราะเห็นเต็มอยู่
    อย่างนี้แนนจะมีปัญหาไหมคะ รบกวนตอบด้วยนะคะ กังวลมากค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะพี่

    • govisa  On January 10, 2012 at 7:54 pm

      น้องแนนคะ การที่เพื่อนน้องได้มีโอกาสตอบคำถามว่าเคยเดินทางไปประเทศไหนมาบ้าง เพราะเพื่อนน้องน่าจะตอบคำถามข้อที่ถามว่า ท่านเคยศึกษาระดับหลังมัธยมหรือเปล่า ถ้าตอบคำถามข้อนี้ว่า Yes จะมีให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับสถานศึกษาเพิ่มและถามว่าน้องพูดหรือใช้ภาษาใดบ้าง และคำถามถัดไปก็คือ เคยไปเที่ยวที่ไหนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาค่ะ อย่างไรก็ตาม น้องไม่ต้องวิตกค่ะ เพราะมีน้องที่ไม่ได้ตอบคำถามที่ถามว่าเคยไปประเทศไหนบ้างมีจำนวนมากพอสมควรค่ะ ไม่ต้องแก้ไขค่ะ เพราะพี่มั่นใจว่า น้องได้กรอกในฟอร์มว่าน้องเรียนจบที่ไหนแล้วใช่ไหมคะ ดังนั้น ให้น้องรอวันนัดว่างที่มีสีเขียวต่อไป ถ้าพบเห็นวันว่างที่มีสีเขียว ให้รีบจองเลยค่ะ

  • Nannie  On January 10, 2012 at 8:51 pm

    ขอบคุณมากค่ะพี่ ซึ่งที่พี่ถามแนนว่าแนนได้กรอกแบบฟอร์มว่าแนนเรียนจบที่ไหน ก็ยังไม่ได้กรอกเลยค่ะ ตอนนี้แนนเรียนจบปี 4 แล้ว
    แต่ในหัวข้อ Work / Education / Training Inormation
    ของแนนขึ้นแต่คำถามทำงาน ซึ่งพอคำถามสุดท้าย
    Were you previously employed? แนนตอบ No
    ก็กลายเป็นหัวข้อ Security and Banground Information
    เลยค่ะพี่ งงมากเหมือนกันว่าหายไปไหน หรือแนนตอบพลาดอะไรไป
    รบกวนพี่ตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะพี่สำหรับคำอธิบาย ^^

  • Jay  On January 10, 2012 at 11:24 pm

    สวัสดีค่ะ พี่โกวีซ่า น้องเองนะคะ น้องไปสัมภาษณ์มาแล้วค่ะเมื่อวานปรากฏว่า วีซ่าน้องผ่านคะ แต่ยังไม่รู้ว่าได้กี่ปีคะ และน้องก็มีปัญหาจริงๆ ที่พี่บอกมาว่าทางสถานฑูตนต้องถามแน่นอนว่าทำไมไม่ยื่น k-1 และที่ถามก็เป็นที่ตรงสแกนนิ้วทั้งสองข้างและตรวจเรื่องของ DS 160 ว่าเรากรอกครบไหมเค้าบอกยังไงๆ ก็ต้องให้แฟนน้องยื่นเรื่องไปทางอเมริกา ต้องก็อธิบายให้ฟังนานมากค่ะ จนคุณป้าแกบอกเอายังงี้พี่จะปล่อยให้คุณเข้าไปสัมภาษณ์กับท่านกงสุล ถ้าท่านขอเอกสารอะไรก็ให้คุณเอาให้ท่านดู อ้อ โชคดีมากค่ะน้องได้คิวแรกเลย 001 เสร็จสัมภาษณ์ 7.13 น. ท่านกงสุลคุยและถามเป็นภาษาไทยแต่น้องก็ตอบภาษาอังกฤษ ไม่ถามอะไรมากเลย ค่ะ
    ไปเคฟทาวน์ ทำอะไร ไปอยู่กับแฟนค่ะแฟนมีธุรกิจอยู่ที่นั่น
    กงสุล อุยปลาฉลามขาวดุมากนะ
    แล้วคุณไปอเมริกาเพื่ออะไร ไปเที่ยวคะ
    แล้วคุณทำงานอะไร ทำธุรกิจร้านกาแฟคะ
    รายได้เท่าไหร่ …………
    แล้วไปอเมริกาจะพักที่ไหน อิลินอยค่ะ
    ท่านกงสุล ขอดูเอกสาร 2 อย่าง อเมริกัน passport and south africa resident ของแฟน ขอดูแค่นี้เองค่ะแต่น้องเตรียมไปเอกสารไปทั้งหมด 21 อย่างค่ะ
    และท่านก็เขียนใบสีฟ้าให้และบอกว่าวีซ่าคุณผ่านแล้วและให้สแกนนิ้วกลางด้านขวา
    โอ้โหพี่ค่ะน้องรู้สึกว่า โลกนี้มันช่างมีความสุขมากๆ เลยคะขอบคุณพี่ มากๆ นะคะ น้องก็ทำตามที่พี่แนะนำคะพูดจาเสียงไพเราะ และก็ยิ้มตลอดเวลาค่ะ

    • govisa  On January 11, 2012 at 5:30 am

      ขอบคุณมากค่ะน้อง Jay ที่เขียนมาแชร์ประสบการณ์นะคะ น้องทำให้พี่พลอยตื่นเต้นไปด้วยว่า วีซ่าจะผ่านไหมค่ะ ขอให้ไปเที่ยวอเมริกาให้สนุกนะคะ ไปอยู่ Capetown เมื่อไหร่ส่งข่าวดีๆมาคุยอีกนะคะ พี่จะรอค่ะ

  • Nannie  On January 11, 2012 at 9:07 am

    พี่คะเมื่อวานแนนได้โชคดีมาก สมัคร DS-160 และก็ได้วันนัดสัมภาษณ์เมื่อวานเลย
    เป็นอาทิตย์หน้าค่ะ แต่แนนก็ยังกังวลอยู่ดีอย่างที่เคยบอกพี่ไปว่า
    หัวข้อ Work / Education / Training Inormation
    ของแนนขึ้นแต่คำถามทำงาน ซึ่งพอคำถามสุดท้าย
    Were you previously employed? แนนตอบ No
    ก็กลายเป็นหัวข้อ Security and Banground Information
    เลยค่ะพี่ งงมากเหมือนกันว่าหายไปไหน ไม่ได้กรอกเรื่องการศึกษา หรือเคยไปประเทศไหนมาเลยอ่ะคะ

    • govisa  On January 11, 2012 at 5:39 pm

      ไม่ต้องกังวลนะคะน้องแนน ให้น้องกรอกฟอร์มDS-160 ที่ถูกต้องใหม่ print DS-160 ใบใหม่ออกมา อาทิตย์หน้าไปสอบสัมภาษณ์น้องแนนนำ DS-160 ทั้งใบเก่าและใบใหม่ไปที่สถานทูตด้วยค่ะ ขอให้โชคดีได้วีซ่าค่ะ

  • Nannie  On January 11, 2012 at 8:39 pm

    พี่ govisa คะ แนนลองไปกรอกใหม่ก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ ก็เลยไม่ได้เซฟอะไรเลย ปิดไปเฉยๆ ก็คืออยากรู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ปรึกษาเพื่อนก็เลยให้ลิ้งค์ที่ pantip คนที่มีเคสเดียวกับแนนค่ะมาค่ะ
    http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2010/06/H9387291/H9387291.html
    แต่แนนก็ยังไม่วางใจ เพราะข้อมูลในเว็บเป็นปี 53 น่ะค่ะ และไม่รู้ว่าที่สถานทูตเขาจะให้เรากรอกการศึกษาตอนวันสัมภาษณ์ไหม แต่แนนว่าจะเตรียมไปด้วย
    พี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ? รู้สึกตัวเองเหมือนแกะดำอ่าค่ะ T_____T

  • Jay  On January 12, 2012 at 12:49 am

    สวัสดีค่ะพี่คะ วันนี้น้องได้รับพาสปรอต์แล้วสรุปน้องได้วีซ่า 10 ปีคะดีใจมากๆ เลยและแฟนก็ดีใจมากเช่นกัน พุธหน้า 18 ม.ค น้องก็เดินทางไป Cape Townแล้วค่ะ และไปอเมริกาเดือน เม.ย ค่ะขอบคุณพี่มากนะคะเวปไซด์ของพี่เป็นประโยชน์มากๆ เลยค่ะ

    • govisa  On January 12, 2012 at 6:27 am

      ยินดีด้วยค่ะน้อง Jay หากพี่มีโอกาสไปCapetown จะอีเมล์ไปคุยด้วยค่ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ และเที่ยวอเมริกาให้สนุกค่ะ

  • pangpang  On January 13, 2012 at 9:36 pm

    สวัสดีค่ะคุนโกวีซ่า แป้งเคยขอวีซ่าออแพร์(J1) เมื่อสองปีกว่าๆที่ผ่านมา แต่ไม่ผ่าน และขอซ้อนกันตั้งสองครั้งในเวลาสองอาทิด ก้อโดนปฏิเสธที้งสองครั้ง ซึ่งน่าจะเปนเพราะแป้งจบ ม 6 และตอนนั้นไม่มีงานทำแต่อายุ 26 แล้ว คือก่อนหน้านั้นทำงานแต่พอจะไปเปนออแพร์เลยลาออกละก้อทำเรื่องไปอเมริกาอย่างเดียวเลย.. ผ่านมาสองปีกว่า ตอนนี้ทำงานเปน ผจก รายได้หลัก 5หมื่นขึ้นทุกเดือน และน้องสาวแป้งไปเปนออแพร์ที่นิวยอร์คได้จะครบสองปีในเดือนเมษานี้ ซึ่งก้อต้องกลับไทยแล้ว น้องสาวเลยชวนว่า มาเที่ยวไม๊ จะได้มีเพื่อนเที่ยว แป้งลาพักร้อนได้ 12 วัน และกำลังจะขอวีซ่า แต่ตอนนี้มีปัญหาค่ะ
    1 แป้งยังไม่ได้ส่ง DS160 เลย กำลังจะส่งแล้วตอนนี้ แต่ที่บ้านไม่มีเครื่องปริ๊น ก้อต้องไปร้านเนต เลยสงสัยว่า ทำให้เสร็จที่บ้านนี่เลยจะได้นั่งรอจองคิว ละค่อยไปปริ๊นไม่ได้หรอคะ
    2 แป้งเคยถูกปฏิเสธสองครั้งซ้อน แต่ครั้งนี่เอกสารแน่นหนากว่าเดิม คือ มีโฉนดบ้านแต่เปนชื่อแม่ มีหนังสือรับรองการเปน นศ ของราม เพราะไปลงเรียนมาเทอมนึงแล้ว มีใบรับรองการทำงานและเงินเดือน มีเงินในบัญชีแสนนิดๆและกำลังจะไปขอใบรับรองฐานะทางการเงินจากแบงค์ คุนโกวีซ่าว่าแป้งจะผ่านไม๊คะ
    3 บ้านเลขที่ ที่เป็น ทับ (/) ต้องพิมว่า slash หรือว่าใช้เครื่องหมาย (-) กันแน่คะ
    4 ถ้าเรากรอกทุกอย่างแล้ว อัพรูปแล้ว ส่งแบบฟอร์มแล้ว ใส่พินละรอจองคิวแต่ไม่มี ปิดคอท เปิดมาใหม่ เราจะกลับเข้าไปรอจองคิวยังไงคะ

    ขอบคุนนะคะที่สละเวลามาอ่านและหวังว่าจะตอบคำถามกลับมา คำถามอาจจะงงๆหน่อยเพราะเมื่อเกือบสามปีก่อนยังไม่ได้ใช้ฟอร์มนี้ แป้งเลยงงๆอ่ะค่ะ

    • govisa  On January 13, 2012 at 11:53 pm

      น้องแป้งคะ
      1. ถ้าที่บ้านไม่มี printer ให้น้องไป Print ที่ร้านให้เช่าอินเทอร์เน็ต และถือโอกาสเช่าเครื่องเขาต่อเพื่อทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ เมื่อได้วันนัดสัมภาษณ์ให้ Print ใบนัดสัมภาษณ์ออกมาด้วยค่ะ ถ้าไม่ต้องการทำวิธนี้ ให้น้องจองวันนัดสัมภาษณ์ให้เสร็จแล้วไป Print ที่ร้านเช่าอินเทอร์เน็ตทั้ง DS-160 Confirmation Number และใบนัดวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

      2. การถูกปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว 2 ครั้ง อาจจะทำให้การขอวีซ่าครั้งที่ 3 ถูกซักถามมากกว่าปกติ ส่วนการที่เพิ่งลงทะเบียนเรียนที่ม.รามได้นาน 3 เดือนหรือ 1 เทอม น้องควรจะขอจดหมายรับรองความเป็นนักศึกษาจากม.ราม พร้อมทั้งTranscript ที่เรียนมา 1 เทอมด้วยว่า ผลการเรียนเป็นอย่างไรด้วยค่ะ ถ้าน้องแป้งต้องการชี้แจงว่า น้องกำลังเรียนอยู่ที่ ม.รามนะคะ แต่ถ้าน้องต้องการนัดวันสอบสัมภาษณ์เร็วๆนี้ การขอเอกสารจากม.รามอาจจะไม่สะดวกเพราะต้องใช้เวลาในการติดต่อสถานศึกษานาน น้องไม่ต้องชี้แจงว่าเรียนอยู่ที่ ม.ราม เพราะน้องเพิ่งลงทะเบียนเรียนไปเพียงเทอมเดียวค่ะ ให้น้องนำจดหมายรับรองการทำงานและเงินเดือนไปแสดงให้กงสุลดูค่ะ ส่วนที่น้องถามว่ามีเงินในบัญชีธนาคารแสนนิดๆ พี่คิดว่า น้อยไปนิดหนึ่งค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า น้องขอวีซ่าชี้แจงกงสุลว่า น้องจะไปเที่ยวนานกี่วัน และไปแถวรัฐไหนด้วยค่ะ ถ้าไปเมืองหรือรัฐที่ค่าครองชีพสูง เช่น บอสตัน นิวยอร์ค และไปนานจำนวน 10 วัน เงินในบัญชีธนาคาร 1 แสนถือว่าไม่พอที่จะค้ำประกันตนเองไปเที่ยวได้ค่ะ เพราะคำนวณเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับเกือบ 50,000 บาทแล้วค่ะ ยังต้องมีค่ารับประทานอาหาร ค่าเที่ยว ค่าช้อปปิ้งอีกค่ะ น้องมีญาติผู้ใหญ่ เช่นคุณพ่อหรือคุณแม่ ที่จะขอร้องให้ท่านร่วมเป็น Sponsor ด้วยได้ไหมคะ
      หมายเหตุ น้องลองปรึกษา family ที่น้องสาวไปอยู่ด้วยว่า เขาจะช่วยทำจดหมายเชิญให้น้องไปพักบ้านเขา 2 อาทิตย์ได้ไหมนะคะ เพราะน้องแป้งมีน้องสาวทำงานที่บ้าน Family นั้นค่ะ

      3. บ้านเลขที่ที่มีเครื่องหมาย/ เวลาใส่เครื่องหมาย / โปรแกรมที่สถานทูตตั้งไว้ใน DS-160 จะไม่สามารถประมวลผลได้ค่ะ ต้องใส่เครื่องหมาย “-“หรือเว้นวรรค 1 ช่องไฟค่ะ

      4. ถ้าจะเปิดเครื่องใหม่ให้น้องเข้า https;//ceac.state.gov/GENNIV คลิก เลือกเมือง เลือกภาษา แล้วคลิก start applicationหลังจากนั้นให้ลองมองหาคำว่า “retrieve application” คลิก retrieve application ใส่ 5 ตัวอักษรแรกของนามสกุลน้อง, ปีคศ.ที่เกิด, และคำตอบของคำถามที่น้องตั้งเป็นรหัสลับตั้งแต่แรก ลองทำดูก่อนที่จะเข้าไปจองวันนัดสัมภาษณ์นะคะ ถ้าทำไม่ได้เพราะลืมรหัสตอบคำถามที่ตั้งไว้ ให้กรอก DS-160 ใหม่แล้วจดรหัสต่างๆเก็บไว้ในกระดาษด้วยเช่น Application Id คำถามที่เป็นรหัสลับประจำตัวน้องและคำตอบ เหตุผลที่ให้น้องกรอกใหม่ เพราะถ้าน้องทำการยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว และน้องเข้าไป retrieve เอกสารที่กรอกไปไม่ได้ ทำให้ print ไม่ได้ น้องจะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขหมายเลข DS-160 ในฟอร์มการนัดสัมภาษณ์ได้ค่ะ ดังนั้นพี่จึงอยากแนะนำให้มือใหม่ในการกรอก print DS-160 Confirmation ออกมาให้เรียบร้อยก่อนทำการนัดวันสอบสัมภาษณ์ทีหลังค่ะ

      ส่วนความหวังว่าจะได้วีซ่าครั้งนี้ไหม พี่ขอเอาใจช่วยค่ะ แต่อยากให้น้องเข้มแข็งเผื่อมีอะไรผิดพลาดจะได้ไม่เสียใจค่ะ

  • tre  On January 17, 2012 at 1:44 am

    สวัสดีครับ รบกวนสอบถามหน่อยครับ
    พอดีผมสมัครDS-160 onlineและนัดวันสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าผมยังไม่ได้print out Confirmation Pageที่มีบาร์โคดออกมา เนื่องจากตอนนั้นยังไม่สะดวก
    พอดีตอนนี้มีโอกาสจะprint แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ผมจะเข้าไปprint out DS-160 confirm โดยการกรอกรหัสตัวเลข นามสกุล ปีเกิดและคำถาม แล้วกดretrieve applicationแล้ว กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถเข้าไปหน้าที่จะprintได้ เป็นเพราะอะไรครับ
    ผมเมล์ไปถามปัญหาที่กงสุลเมื่อ5วันที่แล้ว ก็ไม่มีการตอบกลับมาใดๆเลย แล้วอย่างนี้ผมต้องทำเช่นไรครับแล้วแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้างครับ เนื่องจากมันเข้าใกล้วันที่จะนัดสัมภาษณ์แล้วแต่ผมไม่สามารถเข้าไปprintหน้า Confirm pageนี้ได้
    มีวิธีอื่นที่ไม่ต้องสมัครใหม่ได้ไหมครับ เพราะรู้สึกว่าจะแก้ตัวเลขอิเลกทรอนิคDS-160 สำหรับยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ไม่ได้ด้วย (กลัวมีปัญหาตามมาว่าตัวเลขไม่ตรง)
    รบกวนทีนะครับ

    • govisa  On January 17, 2012 at 5:14 am

      น้อง Tre คะ ให้ print หน้าที่น้องกรอก ApplicaionID (หมายเลข DS-160)พร้อมทั้งกรอก 5ตัวอักษรนามสกุล ปีที่เกิด และคำถามออกมาด้วย พร้อมทั้งเมื่อคลิก retrieve แล้วหน้าจอคอมพิวเตอร์น้องเขียนว่าอย่างไร print ออกมาเป็นหลักฐาน หลังจากนั้นกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่แล้วนำหมายเลขยืนยันใหม่ไปให้กงสุลดู ถ้าเจ้าหน้าที่ถามน้องจะได้มีคำอธิบายพร้อมแสดงหลักฐานประกอบค่ะ ในบริเวรสถานทูตน้องนำดน้ตบุ๊คเข้าไปไม่ได้ ดังนั้นหลักฐานที่บอกให้ print ไปเหมือนกับไปแสดงหน้าจอคอมพิวเตอรืที่มีปัยหาให้เจ้าหน้าที่เห็น อนึ่งถ้ายังมีหลักบานว่าเขียนอีเมลืถึง visabkk@state.gov print ออกมาและนำไปด้วยเพื่อให้เห็นว่าน้องได้สอบถามไปที่ visabkk@state.gov แล้วแต่ไม่ได้รับคำตอบค่ะ จึงต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการกรอกฟอร์มใหม่นะคะ โชคดีค่ะ

  • Aey  On January 17, 2012 at 6:11 am

    พี่ครับตอนนี้ผมกรอก DS160 จนเสร็จพร้อมทั้งนัดวันแล้ว (14 Feb 2012)
    ตอนกรอก DS160 ใส่ไปว่ารู้จักคนที่โน้นคือเพื่อนที่เป็น US ซิติเซ้น
    เพราะเพื่อนที่โน้นแนะนำมาว่าเดี๊ยวจะเขียนจดหมายมารับรองให้ พร้อมทั้งแนบหน้าวีซ่ามาให้ด้วย ซึ่งเค้าบอกว่ามันโอเคกว่าการเขียนจดหมายมาอย่างเดียว
    แต่พอตอนนี้อ่านข้อมูลมีแต่คนบอกว่าห้ามบอกว่ารู้จักใครที่โน้นเพราะมันจะทำให้ไม่ผ่านและยุ่งยากกับตัวเอง ผมเลยคิดอยากจะแก้ไข DS160 ที่นัดวันไปแล้ว ซึ่งยังอีกไกลและในหน้า Edit ยังขึ้นเป็นตัวสีน้ำเงินอยู่ ถามว่าเราจะสามารถแก้ไขได้ไหม แล้วเจ้าหน้าที่จะรู้ไหมว่าเราแก้ไขอะไรไป แล้วมันจะส่งผลเสียอะไรบ้างไหม ตอนนี้กลุ้มใจมากเลย

    • govisa  On January 17, 2012 at 7:48 pm

      น้อง Aey คะ ถ้าเพื่อนน้องเป็น US Citizen เพื่อนเขาคงหมายความว่าเขาจะถ่ายเอกสารหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปหน้าเขามาให้นะคะ คงไม่ได้หมายความว่าหน้าที่มีวีซ่าค่ะ เพราะเขาไม่ต้องขอวีซ่าเข้าอเมริกาค่ะ

      อันที่จริงถ้าการเดินทางของน้องครั้งนี้ น้องรับผิดชอบเรื่องการเงินเองทั้งหมดก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องมีจดหมายเพื่อนค่ะ อย่างไรก็ตามจะมีคำถามข้อหนึ่งใน DS-160 ที่ถามว่ามีคนรู้จักอยู่ในสหรัฐอเมริกาไหม ถ้ามีเพื่อนคนนี้อยู่ที่อเมริกา น้องจะกรอกชื่อเขาไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะตรงที่อยู่ที่ในฟอร์ม DS-160 ถามว่าน้องจะไปพักที่ไหน น้องตอบว่าเป็นโรงแรม ชื่อเพื่อนก็เป็นเพียง Reference ว่าถ้ามีปัญหาอะไรที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ภาครัฐเขาอาจจะย้อนกลับไปดู record ที่บันทึกไว้ในฟอร์ม DS-160 ว่าน้องมีใครรู้จักที่ในอเมริกาบ้าง เขาอาจจะเริ่มซักถามจากคนๆนั้นค่ะ ที่บางกระทู้เขาห้ามบอกว่า มีคนรู้จักอยู่ที่อเมริกา อาจจะเป็นไปได้นะคะที่เขากังวลว่า คนไทยบางท่านเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหหมายก่อน เช่น ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้าไปทำงาน และอยู่นานเกินเวลา ไม่กลับประเทศไทย ทำให้ต้องหาวิธีต่างๆเพื่ออยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่่งวิธีดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่ควรทำค่ะ เพราะจะทำให้ภาพพจน์ของคนไทยรุ่นหลังๆถูกพิจารณาไปในทางลบได้ค่ะ

      ถ้าน้องเป็นกังวลน้องจะลองเข้าไปแก้ไขดูก้ได้นะคะว่าไม่มีคนรู้จัก ถ้าในหน้า edit ยังมีตัวสีน้ำเงินอยู่ก็น่าจะแก้ไขได้ค่ะ การแก้ไขอะไรบางอย่างในฟอร์ม DS-160 ต้องระวังนิดหนึ่งนะคะสำหรับน้องที่เข้ามาอ่านกระทู้ในภายหลังแล้วแก้ไขไม่ได้อย่างน้อง Aey เหตุผล คือ พี่สังเกตว่า ฟอร์ม DS-160 และฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขบางส่วนนิดหน่อยเมื่อใช้ฟอร์มนี้้ไประยะหนึ่ง เช่น เดิม retrieve ข้อมุลไม่ได้ ก็ปรับเปลี่ยนให้มี retrieve ข้อมูลได้ หรือเดิมแก้ไขหมายเลข DS-160 ได้ ปรับใหม่เป็นแก้ไขไม่ได้เป็นต้นค่ะ

      อย่ากลุ้มใจเกินเหตุ เดี๋ยวจะไม่สบาย ถ้าน้องมีความจริงใจ ไม่ได้คิดอยากไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเลย ขอให้คิดเสมอว่า พร้อมที่จะอธิบายให้กงสุลฟังว่า เพื่อนคนนั้นเป็นแค่เพื่อน ถ้าน้องไม่รู้จักใครเลย น้องคงไม่กล้าเดินทางไปอเมริกาคนเดียว เผอิญน้องมีเพื่อนและอยากไปเที่ยวสถานที่ที่ขึ้้นชื่อของอเมริกา เช่น Disneyland, Universal Studio เป็นต้น พี่คิดว่า กงสุลอเมริกันใจกว้างและยอมรับฟังเหตุผลนะคะ

  • tre  On January 17, 2012 at 11:14 am

    ขอบคุณมากครับ
    อย่างนี้แสดงว่าผมต้องกรอกสมัครDS-160ใหม่หมดเลย และนำเอาตัวเลขใหม่ไปยื่นพร้อมกับตัวเลขเก่าที่เคยนัดแล้วอธิบายจนท. เป็นทางออกที่ดีที่สุดใช่ไหมครับ
    แล้วกรณีผมถือว่าผิดปกติไหมที่retrieve เข้าไปprintหรือดู ข้อมูลตัวเองที่สมัครไปแล้วไม่ได้ครับ พอทราบไหมครับว่าเป็นเพราะอะไร
    ขอบคุณครับ

    • govisa  On January 17, 2012 at 5:46 pm

      น้องTreคะ น้องอาจจะลองเข้าไป retrieve อีกครั้งดูก่อนก็ได้นะคะ ที่น้องพบเหตุการณ์นั้นพี่ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ระบบของโปรแกรมหรือเป็นที่อะไรค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะที่พี่ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงของสิ่งที่น้องพบค่ะ อย่างไรก็ตามคำแนะนำที่พี่ให้พี่คิดว่าเป็นทางออกที่ดี่ที่สุดแล้วค่ะ เพราะกรณีคนที่ต้องการแก้ไขหมายเลขDS-160 แล้วแก้ไขไม่ได้ กงสุลก็อนุโลมให้นำทั้งหมายเลข DS-160 ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่ไปแสดงนะคะ ดังนั้นถ้าน้องมีหลักฐานที่พิมพ์ออกมาประกอบคำอธิบายของน้องพี่คิดว่า เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตจะฟังเหตุผลของน้องค่ะ ส่วนอีเมล์พี่ต้องขออภัยที่รีบเขียน ที่ถูกคือ visasbkk@state.gov ตามที่ปรากฏอยู่ที่เว็บไซต์ของสถานทูตค่ะ http://bangkok.usembassy.gov/non-immigrant_visas.html

  • tre  On January 17, 2012 at 11:17 am

    ส่วนเมล์
    visabkk@state.gov กับ
    visasbkk@state.gov ใช่อันเดียวกันหรือไม่ครับ

  • tre  On January 17, 2012 at 9:29 pm

    ขอบคุณมากๆครับ
    รบกวนอย่างสุดท้ายนะครับ
    ถ้าวีซ่าตัวเก่าเราใกล้จะหมดแต่ยังไม่หมดดี เราสามารถต่อวีซ่าใหม่ได้เลยหรือเปล่าครับ
    แล้วต้องแจ้งกับสถานทูตว่าอย่างไร
    พอดีวีซ่าอเมริกาตัวเก่าผมจะหมดปลายเดือนกพ.55นี้
    แต่ผมนัดสัมภาษณ์ต่อวีซ่าอันใหม่ต้นเดือนกพ.55 ไปแล้ว พึ่งมาสังเกตุเห็น
    ไม่ทราบว่าได้หรือไม่
    เพราะถ้าไม่ได้ผมจะได้ยกเลิกนัด แล้วแจ้งนัดวันใหม่หลังจากวีซ่าตัวเดิมหมดลงแล้ว
    ขอบคุณครับ^ ^

    • govisa  On January 17, 2012 at 9:49 pm

      น้อง Tre คะ ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาขอให้ไปสอบสัมภาษณ์ตามที่ได้นัดไว้ค่ะ เตรียมเอกสารไปให้ครบแม้จะมากก้เตรียมไปไว้ก่อน ถ้าไม่ได้ใช้ให้คิดว่า แค่เก็บเอากลับบ้านไม่หนักอะไรมากค่ะ เพราะถ้าเตรียมไปไม่ครบ อาจเสียใจได้เพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ค่ะ เวลาตอบคำถามขอให้มีสติ ตั้งใจฟังคำถามให้ดีก่อนตอบ ตอบด้วยความชัดเจน อย่าคิดว่าตอบเล่นๆนะคะ และอย่าซีเรียสจนเกินไป ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ค่ะ อย่างไรก็ตามผู้ที่เคยมีวีซ่าอยู่แล้วจะเข้าแถวคนละแถวกับผู้ที่ไม่เคยขอวีซ่า และส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาค่ะ โชคดีนะคะขอให้สัมภาษณ์วีซ่าผ่านค่ะ

  • tre  On January 18, 2012 at 11:04 am

    ขอบตุณมากครับ ^ ^

  • Aey  On January 18, 2012 at 11:51 am

    น้อง Aey คะ ถ้าเพื่อนน้องเป็น US Citizen เพื่อนเขาคงหมายความว่าเขาจะถ่ายเอกสารหน้าหนังสือเดินทางที่มีรูปหน้าเขามาให้นะคะ คงไม่ได้หมายความว่าหน้าที่มีวีซ่าค่ะ เพราะเขาไม่ต้องขอวีซ่าเข้าอเมริกาค่ะ
    ++ ใช่ครับเค้าจะถ่ายหน้าวีซ่าเค้ามายืนยันว่าเค้าเป็น US Citizen จริง ไม่ได้เขียนจดหมายมาเปล่าๆ

    อันที่จริงถ้าการเดินทางของน้องครั้งนี้ น้องรับผิดชอบเรื่องการเงินเองทั้งหมดก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องมีจดหมายเพื่อนค่ะ
    ++ ใช่ครับผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่ทำไมต้องมีเพราะผมจะไปพักกับเค้าและเค้าจะพาผมเที่ยว อีกทั้งผมไม่มีแผนการเที่ยวเลยเพราะหลังจากลงเครื่องผมจะให้เพื่อนมรรับที่สนามบิน และก็จะอยู่กับเค้าตลอดจนถึงวันกลับ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมต้องให้เค้าเขียนหนังสือมารับรองว่าผมจะไปอยู่กับเค้าจริงและเค้าเป็นพลเมือง US

    ถ้าน้องเป็นกังวลน้องจะลองเข้าไปแก้ไขดูก้ได้นะคะว่าไม่มีคนรู้จัก ถ้าในหน้า edit ยังมีตัวสีน้ำเงินอยู่ก็น่าจะแก้ไขได้ค่ะ การแก้ไขอะไรบางอย่างในฟอร์ม DS-160
    ++ตอนนี้ผมได้วันนัดหมายใหม่แล้วเป็นวันที่ 8 feb ผมได้รับอีเมลล์กลับมาว่า
    วันสุดท้ายที่ท่านสามารถแก้ไขข้อมูลได้: 03 February 2012
    วันสุดท้ายที่ท่านสามารถยกเลิกได้: 03 February 2012

    แต่สิ่งที่ผมยังไม่ได้คำตอบคือว่า เมื่อเราแก้ไขข้อมูลหลังจากที่ได้นัดหมายแล้วหมายเลขคอมเฟริมจะเปลี่ยนไปไหม เราต้องprint confirm ใบเก่าใบใหม่ไหม และเจ้าหน้าที่จะรู้ไหมว่าเรามีการแก้ไขข้อมูล และรู้ไหมว่าข้อมูลก่อนที่เราแก้ไข และหลังแก้ไขเป็นอย่างไร

    มันจะส่งผลว่าเดิมคุณแจ้งว่ามีคนรู้จัก พอตอนนี้คุณกลับลบออกแจ้งว่าไม่มีคนรู้จัก นั่นแสดงว่ามีเจตนาปิดบัง ถ้าผมลองจินตนาการว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่ผมไม่ให้ผ่านครับถ้าผมรู้ว่าเค้าแก้ไขข้อมูลทำนองนี้

  • MaeBua  On January 18, 2012 at 11:29 pm

    อยากให้คนที่มีประสบการณ์แนบ ds 160 อันใหม่แนบอันเก่าไป มาแชร์ประสบการณ์หน่อยคะ ว่าเจอปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะตอนนี้ตนเองต้องแนบฉบับใหม่ไปด้วย แต่ขอถามนะคะว่า home address ต้องใส่ที่อยู่ในทะเบียนบ้านหรือที่อยู่ปัจจุบัน (ตัวเองใส่ที่อยู่ปัจจะบันลงไป เลยคิดว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่ และต้องโหลดรูปลงไปใหม่ด้วย เพราะรูปในใบเดิมไม่ชัด ขอคำแนะนำด้วยนะคะ) ขอบคุณเจ้าของเวปที่ให้ความกระจ่างด้วยนะคะ

    • govisa  On January 19, 2012 at 3:25 am

      น้อง Nonglak คะ ในการกรอกที่อยู่ให้ใส่ที่อยู่ปัจจุบันได้ค่ะ ไม่ต้องแก้ไขฟอร์ม DS-160 กงสุลไม่ขอดูทะเบียนบ้านค่ะ ส่วนเรื่องคนที่ยืนยันหมายเลข DS-160 อันเก่ากับการนัดยืนยันวันสัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้ว จะกรอก DS-160 ใหม่พราะกรอกบางข้อความผิด ทำให้ต้องนำทั้งใบใหม่และใบเก่าไปผู้ยื่นขอวีซ่า ไม่มีปัญหาตรงประเด็นนี้นะคะ เพราะผู้ยื่นขอวีซ่าสามารถชี้แจงเจ้าหน้าที่ด้วยวาจาได้ว่า ทำไมมี 2 หมายเลข DS-160 ค่ะ

  • MaeBua  On January 19, 2012 at 6:17 pm

    ขอบคุณมากเลยที่ตื่นมาตอบให้แต่เช้า ถ้าอย่างงั้นขอถามอีกปัญหาหนึ่งนะคะ
    ืคือภาพที่โหลดลงใน ds ใบปัจจุบัน (ยังไม่ได้กรอกใหม่) ไม่ค่อยชัดเพราะถ่ายเอง และมีขนาดที่ไม่ได้มาตรฐาน เลยอยากทราบว่าเราควรทำ ds ใหม่ แล้วโหลดรูปใหม่ที่ถูกต้องลงไป หรือใช้ใบเดิมแต่แนบรูปที่ถูกต้องไปด้วยเวลาแนบเอกสาร ควรทำอย่างไหนดีคะ

    • govisa  On January 19, 2012 at 7:16 pm

      น้อง Nonglak คะ ถ้า DS-160 ที่โหลดภาพไปแล้วไม่ชัดและน้องยังไม่ได้ sign and confirm น้องสามารถเลือก upload รูปภาพใหม่ได้ค่ะ แต่ถ้าทำการแก้ไขแล้วทำไม่สำเร็จ น้องสามารถกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่แล้ว upload รูปที่ชัดเจนใหม่ได้ค่ะ ตราบใดที่น้องยังไม่ได้เข้าไปจองวันนัดสัมภาษณ์ แต่ถ้าน้องเข้าไปยืนยันวันนัดสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องจะแก้ไข DS-160 ในการจองวันนัดสัมภาษณ์ไม่ได้ ดังนั้นน้องมี 2 ทางเลือก คือ
      1. print ใบยืนยันหมายเลข DS-160 ที่มีรูปภาพไม่ชัดออกมา และถ้าไม่มีอะไรที่กรอกผิดให้น้องนำรูปถ่ายจริงขนาด 2 นิ้วคูณ 2 นิ้วเข้าไปที่สถานทูตในวันสอบสัมภาษณ์ด้วย เพราะทางสถานทูตจะ scan รูปน้องใส่ลงในหน้าหนังสือเดินทางใหม่
      2. เลือกที่จะกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่และ print หมายเลขยืนยัน DS-160 ใหม่นำไปพร้อมหมายเลขยืนยัน DS-160 ใบเก่าค่ะ

  • MaeBua  On January 20, 2012 at 6:42 pm

    ถามว่า ถ้าเป็นพี่จะเลือกใช้วิธีไหนคะ

    • govisa  On January 20, 2012 at 11:41 pm

      น้อง Nonglak คะ ที่จริงแล้วน้องควรตัดสินใจเองมากกว่า พี่คาดเดาว่า น้องคงไม่มั่นใจเกรงว่า รูปจะไม่ชัดเจนก็เลือกวิธีที่ 2 ไปแล้วกันค่ะ สำหรับพี่ ถ้า upload รูปไปแล้วโปรแกรมให้ผ่านไปหน้า review ข้อมูลได้ พี่คงเลือกวิธีที่ 1 เพราะมั่นใจว่าเมื่อโปรแกรมบอกว่ารูปของเราใช้ได้แล้วก็เป็นอันว่าใช้ได้ค่ะ พี่จะติดรูปไปอีก 1 ใบเผื่อกรณ๊ฉุกเฉินค่ะ

  • MaeBua  On January 20, 2012 at 6:42 pm

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

  • Pech  On January 20, 2012 at 9:44 pm

    พี่คับ ถ้าลืมคำตอบ ใน ds 160 ผมจะทำไงดีคับ

    • govisa  On January 21, 2012 at 12:58 am

      น้อง Peach คะ ใจเย็นๆก่อนนะคะ ถ้าน้องเป็นคนกรอกคำถามเองน้องต้องตอบได้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ หรือไม่ให้น้องลองนึกทบทวนคำถามที่สำคัญในฟอร์ม DS-160 เช่น น้องจะไปพักอยู่ที่ไหนในสหรัฐฯ น้องได้แจ้งไปหรือเปล่าว่า รู้จักใครในสหรัฐ มีที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์เขาไหม น้องขอวีซ่าประเภทไหน ถ้าเป็นนักเรียนก็ควรจะดูจาก I-20 ว่าโรงเรียนและที่อยู่ของโรงเรียนคืออะไร ติดต่อใครที่โรงเรียนนั้น ไปเรียนหลักสูตรอะไร เปิดเรียนเมื่อไร ถ้าเป็น work and travel กงสุลคงถามว่าน้องไปโครงการของบริษัทอะไร จะไปทำงานที่รัฐไหน เป็นงานประเภทอะไร เป็นต้น คำถามหลักๆต่อไปที่สำคัญ คือรายละเอียดของ sponsor ว่าเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับน้องอย่างไร มีอาชีพอะไร มีรายรับเท่าไรโดยประมาณ ถ้าน้องขอวีซ่าท่องเที่ยวก็ควรทราบว่า วางแผนจะไปเที่ยวที่ไหน ไปกี่วัน อย่าเพิ่งประหม่านะคะ ลองจดลงในกระดาาษเหมือนกำลังจะไปสอบ หมั่นซ้อมฝึกพุูดถามตอบเองทุกวันบ่อยๆ น้องจะคล่องแคล่วเวลาอยู่ต่อหน้าฝรั่ง อย่าตื่นเต้นมาก จะทำให้ควบคุมสมาธิไม่ได้ และตอบผิดตอบถูกค่ะ โชคดีนะคะ น้องจะสอบสัมภาษณ์วันไหนคะ จะได้ส่งกำลังใจไปช่วยค่ะ

  • Chanisa  On January 25, 2012 at 4:28 pm

    สวัสดีค่ะ ดิฉัน Chanisa พึ่งเข้ามาอ่านเวปไซค์นี้ค่ะ มีปัญหาเหมือนกับหลายๆคนคือดิฉันอยู่กับแฟนเป็นคนอเมริกามีลูกด้วยกันหนึ่งคนแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันค่ะ แล้วแฟนเขาขอสัญชาติอเมริกันให้ลูกชายแล้วค่ะเมื่อกลางเดือน มค.ที่ผ่านมา คือมีปัญหาตอนที่กรอก DS160สถานะดิฉันกับแฟนไม่รู้จะเลือกเป็นอะไรไม่มีให้เลือกก็เลยเลือกเป็น เพื่อน และแฟนเขาก็กรอกคนที่sponserดิฉันว่าเป็นพ่อของเขาและมีความสัมพันธ์กับดิฉันเป็น เพื่อนเหมือนเพราะไม่รู้จะกรอกว่าเป็นอะไรดี พอดีเพื่อนที่ทำงานท้วงว่าทำไมไม่กรอกเป็น bf ไปละ แต่จะเข้าไปแก้ไขก็ไม่ได้แล้ว ควรจะกรอกฟอร์มDS160 ใหม่มั้ยค่ะ และความสัมพันธ์ของดิฉันกับแฟนควรจะกรอกเป็นอะไร ดี bf or partner ดี และพ่อของแฟนจะกรอกเป็นอะไรดี ตอนนี้ดิฉันนัดสัมภาษณ์แล้ววันที่ 22กพ.นี้ค่ะ รบกวนตอบด้วยค่ะ กลุ้มใจมากเลย จะสะดวกตอบทางEmail ก็จะเป็นพระคุณอย่างมากค่ะ lilly_499@hotmail.com

    • govisa  On January 25, 2012 at 10:06 pm

      น้อง Chanisa คะ
      1. พี่ไม่ทราบว่าน้องเพิ่งคลอดลูกชาย หรือ ลูกชายน้องโตแล้วและแฟนเพิ่่งขอสัญชาติอเมริกันให้ ถ้าอยู่ด้วยกันมานานแล้ว น่าจะแจ้งกับทางกงสุลได้นะคะว่า อยู่ด้วยกันเป็นสามีภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพราแฟนวางแผนที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย และตัวน้องเองก็ไม่อยากเสียสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สมบัติบางประเภท เช่น การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย หรือ การเป็นเจ้าของที่ดินนะคะ
      2. ถ้าดูจากใบเกิดของลูกก็น่าจะมีระบุชื่อพ่อ ชื่อแม่ว่า ชื่ออะไร ดังนั้น จะบอกว่าแฟนน้องเป็นแค่เพื่อน ก็น่าจะเข้าข่ายว่า ไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริงค่ะ เพราะน้องสามารถนำหลักฐานการแจ้งเกิดลูกเพื่อขอสัญชาติอเมริกันไปให้กงสุลดูได้ว่า น้องและแฟนเป็นอะไรกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ
      3. การที่จะให้พ่อสามีเป็น sponsor ทำให้พี่ข้องใจว่า กงสุลคงจะสงสัยไหมว่า สามีไม่มีรายได้หรือ หรือว่าสามีเก็บเงินไว้ที่ไหน ทำงานหรือเปล่า ฯลฯ ทำไมสามีไม่รับผิดชอบเป็น sponsor ให้น้องเองค่ะ
      4. การที่ใส่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อสามีกับตัวน้องว่าเป็น BF มองได้ 2 ประเด็นคือ คำว่า BF อาจหมายถึง Boy friend หรือ Best friend ก็ได้ แต่มันก็จะดูแปลกๆว่า ทำไมสามีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้น้องไม่ได้
      5. อยากให้น้องมองหารายละเอียดของสามี เช่น เขาเคยทำงานที่ไหน ให้นำจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารที่เขามีในบัญชีไปด้วยดีไหม นอกจากนี้ถ้าเขาไปๆมาๆระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทยอาจจะต้องมีใบรายการว่าเสียภาษีให้รัฐบาลอเมริกันหรือเปล่า ถ้ามีส่งหลักฐานเรื่องการจ่ายภาษีมาให้น้องเพื่อให้น้องไปขอวีซ่า จะได้รู้ว่า สามีน้องพอใจที่จะอยู่ที่เมืองไทย นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมไม่ขอกรีนการ์ด หรือไม่ขอ K-1 visa ให้
      6. น้องพอจะหาญาติของน้องเองที่เมืองไทยเป็น sponsor เพิ่มอีก 1 คนได้ไหมคะ เพื่อให้เห็นว่า ที่บ้านน้องเองมีรายได้มากพอที่น้อง สามี และลูกจะอยู่ที่ประเทศไทยโดยไม่คิดจะไปอยู่ที่อเมริกาค่ะ

      ขอโทษทีี่พี่ไม่ได้ตอบทางอีเมล์ที่ให้มาค่ะ

      • Chanisa  On January 26, 2012 at 2:55 pm

        ขอบคุณพี่ govisa มากค่ะ ที่ตอบและขอตอบที่พี่สอบถามมานะคะ
        1.ลูกชายพึ่งคลอดค่ะ อายุ 4เดือนกว่า เราอยู่ด้วยกัน 2ปีแล้วค่ะ และมีงานหมั้นกันที่ประเทศไทยประมาณปลายปี 2009 แต่ที่ไม่ขอวีซ๋า K-1 visa เพราะจะกลับมาแต่งงานที่ประเทศไทยค่ะ แฟนเขาอยากพาไปพบพ่อเขาก่อนที่จะกลับมาแต่งงานกันค่ะ
        2. ใบเกิดระบุชื่อ พ่อและแม่ค่ะ ซึ่งเป็นชื่อดิฉันและแฟนและตอนที่ไปขอสัญชาติอเมริกันให้ลูกดิฉันและลูกได้เดินทางไปสัมภาษณ์ด้วยและได้ยื่นพาสปอร์ตดิฉันให้สถานฑูตดูด้วยค่ะ
        3.การที่ให้พ่อสามีเป็น sponser แฟนบอกว่าเขาเป็น sponser ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้อยู่ในประเทศอเมริกา แฟนทำงานในประเทศไทย คือถ้าแฟนอยู่ในประเทศไทยเขาสามารถ Sponser ดิฉันได้ใช่มั้ยค่ะ เพราะเดินทางไปที่อเมริกาดิฉันจ่ายค่าเครื่องบินเอง แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆแฟนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายค่ะ และพักที่บ้านแฟนที่แคลิฟอร์เนีย
        4.ส่วนความสัมพันธ์ คืออยากถามว่าของแฟนที่อยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนควรจะเลือกเป็นอะไรดีค่ะ ระหว่าง Boy friend or partner และส่วนของพ่อแฟนก็ไม่รู้จะระบุว่าเป็นอะไรดีค่ะ ควรจะเลือก other แล้วระบุไปว่าเป็น Law farther ได้หรือเปล่าค่ะ
        5.แฟนทำงานให้ประเทศไทยค่ะ ควรจะให้แฟนหาใบรองรับการทำงานจากบริษัทในประเทศไทย และ Statment ของแฟนด้วยหรือเปล่าค่ะ และตัวดิฉันเองมีโฉนดที่ดินอยู่ 2แปลงค่ะ และเงินในธนาคารประมาณแสนกว่าๆค่ะ คิดว่าน่าจะพอเชื่อถือได้มั้ยค่ะ
        6.ส่วนญาติ ไม่แน่ใจค่ะ ว่าต้องเป็นแบบไหนแค่คนทำงานธรรมดาหรือว่าเขาต้องมีรายได้หรือหลักทรัพย์มากมายหรือเปล่าค่ะ เพราะน้องมีญาติที่เป็นคนทำงานธรรมดาไม่ได้มีหลักทรัพย์มากมายค่ะ

      • govisa  On January 26, 2012 at 6:02 pm

        น้อง Chanisa คะ
        1. แฟนเป็น Sponsor ให้ได้ค่ะ ดูมีน้ำหนักมากกว่าด้วยค่ะ เพราะเป็นสามีและเป็นพ่อของลูกค่ะ
        2. แฟนขอจดหมายรับรองจากสถานที่ทำงานว่า ทำงานตำแหน่งอะไร รับเงินเดือนๆละเท่าไร และเข้าทำงานตั้งแต่เมื่ิอไรค่ะ
        3. ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนกับน้องระบุว่า เป็นสามีภรรยากันได้ค่ะ มีคนไทยที่เป็นสามีภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส ลูกโตจนเรียนหนังสือจบเวลาไปขอวีซ่า เขาก็ระบุว่า เป็นสามีภรรยากันแต่ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ
        4. ถ้าจะใช้ญาติที่เมืองไทยค้ำประกันร่วมด้วย ให้น้องดูที่ความสัมพันธ์ด้วยว่าใกล้ชิดกับเรามากขนาดไหนค่ะ นอกเหนือไปจากเรื่องเงิน เช่น เป็นพ่อ-แม่ หรือเป็นพี่หรือน้องแท้ๆของพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายน้องค่ะ ส่วนเงินถ้ามีไม่ถึงหลักล้านก็ลองดูว่า จะพอมีเกินห้าแสนบาทไหมนะคะ

        ปัญหาของน้องน่าจะอยู่ตรงที่ว่า ทำไมไม่ขอวีซ่า K-1 น้องจะต้องอธิบายให้กงสุลเข้าใจเหตุผลอย่างช้าๆว่า เพราะเหตุใด น้องอาจจะตอบว่า น้องไม่แน่ใจว่าน้องจะอยู่ที่อเมริกาได้ไหม เพราะน้องต้องปรับตัวหลายด้านทั้งสภาพอากาศและชีวิตความเป็นอยู่ค่ะ และแฟนน้องก็ตามใจน้องว่า ถ้าน้องอยู่ที่อเมริกาไม่ได้เขาก็จะอยู่เมืองไทยกับน้อง อย่างไรก็ตาม น้องอาจจะมีเหตุผลดีกว่าที่พี่แนะนำก็ได้ค่ะในการตอบคำถามกงสุลว่า ทำไมไม่จดทะเบียนแต่งงานกัน หรือ ทำไมไม่ขอวีซ่า K-1 ค่ะ

  • The Sea  On January 26, 2012 at 12:06 pm

    สวัสดีค่ะ..น้องได้รับวันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว แต่พบปัญหาใน DS-160 ดังนี้
    1. กรอกสถานที่เกิด (city) เป็นชื่ออำเภอ แต่กรอกชื่อจังหวัดถูกต้อง..และใน Confirmation โชว์ชื่อเมืองกับประเทศค่ะ (MEUNG,THAILAND) จะมีปัญหามั๊ยค่ะ…น้องต้องกรอก DS-160 ใหม่หรือเปล่าค่ะ??
    2. passport book number น้องใส่ เลขใต้บาร์โคดหลังสมุด ถูกมั๊ยค่ะ
    *** จะสัมภาษณ์ในอีก 1 อาทิตย์แล้วค่ะ..แงงงงง !!! ช่วยตอบด้วยนะค่ะ….T_T

    • govisa  On January 26, 2012 at 9:18 pm

      น้อง Sea คะ ไม่ต้องแก้ไขได้ค่ะ เพราะเป็นความผิดเล็กน้อย แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตตอนตรวจเอกสารได้ค่ะ หากน้องมั่นใจว่า น้องกรอกชื่อจังหวัดถูกต้องแล้วเพียงแต่ตรง city ที่จริงต้องกรอกชื่อเมืองหรือจังหวัดค่ะ ส่วนชื่่ออำเภอใส่ไว้ที่บรรทัดที่ 2 ที่เขาให้กรอกที่อยู่เพิ่มเติมถ้าบรรทัดที่ 1 กรอกไม่พอค่ะ ส่วน passport book number บางท่านก็แนะนำให้กรอกหมายเลขหนังสือเดินทาง บางท่านให้กรอกตัวเลข 13 ตัวเลขใต้บาร์โค้ดหลังหนังสือเดินทาง ซึ่งพี่คิดว่าอย่างที่น้องเข้าใจก็น่าจะถุกต้องแล้วค่ะ บางท่านไม่มีอาจจะลางเลือนหรือหายไปหรือไม่ทราบว่าจะกรอกอะไร ใส่ does not apply ไปเลยก็มีค่ะ โปรแกรมการกรอกก็ยอมให้ผ่่านไปหน้าถัดไปได้ค่ะ

  • The Sea  On January 27, 2012 at 10:09 am

    ขอบคุณมากค่ะพี่..สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ…เอ่อ…แล้วถ้าหากเรามีหนังสือเชิญจากแฟน ต้องเป็นหนังสือตัวจริงหรือเปล่าค่ะ?… เป็น pdf. ที่มีลายเซ็นพร้อมได้มั๊ยค่ะ… และต้อง
    เตรียมหลักฐานของแฟนอะไรบ้างค่ะ…. รบกวนพี่ช่วยตอบด้วยค่ะ..ขอบคุณค่ะ…^_^

    • govisa  On January 27, 2012 at 5:47 pm

      น้องSea คะถ้ามีเวลาก็ควรส่งตัวจริงมาเช่นอาจจะส่งไปรษณีย์ด่วนประเภท3วันถึงเมืองไทยค่ะ แต่ถ้าจะสัมภาษณ์อาทิตย์หน้าคำนวณเวลาแล้วไม่ทันก็คงต้องใช้เป็น.pdfที่มีลายเซ็นต์ด้วยค่ะ ส่วนหลักฐานแฟนหมายความว่าให้แฟนเป็นSponsor ใช่ไหมคะถ้าเป็นเช่นนั้นแฟนก็ต้องส่งจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารในสหรัฐฯ,สำเนาบัญชีตัวจริงที่ได้รับการรับรอง,ใบรายการแสดงภาษีในปีที่ผ่านมา,แบบฟอร์มI-134 ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นตัวจริงค่ะแต่ถ้าแฟนไมใช่sponsor ก็ไม่ต้องใช้รายการที่กล่าวมาค่ะ

  • The Sea  On January 27, 2012 at 9:46 pm

    แฟนไม่ได้sponsor ให้ค่ะ แค่ให้ที่พักอย่างเดียว และน้องก็ย้าแล้วว่าไม่ให้เขียนเรื่องค่าใช้จ่ายในจดหมายค่ะ..ดังนั้นไม่ต้องเอาหลักฐานอะไรใช่มั๊ค่ะ..? แล้วต้องเอารูปถ่ายยืนยันความสัมพันธ์ด้วยมั๊ยค่ะพี่…

    • govisa  On January 27, 2012 at 10:15 pm

      น้อง Sea คะ การบอกว่า คนที่เขียนจดหมายเชิญเป็นแฟนน้องค่อนข้างจะ sensitiveพอสมควรค่ะ เพราะอาจจะมีคำถามต่อไปได้ว่า แล้วจะมีแผนการแต่งงานไหม ทำไมไม่ทำวีซ่าเป็น K-1 และอื่นๆมากมายค่ะ ถ้าบอกว่า เป็นแค่เพื่อน ก็จะถูกสงสัยและสอบถามได้อีกว้า ไม่ใช่แฟนเหรอ ระมัดระวังในการตอบคำถามสัมภาษณ์นิดหน่อยนะคะ เพราะก็คงต้องตอบตามความเป็นจริงแหละค่ะ แต่จะทำอย่างไรให้กงสุลมั่นใจว่า ไปแล้วจะน้้องจะกลับมาที่เมืองไทยแน่นอน ถ้ามีหลักฐานจากที่ที่น้องทำงานว่า น้องลาพักร้อนไปเที่ยวกี่วันและจะต้องกลับมาทำงานในตำแหน่งงานเดิมด้วยก็จะดูดีกว่าค่ะ

  • The Sea  On January 28, 2012 at 7:46 am

    ขอบคุณมากค่ะ… น้องจะทำตามคำแนะนำนะคะ.. ^_^

  • แดง  On January 31, 2012 at 6:23 pm

    นัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วแต่พบปัญหาว่าเอกสารไม่ครบวันที่นัดสัมภาษณ์ก็เลยโมฆะไป จากนั้นไปซื้อ pin มาใหม่เพื่อจะเข้าไปนัดสัมภาษณ์อีกครั้ง ต้องการทราบว่าสามารถใช้เลขที่ยืนยันแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าอิเลคทรอนิกส์ดีเอส 160 ที่กรอกไว้ครั้งแรกหรือเราต้องกรอกใหม่คะ ขอบคุณมากคะ พี่แดง

    • govisa  On January 31, 2012 at 7:30 pm

      พี่แดงคะ อันที่จริง Pin นัดวันสัมภาษณ์สามารถบอกยกเลิก คือ delete วันนัดเดิม แล้วค่อยไปเลือกวันนัดใหม่ได้อีก 2 ครั้ง เสียดายเงินไม่น่าต้องซื้อใหม่เลยค่ะ อย่างไรก็ตามขอตอบคำถามเรื่องหมายเลข DS-160 ที่เคยกรอกไปแล้ว สามารถใช้หมายเลข DS-160 เดิมได้ค่ะ แต่ถ้าเข้าไปลองจองวันนัดสัมภาษณ์แล้วเกิดปัญหา ก็อย่าวิตกกังวลเลยนะคะ กรอก DS-160 ใหม่ได้ค่ะ หรือจะทิ้งอันเก่าไปเลยแล้วเริ้มกรอกใหม่เลยก็ได้ค่ะ ไม่ได้มีผลต่อการขอวีซ่าว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนะคะ

  • แดง  On February 1, 2012 at 10:10 am

    ขอบคุณมากคะ พี่เพิ่งรู้ว่าเอกสารพี่ไม่ครบตอนเกือบเที่ยงซึ่งพี่ต้องไปสัมภาษณ์วันพรุ่งนี้เช้า พอพี่จะเข้ามาขอยกเลิก ระบบก็ไม่ให้เปลี่ยนแล้วคะเพราะมันกระชั้นชิดเกินไปก็เข้าใจคะ แต่ก็ต้องขอขอบคุณน้องมากคะที่ให้ข้อมูล พี่แดง

    • govisa  On February 1, 2012 at 5:46 pm

      พี่แดงคะ หากสังเกตในใบยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ จะมีเขียนแจ้งวันที่สุดท้ายที่จะสามารถบอกยกเลิกการนัดหมาย เพื่อทำการนัดหมายใหม่ค่ะ ครั้งต่อไปที่กำลังจะขอนัดเมื่อ print ใบยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ออกมา อย่าลืมดูนะคัว่า วันสุดท้ายที่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงวันนัดคือวันที่เท่าไรค่ะเผื่อจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ อีกประการหนึ่งควรเขียนอีเมล์ชี้แจงเหตุผลที่คราวที่แล้วไม่ได้เข้าไปสัมภาษณ์ไปยัง visasbkkk@state.gov ด้วยค่ะ

      เพิ่มเติมนะคะพี่แดง ได้โทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูตให้ เจ้าหน้าที่ท่านบอกว่าไม่ต้องเขียนอีเมล์ไปอธิบายก็ได้ว่า ทำไมคราวที่แล้วจึงไม่ไปสัมภาษณ์ค่ะ ครั้งแรกที่อธิบายไปเช่นนั้น เพราะเคยได้รับทราบจกผู้ที่ไม่ไปตามวันนัดสัมภาษณ์ท่านหนึ่ง ท่านถูกถามว่า ได้เขียนอีเมล์ไปบอกยกเลิกว่าไม่ไปหรือเปล่าค่ะ

  • NOPPON  On February 8, 2012 at 5:31 pm

    อยากทราบว่าวิธีการ Delete ใบนัดเดิมทำอย่างไรครับผมกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ใหม่แล้วครับ แต่พอผมจะนัดวันสัมภาษณ์ มันจะขึ้นตัวสีแดงบอกประมาณว่า User นี้ ถูกใช้อยู่ซึ่งต้องยกเลิกก่อนใช่หรือไม่ครับ จึงอยากทราบวิธีการยกเลิกครับ
    รบกวนด้วยครับ

    • govisa  On February 8, 2012 at 8:27 pm

      น้อง Noppon ถ้าน้องต้องการ delete วันนัดสัมภาษณ์เดิม เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์ http:// Thailand.us-visservices.com ให้น้องคลิกคำว่า log on ใส่ username และ password หลังจากนั้นดูหัวข้อ reschedule แล้วทำตามขั่นตอนที่โปรแกรมเขียนบอกให้น้อง delete วันนัดสัมภาษณ์เดิมก่อนจึงจะทำการนัดวันใหม่ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ยังอยู่ในช่วงที่ทำการแก้ไขวันนัดได้ วิธีดูให้ดูที่ใบนัดวันสัมภาษณ์ที่ print ออกมาเขียนวันที่ที่ให้ทำการแก้ไขวันสุดท้ายคือวันที่เท่าไรค่ะ

  • jaja_littlestar  On February 10, 2012 at 1:02 am

    สวัสดีค่ะ คือหนูกับแม่มีกำหนดวันสัมภาษณ์วีซ่าวันที่ 27 ก.พ. นี้ค่ะ แต่ว่าตอนนี้แม่อยากให้น้องไปด้วย (น้องอยู่ป .2ค่ะ) หนูสามารถเข้าไปเพิ่มชื่อน้องเพื่อทำการสัมภาษณ์วีซ่าได้อยู่มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On February 10, 2012 at 12:59 pm

      น้อง Jaja คะกรอก DS-160 ให้น้องและรีบ Add ชื่อน้องในวันนัดสัมภาษณ์ ถ้าทำไม่ได้เพราะยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว พยายามเข้าไปจองให้ได้วันเดียวกัน และเวลาใกล้เคียงกัน หรือไม่เช่นนั้นของน้องกับของคุณแม่มีสิทธิ์ delete วันนัดสัมภาษณ์เดิมและเลือกวันนัดสัมภาษณ์ใหม่ทำแบบนี้ได้อีก 2 ครั้ง พยายามหาเวลาและวันให้ใกล้เคียงน้องที่อายุ 2 ขวบให้มากที่สุด แต่ถ้าเข้าไปแอดชื่อในวันนัดสัมภาษณ์ยังได้อยู่ ก็ถือว่าโชคดีไปค่ะ

  • taew  On February 10, 2012 at 5:16 pm

    หวัดดีค่ะ แต้วค่ะ่ อยากถามเกี่ยวกับการขอวีซ่าครั้งแรกค่ะ ขอถามเป็นกรณีนะค่ะ
    1.แต้วขอวีซ่าครั้งแรกคะ่ ตอนนี้เรียนป.โท อายุ 27ปี ยังไม่ได้ทำงาน ไปขอวีซ่าพร้อมกับป้า (ผู้ปกครอง) ป้าจะไปเยี่ยมลูกสาวที่เมกาและให้เราเดินทางเป็นเพื่อน ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างค่ะ แล้วป้าต้องรับรองอะไรมั้ยค่ะ
    2.ป้าเคยมีวีซ่าสหรัฐ 10 ปี แต่จะหมดอายุตอนเดือนเมษา ต้องทำอย่างไรคะ่ แล้วต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ป้ามีลูกสาวแต่งงานแล้วกับคนอเมริกัน และเพิ่งคลอดลูกชายได้ 5 เดือน ส่งจดหมายมาให้ไปเยี่ยมที่อเมริกา
    3.อยู่คนละบ้านเลขที่กับป้าต้องซื้อ Pin แยกหรือเปล่าค่ะ
    4.ตอนกรอก DS 160 ต้องเลือกเดินทางเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะหรือป่าวคะ่ หรือกรอก
    DS 160 ของแต้ว ของป้า แล้วนัดสัมภาษณ์วันเดียวกัน
    มีโอกาสที่จะผ่านมั้ยค่ะ มีวิธีแนะนำช่วยบอกหน่อยนะค่ะ

    รบกวนค่ะ

    • govisa  On February 10, 2012 at 8:31 pm

      น้องแต้วคะ ตอบตามคำถามแต่ละข้อนะคะ
      1. เอกสารของน้องแต้วที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า
      1.1 ขอ transcript จากมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาปริญญาโท
      1.2 ขอจดหมายรับรองความเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่
      1.3 ใครจะเป็น Sponsor ให้น้องคะ คุณพ่อคุณแม่ของน้องหรือคุณป้า ถ้าเป็นคุณป้า ขอจดหมายรับรองฐานะการเงินในชื่อคุณป้าและบัญชีตัวจริง หากคุณป้าไปขอวีซ่าวันเดียวกับน้องใช้จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารชุดเดียวกันได้ เพราะคุณป้าก็ต้องรับรองการเงินของตนเองด้วยค่ะ อนึ่ง ถ้าหากเป็นไปได้ พี่อยากให้น้องแต้วมี sponsor 2 ท่าน คือคุณพ่อหรือคุณแม่น้องด้วยอีก 1 ท่าน เพื่อแสดงให้เห็นว่า น้องแต้วมีความผูกพันว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อดูแลคุณพ่อคุณแม่ตนเองค่ะ สำหรับเอกสารของคุณพ่อหรือคุณแม่ที่ต้องแสดง คือ จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารและสมุดบัญชีเงินฝากตัวจริง หากน้องไม่ต้องการอธิบายอะไรมากต่อหน้าท่านกงสุล ควรเตรียมหลักฐานในรูปเอกสารที่มีความชัดเจนในตัวเองไปให้พร้อม เช่น คุณพ่อหรือคุณแม่ที่จะเป็น sponsor ประกอบอาชีพอะไร นำหลักฐานชิ้นนั้นไปด้วย ถ้าไม่ใช้ก็โชคดีไป ถ้าใช้จะรู้สึกคุ้มค่าที่ได้เตรียมเอกสารไปให้พร้อมค่ะ เช่น ถ้า Sponsor ทำการค้ามีใบทะเบียนการค้า ถ้ารับจ้างเป็นลูกจ้างมีจดหมายรับรองตำแหน่งและเงินเดือนจากที่ทำงานของท่านไปนะคะ
      1.4 ใบยืนยัน DS-160 Confirmation Number
      1.5 หนังสือเดินทาง
      1.6 ค่าธรรมเนียมวีซ่าไปจ่ายที่ไปรษณียืประมาณสี่พันบาทเศษ
      1.7 ถ้าไม่สามารถ upload รูปถ่ายไว้ในแบบฟอร์มวีซ่าได้ ให้นำรูปถ่ายขนาด 2 นิ้วคูณ 2 นิ้วไปด้วยอีก 1 ใบ ด้านหลังฉากสีขาว เห็นใบหูทั้ง 2 ข้าง
      1.8 ถ้าจะไปพักบ้านลุกสาวคุณป้า ก็ระบุที่อยู่ในฟอร์ม DS-160 ว่าอยู่บ้านลูกสาวคุณป้า ส่วนจดหมายเชิญน้องไปพักจะไม่ใช้ก็ได้ถ้าบัญชีผู้ปกครองน้องมีเงินจำนวนมาก แต่ถ้ามีจำนวนเงินไม่มากก็น่าจะมีจดหมายเชิญจากลูกสาวคุณป้าด้วย อย่างไรก็ตามน้องจำเป็นต้องเข้าไปขอวีซ่าพร้อมคุณป้าเพื่อเยี่ยมลูกสาวคุณป้าอยู่แล้ว ก็ให้ลูกสาวคุณป้าใส่ชื่อน้องไปในจดหมายด้วยนอกเหนือจากชื่อคุณป้าค่ะ
      1.9 ใบยืนยันการนัดวันสัมภาษณ์
      1.10 หากน้องมีบัญชีเงินเก็บของตนเองเป็นเลขหลักแสนนำไปให้กงสุลดูด้วยค่ะ
      หมายเหตุ พี่ขอถามนิดหนึ่งว่า โดยทั่วไปคนจบปริญญาตรีอายุประมาณ 22-23 ปี ถ้าเรียนปริญญาโทเลยอายุ 25 ปีน่าจะเรียนจบ น้องไปทำงานมาก่อนหรือเปล่าคะ ถ้าเคยจะช่วยไปขอจดหมายรับรองจากที่ทำงานว่า เคยทำงานตำแหน่งอะไร เงินเดือนเท่าไร ทำงานตั้งแต่เมื่อถึงเมื่อไรติดมือไปด้วยจะดีมากค่ะ
      2.คุณป้าเคยมีวีซ่า B-2 อยู่แล้วจะต้องทำใหม่เพราะวีซ่าหมดอายุ ส่วนใหญ่การทำใหม่ไม่ยาก ถ้าบุคคลนั้นแสดงความจริงใจและซื่อสัตย์ว่าเคยไปเที่ยวแล้วกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย ไม่เคยคิดไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา อย่าเป็นกังวลเลยค่ะ ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในการขอวีซ่านะคะ เอกสารของคุณป้ามีดังนี้คือ
      2.1 หนังสือเดินทาง
      2.2 ใบยืนยันหมายเลข DS-160 Confirmation Number
      2.3 จดหมายเชิญจากลูกสาว
      2.4 จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของคุณป้าพร้อมบัญชีตัวจริง
      2.5 ถ้าคุณป้าเกษียณแล้ว หากกงสุลถามถึงว่า มีรายรับจากทางใด ก็ให้เตรียมตัวไว้ว่าจะตอบว่าอะไร เช่น มีรายรับจากดอกเบี้ยเงินฝาก หรือ พวกกองทุนต่างๆหรือค่าเช่าบ้าน พี่ก้ไม่ทราบว่า ท่านมีรายรับจากทางใดนะคะ
      2.6 ค่าธรรมเนียมวีซ่า
      2.7 รูปถ่าย (ที่พี่เขียนสั้นๆ เพราะถือว่ามีคำอธิบายอยู่ในส่วนของน้องแต้วแล้วค่ะ)
      2.8 ใบยืนยันวันนัดสัมภาษณ์
      3. ต้องซื้อพินนัดสัมภาษณ์แยกค่ะ แม้จะอยู่บ้านเดียวกันก็ต้องซื้อพินแยก เพราะไม่ใช่แม่ลูกกันค่ะ
      4. กรอกฟอร์มวีซ่า DS-160 ต่างคนต่างกรอก เพราะไม่ใช่พ่อแม่ลูกกัน ฝรั่งถือเรื่องนี้มากว่า พ่อแม่ลูกใกล้ชิดกันมากกว่าป้ากับหลานค่ะ หรือไม่ก็ต้องเป็นความสัมพันธ์ลักษณะสามี-ภรรยา หรือพี่น้องจริงๆร่วมพ่อแม่เดียวกันค่ะ เมื่อได้หมายเลข DS-160 Confirmation Number พยายามกะให้ได้วันนัดเดียวกันเวลาเดียวกันค่ะ น้องแต้วต้องแยกจองวันนัดนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจความหมายที่พี่อธิบายผิดไปว่าใช้พินเดียวกัน ไม่ใช่นะคะต้องใช้คนละพินนัดกันค่ะ

      ส่วนคำถามว่าจะผ่านวีซ่าไหม ของคุณป้าคงผ่านค่ะ ส่วนของน้องพี่ไม่เห็น statement ถ้ามีจำนวนมากพอสมควรเช่น 1 ล้านบาท ไม่น่ามีปัญหาค่ะ

  • taew  On February 11, 2012 at 1:24 pm

    แต้วค่ะ ก่อนเรียนโทแต้วยังไม่เคยทำงานค่ะ แต่ตอนนี้เพิ่งเริ่มทำงานได้ 1เดือนค่ะ ทำรีสอร์ทค่ะดูแลการเงินค่ะ ขอถามน่ะค่ะ
    1.ถ้าเพิ่งเอาเงินเข้าบัญชีตัวเองเป็นหลักแสน จาดูเหมือนไม่น่าเชื่่อถือมัยค่ะ
    2.แม่เป็นครูค่ะ บัญชีแม่ต้องเป็นบัญชีนอนหรือต้องเดินบัญชีตลอดค่ะ

    • govisa  On February 11, 2012 at 2:17 pm

      น้องแต้วคะ การเพิ่งนำเงินเข้าบัญชีจะเป็นจุดอ่อนในกรณีที่กงสุลท่านขอดูสมุดบัญชีเงินฝากค่ะ เพราะถ้าเงินในบัญชีเดิมมีอยู่น้อย เช่น มีเป็นจำนวนเลขหลักหมื่น และวันหนึ่งมีเงินเข้ามในบัญชีก้อนใหญ่อาจจะถูกถามว่า เงินก้อนนี้มาจากไหน ถ้าชี้แจงที่มาได้ก็ดีไม่มีปัญหาค่ะ เช่น อาจจะเป็นการถอนจากบุ๊คเล่มนี้ไปใส่ในบุ๊คอีกเล่ม เพราะอัตราดอกเบี้ยธนาคารนี้ให้สูงกว่า อะไรทำนองนี้ค่ะ ส่วนที่บอกว่า มีคุณแม่่เป็นครู ให้โรงเรียนออกจดหมายรับรองว่า คุณแม่เป็นครูตั้งแต่เมื่อไร เงินเดือน ณ ปัจจุบัน คือเท่าไรค่ะ ส่วนบัญชีมีการถอนออกไปใช้ได้ และมีการนำเข้ามาในบัญชีใหม่ก็ได้ เหมือนเราต้องถอนบัญชีมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน แต่เมื่อเวลาเราได้รับเงินเดือนมาเราก็ต้องฝากกลับเข้าไปใหม่เพื่อใช้ยามจำเป็นบ้างคงไม่ถอนมาใช้ทั้งหมด คุณแม่น้องคงจะทำงานมานานแล้ว น่าจะอยู่ในวัย 50-57 ปี ดังนั้นท่านอาจจะมีบัญชีเป็นเลขหลักแสน เช่น อาจจะมีถึง 500,000 บาท เป็นต้น เพราะทำงานมานานในระดับหนึ่งค่ะ ดังนั้นพี่จึงได้ถามไปตั้งแต่ต้นว่า จะใช้ใครค้ำประกัน จะใช้คุณป้าคนเดียว ฝรั่งก็คงถามว่า แล้วคุณพ่อคุณแม่ของคุณท่านทำอาชีพอะไรล่ะ ถึงไม่มาเป็นผู้ค้ำประกัน ถ้าเราไม่มีการเตรียมตัวที่จะตอบคำถามทำนองนี้ไว้ก่อนเผชิญปัญหาในวัสัมภาษณ์จริง เราอาจนิ่งงันนึกไม่ออก และอาจมีผลกระทบทำให้กงสุลไม่ไว้วางใจเราว่า น้องแต้วไปแล้วจะกลับมาไหม คำตอบของพี่ทุกครั้งเวลาตอบน้องๆจะเป็นเหมือนคำแนะนำมากกว่า อยากให้น้องต้องกลับไปคิดเองเพิ่มด้วย และเตรียมระมัดระวังว่า เอกสารที่เรายื่นเข้าไปให้กงสุลดู จะถูกสงสัยในเรื่องอะไรบ้าง ขอให้ลองสมมติสถานการณ์นึกถึงเวลาที่น้องต้อง defend วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทของน้อง ถ้าน้องถูกอาจารย์ที่ไม่ใช่อาจารย์ที่ปรึกษาถาม น้องจะมีวิธีการ convince ให้อาจารย์ท่านนั้นเชื่อในสิ่งที่น้องวิเคราะห์วิจัยได้อย่างไรนะคะ คงพอจะเข้าใจแล้วนะคะว่า ทำไมควรมี sponsor 2 ท่าน ส่วนบัญชีน้องตอบให้ได้ถึงที่มาของแหล่งเงินที่นำมาใส่เข้าไปในบัญชี หรืออาจค่อยทยอยใส่เงินเข้าบัญชี น้องต้องตัดสินใจเองด้วยส่วนหนึ่งค่ะ

  • taew  On February 11, 2012 at 2:14 pm

    แต้วค๊า ขอถามต่อนะค่ะ
    – จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร จดหมายรับรองตำแหน่งและเงินเดือนจากที่ทำงานของแม่ ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษมั้ยค่ะ
    – ป้าเกษียณแล้วต้องขอใบรับรองการเกษียณและแปลเป็นอังกฤษมั้ยค่ะ
    ขอบคุณค๊า

    • govisa  On February 11, 2012 at 7:48 pm

      น้องแต้วคะ จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร ธนาคารมีแบบฟอร์มเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้วค่ะ ส่วนจดหมายรับรองการทำงานของคุณแม่ ลองถามทางโรงเรียนดูว่ามีแบบฟอร์มไหมนะคะ เพราะเคยเห็นคนรู้จักเป็นครูโรงเรียนมัธยมรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ไม่ใช่โรงเรียนดังเป็นโรงเรียนธรรมดาๆก็ออกจดหมายรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษได้ เพื่อประหยัดเงินค่าแปลเอกสาร ลองถามทางโรงเรียนคุณแม่ดูก่อนค่ะ

      สำหรับคุณป้าเกษียณแล้ว ไม่ต้องมีจดหมายรับรองค่ะ เพราะหลายประเทศก็ใช้เกณฑ์การเกษียณที่อายุ 60 ค่ะ คุณป้ามีรายได้มาจากทางไหนคะ พี่เขียนอธิบายไปแล้ว ลองกลับไปอ่านดูอีกครั้งค่ะ

  • Chanisa  On February 11, 2012 at 2:49 pm

    รบกวนสอบถามอีกครั้งค่ะ คือตอนแรกได้กรอกแบบฟอร์มDS-160 และนัดวันสัมภาษณ์วันที่ 22 กพ.นี้แล้วค่ะ แต่กรอกสถานะแฟนว่าเป็นเพื่อนซึ่งมีลูกด้วยกันหนึ่งคนแต่ยังไม่ได้จดทะเบียน(ซึ่งเคยสอบถามมาก่อนหน้านี้)และมีใบคอนเฟิร์มนัดสัมภาษณ์แล้วจากฟอร์ม DS-160 อันเดิม พอดีมีหลายคนให้กรอกสถานะแฟนใหม่ก็เลยเข้าไปกรอก DS-160 ใหม่ได้รหัสใหม่มา แต่ยังใช้วันนัดและใบนัดอันเดิมได้มั้ยค่ะซึ่งอ้างอิงถึงรหัสแบบฟอร์ม DS-160 อันเดิมอยู่ค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้ไปจ่ายเงินค่าวีซ่าค่ะ ไม่แน่ใจว่าสามารถใช้ใบนัดสัมภาษณ์อันเดิมไปจ่ายเงินที่ไปรษณีย์ได้หรือไม่ หรือต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ

    • govisa  On February 11, 2012 at 7:53 pm

      น้อง Chanisa คะ ใช้วันนัดเดิมได้ แต่ต้องนำใบยืนยัน DS-160 Confirmation Number ทั้งใบใหม่และใบเก่าไปยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วยค่ะ วันที่ 22กุมภาสัมภาษณ์วีซ่าเสร็จแล้ว เขียนมาบอกด้วยนะคะว่า ได้วีซ่าไหม ขอให้โชคดีค่ะ

  • jaja_littlestar  On February 12, 2012 at 10:51 am

    jaja ค่ะ คือหนูยังไม่ได้กรอก DS-160 ทั้งของแม่และของหนูค่ะ พอหนูจะเข้าไปแอดชื่อน้อง มันขึ้นว่าต้องให้เปลี่ยนวัน แสดงว่าต้องทำรายการใหม่ทั้งหมดและจองวันใหม่เลยใช่มั้ยคะ
    ขอถามอีกนิดค่ะ ถ้าในกรณีของหนู คือ มีหนู(อายุ21 ปี เรียน ปี 3 ) กับแม่ และน้อง ขอวีซ่า เพื่อไปเยี่ยมลูกศิษย์ของแม่ (จริงๆก็ไปเที่ยวค่ะ แต่ว่าไปอาศัยอยู่กับพี่สาวที่เป็นลูกศิษย์ของแม่ที่นู้น) มีโอกาสจะได้วีซ่าสูงมั้ยคะ ขอบคุณค่ะพี่

    • govisa  On February 12, 2012 at 5:09 pm

      น้อง Jaja คะ ถ้าน้องเข้าไปดู video ที่เว็บไซต์นี้ http://bangkok.usembassy.gov/non-immigrant_visas.html ทั้งเรื่องการกรอกฟอร์ม DS-160 และการนัดวันสัมภาษณ์ น้องจะเห็นได้ว่า น้องต้องทำการกรอกฟอร์ม DS-160 ของทั้ง 3 คนให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงเข้าไปการนัดวันสัมภาษณ์ ไม่ใช่จองวันนัดสัมภาษณ์ก่อนแล้วไปกรอกฟอร์ม DS-160 เพราะการได้หมายเลข DS-160 มาชั่วคราว ถ้าเวลากรอกฟอร์มจริงๆมา retrieve ข้อมูลใหม่ บางท่านเกิดทำอะไรผิดพลาด จะแก้ไขปัญหาด้วยการกรอกใหม่ ถ้ายังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์ จะกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่สักกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายืนยันวันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว เกิดพบข้อผิดพลาดจะแก้ไข DS-160 ใหม่แก้ไขหมายเลข DS-160 ในใบยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ไม่ได้ เลยกรอกฟอร์มใหม่ได้หมายเลขใหม่ ซึ่งจะไม่ตรงกับหมายเลขที่นัดวันสัมภาษณ์ น้องบางคนที่เป็นคนกังวลง่ายจะไม่สบายใจเลยว่า สถานทูตจะสงสัยว่าเป็นคนๆเดียวกันไหม และอื่นๆนะคะ คำแนะนำ เริ่มกรอกฟอร์มให้เรียบร้อยก่อน แล้วลองเข้าไปนัด ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้อง reschedule แล้ว delete วันนัดเก่า และเลือกวันนัดใหม่ค่ะ ถ้าทำเองไม่ได้ อาจต้องยอมเสียเงินซื้อพินใหม่เพื่อนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ให้น้องที่อายุ 2 ขวบด้วยค่ะ

      ส่วนคำถามที่ว่า น้องจะได้วีซ่าไหม อยู่ในดุลยพินิจของกงสุลดีกว่านะคะ ถ้าน้องเตรียมเอกสารครบถ้วน แสดงเจตน์จำนงแน่วแน่ว่า ไปเที่ยวกี่วันแล้วจะต้องกลับมาเรียนปี 4 ที่คณะ…มหาวิทยาลัย… ก็ไม่น่ามีปัญหานะคะ ลูกศิษย์แม่ไม่ใช่พี่สาวน้องค่ะ ฝรั่งเขานับญาติกันทางสายเลือดเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากวัฒนธรรมไทยมากค่ะ ดังนั้น ถ้ากงสุลท่านถามว่าไปอยู่กับใคร ก็คงต้องบอกว่าไปอยู่กับลูกศิษย์แม่ที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไหนนะคะ อย่าเผลอตอบพี่ เพราะเขาอาจเปลี่ยนแนวคำถามไปถามทำนองว่า ญาติคุณไปทำอะไร หรืออื่นๆได้ค่ะ

  • Chanisa  On February 16, 2012 at 1:59 pm

    รบกวนพี่govisaอีกครั้งค่ะ เรื่องขอวีซ๋าไปอเมริกาน้องคุยกับแฟนแล้วค่ะว่าดูเหมือนว่าถ้าขอแบบเป็นPartner ไปก็อาจจะไม่ผ่านเพราะแฟนบอกว่าเขามีบ้านที่อเมริกาแต่ตัวน้องเองไม่มีบ้านที่ประเทศไทยมีแต่ที่ดินอย่างเดียวจะทำให้กงศุลคิดว่าเราจะย้ายไปอยู่อเมริกา ก็เลยตกลงว่าจะยกเลิกนัดสัมภาษณ์ไปก่อนเพราะน้องก็ยังไม่ได้จ่ายค่าวีซ่า และวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะยกเลิกได้ ก็เลยทำการยกเลิกไปและน้องได้รับเมลล์จากสถานฑูตว่ายกเลิกนัดแล้วและ “หากท่านต้องการทำการนัดหมายอีกครั้ง ให้ท่านทำกลับไปยังเว็บไซต์ของศูนย์บริการข้อมูลวีซ่า http://thailand.us-visaservices.com และคลิกที่ปุ่ม เข้าสู่ระบบ โดยใช้ชื่ผู้เข้าใช้ และ รหัสผ่านของท่าน” ซึ่งตรงนี้น้องไม่แน่ใจค่ะว่า คือหมายถึงยกเลิกนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วไม่ต้องไปสัมภาษณ์ที่สถานฑูต หรือน้องยังเข้าไปนัดสัมภาษณ์ใหม่โดยเป็นฟอร์มDS-160 อันเดิมเพราะเห็นบอกว่า”ถ้าต้องการนัดหมายอีกครั้งให้ใช้ชื่อผู้เข้าใช้และระหัสผ่านของท่าน” ที่กังวลคือจะไม่สัมภาษณ์ด้วยฟอร์ม DS-160 อันเดิมแล้วคือคุยกับแฟนว่าอาจจะแต่งงานกันตามกฎหมายก่อนแล้วค่อยสมัครวีซ่าใหม่ซื้อPinใหม่น่าจะเชื่อถือมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ลูกชายก็ได้ พาสปอร์ตอเมริกันและค่ะโดยระบุชื่อน้องเป็นแม่เรียบร้อยค่ะ และอีกอย่างที่แฟนเขากังวลว่าเขาไม่ได้อยู่ที่อเมริกาทำให้เขา Sponser น้องไม่ได้ แต่ตอนที่กรอกDS-160น้องบอกว่าจ่ายค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง ก็ไม่เห็นระบบจะถามว่าใครSponser ถามแต่ว่ารู้จักใครที่อยู่ในอเมริกามั้ย ซึ่งก็บอกว่าเป็นพ่อของแฟนไป นั่นหมายถึงผู้ที่ Sponser หรือเปล่าค่ะ แล้วเราจะระบุผู้ที่Sponser เราตรงไหนของฟอร์มค่ะ

    อย่างไรก็ขอบคุณพี่มากค่ะที่ให้คำแนะนำเสมอมา โอกาสหน้าอาจจะขอคำแนะนำพี่ในการขอวีซ่าคู่สมรสก็ได้ค่ะถ้าเราจดทะเบียนกันแล้ว

    • govisa  On February 16, 2012 at 9:10 pm

      น้อง Chanisa คะ น้องสามารถบอกยกเลิกนัดได้ และพินนัดวันสัมภาษณ์เดิมของน้องมีอายุ 3 เดือนนับจากวันที่น้องซื้อพินมา ถ้าภายใน 3 เดือนยังไม่นัดวันสัมภาษณ์ พินนั้นก็จะหมดอายุไปตามระเบียบค่ะ น้องต้องซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่เท่านั้นเองค่ะ ส่วนถ้าจะนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ และอยากแก้ไขเนื้อหาในฟอร์ม DS-160 ที่กรอกไปแล้ว ก็ต้องกรอก DS-160 ใหม่ และนำใบยืนยัน DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่ไปแสดงในวันสัมภาษณ์ เพราะน้องยังใช้ประวัติที่มีอยู่ในพินนัดสัมภาษณ์อันเก่าอยู่ค่ะ แต่ถ้าอยากลบหรือ delete เรื่องราวเก่า ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่ ซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่เปลี่ยน username และ password ใหม่ค่ะ

      พี่ได้เคยตอบน้องไปแล้วว่า การที่แฟนไม่ได้อยู่ที่อเมริกา สามารถเป็น sponsor ถ้าเขาทำงานและมีหลักฐานการฝากเงินค่ะ ส่วนเรื่องที่น้องเขียนมาบอกว่า แฟนอาจจะแต่งงานตามกฎหมายก่อน ถ้าเป็นเช่นนั้น น้องก็คงต้องขอวีซ่าเป็น K-1 มากกว่าวีซ่านักท่องเที่ยวไหม ให้แฟนเข้าไปสอบถามข้อมูลที่แผนก US Citizen Services ในสถานทูตสหรัฐอเมริกาถึงขั้นตอนการนำภรรยาเข้าไปในสหรัฐอเมริกา หรือ จะสอบถามไปที่ U.S.Citizenship and Immigration Services ในกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ชั้น 15 ทาวเออร์ 2 อาคารสินธร ถนนวิทยุ โทร 02-205-5352 หรือ 02-205-5382 ดูจากเว็บไซต์นี้นะคะ http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=6cee39d112b72310VgnVCM100000082ca60aRCRD&vgnextchannel=1ac900c262197210VgnVCM100000082ca60aRCRD

      ถ้าตัวเองเป็น sponsor เลือก self-support ค่ะ ส่วนการถามถึงคนรู้จักที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ไม่ได้หมายความว่า ถามว่าใครเป็น sponsor ค่ะ

  • maple  On February 22, 2012 at 4:32 pm

    รบกวนสอบถามค่ะ เนื่องจากกรอก DS160 ให้เจ้านายและครอบครัว คือเพิ่งทำเป็นครั้งแรกค่ะ ทีนี้ต้องการแก้ไขข้อมูลบางอย่าง แต่บังเอิญทำ PW หาย ได้อ่านคำแนะนำของคุณgovisa เลยลองเข้าไป retrieve ข้อมูลใหม่ ก็ได้ code ใหม่ทั้ง 3 ท่านเลย
    ตอนนี้เครียดว่า จะให้เจ้านายตอบคำถามเจ้าหน้าที่อย่างไรดีค่ะ เพราะต้องแนบทั้ง code เก่าและใหม่ ซึ่งเจ้านายเคืองมากที่ตอบคำถามไม่ครบถ้วน
    (ที่จริงทั้งบ้านก็เคยไปเรียนอเมริกามาเมื่ออดีตอยู่แล้ว ไม่น่าเครียดเรย)
    หรือมีวิธีที่จะถาม PW ไหมค่ะ อันที่จริงก็อยากเข้าไปแก้ไข Code เดิมน่าจะดีกว่าค่ะ
    ขอคำแนะนำและปลอบใจหน่อยค่ะ เพราะตอนนี้เครียดกว่าเจ้านายอีกค่ะ

    • govisa  On February 22, 2012 at 8:32 pm

      น้อง Maple คะ น้องนัดวันสัมภาษณ์ให้เจ้านายหรือยังคะ ถ้ายังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์ ให้เลือกใช้หมายเลข DS-160 อันใหม่ที่น้องจำคำถามที่เป็นรหัสลับได้ แต่ถ้านัดได้วันสัมภาษณ์ไปแล้วก็คงต้องนำ DS-160 ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขไปด้วยค่ะ ตรงจุดที่น้องทำการ retrieve พี่ไม่เคยเห็นว่ามีรหัส password นะคะ วิธีการทำ retrieve คือ
      1. เข้าไปที่ https://ceac.state.gov/GENNIV/Default.aspx คลิกเลือกชื่อประเทศและเมือง
      2. จะมีช่องสี่เหลี่ยมให้น้องใส่ Your application ID is….. ก็คือหมายเลข DS-160 ที่น้อง print ยืนยันออกมา หมายเลขดังกล่าวจะขึ้นต้นด้วย AA001…. หรือ AA002….พอใส่หมายเลขนีไปจะมีกรอบสี่เหลี่ยมให้น้องใสตัวอักษรที่ขึ้นต้นนามสกุงของคนยื่น 5 ตัวอักษรแรก ปี่ค.ศ.ที่เกิด และคำถามลับที่เราเลือครั้งแรก ซึ่งส่วนมากพี่จะแนะนำให้เลือกคำถามง่ายๆสำหรับคนขี้ลืม ให้เลือกคำถามที่ตอบเป็นชื่อเมือง เช่น Bangkok ไม่ต้องไปเลือกคำถามที่เป็นชื่อคน หรือคำถามเท่ห์ๆ แล้วตัวเราเองไม่จดคำตอบไว้ น้องอาจจะลืมได้ค่ะ เท่าที่พี่สังเกต หลายคนเลือกคำถามที่ให้ตอบเป็นชื่อคน ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น คือ เมื่อเป็นชื่อคนอื่น เราอาจจะจำตัวสะกดอันนั้นไม่ได้มากกว่า
      3. ถ้าไม่อยากเครียดกับเจ้านายทางแก้ไขปัญหาคือ น้องกรอกใหม่ค่อยๆทำนะคะ แล้วจ่ายค่าพินใหม่ด้วยเงินส่วนตัวของน้องเอง เพราะเป็นความผิดพลาดของเราเอง คิดว่าจ่าย 384 บาทค่าทำพินนัดให้ 3 คนแล้วดี เพราะมันเป็นการซื้อความสบายใจเรากลับคืนมา ถ้าคิดแบบนี้ก็ลงมือทำไปเลยค่ะ หรือจะเลือกข้อ 4
      4. น้องเป็นเลขา พี่คิดว่า น้องทราบดีแล้วว่า หน้าที่เลขาคืออะไร น้องทำมาอยู่ได้นานพอสมควรก็ต้องแสดงว่าน้องชอบลักษณะงานแบบนี้ เพียงแต่ตอนนี้น้องต้องมากรอกฟอร์มที่น้องไม่ถนัดเท่านั้นเอง ทำให้น้องว้าวุ่นใจ ถ้าคิดว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน คราวหน้าจะมีใครในบริษัทให้น้องกรอกฟอร์มวีซ่าไปสหรัฐอเมริกาให้ น้องจะทำได้คล่องกว่าเดิมค่ะ อย่าเครียดไปเลยค่ะ น้องทำหน้าที่เลขาของน้องให้ดีที่สุด นายไปเที่ยวก็คงจะมีของฝากติดไม้ติดมือจากอเมริกามาให้น้องเป็นรางวัลปลอบใจค่ะ ดังนั้น ให้น้องพยายามคิดทบทวนและไปสรุปให้เจ้านายฟัง หรือพิมพ์สรุปให้เจ้านายอ่านก่อนเข้าไปสอบสัมภาษณ์ เวลายื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่สถานทูตไม่ได้ขอดู application เค้าจะขอดูแค่ใบยืนยันหมายเลข DS-160 เพียงหน้าเดียวเท่านั้นค่ะ
      ไม่มีวิธีที่จะไปถามหา password จากหัวข้อ retrieve ค่ะ แต่ถ้าเป็น password ในการจองวันนัดสัมภาษณ์ น้องอาจขอ password ใหม่ได้ด้วยการเลือกหัวข้อ forgot password แล้วรอเขาส่ง password มาให้ใหม่ทางอีเมล์ผู้ขอวีซ่า ก็คงหนีไม่พ้นอีเมล์เจ้านายอีก ถ้าเผอิญน้องใส่อีเมล์เจ้านายไปค่ะ พี่ปลอบใจน้องได้แค่นี้ ความดีที่น้องช่วยเจ้านายและครอบครัว จะส่งผลให้เจ้านายเมตตาน้อง และเวลาน้องจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ ผลกรรมแห่งความดีของน้องจะทำให้น้องมีคนคอยอนุเคราะห์ตลอดเวลาค่ะ

  • llada  On February 22, 2012 at 7:07 pm

    ขอรบกวนถามคุณgovisa ค่ะ คือถ้าวันที่เราจะเดินทางจริงช้ากว่า วันที่เริ่มโปรมแกรม exchange ที่ระบุไว้ใน DS 2019 เดือนกว่าๆ จะมีปัญหาในการขอวีซ่ารึป่าวค่ะ หรือต้องให้ทางโน้นrevised วันเริ่มโปรแกรมให้ใหม่ (เนื่องจากตัวโปรแกรมสามารถยืดหยุ่นการเริ่มได้ภายใน 3 เดือน) แล้วเราต้องเริ่มขั้นตอนการสมัครใหม่มั๊ยค่ะ เพราะตอนนี้ได้วันนัดสัมภาษณ์แล้วค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On February 22, 2012 at 8:34 pm

      น้อง Lladaคะ น้องส่ง DS-2019 ไปแก้วันที่ใหม่เสีย เพราะตามกฎหมายสหรัฐน้องจะเข้าประเทศก่อนหน้าวันที่ที่ระบุใน I-20 หรือ DS-2019 ได้ไม่เกิน 30 วัน และจะเดินทางเข้าประเทศหลังวันที่ที่ระบุใน I-20 ไม่ได้ค่ะ และการจะย้ายสถานที่เรียนจะกระทำได้ น้องต้องเรียนอยู่ที่ University แห่งแรกให้ครบ 1 เทอมก่อน จึงจะเปลี่ยนชื่อสถานที่เรียนได้ อย่างไรก็ตาม ที่น้องบอกมาว่า โรงเรียนยืดหยุ่นการเริ่มเรียนออกไปได้ภายใน 3 เดือนก็น่าจะเข้าไปได้โดยไม่ต้องส่ง I-20 กลับไปแก้ไข เพื่อความไม่ประมาท ขอให้น้องส่งอีเมล์ไปถามที่โรงเรียนอีกครั้ง ถ้าโรงเรียนยืนยันตอบมาว่าได้ ให้น้อง Print จดหมายโต้ตอบนั้นติดตัวเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐถามจะได้ยื่นจดหมายโต้ตอบฉบับนั้นให้เจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาดูเป็นหลักฐานค่ะ

  • maple  On February 23, 2012 at 12:33 pm

    รายงานความคืบหน้าค่ะคุณgovisa ที่ถาม PW คือของ DS160 เก่าน่ะค่ะ และได้ทำการนัดหมายแล้วด้วย ได้คิววันจันทร์ที่ 27 กพนี้ค่ะ เมื่อวานคิดว่าถ้าเข้าไปแก้ไขข้อมูลเก่าได้ก็น่าจะสมบูรณ์แบบมากกว่า ส่วนรหัสอื่นๆ นั้น จำได้หมดเลยค่ะ ขาดแต่ pw แต่เมื่อวานก็เลยตัดสินใจทำ retrieve ข้อมูลใหม่ และได้ DS ใหม่มาแล้ว ก็คงจะให้เจ้านายแนบไปด้วยทั้งเก่าและใหม่ตามที่แนะนำมา (ในความคิดส่วนตัวน่ะค่ะ ข้อมูลที่ให้เติมก็เป็นขอ้มูลที่ให้ตอบ do not known ได้ แต่เจ้านายเค้าไม่พอใจค่ะ เลยต้องหาวิธีแก้ไขให้ ) และได้อธิบายเจ้านายแล้วว่าเอกสารที่ใช้จะมีเพียงเท่านี้ (เหมือนที่คุณ govisa บอกมาเลย) และให้นำเล่มเก่าที่เดินทางไปอเมริกาไปด้วย เนื่องจาก VISA เก่า หมดอายุตามกำหนด 10 ปีแล้วเท่่านั้นเอง………….
    ตอนนี้ทำคล่องแล้วค่ะ ก็เป็นบทเรียนจริงๆ เพราะตอนแรกไม่รู้ขั้นตอนที่ละเอียด ลองผิดลองถูกเพื่อให้ได้วันนัดสัมภาษณ์เท่านั้นเอง ( คิวนานมากเลยค่ะ ที่ทำมาเนี๋ยตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มกราคมน่ะค่ะได้คิวสัมภาษณ์วันที่ 27 กพ. ) ………นี่คือปัญหาที่ไม่สามารถซื้อพินใหม่ได้ทันแน่นอน เพราะนายตั้งใจจะท่องเที่ยวปลายเดือนมีนาคมค่ะ
    ขอบคุณที่ให้กำลังใจน่ะค่ะ และรู้สึกสบายใจเมื่อให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่จะดูเฉพาะใบconfirm เท่านั้น ก็ยิ่งคิดว่า ไม่น่ามีอะไรผิดพลาด ที่จะไม่ได้ VISA ค่ะ
    ตอนนี้คิดบวกสุดๆ แล้วจะกลับมารายงานในวันจันทร์ต่อน่ะค่ะ

    • govisa  On February 23, 2012 at 8:31 pm

      น้อง Maple คะ ถ้าเจ้านายเคยมีวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาแล้ว เขาจะได้เข้าสัมภาษณ์ในแถวเดียวกับผู้ที่เคยมีวีซ่าแล้ว และส่วนใหญ่ก็เห็นผ่านวีซ่ากันทุกคนนะคะ

      ส่วนการ retrieve แล้วได้หมายเลขใหม่นั่นคือข้อควรระวังสำหรับน้องท่านอื่นที่ทำลัดขั้นตอนโดยกลัวว่าจะไม่ได้คิวนัดสัมภาษณ์วีซ่า จึงไปให้เอเจนซี่รับจ้างทำคิวนัดวันสัมภาษณ์ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ให้ก่อน แล้วน้องคนนั้นๆค่อยมากรอกฟอร์ม DS-160 ทีหลังบ้าง หรือบางรายกรอก DS-160 ไปบางส่วนแล้วยังไม่ submit นำหมายเลข DS-160 มาทำคิวนัดวันสัมภาษณ์ก่อนเพราะกลัวไม่ได้วันนัดสัมภาษณ์ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คืออาจพบปัญหาเช่นเดียวกับน้อง Maple ได้ คือ หมายเลข DS-160 อาจเปลี่ยนไป น้องบางคนอยากจะเข้าไปแก้ไขหมายเลข DS-160 Confirmation Number ในฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ก็จะทำไม่ได้แล้วต้อง Print DS-160 Confirmation Number ทั้งใหม่และเก่าไปให้กงุลดู ซึ่งบางคนจะวิตกกังวลมากเมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ค่ะ

      พี่จะรออ่านผลวันจันทร์นะคะ แต่คิดว่ากรณีเจ้านายของน้องผ่านวีซ่าทั้ง 3 ท่านเพราะเคยมีวีซ่าแล้วค่ะ น้องเป็นคนใจเย็นและมีความอดทนรอดีมากเลยค่ะ ขอชมจากใจจริงนะคะ

  • Alohomola  On February 23, 2012 at 9:31 pm

    รบกวนสอบถามหน่อยนะคะ พอดีกรอก DS 160 และ sign and submit เรียบร้อยแล้ว แล้วจองวันสัมภาษณ์ได้เรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วมารู้ตัวว่าตัวเองสะกดชื่่อเมืองที่จะไปผิด (จาก Corvallis เป็น Convallis ค่ะ) ถือเป็นเรื่องใหญ่มั๊ยค่ะ ควรกรอก DS ใหม่รึเปล่าค่ะ แอบกังวลมากค่ะ

    • govisa  On February 23, 2012 at 11:18 pm

      น้อง Alohomola คะไม่ต้องแก้ไข เพราะเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยค่ะ ถ้าเป็นวีซ่า F-1 น้องต้องยื่น I-20 ให้กงสุลดูอยู่แล้ว ซึ่งใน I-20 คงจะระบุที่อยู่ของ Oregon State U ว่าเป็นเมือง Corvallis และกงสุลก็คงจะดูออกว่า น้องพิมพ์ผิดไป 1 ตัวอักษรเท่านั้นเองค่ะ ความผิดใหญ่ๆที่ต้องแก้ไข คือ ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดของน้อง หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาขน ข้อมูลเหล่านี้ผิดไม่ได้เลยค่ะ

  • maple  On February 24, 2012 at 6:11 pm

    พี่ govisa ค่ะ ขอบคุณค่ะตอบปัญา และข้อสงสัยต่างๆ ได้โดนใจมากเลยค่ะ และอยากแชร์ประสบการให้ฟังด้วย เพราะก็ได้เขียนเข้าไปถาม-ตอบ กับ ทาง VIS ด้วยค่ะ
    คำถามที่ถามคือ จะมีผลกระทบใดๆ กับการขอวีซ่าหรือไม่ หากได้ตอบในข้อ ท่านเคยขอวีซ่าอเมริกาหรือ ซึ่งเราตอบไปว่า NO แต่เจ้านายเคยไปศึกษาที่อเมริกา (ปริญญาตรี)

    เค้าก็ตอบสั้นๆ มาให้ คลายกังวล

    Dear MD.Secretary,

    Thank you for using Visa Information Services.

    If you ever have a U.S. visa before, it may be beneficial for the visa approval.

    Thank you,

    The Visa Information Service Team
    แต่เจ้านายก็บอกว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้หรอก ( แอบน้อยใจนิดๆ แต่ก็ขอให้ขอvisa ได้สำเร็จ…..สาธุ) แล้วก็ได้ข้อมูลจากพี่ govisa อีก ก็ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ แต่ก็ ขอลุ้นวันจันทร์ก่อนค่ะ จะได้สบายใจจริงๆ
    ก็ขอฝากให้น้องๆ ที่เข้ามาอ่านไว้เป็นประสบการณ์ด้วยค่ะ

    • govisa  On February 24, 2012 at 9:13 pm

      น้อง Maple คะ ไม่ต้องกังวลมากค่ะ ให้เจ้านายถือ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าและใหม่เข้าไปยื่น พร้อมทั้งนำหนังสือเดินทางเล่มเก่าเข้าไปด้วย น้องพูดกับเจ้านายไปเลยว่า กราบขอประทานโทษเป็นความผิดพลาดของน้องเองในการกรอกฟอร์มวีซ่าแต่ก็ได้แก้ไขให้แล้วในใบใหม่ และอย่าลืมด้วยว่า ตอนท้ายของแบบฟอร์มน้องใส่ข้อความว่าอะไรที่ถามว่า “ท่านกรอกแบบฟอร์มนี้เองหรือไม่” ถ้าน้องตอบว่ากรอกเองก็ต้องย้ำเจ้านายว่า ถ้าถูกเจ้าหน้าที่คนไทยใส่เสื้อสีชมพูถามก็ต้องตอบว่า เจ้านายกรอกเองนะคะ เพราะถ้าบอกว่าเลขากรอก อาจจะเป็นเรื่องนิดหน่อยว่า คุณไม่ได้แสดงความจริงใจในการตอบคำถาม แต่ถ้าน้องใส่ชื่อน้องว่าเป็นคนกรอกก็เรียนเจ้านายว่า ให้ตอบว่า เป็นความผิดของเลขาผมที่กรอกให้ผิด พี่มั่นใจอย่างหนึ่ง มนุษย์มีสัญชาติญาณการเอาตัวรอด เจ้านายน้อง Maple เคยไปเรียนหนังสือในสหรัฐอเมริกามาแล้ว เขาย่อมเข้าใจวัฒนธรรมคนอเมริกันดีพอว่าเป็นอย่างไร อย่ากังวลไปเลยค่ะ เจ้านายเอาตัวรอดได้ค่ะ

  • jaruwan  On February 24, 2012 at 6:28 pm

    หวัดดีค่ะ พี่ govisa
    ขอสอบถามด้วยค่ะว่า การย้ายวีซ่าเล่มเก่า ไปเล่มใหม่นั้นทำได้หรือไม่ค่ะ
    ปัญหาใหญ่อีกเรื่องก็คือ visa เดิมนั้นได้ตอนที่แต่งงานและใช้นามสกุลสามี
    ตอนนี้พาสปอร์ตจะหมดอายุ ทำใหม่ต้องเป็นนามสกุลเดิม จะสามารถทำได้หรือไม่ค่ะ
    เท่าที่อ่านมา เหมือนคุณ govisa ทำงานในสถานฑูตเลยค่ะ ข้อมูลชัดเจนมากเลย
    อ่านเพลินไปเลย แต่ไม่มีใคร ถามคำถามอันนีเลย รบกวนด้วยค่ะ

    • govisa  On February 24, 2012 at 9:24 pm

      น้อง Jaruwan คะ ปกติถ้าวีซ่าสหรัฐอเมริกาในหนังสือเดินทางเล่มเดิมยังมีอายุอยู่ เมือทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้น้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ทำหนังสือเดินทางว่า น้องยังมีวีซ่าของประเทศอะไรบ้างที่ยังเหลืออยู่ในหนังสือเดินทางเล่มเก่า เจ้าหน้าที่กรมกงสุลจะทำได้แค่ endorse ว่าบุคคลที่อยู่ในหนังสือเดินทางเล่มเก่าและเล่มใหม่เป็นคนๆเดียวกันค่ะ อย่าลืมเอาหนังสือเดินทางเล่มเก่าไปด้วยในวันทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ค่ะ มีวีซ่าบางประเทศที่น้องอาจจะต้องจ่ายเงินค่าวีซ่าเพื่อขอย้ายจากเล่มเก่าไป stamp ในเล่มใหม่ แต่ไม่ใช่วีซ่าของประเทศสหรัฐอเมริกาแน่นอนค่ะ ผู้เดินทางต้องถือหนังสือเดินทาง 2 เล่มเวลาเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ

      อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้องมีการเปลี่ยนนามสกุล จะโดยการหย่าร้างหรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม น้องต้องยื่นขอวีซ่าใหม่ เพื่อไม่ให้เวลาที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาแล้วมีการตรวจเอกสารที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ น้องพบปัญหาในการสอบสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาค่ะ หากต้องการ second opinion ให้น้องอีเมล์ไปลองสอบถามที่ visasbkk@state.gov ได้ค่ะ

  • Tintin  On February 26, 2012 at 11:06 pm

    สวัสดีค่ะ พี่ go visa หนูมีเรื่องจะขอปรึกษาค่ะ

    คือได้กรอก DS-160 กด Submit ยืนยันเรียบร้อยแล้ว แต่มาตรวจทานอีกครั้งพบว่าได้สะกดคำว่า “SISTER” ผิดเป็น “SISITER” มันดันมีตัว I เพิ่มมาอีก 1 ตัว (ซึ่งข้อความนี้ได้เขียน เพื่ออธิบายว่าทำไมถึงเคยถูกปฎิเสธวีซ่า) เลยไม่แน่ใจว่ามันค่อนข้าง sensitive แล้วจะมีผลกระทบอะไรกับการขอวีซ่าครั้งนี้หรือไม่ (ท่านกงศุลจะหาว่าเราไม่รอบคอบรึป่าวคะ) จึงขอเรียนถามว่าเราควรจะแก้ไขให้มันถูกต้องครบถ้วนไปเลยดีมั๊ยคะ ?? และที่สำคัญตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยืนยันวันนัดสัมภาษณ์เลยค่ะ (แต่เคยเอาหมายเลข Confirmation No. เข้าไปดูตารางวันนัดสัมภาษณ์มาแล้ว และก็ยังไม่ตัดสินใจเลือกวัน เนื่องจากตารางค่อนข้างว่างอยู่และพอ Log Out ออกเข้าไปใหม่ เหมือนกับระบบก็ให้เราเริ่มต้นใหม่โดยถามว่า ท่านจะเลือกสัมภาษณ์ที่ไหน รายละเอียดต่างๆเป็นลำดับๆ ไป)

    ทั้งนี้ จึงขอรบกวนถามว่าเราควรจะทำอย่างไรดี เมื่อพบว่ากรอกเอกสารใน DS-160 ผิด แต่ยังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

    – ควรจะจองวันสัมภาษณ์ไปก่อน แล้วค่อยมาแก้ไขเอกสารทีหลัง หรือหนูสามารถกรอกเอกสาร VISA Application DS-160 ใหม่ แล้วนำ Confirmation No. ใหม่มาจองวันสัมภาษณ์เลย (แล้วมันจะมีปัญหาอะไรรึป่าวคะ เพราะเราได้กด Submit Application อันแรกไปแล้ว และเข้าใจว่าข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปที่สถานฑูตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)

    นอกจากนี้ เคยได้ศึกษาคำแนะนำของพี่มาบ้างแล้ว ทราบว่าปัจจุบันเราไม่สามารถเข้าไปแก้ไขเลขที่ Confirmation number ในส่วนของรายละเอียดการนัดสัมภาษณ์ตรง Edit Apllication Info แล้ว ถ้าหากมีความจำเป็นต้องแก้ ก็ทำได้เพียงกรอกข้อมูล DS-160 ใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้ง print เอกสารดังต่อไปนี้ออกมา 1. Confirmation page (ที่มี confirmation number : AAxxxxxxxxใหม่) 2. DS-160 Application ฉบับแก้ไข ไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ในวันนัดสัมภาษณ์ (อันนี้ขอถามเป็นความรู้เผื่อไว้ ว่าหนูเข้าใจถูกใช่มั๊ยคะ)

    รบกวนพี่ go visa ด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ ^_______^

    • govisa  On February 27, 2012 at 5:31 am

      น้อง Tintin คะ ถ้ายังไม่ได้ confirm วันนัดสัมภาษณ์ ลองกรอก DS-160 อันใหม่ และลองเข้าไปที่ฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ ลองแก้ไขหมายเลข DS-160 ในฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ดูนะคะ ถ้าทำได้เขียนมาแชร์ประสบการณ์กันด้วยนะคะ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่มีผลอะไร เพราะน้อง Tintin ก็ยังคงใช้หมายเลขเก่าได้ ส่วนวันสัมภาษณ์ในกรณ๊ของน้อง จะนำไปเฉพาะ DS-160 หมายเลขเก่าอย่างเดียวก็ได้ เพราะคำว่า sister เป็นความผิดที่ไม่ได้ร้ายแรงเท่ากับระบุชื่อน้อง วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทางของน้องผิดค่ะ แต่ถ้าเป็นกังวลก็นำไปทั้งสองใบ ส่วนเวลายื่นให้เอกสารให้เจ้าหน้าที่สถานทูต เจ้าหน้าที่ไม่ขอดู DS-160 Application น้อง Print ออกมาเก็บไว้เพื่อกันลืมว่า น้องได้กรอกอะไรไปบ้างเผื่อกงสุลถามถึงข้อความที่กรอกจะได้อธิบายได้ เพราะน้องเป็นคนกรอกเองค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่า เมื่อคลิก submit DS-160 ไปแล้วสถานทูตจะได้รับข้อมูลทันทีเป็นความเข้าใจที่ถูกค่ะ แต่สถานทูตจะยึดข้อมูลที่ถูกที่สุดที่น้องเลือกนำไปใช้ในการ confirm วันนัดสัมภาษณ์ค่ะ

      ว่าแต่ว่าน้อง Tintin ถูกปฏิเสธด้วยสาเหตุใด น้องอย่าลืมหาหลักฐานประกอบไปเพิ่มด้วย อย่าใช้เอกสารชุดเดิมอย่างเดียว เพราะเท่ากับยังไม่ได้แก้ไขปัญหา ด้วยการหาเอกสารชุดใหม่ไปประกอบเพิ่มเติมค่ะ

  • Tintin  On February 27, 2012 at 11:05 pm

    เรียน พี่ go visa ค่ะ

    สรุปว่าหนูก็ตัดสินใจจองวันสัมภาษณ์ไปเลยค่ะ โดยที่ยังไม่ได้แก้เอกสารใดๆ เพราะพอลองเข้าไปใน visa point อีกครั้งระบบได้จำข้อมูล confirmation number หนูไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จองวันก็ตาม…ก็เลยตัดสินใจจองวันสัมภาษณ์ไปเลยดีกว่า (หลังจากจองวันได้แล้วก็ลองแอบเข้าไปตรง Edit Apllication Info เห็นมันเป็นตัวหนังสือสีน้ำเงินด้วยค่ะ แต่ไม่กล้าคลิกอะไรลงไป)

    ซึ่งการขอวีซ่าของหนูในครั้งนี้ค่อนข้างเป็น case ที่โหดทีเดียวค่ะ เพราะว่าหนูเคยถูกปฏิเสธวีซ่า (ครั้งก่อนขอแบบท่องเที่ยว) และก็มีพี่สาวแท้ๆ ที่มีใบเขียวอยู่ที่นั่น สำหรับจุดประสงค์ของการไปครั้งนี้ของหนูก็เพื่อไปเรียน ตั้งใจไปศึกษาต่อจริงๆ ไปหาประสบการณ์ เพราะคิดว่าถ้าเรากลับมาเราคงมีชีวิต มีการงานที่มั่นคง เงินเดือนสูงกว่านี้แน่นอน (หนูทำงานมาเกือบจะสองปีแล้วค่ะ) และสนใจไปเรียนต่อด้าน marketing และเท่าที่ศึกษามาถ้าเค้ารู้ว่าเรามีญาติ พี่น้องอยู่ เค้าจะยิ่งคิดว่าเราจะไปอยู่บ้านเค้าอย่างถาวร แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นหนูก็จะพยายามแสดงให้เค้าเห็นว่าเราไม่คิดที่จะไปอยู่บ้านเค้าอย่างแน่นอน และหนูก็ให้ความสำคัญกับการกรอก DS-160 มาก ซึ่งก็ได้กรอกเอกสารตามความเป็นจริงทั้งหมด (และก็ดันสะกดผิดอีก !!!)

    อย่างไรก็ตาม หนูขอเรียนปรึกษาพี่ 1 คำถามในส่วนของข้อมูล Point of Contact Information ได้มั๊ยคะ เนื่องจากคำอธิบายได้บอกว่าให้ใส่ข้อมูลของ contact person or organization ที่เราได้ทำการติดต่อด้วย (ข้อนี้ค่อนข้างลังเลไม่รู้จะใส่อะไรดี จะต้องใส่ข้อมูลพี่สาวหรือโรงเรียน แต่ด้วยจุดประสงค์ของเราก็เพื่อติดต่อขอไปเรียน ดังนั้นหนูจึงใส่รายละเอียดข้อมูลที่อยู่ของรร.+ ชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ที่ออก I20 ให้เราไป) ซึ่งพยายามคิดกลับไปกลับมาว่า มันมีอยู่ข้อนึงที่ถามว่ามีญาติอยู่หรือไม่แล้วหนิ และเราก็ตอบไปด้วยความสัจจริงว่ามี ไม่ได้ปิดบังอะไร 5 555

    คิดมากเกินไป ยิ่งคิดยิ่งเพี้ยนค่ะ !! ยังไงขอคำแนะนำในส่วนนี้ด้วยนะคะ เผื่อถ้าจะแก้ไข จะได้แก้ไขทีเดียวซะเลย

    รบกวนอีกครั้งค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ 😀

    • govisa  On February 28, 2012 at 5:12 am

      น้อง Tintin คะ ขอตอบคำถามตรง Edit Application ถ้าเป็นสัน้ำเงินคลิกเช้าไปดูได้ถ้ามีอะไรต้องแก้ไขค่ะ แต่เท่าที่เห็นจะเป็นการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับตอนกรอกฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

      ส่วนเรื่องที่ถูกปฏิเสธเพราะมีพี่สาวที่มีกรีนการ์ดอยู่ที่สหรัฐอเมริกา พี่สะดุดใจตรงที่น้องเขียนว่า มีญาติอยู่แล้วหนี แสดงว่า พี่สาวน้องน้องคงจะเคยขอวีซ่านักท่องเที่ยวหรือนักเรียนแล้วเข้าไปอยู่เลยหรือเปล่าคะ การได้กรีนการ์ดของพี่สาวน้องคงจะเกิดขึ้นจากการแต่งงาน เผอิญพี่สาวเป็นพี่สาวแท้ๆของน้อง ทำให้การพิจารณาของกงสุลที่จะเปลี่ยนใจให้เชื่อว่า น้องจะไม่ทำแบบพี่สาวยิ่งลำบากขึ้นมากค่ะ น้องลองขอวีซ่าดูใหม่อีกครั้งตามที่น้องวางแผนไว้ ถ้าไม่ได้รับวีซ่า และน้องอยากเรียนหนังสือในต่างประเทศจริงตามที่เขียนอธิบายมา ก็ยังมีที่อื่นให้ไปเรียนให้สำเร็จตามความตั้งใจของน้องได้ ที่พี่พูดเช่นนี้ไม่ใช่ไม่ให้กำลังใจนะคะ แต่บางกรณีของที่ถูกปฏิเสธวีซ่า มันเป็นเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนใจกงสุลให้เชื่อว่า น้องจะไม่ทำตนแบบพี่สาวคงทำลำบากค่ะ แม้แต่ทุกวันนี้ บางท่านขอวีซ่านักเรียนไปเรียนภาษา เมื่อได้รับวีซ่าแล้ว ไปเรียนช่วงแรก หลังๆไปเป็นเด็กเสิรฟ์ในร้านอาหารไทย เพราะเรียนไม่ไหวบ้าง ขี้เกียจเรียนบ้าง แต่อยากอยู่ที่อเมริกาเลย เพราะชีวิตเป็นอิสระจากทางบ้าน ก็เหมือนกับหนีนะคะ เหตุการณ์เหล่านี้ยังคงมีปรากฏให้เห็นอยู่เนืองๆค่ะ ดังนั้นกงสุลท่านต้องใช้ความคิดอย่างมากในการพิจารณาไตร่ตรองการขอวีซ่าของแต่ละคนว่า จะเชื่อใจคนไทยได้มากน้อยแต่ไหนว่า จะกลับประเทศไทยหลังจากเสร็จภารกิจค่ะ ปัจจัยหนึ่งที่เป็นปัญหาของคนไทยคือ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ บางคนอยากไปเรียนที่สหรัฐ เพราะคิดว่าประหยัดมีญาติอยู่ ถ้าไปเรียนที่อื่น ต้องจ่ายแพงกว่านี้ เพราะต้องออกเงินค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง บางคนเรียนสำเร็จ หาลู่ทางอยู่ต่อเพื่อทำงานในสหรัฐอเมริกาเพราะคิดว่าได้รับเงินมากกว่าค่ะ พวกเขาเหล่านั้นอาจจะไม่ได้นึกถึงว่า เมื่อได้รับเงินเข้ามามากก็ต้องมีรายจ่ายเกิดขึ้นมากด้วย

      อนึ่ง กงสุลอาจมีคำถามว่า ครั้งที่แล้วน้องขอวีซ่านักท่องเที่ยว ครั้งนี้เปลี่ยนมาขอเป็นวีซ่านักเรียน เพราะเหตุใด สำหรับการขอวีซ่านักเรียนเที่ยวนี้ พี่ไม่แน่ใจว่า I-20 ของน้องเป็น I-20 รับเข้าไปเรียนภาษาอย่างเดียวหรือเปล่า และเป็นของสถาบันไหน เชื่อถือได้ว่ามีมาตราฐานดีเพียงไร ถ้าหากเป็น I-20 รับเข้าเรียนต่อปริญญาโทเลย น่าจะแสดงเป้าหมายที่ชัดเจนของน้องให้กงสุลเห็นว่า มีความตั้งใจไปเรียนต่อปริญญาโทจริงมากกว่าไปเรียนภาษาอังกฤษก่อน ถ้าน้องได้รับเพียง I-20 เรียนภาษาอย่างเดียว และอธิบายกงสุลว่าจะไปสอบภาษาอังกฤษที่สหรัฐ แล้วค่อยไปหามหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโท อย่างหลังนี้ดูเลื่อนลอยมากกว่า เพราะไม่แน่ใจว่า จะต้องใช้เวลาเรียนภาษานานมากน้อยเท่าไร จึงจะสอบ TOEFL และอื่นๆได้ เพื่อสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯในระดับปริญญาโท ถ้าน้องทำไม่สำเร็จ น้องจะกลับเมืองไทยหรือไม่ค่ะ ประเด็นหลังนี้คือประเด้นสำคัยที่กงสุลนำมาใช้ในการพิจารณาไตร่ตรองกรณีของน้องค่ะ

      ส่วน Contact person or organization ใสชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ที่ออก I-20 และที่อยู่ของโรงเรียนถูกแล้วค่ะ ขอเอาใจช่วยน้อง Tintin นะคะ อย่างไรก็ตาม พี่ขอขอบคุณมาล่วงหน้า ถ้าน้องจะกรุณาแชร์ประสบการณ์ด้วยการเขียนมาบอกเล่ากันนะคะว่า การขอวีซ่าเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็เป็นกรณีศึกษาให้ผู้มีปัญหาคล้ายคลึงกับน้องได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องการขอวีซ่าได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

  • maple  On March 1, 2012 at 4:20 pm

    ขอรายงานผล ค่ะ สรุปเจ้านายได้วีซ่าทั้งครอบครัว ค่ะ
    งานนี้ก็รอดตายอย่างหวุดหวิด
    แต่นายเล่าว่า เค้าเลือกเอา ID อันใหม่ไปสัมภาษณ์น่ะค่ะ
    สรุปก็ไม่ถามอะไรเป็นพิเศษ แค่ทักทายข้อมูลทั่วๆไป
    ถ้าทำให้ใคร คราวหน้าก็คงจะไม่สับสนอีกแล้วค่ะ
    ขอบคุณค่ะที่ให้ทั้งคำตอบและคำปลอบใจ

    • govisa  On March 1, 2012 at 6:00 pm

      ดีใจด้วยค่ะน้อง Maple เมื่อน้องมีประสบการณ์แล้วก็จะทราบว่า น้องสามารถกรอกฟอร์มเองได้ไม่ยากเลย ไม่ต้องเสียงเงินมากมาย ถ้าทำตามขั้นตอน ทางสถานทูตเขาก็พยายามมีคำอธิบายบนเว็บไซต์รวมทั้ง video เพื่อช่วยทำใ้ห้เกิดความเข้าใจได้ และ case เจ้านายน้องก็เป็นไปตามที่พี่บอกน้องแล้วว่า จะได้วีซ่าทั้งครอบครัว เพราะเคยมีวีซ่าแล้วเพียงแต่วีซ่าหมดอายุ ต้องทำใหม่เท่านั้นเองค่ะ คราวหน้าน้องคงช่วยแนะนำเพื่อนๆน้องที่อยากขอวีซ่าไปสหรัฐอเมริกาได้ว่า จะต้องเตรียมอะไรบ้างค่ะ ขอบคุณมากๆอีกครั้งที่เขียนมาให้ทราบค่ะ ขอให้เจ้านายน้องเดินทางปลอดภัยและมีของน่ารักๆมาฝากน้องในฐานะที่ช่วยลุ้นเจ้านายเต็มที่ค่ะ

  • Tintin  On March 1, 2012 at 8:32 pm

    เรียน พี่ go visa ค่ะ

    ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆ ยังไงหนูจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆเผื่อเป็นกรณีศึกษาอย่างแน่นอน ยังไงก็ตามแต่หนูอยากบอกว่า…หนูรู้สึกชื่นชมในตัวพี่มากๆ ที่คอยสละเวลามาตอบข้อสงสัยและแนะนำสิ่งดีๆ ในเรื่องเกี่ยวกับการขอวีซ่า ให้กับผู้ที่ไม่รู้ได้ทราบและเข้าใจขั้นตอน กระบวนการต่างๆ มากยิ่งขึ้น สุดท้ายนี้หนูขอเป็นกำลังใจให้พี่สู้ๆและมุ่งมั่นทำความดีเช่นนี้ต่อไปนะคะ

    Best Regards,
    Tintin 🙂

    • govisa  On March 1, 2012 at 10:30 pm

      ขอบคุณค่ะ น้อง Tintin ขอเอาใจช่วยให้น้อง Tintin ประสบความสำเร็จในการยื่นขอวีซ่าค่ะ

  • alyn  On March 3, 2012 at 8:53 pm

    DS160 จำเป็นจะต้องปริ๊นออกมาทุกหน้าไหมค่ะ
    เพราะ หนูปริ๊นแต่หน้่าConfirmation มาอย่างเดียวค่ะ จะมีนัดสัมภาษณ์ วันที่7มีนานี้แล้วค่ะ

    • govisa  On March 4, 2012 at 7:50 pm

      น้อง Alyn คะ ไม่ต้องกังวลเรื่อง DS-160 application ที่มีหลายหน้า ถ้าลืม print ออกมาแล้วจะกลับไป print ใหม่ แล้ว print ไม่ได้ หรืออีกกรณี print ออกมาแล้วได้จำนวนหน้าขาดไปก้ไม่เป็นไรค่ะ เพราะกงสุลได้รับข้อมูลครบถ้วนนะคะ สิ่งที่ต้องแสดงให้กงสุลในวันสัมภาษณ์ คือ DS-160 Confirmation Number เท่านั้น ที่หลายท่าน print หน้า application ออกมาเพื่อจะได้ไม่ลืมว่า ตนเองกรอกอะไรไปบ้างค่ะ เวลาถูกกงสุลสัมภาษณ์จะได้ตอบได้ตรงกันเท่านั้นเองค่ะ

  • นักรบป่าหวาย  On March 3, 2012 at 9:07 pm

    คือแบบว่า ผมจองตั๋วเครื่องบินไปวันที่ ๒๕ เมษา
    แต่ถามเอเจนซี่ว่าบอกว่าปล่อยคิวซัมภาดช่วงซัมเมอหลังสงการ
    แล้วผมยังไม่รุ้วันสัมภาดเลย ยังงี้จะมีปัญหาไม่มันไหมครับ

    • govisa  On March 4, 2012 at 8:03 pm

      น้องนักรบป่าหวายคะ ที่จริงน้องสามารถขอ username และ password จากเอเจนซี่ โดยอาจจะบอกเขาว่า จะมาช่วยเขากดเข้าไปดูวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ ถ้าทำไม่เป็นให้เขาสอนให้ หรือเข้าไปดูที่ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw&feature=youtu.be น้องสามารถเปิดเข้าไปดูเองได้ตลอด 24 ชั่วโมงว่ามีคิวนัดว่างไหมนะคะ หรือจะเข้าไปดูเองดดย log in เข้าไปที่เว็บไซต์ https://thailand.us-visaservices.com/Forms/SelfServiceLogin.aspx ค่ะ

      ส่วนคิวนัดสัมภาษณ์เวลานี้ทางสถานทูตจะให้คิวพวกที่ขอไป work and travel, คิววีซ่านักเรียนทั้ง F-1 และ J-1 ในปริมาณใกล้เคียงกัน รองลงไปเป็นพวกวีซ่านักธุรกิจ B-1 ค่ะ ถ้าวีซ่านักท่องเที่ยว B-2 อาจจะให้น้อยกว่า 2 กลุ่มแรกค่ะ และวีซ่านักธุรกิจไม่สามารถขอเร่งรัดคิววีซ่าได้เท่าที่พี่สังเกตดูนะคะ เพราะความจำเป็น 2 กลุ่มแรกมีมากกว่าค่ะ ถ้าหากจวนแจจริงๆ น้องคงต้องเลื่อนวันเดินทางค่ะ ปรึกษาเอเจนซี่ขายตั๋วนะคะ ปกติถ้าขอวีซ่านักท่องเที่ยวช่วงที่ไม่ peak มาก คือ ประมาณปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนค่ะ เพราส่วนใหญ่นักศึกษาเปิดเทอมกันแล้ว ส่วนต้นปีจะเป็นคิวของกลุ่มนักศึกษาที่ไปทำงานระหว่างปิดภาคการศึกษาที่เมืองไทยค่ะ

  • iice  On March 4, 2012 at 12:16 am

    พี่ค่ะหนูขอสอบถามหน่อยค่ะ
    คือว่าหนูรีบเข้าไปกรอกDS160 เพื่อเอารหัสไปจองวันสัมพาษณ์เเต่ยังกรอกไม่เสร็จ
    แล้วก็จองวันสัมภาษณ์ได้ หลังจากนั้นได้ยืนยันข้อมูลไปเเต่ confirmation N. ไม่ตรงกัน
    พึ่งมารู้เลยรีบเข้าไปแก้วันนี้และพึ่งยืนยัน(ใบที่รหัสตรง)ไปวันนี้(3มีนา)แต่ในใบนัดเค้าให้แก้ไขข้อมูลครั้งสุดท้ายได้คือวันที่2มีนา จะสอบถามพี่ว่าจะมีปัญหาอะไรรึเปล่าค่ะ
    ขอบคุนมากค่ะ

    • govisa  On March 4, 2012 at 8:19 pm

      น้อง iice คะ ให้นำ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่เข้าไปในวันที่สอบสัมภาษณ์คะ ถ้าเขาถามเหตุผลอธิบายไปตามความเป็นจริงค่ะ และบอกด้วยว่า หมายเลขใหม่น้อง iice มีการแก้ไขข้อมูลที่ผิดให้เป็นถูกต้องด้วยค่ะ ไม่มีปัญหาตรงประเด็นนี้ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น คือ เตรียมเอกสารที่จะนำไปแสดงว่า น้อง iice ไปแล้วจะกลับเมืองไทยไปให้ครบค่ะ

  • iice  On March 4, 2012 at 12:22 am

    เพิ่มเติมค่ะ
    หนูมีแก้ข้อมูลไปด้วย1ที่ค่ะจาก No เป็น yes

    • govisa  On March 4, 2012 at 8:20 pm

      ไม่เป็นปัญหาค่ะ พี่ตอบรวบไปกับคำถามข้อแรกแล้วค่ะ

  • aew  On March 4, 2012 at 2:46 pm

    สวัสดีค่ะ ขอรบกวนปรึกษาหน่อยนะคะ
    1.ดิฉันจะเดินทางไปอเมริกาด้วนกัน 5 คน ประกอบด้วยดิฉัน พี่สาว (นามสกุลเดียวกันแต่คนละทะเบียนบ้านค่ะ) ลุง ป้า และหลาน (เป็นลูกพี่ลูกน้องกับครอบครัวดิฉัน ทั้ง3 คนนามสกุลเดียวกัน แต่หลานอยู่ทะเบียนบ้านแยก) จะต้องทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ แยกเป็น 4 พิน ใช่ไหมค่ะ แล้วมีวิ๊ธีไหนที่จะทำให้ได้วันนัดเดียวกันบ้างมั้ยค่ะ
    2.ตอนนี้ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์แล้ว แล่ได้วัน ที่19/04/55 1 คน ,25/04/55 1 คน ,26/04/55 1คน ซึ่งยังเหลือดิฉันยังไม่ได้จองเพราะรอว่าจะมีวันที่เร็วกว่านี้ค่ะ ซึ่งวันที่จองได้ทั้งหมดช้ากว่าวันเดินทางที่ระบุในDS 160 (กำหนดไว้20 เมษา 55 ค่ะ) มีผลอะไรมั้ยค่ะถ้าได้วันสัมภาษณ์ช้ากว่าวันที่ระบุไว้ หรือต้องไปแก้ตรงส่วนไหนค่ะ
    รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ อิ๋วค่ะ

    • govisa  On March 4, 2012 at 8:36 pm

      น้องอิ๋วคะ หลักคิดเรื่องความสัมพันธืมีดังนี้ คือ ความสัมพันธ์ที่ทางสถานทูตกำหนด คือ พ่อ-แม่-ลูก ; สามี-ภรรยา; พี่-น้องกันจริง ทั้งหมดต้องเป็นกรณีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันค่ะ

      1. ลุงและป้าพี่ไม่ทราบความสัมพันธ์ มองได้ 2 กรณีคือ เป็นสามีภรรยากัน หรือ เป็นพี่น้องกันแท้ๆ อยู่ทะเบียนบ้านเดียวกัน ถ้าเป็นตามที่ได้สันนิษฐานไว้ทั้ง 2 กรณีวึ่งน่าจะใช้เพราะบอกมาว่า นามสกุลเดียวกัน คือ ซื้อพินเดียวกันค่ะ
      2. หลาน ต้องซื้อพินแยก เพราะอยู่ทะเบียนบ้านคนละหลังกับลุง-ป้า ซึ่งพี่คาดว่าเป็นลูกของลุง-ป้าใช่ไหมคะ
      3. น้องอิ๋วและพี่สาวเป็นพี่-น้องกันก็จริงแต่อยู่คนละทะเบียนบ้าน ดังนั้นซื้อคนละพินกันค่ะ

      รวมทั้งหมดเป็น 4 พินค่ะ ส่วนวันเดินทางช้ากว่าที่กำหนดใน DS-160 ไม่เป๋นปัญหาเลยค่ะ น้องอิ๋วสามารถอธิบายให้ท่ากงสุลฟังได้ว่า ไม่มีคิวนัดสัมภาษณ์ว่างก่อนหน้านี้เลยค่ะ น้องอิ๋วไม่ต้องเข้าไปแก้ไขใน DS-160 แล้วค่ะ เพราะถ้าจะแก้ ต้องพิมพ์ฟอร์มของทุกคนใหม่หมดแล้วทุกคนจะได้หมายเลขใหม่ ยุ่งวุ่นวายตรงที่ต้องนำทั้ง DS-160 หมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่เข้าไปด้วย คนขอวีซ่า 5 คน เตรียมเอกสารก็ยุ่งพอสมควรแล้ว อย่าต้องพิมพ์เพิ่มเรื่องแบบฟอร์มใหม่เลยนะคะ

  • aoii  On March 8, 2012 at 12:07 pm

    สวัสดีค่ะ

    รบกวนปรึกษาเรื่องการแก้ฟอร์ม DS 160 หน่อยค่ะ พอดีว่าใส่ไปในฟอร์มว่าจะเดินทางวันที่ 9 เมษา กลับ 23 เมษา แต่พอจะจองวัน ปรากฎว่า วันสัมภาษณ์ว่าง 23 เมษาเป็นต้นไป แบบนี้จะต้องทำยังไงดีคะ จะแก้ไขแบบฟอร์ม หรือว่ากรอกฟอร์มใหม่? ยังไม่ได้จ่ายเงินและก็ยังไม่ได้จองวันนะคะ ถ้ากรอกฟอร์มใหม่กลัวว่าข้อมูลมันจะไปส่งไปซ้ำกันอะไรรึเปล่า

    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On March 8, 2012 at 10:10 pm

      น้อง Aoii คะ ถ้าน้องยังไม่ได้จ่ายเงินซื้อพินเพื่อจองวันนัดสัมภาษณ์ น้องสามารถกรอกฟอร์มใหม่ได้ค่ะ หรือถ้าน้องจะไม่แก้ไขฟอร์ม Ds-160 ก็ไม่มีปัญหานะคะ เพราะน้องสามารถบอกทางสถานทูตได้ว่า น้องวางแผนจะเดินทางวันที่ 9 เมษายน แต่จองวันนัดสัมภาษณ์ไม่ได้เลย จึงเลื่อนวันเดินทางไปเป็นปลายเดือนเมษายนหรือจะเป็นวันอื่นๆแทนก็ได้ค่ะ

  • POOM  On March 8, 2012 at 6:20 pm

    พี่ govisa ค่ะ หนูมีเรื่องรบกวนค่ะ

    พอดีหนูได้วันนัดสัมภาษณ์วันที่ 19 มีนาคม 2555 ค่ะ ตอนนี้หนูกำลังรวบรวบเอกสารในวันนัดสัมภาษณ์อยู่ค่ะ อยากทราบว่าหลักๆแล้วหนูต้องนำเอกสารอะไรไปบ้างค่ะ หนูยื่นวีซ่าแบบนักท่องเที่ยวค่ะ

    • govisa  On March 8, 2012 at 10:36 pm

      น้อง Poom คะ พี่ไม่ทราบรายละเอียดแบ็คกราวน์ของน้อง และเห็นว่าน้องเพิ่งเขียนมาถามพี่ครั้งแรก พี่ขออธิบายภาพรวมโดยทั่วไปของผู้ขอวีซ่านักท่องเที่ยวคือ
      1. หนังสือเดินทาง
      2. ใบยืนยันหมายเลข DS-160 Confirmation Number ที่กรอกเสร็จแล้วและสั่ง print ออกมา
      3. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าจำนวน 4,480 บาท
      4. จดหมายรับรองการทำงานถ้าหากน้องเป็นลูกจ้าง แต่ถ้าน้องเป็นเจ้าของธุรกิจ ให้น้องนำทะเบียนการค้าไปแสดงด้วยค่ะ
      5. จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของน้องเอง และสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคาร
      6. ใบนัดวันสัมภาษณ์วีซ่า
      7. ในกรณีที่บัญชีเงินฝากในธนาคารของน้องมีน้อย อาจใช้จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของผู้ปกครอง และสมุดเงินฝากของผู้ปกครองไปเพิ่มด้วยได้ค่ะ หรือถ้าไม่มีหลักฐานข้อนี้เป็นตัวช่วย คงต้องหาดูว่า น้อง Poom มีเพื่อนหรือมีญาติอยู่ในสหรัฐอเมริกา ที่พอจะเขียนจดหมายเชิญน้องไปเที่ยวได้ไหมนะคะ ให้น้องนำจดหมายเชิญไปแสดงประกอบด้วยค่ะ
      8. น้องควรมีการวางแผนด้วยว่า น้องจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เผื่อถูกถามนะคะ
      ถ้ามีข้อมูลที่ต้องการจะบอกพี่เพิ่ม เขียนมาได้อีกนะคะ เพื่อพี่จะได้ตอบเพิ่มเติมไปได้ค่ะ

  • aoiiie  On March 8, 2012 at 9:25 pm

    สวัสดีค่ะ พี่ govisa มีเรื่องอยากจะปรึกษาค่ะ
    1. กรอก DS 160 เรียบร้อยแล้วแต่ว่าใส่วันเดินทางเป็น 9 เมษา – 23 เมษา แต่ว่าได้วันนัดสัมภาษณ์เป็นวันที่ 25 เมษา แบบนี้จะแก้ไขฟอร์มได้มั้ยคะ ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ต้องกรอกฟอร์มใหม่พร้อมกับแนบฟอร์มเดิม แบบนี้เข้าใจถูกต้องใช่มั้ยคะ?

    2. ส่วนตัวแล้วก็ทำงานแล้วนะคะ เงินในบัญชีตัวเลขน่ารักเกิ๊น ทั้งที่ทั้งนั้นการจะที่แพลนจะไปอเมริกาครั้งนี้จะไปเที่ยวโดยมีแฟนเป็นคน support ทุกอย่าง ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ กิน อยู่ ทุกอย่างหมดเลย และในส่วนของคำถามว่าใครเป็นคน support เรา หนูตอบไปว่า other ;( มันจะเป็นปัญหา และน่าเชื่อถือมั้ยคะเนี่ย เพราะเป็นแฟนกันเฉยๆ ไม่ได้เป็นคู่หมั้นอะไรกันนะคะ แบบนี้ต้องทำยังไงดีคะ อ้อ แฟนมี green card แล้วค่ะ
    ต้องเอาหลักฐานอะไรจากแฟนหรือว่าจากหนูเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือมั้ยคะ?

    ปล. หนูเคยเรียนอยู่ยุโรปจนจบ ป.ตรี อันนี้จะเพิ่มความน่าเชื่อถือว่าจะไม่ไปอยู่ประเทศเค้าเลยมั้ยคะ?

    • govisa  On March 8, 2012 at 10:51 pm

      น้อง Aoiiie คะ
      1. ที่น้องเข้าใจตามที่เขียนมาถามพี่ถูกแล้วค่ะ ถ้าต้องการแก้ไข DS-160 ใหม่ต้องนำทั้งหมายเลข DS-160 ทั้งเก่าและใหม่ไปด้วยค่ะ แต่ถ้าจะไม่แก้ไขก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเป็นความผิดเล็กน้อย และเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของน้อง คือ น้องวางแผนจะเดินทางวันนี้ แต่เผอิญจองคิวนัดวันสัมภาษณ์ไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ
      2. การใช้บุคคลที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็น sponsor ต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นพอในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องและ sponsor และสาเหตุที่เพื่อนอยากมาเป็น sponsor ให้น้องค่ะ การที่น้องตอบว่าเป็น other ก็จะมีคำถามตามมาว่า other เป็นใคร เช่น parent, sibling เป็นต้นค่ะ ผู้เป็น sponsor ต้องแสดงหลักฐานจดหมายรับรองการทำงาน,จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร และสำเนาบัญชีเงินฝาก แบบฟอร์ม I-134 ที่ได้รับการประทับตรา Notary Public เช่น จากทนายความที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา, หลักฐานการเสียภาษีในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่ผ่านมา, จดหมายเชิญจากเพื่อนท่านนี้ให้ไปเที่ยวสหรัฐอเมริกาค่ะ
      3. เหตุผลเรื่องเรียนจบปริญญาตรีจากยุโรปอาจมีส่วนช่วย แต่เหตุผลเรื่องเพื่อนที่มีกรีนการ์ดมาเป็น sponsor อาจทำให้เกิดการเข้าใจไปอีกทางว่า ใช่แฟนไหม ทำไมไม่ขอวีซ่าคู่หมั้น K-1 แทน นั่นคือประเด็นที่น้องอาจจะถูกซักถามได้ค่ะ

      • aoiiie  On March 9, 2012 at 9:25 pm

        ขอบคุณพี่มากๆเลยนะคะสำหรับคำแนะนำ ตรง sponsor นี่แหละค่ะที่เป็นห่วง แต่เท่าที่เคยทราบและอ่านเจอมาไม่รู้ว่าตอนนี้จะอัพเดตยังไงแล้วบ้างก็คือว่า วีซ่า K-1 หลังจากที่ไปถึงอเมริกาแล้วจะต้องทำการจดทะเบียนสมรสภายใน 90 วัน ซึ่งหนูไม่ได้อยากจะแต่งงานตอนนี้ หนูอาจจะแพลนแต่งงาน แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน แบบนี้เหตุผลเพียงพอมั้ยคะ?

      • govisa  On March 11, 2012 at 2:41 pm

        น้อง Aoiiie คะ ตามที่น้องเข้าใจว่า ต้องแต่งงานภายใน 90 วันก็ถูกต้องแล้วค่ะ ส่วนเหตุผลที่น้องบอกมาก็เป็นเหตุผลที่ดีนะคะ อาจจะเสริมบางอย่างเข้าไปได้ เช่น ถ้าคุณแม่หรือคุณพี่ของน้องมีวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐอเมริกาแล้ว อาจจะถ่ายสำเนาไปให้กงสุลท่านดูประกอบได้ว่า คุณแม่และพี่ก็จะไปเที่ยวด้วย เพื่อไปช่วยกันดูแฟนน้อง ซึ่งอาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ค่ะ

      • aoiiie  On March 13, 2012 at 9:05 pm

        ขอบคุณพี่ govisa มากๆๆเลยค๊า แต่ติดที่ว่า ที่บ้านเท่าที่ทราบไม่มีใครเคยไปเลย อิอิ จะมาอัพเดตให้ฟังหลังจากวันสัมภาษณ์นะคะ 🙂

  • ann  On March 13, 2012 at 12:22 am

    พี่ค่ะ รูปที่สแกนลงใน DS 160 ตอนแรกเป็นพื้นสีฟ้า เลยแก้ไขเอาพื้นสีออกใส่พื้นสีขาวไป (ใช้โปรแกรม photoshop) แต่ก็เห็นหน้าชัดเจนไม่ได้เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแต่สีพื้น เพราะตอนแรกอยากจะได้ confirm no. ไปจองวันน่ะคะ่ กลัวเต็มเลยรีบทำเอารูปที่มีในเครื่องอยู่แล้วใช้ไปก่อน กะว่าจะได้วันแล้ว ค่อยไปอัพรูปใหม่ ตอนนี้จองวันได้แล้ว แต่ว่ากลับเข้าไปแก้ไขอัพรูปใหม่ไม่ได้ ทีนี้จะเป็นปัญหาไหมค่ะ ถ้าเราจะเอารูป hard copy ไปให้ในวันสัมภาษณ์แทน หรือ ควรจะเข้าไปแก้ไข แล้ว ใช้ confirm no. ใหม่น่ะค่ะ

    • govisa  On March 13, 2012 at 2:31 am

      น้อง Ann คะ ถ้าน้องสามารถ upload รูปเข้าไปในแบบฟอร์มได้โดยตอนที่ทำการ upload มีตัวอักษรสีเขียวขึ้นมาว่า รูปของน้องใช้ได้แล้ว และมี icon ให้เลือกว่า review ก็แสดงว่า รูปนั้นผ่านแล้วไม่ต้องนำรูปใหม่เข้าไปด้วยค่ะ และไม่ต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ

      อนึ่ง ถ้าอยากจะกรอกฟอร์มใหม่และ upload รูปใหม่ก็คงต้องมีเหตุผลอธิบายกับเจ้าหน้าที่ว่า เพราะเหตุใดจึงต้องการนำ DS-160 Confirmation Number มา 2 ใบค่ะ เช่น น้องอาจจะบอกว่า ใบยืนยัน DS-160 ใบแรกรูปไม่สวยคมชัดเท่ากับใบยืนยัน DS-160 ใบหลังเป็นต้นค่ะ

  • jaja_littlestar  On March 18, 2012 at 1:14 am

    สวัสดีค่ะ คือหนูจะกรอก DS 160 ค่ะ แล้วคือว่า ตามแพลน หนู จะอยู่ที่เมกา 2 เดือน ส่วนแม่กับน้องชายจะอยู่ที่เมกา 1 สัปดาห์ ถ้าหนูกรอกแบบนี้ แล้ววีซ่าจะผ่านมั้ยคะ หนูกลัวว่าเค้าจะเข้าใจว่า แม่กับน้องจะปล่อยหนูไว้ที่เมกาเลย พี่ช่วยแนะนำหนูหน่อยได้มั้นคะ กลุ้มใจมากเลยค่ะ T T

    • govisa  On March 18, 2012 at 12:05 pm

      น้อง Jaja จะไปทำอะไรที่อเมริกานานสองเดือนหรือคะ เช่น น้องจะไปเรียนภาษาระหว่างปิดเทอมที่เมืองไทย หรือจะไปทำอะไร น้องไม่ได้เขียนอธิบายมา พี่เลยไม่สามารถวิจารณ์ได้ว่า จะมีปัญหาไหมค่ะ ดังนัน ถ้าคำตอบที่น้องจะชี้แจงท่ากงสุลมีความเป็นเหตุเป็นผล พี่คิดว่า ท่านกงสุลคงไม่เข้าใจผิดคิดว่า คุณแม่กับน้องจะทิ้งน้อง Jaja ไว้ที่อเมริกาหรอกค่ะ อย่ากลุ้มใจไปเลยค่ะ

  • M  On March 18, 2012 at 1:47 am

    สวัสดีครับ คือผมกรอก DS-160 เสร็จเรียบร้อยแล้วรวมถึงซื้อPINการจองสัมภาษณ์ จากไปรษณีย์ รวมถึงจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าในวันเดียวกันที่สถานี และผมก็จองนัดวันสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วในวันที่ 4 เมษายน 2555
    แต่ปัญหาคือ แผนการเดินทางของผมดันเปลี่ยน จากตอนแรกจากไปสัมมนาที่San Francisco และ บินไป เทรนต่อที่ Houston เป็น เหลือไปเทรนแค่Houston อย่างเดียว
    ผมต้องไปซื้อ PIN + จ่ายค่าธรรมเนียมใหม่และจองวันนัดสัมภาษณ์ใหม่หมดเลยหรือเปล่าครับ หรือ สามารถที่จะซื้อแค่ PIN และทำการจองใหม่ หรือ แค่กรอก DS-160 ใหม่แล้วนำทั้งใบเก่าและใหม่ไปในวันที่4 เมษายน 2555 หรือถ้าไม่ ผมควรจะทำอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ
    และอีกข้อที่ไม่แน่ใจคือผมจะอยู่ต่อเพื่อท่องเที่ยวอีก 2-3วันหลังจากจบการเทรนอย่างนี้คือผมต้องขอVISA B1/B2 ใช่ไหมครับ และผมจ่ายค่าธรรมเนียม 4,480 บาท ถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ……….ขอบคุณครับ

    • govisa  On March 18, 2012 at 12:21 pm

      น้อง M คะพี่ขอตอบทีเดียวเลยนะคะเพราะพี่เห็นคำถามน้องเข้ามาซ้ำกันค่ะ คือ เวลาที่น้องไปสัมมนาและอบรมน้องคงขอเป็นวีซ่า B-1 นักธุรกิจไปใช่ไหมคะ ทีนี้โครงการเปลี่ยนตัดโปรแกรมที่ San Francisco ออกก้ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปทำอะไรกับการกรอก DS-160 ใหม่หรือซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ น้องสามารถ Print เอกสารที่มีแจ้งในตอนแรกว่ามีไปสัมมนาที่ San Francisco และเอกสารภายหลัง เช่น อีเมล์ที่บอกยกเลิกการเดินทางไปสัมมนาที่ San Francisco แนบติดตัวน้องเวลาน้องไปสัมภาษณ์ โดยน้องสามารถตอบคำถามท่านกงสุล(ถ้ามี) ได้ว่า เดิมมีการสัมมนาที่ San Francisco ด้วยต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยผู้จัดรายการสัมมนาและอบรมค่ะ

      ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าจะขอไปเที่ยวต่อสัก 2-3 วันหลังอบรมสัมมนาเสร็จก็ไปเที่ยวได้เลยค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ต้องขอวีซ่านักท่องเที่ยวใหม่อีกครั้งนะคะ ถ้าสังเกตดูผู้ที่ได้วีซ่านักธุรกิจกับวีซ่านักท่องเที่ยว เวลาประทับตราวีซ่าอยู่ในหนังสือเดินทางจะเขียนทั้ง B-1/B-2 อยู่แล้วค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าตอนแจ้งเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นเวลาเข้าเมืองสหรัฐฯว่าครั้งนี้น้องเข้ามาในประเทศสหรัฐฯเพื่อประชุม เพื่อดูงาน หรือเพื่อเข้ามาเที่ยวเป็นต้นค่ะ ถ้าเข้ามาประชุม ดูงาน อบรมก็ต้องมีเอกสารของทางฝ่ายอเมริกาที่เชิญน้องเข้าไปเพื่อเข้าไปทำอะไรในอเมริกา แต่ถ้าน้องเข้าไปเที่ยวก็ไม่ต้องมีจดหมายระบุว่า น้องจะเข้าไปอบรมดูงาน หรือไปประชุมอะไรพวกนี้ค่ะ ค่าธรรมเนียมวีซ่า B-1 และ B-2 คือ 4,480 บาทค่ะ

  • M  On March 18, 2012 at 1:53 am

    สวัสดีครับ คือผมกรอก DS-160 เสร็จเรียบร้อยแล้วรวมถึงซื้อPINการจองสัมภาษณ์ จากไปรษณีย์ รวมถึงจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าในวันเดียวกันที่สถานี และผมก็จองนัดวันสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วในวันที่ 4 เมษายน 2555
    แต่ปัญหาคือ แผนการเดินทางของผมดันเปลี่ยน จากตอนแรกจากไปสัมมนาที่San Francisco และ บินไป เทรนต่อที่ Houston เป็น เหลือไปเทรนแค่Houston อย่างเดียว
    ผมต้องไปซื้อ PIN + จ่ายค่าธรรมเนียมใหม่และจองวันนัดสัมภาษณ์ใหม่หมดเลยหรือเปล่าครับ หรือ สามารถที่จะซื้อแค่ PIN และทำการจองใหม่ หรือ แค่กรอก DS-160 ใหม่แล้วนำทั้งใบเก่าและใหม่ไปในวันที่4 เมษายน 2555 หรือถ้าไม่ ผมควรจะทำอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ และอีกข้อที่ไม่แน่ใจคือผมจะอยู่ต่อเพื่อท่องเที่ยวอีก 2-3วันหลังจากจบการเทรนอย่างนี้คือผมต้องขอVISA B1/B2 ใช่ไหมครับ และผมจ่ายค่าธรรมเนียม 4,480 บาท ถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ……….ขอบคุณครับ

  • M  On March 18, 2012 at 6:03 pm

    ขอบคุณครับ แล้วเรื่องวันเดินทางที่เปลี่ยนหละครับ และอีกอย่างคือผมกรอกใน DS-160ไปแล้วว่าขอvisa type B1/B2 คงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ

    • govisa  On March 18, 2012 at 10:10 pm

      น้อง M คะ เรื่องวันเดินทางเปลี่ยนก็ไม่เป็นไร ไม่ถึงขั้นต้องกรอกฟอร์มวีซ่าใหม่ค่ะ ส่วนที่บอกว่า ขอเป็นวีซ่า Type B-1/B-2 ขึ้นอยู่กับว่า วลีที่ขึ้นมาให้น้องเลือกประเภทของวีซ่าตอนน้องกรอกฟอร์ม DS-160 น้องเลือกอะไรไป กล้าวคือ ในกรณีของน้องควรเลือก Business(B-1) เพราะน้องไปสัมมนาและอบรม ส่วนที่ครั้งก่อนพี่ได้อธิบายว่า ไม่ว้าจะเป็นวีซ่านักธุรกิจหรือวีซ่านักท่องเที่ยวก็จะได้ประทับตราในหนังสือเดินทางว่า B-1/B-2 เพื่อให้น้องไม่ต้องเป็นกังวลว่าน้องต้องขอวีซ่านักท่องเที่ยวอีก ถ้าน้องจะต้องการแวะเที่ยว 2-3 วันก่อนกลับไทยค่ะ หรือหากครั้งต่อไปน้องจะเข้าไปเที่ยวอเมริกา น้องก็สามารถใช้วีซ่าเดิมเข้าไปเที่ยวได้ โดยตอนไปเทียวไม่ต้องแสดงจดหมายว่า จะไปประชุมที่ไหนค่ะ

      • M  On March 18, 2012 at 10:43 pm

        แต่ผมดันแจ้งจุดประสงค์การเดินทางเป็นแบบ Business/Personal B1/B2 ไปแล้วน่ะสิครับ แต่ว่าตอนผมกรอกแระเพทการนัดสัมภาษณ์ส่วนนั้นผมกรอกเป็นแบบ Business ไป อย่างนี้คือโอเคไหมครับ

  • M  On March 18, 2012 at 10:45 pm

    กล่าวคือผมกรอกใน DS-160 เป็นแบบ B1/B2 แต่ลงนัดสัมภาษณ์เป็นแบบ Business* น่ะครับ

    • govisa  On March 19, 2012 at 4:43 am

      น้อง M คะ ไม่มีปัญหาค่ะ ในเรื่องที่น้องถามมาค่ะ ขอให้เตรียมเอกสารที่จะยื่นขอวีซ่าให้ครบและตอบคำถามท่านกงสุลให้ชัดเจนทุกคำถามเสียงดังพอที่ท่านกงสุลจะได้ยิน และมีการสบสายตาท่านกงสุลหรือที่เรียกว่า eye contact ด้วยก็พอแล้วค่ะ โชคดีค่ะ

      • M  On March 19, 2012 at 10:23 am

        ขอบคุณครับ เอ่อผมมีอีกอย่างครับ คือผมใส่บ้านเเลขที่ที่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน แต่ว่าก็คือที่อยู่เดียวกันอย่างนี้ก็ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ

      • govisa  On March 19, 2012 at 12:13 pm

        น้อง M คะไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงค่ะ แต่ถ้าเป็นกรอกชื่อ-สกุล วันเดือนเกิด หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขหนังสือเดินทางไม่ถูกต้อง กลุ่มคำดังกล่าวเป็นความผิดร้ายแรงต้องกรอกใหม่ค่ะ

      • M  On March 19, 2012 at 2:26 pm

        ขอบคุณมากครับ สรุปก็คือผม แค่ต้องนำจดหมายว่าทำถึงยกเลิกการสัมมานาจากทางบริษัท และเหลือแค่ไปเทรนนิ่ง ไปแสดงกงงศุลเท่านั้นใช่ไหมครับ และนอกนั้นก็เอกสารต่างๆตามปกติใช่ไหมครับ ขอบคุณมากๆครับสำหรับคำแนะนำ

      • govisa  On March 19, 2012 at 8:51 pm

        น้อง M คะ สรุปคือ บริษัทของน้องจะส่งน้องไป train อย่างเดียวใช่ไหมคะ ถ้าเป็นอย่างที่พี่เข้าใจให้น้องนำจดหมายที่ระบุให้น้องไป train เรื่องอะไรที่ไหนไปแสดงให้กงสุลดูค่ะ นอกจากนั้นก็จะเป็นเอกสารประกอบอื่นๆ อาทิ หนังสือเดินทาง, ใบเสร็จจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า 4,480 บาท, จดหมายรับรองการทำงาน, จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของน้องเอง หากบริษัทที่น้องทำงานอยู่รับผิดชอบเรื่องน้องไปอบรม เช่น ค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยงก็ควรมีจดหมายจากบริษัทรับรองไปด้วยและแจ้งด้วยว่า จะรับรองเรื่องค่าใช้จ่ายของน้องตั้งแต่ช่วงวันที่เท่าไรถึงวันที่เท่าไรค่ะ ขอให้ผ่านวีซ่าค่ะ

  • jaja_littlestar  On March 19, 2012 at 8:50 pm

    หนูกับแม่จะไปเที่ยวคะพี่ แต่ว่าหนูมีพี่ที่เป็นลูกศิษย์แม่อยู่ที่นู้น แม่กับน้องเลยจะไปไม่นาน เพราะต้องกลับมาทำธุระต่างๆอยู่ แต่ว่าหนูเป็นช่วงปิดเทอม ก็เลยอยากเที่ยวเยอะๆ และพักอยู่กับพี่ที่นู้นค่ะ พี่ที่เค้าเคยทำวีซ่า บอกว่า ให้กรอก 2 อาทิตย์ เหมือนกันทุกคน หนูก็เลยกลัวว่า ตอนบินไปจริงๆ ตม เค้าจะไม่ให้เราเข้ารึป่าว ตอนนี้หนูไม่สบายใจมากๆค่ะ สัมภาษณ์วันที่ 21 นี้แล้วด้วยค่ะ

    • govisa  On March 19, 2012 at 9:31 pm

      น้อง jaja คะ พี่คนที่ช่วยน้องกรอกเขาก็แนะนำถูกต้องแล้วค่ะ คือ ควรจะแจ้งท่านกงสุลให้เหมือนๆกันเพราะเดินทางไปด้วยกันสามคน ส่วนที่น้อง jaja อยากมีวันเที่ยวเที่ยวเพิ่ม ขอให้อดใจรอให้ได้วีซ่าก่อนนะคะ แล้วเวลาบินเข้าไปที่อเมริกา ถ้าน้อง jaja ต้องตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯค่อยวางแผนกันอีกทีว่า น้องอาจจะตอบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่า น้องจะกลับทีหลังคุณแม่และน้องชายเพราะสาเหตุใดค่ะ อย่างไรก็ตาม เตรียมตัวหัดตอบคำถามเหล่านี้ค่ะ

      1. ทำไมน้องไม่กลับพร้อมคุณแม่และน้องชาย ช่วงเวลาดังกล่าวน้องจะเข้าไปพักอยู่กับใครค่ะ และจะทำอะไรบ้าง
      2. ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองถามถึงจำนวนเงินติดตัวที่เข้าไปอยู่ในสหรัฐเพื่อจะทดสอบว่า น้องมีรายได้มาจากทางไหนที่จะดูแลตนเองได้ค่ะ ก็ต้องอธิบายได้ว่า การไปเทียวครั้งนี้ น้องมีคุณแม่เป็น sponsor ท่านจะดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าเที่ยวต่างๆให้น้องค่ะ

      ขอให้สัมภาษณ์ผ่านค่ะ

  • M  On March 19, 2012 at 10:05 pm

    ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ ถ้าเกิดสงสัยอะไรอีกจะขออณุญาติมารบกวนอีกครั้งนะครับ ขอบคุณมากครับ

    • govisa  On March 19, 2012 at 11:39 pm

      ด้วยความยินดีค่ะน้อง M

  • Noon  On March 20, 2012 at 5:05 am

    รบกวนถามด้วยนะคะ พอดีเป็นกลังวลมาก คือคิดว่า กด save application form มาแล้ว แต่พอมาหาในคอมดูอีกที ไม่มีเลยค่ะ แล้วก็ไม่สามารถกลับไป retrieve ได้ เพราะมันขึ้นว่าเราได้ submit ไปแล้วค่ะ มีทางไหนที่จะไปโหลดมามั้ยคะ หรือขอแค่ดูก็พอในสิ่งที่เรากรอกไป คือไม่แน่ใจว่ากรอกไปว่ากลับวันที่เท่าไหร่ ตอนแรกที่กรอกไปยังไม่ทราบวันที่เปิดเทอมอ่ะค่ะ แต่ตอนนี้ทราบแล้ว จองตั๋วไปก่อนแล้วว่าจะกลับวันที่ สิบมิถุนา จำได้ว่า กรอกไปใน ds 160 ว่าจะกลับมิถุนาเนี่ยค่ะ แต่ไม่ทราบว่าวันไหน อีกอย่างคือ จะช่วยรบกวนประเมินสถานการณ์ให้หน่อยน่ะค่ะ ตามประสบการณ์ของพี่ หนูเป็นนิสิตชั้นปีที่สองของจุฬาค่ะ อายุ 20 จะไปเท็กซัสช่วงหยุดซัมเมอร์นี้ เคยได้และไม่ได้มาแล้วอย่างละครั้งค่ะ ล่าสุดได้วีซ่ามาในปี 2009 ไปและกลับมาตามกำหนดเลยค่ะ ปีนี้จะไปด้วยเหตุผลเดิมเลยค่ะ คือไปเยี่ยมญาติและไปเที่ยว อาจจะไปดูลู่ทางต่อโท เพราะมีญาติสนิทเป็น citizen อยู่ที่นั่น ไปสองเดือน แต่คือหนูเรียนสเปนและญาติมีธุรกิจส่วนตัว ไม่รู้เค้าจะกลัวหนูหนีหรือไปทำงานมั้ย คือจะกลับมาเรียนต่อแน่นอนค่ะ ได้ข่าวว่าปีนี้เค้าให้ผ่านเยอะ แต่ก็ยังเป็นกังวลอยู่ ไม่ทราบว่าพี่พอช่วยให้คำแนะนำได้มั้ยคะ ว่าอาจจะโดนถามเรื่องอะไรบ้าง ยังมีอะไรที่ควรเตรียมเพื่อกันไว้บ้าง ตอนนี้มี ใบ confirmation และ ใบนัด ใบเสร็จที่จ่ายที่ไปรษณีย์ และใบเสร็จของตอนแรกที่จ่ายไปก่อนทำการกรอก ds 160 ทรานสคริปต์ และจดหมายรับรองความเป็นนิสิตจากจุฬา จดหมายเรคคอมเมนเดชั่นจากญาติ สเตตเม้นของพ่อแม่ ดังนั้นเลยรบกวนถามนะคะ ตามนี้
    1.รบกวนช่วยประเมินสถานการณ์และให้คำแนะนำด้วยนะคะ
    2.ถ้าคนสนับสนุนทางการเงินไม่ใช่ผู้ปกครองแต่เป็นญาติ ต้องมีสเตทเม้นของญาติด้วยมั้ยคะ
    3. จะมีทางไหนให้ได้ดูฟอร์ม ds-160 ได้มั้ยคะ
    รบกวนด้วยนะคะ คือมีสัมภาษณ์วันที่สามเมษานี้แล้ว จองไปว่าจะบินวันที่ 8 เลยค่ะ คืออยู่ในช่วงสอบแล้วค่อนข้างกังวล ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามด้วยนะคะ

    • govisa  On March 20, 2012 at 8:58 am

      น้อง Noon คะขอตอบคำถามเป็นข้อๆดังนี้คือ
      1. น้องไม่สามารถ retrieve application form ได้หลังจากน้องได้กด submit ไปแล้วค่ะ และจะกลับไป print ก็ไม่ได้ เพราะถ้าจะ print ต้อง print ตั้งแต่ตอนแรกที่กรอกเสร็จและกด submit ค่ะ และน้องจะ print ได้ครั้งเดียวค่ะ
      2. น้องน่าจะมีเหตุผลเพิ่มเติมในการอธิบายว่า ทำไมน้องต้องการไปเที่ยวนานสองเดือนค่ะ กรณีถ้าจะเป็นทที่เที่ยวในรัฐ Texas เหมือนปี 2009 สถานที่ท่องเที่ยวก็ค่อนข้างเหมือนเดิม จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกไม่กี่แห่ง พี่ขอแนะนำให้น้องอธิบายทำนองว่า ญาติอาจจะเช่ารถขับไปเที่ยว Florida หรือ California เป็นต้น น้องอยากมีโอกาสไปเที่ยวทางไกลค่ะ จะดูดีกว่าไหม ลองพิจารณานะคะ
      3. พี่สับสนที่น้องบอกว่าตอแรกว่า น้องจะใช้ statement พ่อแม่ ต่อมาตรงช่วงที่ถามพี่เป็นข้อๆถามว่า คนสนับสนุนทางการเงินไม่ใช่ผู้ปกครองแต่เป็นญาติ เอาเป็นว่า กรณีที่น้องจะใช้ sponsor เป็นคนอื่น ใครก็ตามที่เป็น sponsor ให้น้องบอกให้ sponsor เตรียมทั้งจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารและสมุดบัญชีเงินฝากตัวจริงไปด้วย และทางที่ดีควรเตรียมของพ่อแม่ประกอบไปด้วยค่ะ เพราะวัฒนธรรมฝรั่งมองว่า ความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกมีสูงกว่าญาติระดับอื่นค่ะ กงสุลอาจจะมีการถามพาดพิงถึงรายรับของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
      พี่อยากให้น้องทำใจให้สบาย ตอบคำถามท่านกงสุลให้ชัดเจน แสดงท่าทีที่แน่วแน่ว่า ต้องกลับมาลงทะเบียนเรียนปีที่สามที่จุฬาค่ะ เช่น อาจแนบ Itinerary ของการเดินทาง, print เอกสารอาจจะเป็นเว็บไซต์ของจุฬาว่า มหาวิทยาลัยจะเปิดเทอมใหม่เมื่อไร ถ้าท่่านกงสุลมีคำถามว่า ทำไมมาเที่ยวอเมริกาครั้งละนานๆ พยายามคิดหาคำตอบที่ดูเข้าท่า เช่น การท่องเที่ยวคือการเรียนรู้ และน้องประทับใจอเมริกามากๆ คิดว่า ยังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าไปเที่ยวแต่ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวก็ได้นะคะ เอาใจช่วยค่ะน้อง Noon

  • jaja_littlestar  On March 20, 2012 at 6:47 pm

    ขอบคุณค่ะพี่ พรุ่งนี้สัมภาษณ์แล้วค่ะ คืบหน้ายังไงหนูจะมาบอกนะคะ ตื่นเต้นมาก พี่ที่ช่วยทำวีซ่าเค้าบอกว่า ถ้าได้วีซ่าแล้ว ตอนเดินทางไปถึงอเมริกาแล้ว ค่อยเปลี่ยนวันกลับ สามารถทำแบบนี้ได้มั้ยคะ แล้ว ตม จะปั๊มให้เราอยู่ได้ถึง 2 เดือนรึป่าวคะ ถ้าตั๋วเครื่องบินเราแค่ 2 สัปดาห์ ขอบคุณมากๆค่ะ ^^

    • govisa  On March 20, 2012 at 11:37 pm

      น้อง Jaja คะ พี่คิดว่า ตั๋วเครื่องบินของน้องคงต้องเปลี่ยนแปลงเวลาจะเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯด้วยค่ะ น้องจะซื้อตั๋วแบบคุณแม่และน้องชายไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตม.จะประทับตราจำนวนเวลาที่จะอยู่ในสหรัฐฯได้นั้น ตั๋วเครื่องบินก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เขาต้องดูด้วยว่า น้องซื้อตั๋วมาจะอยู่นานประมาณกี่วัน กี่เดือน นอกเหนือจากเหตุผลอื่นที่เขาอาจจะสัมภาษณ์น้องที่ด่านตม.ค่ะ อีกประการหนึ่งช่วงกลับของน้องจะไปตรงกับหน้าร้อนของประเทสสหรัฐที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว บางทีการขอเปลี่ยนแปลงวันอาจจะทำไม่ได้ดีนัก เพราะตั่วในวันที่น้องอยากกลับเกิดมีคนเดินทางหนาแน่นมาก ไม่มีที่นั่งให้น้อง หรือลักษณะตั๋วเครื่องบินไม่ยอมให้เปลี่ยนแปลงวันเดินทางกลับ เพราะเป็นตั๋วที่ซื้อมาในราคาถูกมาก หรือ บางสายการบินบอกว่าเปลี่ยนแปลงวันเดินทางกลับได้ แต่ต้องจ่ายค่าเปลี่ยนแปลงนั้จำนวน 3,000 บาทบ้าง เป็นต้น เพราะฉะนั้นตอนซื้อตั๋ว โปรดสอบถามเอเจนซี่ขายตั๋วเครื่องบินให้ถี่ถ้วนด้วยค่ะ ขอให้พรุ่งนี้โชคดีนะคะ และเขียนมาแชร์ประสบการณ์ด้วยนะคะ

  • Yavanart  On March 22, 2012 at 10:18 pm

    สวัสดีค่ะมีเรื่องรบกวนจะถามหน่อยค่ะได้ซื้อpinสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 8/03/12แต่ยังไม่ได้โทรไปจองวันสัมภาษณ์ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะและมีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างไรบ้างค่ะขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On March 23, 2012 at 3:59 am

      น้อง Yavanart คะ พินที่ใช้นัดทางโทรศัพท์มีอายุการใช้งานนาน 3 เดือน น้องจะโทรนัดวันสัมภาษณ์เมื่อไรก็ได้ภายในสามเดือน โดยน้องโทรไปที่ Call Center หมายเลขโทรศัพท์: 001-800-13-202-2457 น้องควรใช้โทรศัพท์ที่บ้าน หากน้องจะใช้มือถือโทรออก มือถือเครื่องนั้นควรจะมี international roaming เพราะหมายเลขดังกล่าวเป็นหมายเลขโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ แต่ไม่ต้องกังวลว่าผูพูดปลายทางจะเป็นชาวต่างชาติ เพราะผู้พูดปลายทางเป็นเสียงจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ ตอบคำถามตามที่เจ้าหน้าที่ถาม เตรียมหนังสือเดินทางไว้ใกล้ตัว และน้องต้องกรอกฟอร์ม DS-160 ให้เรียบร้อยก่อนเพื่อจะได้มีหมายเลข DS-160 Confirmation Number เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เหมือนกับการนัดทางอินเทอร์เน็ต ข้อเสียของการนัดทางโทรศัพท์คือต้องพูดกับเจ้าหน้าที่ในวันเวลาที่ทำการ คือ จันทร์ถึงศุกร์ และระหว่างเวลา 8.00-17.00 น. นอกเวลาทำการแล้วไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนเวลาใช้เวลาในประเทศไทยเป็นหลักค่ะ และเจ้าหน้าที่จะตั้งคำถามน้องทุกคนเหมือนกันตาม list ที่เขาได้รับการฝึกมา ไม่ตอบคำถามนอกประเด็นที่ไม่ได้อยู่ในรายการ ข้อดีของการนัดทางโทรศัพท์ คือ เหมาะกับผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตไม่คล่อง

      น้องจะลองเข้าไปฟังวิธีการนัดสัมภาษณ์จากเว็บไซต์ของ YouTube ที่ทางสถานทูตอเมริกันเจัดทำไว้ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw&feature=youtu.be

  • jaja_littlestar  On March 22, 2012 at 11:45 pm

    สัมภาษณ์มาเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณแม่และน้องชายผ่าน ส่วนหนูไม่ผ่านค่ะ กรอกไป 2 สัปดาห์เหมือนกัน เสียใจมาก พอหนูไม่ได้ไป แม่กับน้องก็ยกเลิกไม่ไปแล้วค่ะ ถามเหตุผลว่าทำไมไม่ให้ไป เค้าก็ไม่บอกค่ะ 😦

  • jaja_littlestar  On March 22, 2012 at 11:48 pm

    หนูเรียนปี 3 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ ส่วนคุณแม่เป็นคุณครูสอนโรงเรียนยุพราชเชียงใหม่ เค้าไม่ดูเอกสารอะไรเลยค่ะ พวกหนูก็บอกว่าจะไปเที่ยว และไปเยี่ยมคนรู้จักซึ่งเค้าเคยเป็นลูกศิษย์ของแม่ หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เสียใจมากๆค่ะ

    • govisa  On March 23, 2012 at 4:33 am

      น้อง Jaja คะ คนที่ถูกปฏิเสธวีซ่าจากสถานทูตอเมริกันจะไม่เคยได้รับคำตอบจากท่านกงสุลทางวาจาว่า เพราะเหตุใดจึงถูกปฏิเสธวีซ่า กงสุลจะให้อ่านเหตุผลเอาเองจากกระดาษที่ยื่นให้ เหตุผลส่วนใหญ่คือ ไม่ได้แสดงหลักฐานว่ามีความผูกพันกับครอบครัว วัฒนธรรม เศรษฐกิจและสังคมที่จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยค่ะ ซึ่งหลายคนไม่เข้าใจว่า คืออะไร ก็คงต้องย้อนกลับไปทบทวนกันตั้งแต่การกรอกคำถามในฟอร์ม DS-160, เอกสารที่ยื่น, และวิธีการตอบคำสัมภาษณ์ทุกคำถาม ผู้ยื่นวีซ่าหลายท่านทั้งที่วีซ่าผ่านและไม่ผ่านมักกล่าวว่า กงสุลไม่ขอดูเอกสารอะไรเลย ที่จริงตอนที่น้องๆยื่นเอกสารไปทั้งทางออนไลน์ และนำไปยื่นวันสัมภาษณ์ระหว่างรอเรียกชื่อสัมภาษณ์นั้น มีเจ้าหน้าที่อ่านตรวจเอกสารอยู่แล้วค่ะ ดูเหมือนพี่เองก็เคยบอกน้องครั้งหนึ่งว่า ที่บอกว่าจะไปอยู่กับพี่สาวที่อเมริกานั้น เราเรียกขานกันแบบคนไทย แต่ฝรั่งไม่นับญาติด้วยวิธีการแบบนั้น เพราะพี่ที่น้องจะไปอยู่ด้วยเป็นแค่ลูกศิษย์ที่เรียนหนังสือกับแม่ ไม่ได้เป็นญาติอะไรของเราาเลย ส่วนรายรับของคุณแม่และจำนวนเงินในบัญชีธนาคารของคุณแม่ก็ต้องดูด้วยว่า พอจะไปเที่ยวด้วยกันสามคนไหมค่ะ แม้ว่าพี่จะไม่เห็นข้อมูลทั้งหมดที่น้องตอบในฟอร์ม DS-160 รวมทั้งไม่เห็นเอกสารที่น้องนำไปใช้ในการยื่นขอวีซ่า พี่ขอให้น้องเขียนมาเล่าคำถามที่กงสุลถามน้องและคุณแม่ทุกคำถาม และคำตอบที่น้องและคุณแม่ตอบกงสุล พี่คงจะช่วยบอกน้องได้บ้างว่า เพราะอะไรน้องจึงถูกปฏิเสธค่ะ และอย่างที่หลายคนที่เคยเข้าไปขอวีซ่าเป็นครอบครัว คือผู้ใหญ่ได้หรือเด็กเล็กได้ แต่ผู้ที่จะเป็นหลักในการเดินทางเช่นน้องไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่ที่อายุมากแล้วและเด็กเช่นน้องของน้องที่อยู่ป 2 ก็คงประมาณ 6-7 ขวบ ดูแล้วไม่มีศักยภาพที่จะเข้าไปอยู่อเมริกาเลยค่ะ พี่ไม่ได้บอกว่าน้องมีวัตถุประสงค์จะเข้าไปอยู่เลยนะคะ เพราะน้องต้องกลับมาเรียนต่อปี 4 ค่ะ แต่ความเป็นไปได้ของคนในวัยน้องมีมากกว่าคนอายุเยอะแล้วเช่นคุณแม่หริอผู้อ่อนเยาว์เช่นน้องของน้องค่ะ สรุปนะคะ พี่ขอรายละเอียดมากกว่านี้ คือ เอกสารที่ยื่นและคำถามที่น้องได้รับและการตอบคำถามของน้อง พี่จะได้อธิบายได้ว่าเพราะเหตุใดนะคะ อย่าเสียใจไปเลยค่ะ เรียนจบและมีงานทำ ยื่นขอวีซ่าไปเที่ยวใหม่ก็ได้ค่ะ เพียงต้องระวังเหตุผลไม่ให้มีจุดอ่อนเหมือนครั้งนี้ ซึ่งพี่ยังตอบไม่ได้จนกว่าน้องจะให้รายละเอียดพี่มากกว่านี้ เพื่อจะได้ระมัดระวังในการขอวีซ่าครั้งหน้าด้วยค่ะ

  • zalaeii  On March 23, 2012 at 4:01 pm

    จะขอยื่นวีซ่าท่องเที่ยวคะ แพลนว่าจะไปประมาณ 10 วันกับเพื่อนๆ แต่ติดปัญหาตรงที่มีพี่สาวแท้ๆ นามสกุลเดียวกันเคยยื่นวีซ่านักเรียนแล้วไปหนีโรบินฮู้ดอยู่ที่นู้นคะ ตอนกรอกข้อมูลใน DS-160 ควรกรอกว่ามีญาติใกล้ชิดอยู่/ หรือว่ากรอกไปว่าไม่มีดีคะ เค้าจะสามารถเช็คได้มั๊ย กลัวว่าถ้าเจอว่ามีพี่หนีไปอยู่แบบผิดกฎหมายแล้วเราจะไม่ผ่านวีซ่า ทั้งๆ ที่เราตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ ไม่หนีแน่นอน แต่ถ้ากรอกไม่ว่าไม่มีเค้าจะเช็คได้มั๊ยคะ ควรจะกรอกอย่างไรดีคะ

    • govisa  On March 23, 2012 at 8:41 pm

      น้อง Zalaeii คะ ปัญหาที่น้องถามมาก็เป็นปัญหาที่พี่เกรงว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลในทางลบให้น้องอยู่เหมือนกันค่ะ กงสุลเก็บ record ไว้นานเป็นสิบปีคะ ไม่ต้องห่วงเรื่องกงสุลจะทราบไหมว่า เป็นพี่น้องกันค่ะ ให้น้องสังเกตว่าในแบบฟอร์ม DS-160 ที่กรอก จะมีการถามถึงชื่อคุณพ่อคุณแม่ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะที่จะไม่ให้กงสุลทราบว่า น้องมีพี่สาวแท้ๆอยู่ที่อเมริกาค่ะ ดังนั้นคำถามที่ถามว่ามีญาติอยู่ที่อเมริกาไหม ก็ต้องตอบว่ามีค่ะ แล้วก็ต้องบอกว่า ขึ้นกับดวงจริงๆค่ะว่าจะได้หรือไม่ได้ พี่เคยพบคนที่มีลักษณะคล้ายกับน้อง คือมีพี่ overstay อยู่ที่อเมริกา มี 1 รายไม่ผ่านวีซ่า อีก 1 รายผ่านวีซ่าค่ะ ส่วนที่เหลือไม่ได้เล่าให้ฟัง พี่คิดว่า ให้น้องเตรียมเอกสารให้ดูชัดเจน โปร่งใสว่า น้องจะไปทำอะไร เช่น ไปเที่ยว 10 วันไปไหนบ้างเขียนเป็นแผนการแต่ละวันในกระดาษ A4 และถ้าน้องมีเงินได้และเงินเก็บในธนาคารเองแต่มีเงินในธนาคารไม่มาก ให้น้องมีเงินช่วยจาก sponsor เช่น พ่อแม่เป็นผู้ช่วยสนับสนุนการเงินก็ดีค่ะ ยิ่งถ้ามีหนึ่งล้านบาทขึ้นไป ก็จะยิ่งดีใหญ่เลยว่า น้องมาจากครอบครัวที่มีฐานะดูแลตนเองได้ คงไม่คิดอยากไปอยู่ที่อเมริกาค่ะ

  • May  On March 26, 2012 at 1:53 am

    สวัสดีค่ะ มีเรื่องจะรบกวนถามค่ะ ตอนนี้กำลังสัมครเรียนปริญญาโทที่อเมริกาค่ะ และอยากจะไปสัมภาษณ์ที่นั่น ติดตรงที่ว่าจะต้องสัมภาษ์ภายใน 1 – 2 อาทิตย์หลังจากที่รู้ผลว่าจะได้สัมภาษณ์หรือไม่ ซึ่งไม่มีทางขอวีซ่าได้ทันแน่นอน ถ้าจะขอ visa ท่องเที่ยวเผื่อไว้จะได้ไม๊ค่ะพอดีมีญาติที่กำลังเรียนอยู่ที่นั่นด้วย เลยว่าจะบอกว่าไปเยี่ยมญาติค่ะ อีกปัญหาหนึ่งที่กังวลคือ กำลังจะออกจางานกลางเดือนเมษา ซึ่งไม่น่าจะนัดสัมภาษณ์ทันอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไม่มีงานก็จะทำให้ได้ visa ยากกว่าเดิม ไม่ทราบว่ามีข้อแนะนำอย่างไรบ้างค่ะ

    • govisa  On March 26, 2012 at 5:21 am

      น้อง May คะ
      1. น้องสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวได้และน้องยังไม่ต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่ในขณะนี้ แต่พี่ไม่ทราบว่าน้องจะได้คิวนัดวันขอสัมภาษณ์วีซ่าทันกับวันที่จะสัมภาษณ์หรือไม่คะ ก็ต้องลองกรอกฟอร์ม DS-160 และลองทำนัดดูว่าจะได้วันไหนค่ะ
      2. ถ้าวันนั้นที่ได้ไม่ถูกใจ เพราะเลยวันสัมภาษณ์ไป วีซ่าท่องเที่ยวประมาณเกิน 90% ไม่สามารถขอ expedite ได้ แต่ผู้ขอวีซ่านักเรียนหรือวีซ่านักธุรกิจขอ expedite มักจะทำได้ เพราะมีตารางเวลาที่จำกัดไว้ว่าต้องไปถึงวันอะไรค่ะ
      3. ถ้าทำทั้ง 2 วิธีแรกไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความจริง คือ สอบสัมภาษณ์ด้วยโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ เหมือนนักเรียนหลายๆคนพบมา ไม่ว่าจะเป็น Boston U, Columbia U etc ค่ะ

  • fozetell  On April 2, 2012 at 12:45 pm

    รบกวนค่ะ คือในDS160 หนูกรอกเป็น B1/B2 แต่จริงๆหนูไปเยี่ยมญาติน้ะค้ะ
    แล้วในวันที่เลือดสัมภาษณ์ B2 เยี่ยมญาติตารางไม่ว่างเลย หนูเลยเลือกB1 มีว่างเพียบเลยค่ะ แล้วพอไปสัมภาษณ์จะเป็นไรไหมค่ะ

    • govisa  On April 2, 2012 at 3:12 pm

      น้อง Fozetell คะ ถ้าสถานทูตยังไม่เปลี่ยนแปลงกฎเหมือนปีที่ผ่่านมา คำตอบพี่คืิอน้องเลือกวิธีการอย่างที่น้องทำไม่ได้ค่ะ เพราะถ้าน้องทำได้หนึ่งคน ใครๆก็จะเลียนแบบน้องได้และระเบียบก็จะไม่เป็นระเบียบค่ะ เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สถานทูตไม่ให้น้องคนหนึ่งที่เขียนเข้ามาเล่าในบล็อกนี้เข้าไปสัมภาษณ์ เพราะเลือกวันนัดสัมภาษณ์ไม่ตรงกับประเภทที่จะขอวีซ่า ผู้ที่ขอวีซ่านักธุรกิจจะมีจดหมายเชิญไปประชุม หรือไปดูงานที่ไหนก็ตามในประเทศสหรัฐฯจากหน่วยงานในสหรัฐฯค่ะ น้องคนดังกล่าวไม่มี ต้องออกไปซื้อพินใหม่ค่ะ และพลาดการสัมภาษณ์ในวันนั้น เพราะต้องไปนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ให้ถูกประเภทค่ะ อย่างไรก็ตาม ถ้าน้องมีที่พักในกรุงเทพและสามารถเดินทางไปที่สถานทูตได้ อาจจะลองถามเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ดูแลคิวนัดสัมภาษณ์ที่หน้าประตูสถานทูตดูอีกครั้งก็ได้ค่ะ หรือจะใช้วิธีการอีเมล์ไปถามที่ visasbkk@state.gov ค่ะ

  • Tintin  On April 3, 2012 at 8:40 pm

    เรียนพี่ govisa ค่ะ

    หนูมาแจ้งผลสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ ตามที่หนูเคยเรียนปรึกษาเรื่องกรอก DS160 ผิด ที่สะกดคำว่า SISTER ผิดอ่าค่ะ สรุปหนูก็ตัดสินใจใช้เอกสารชุดเดิม ไม่ได้กรอกใหม่หรือแก้ไขแต่อย่างใด สำหรับการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ก็ถามเรื่องที่หนูเคยถูกปฏิเสธวีซ่า และถามถึงพี่สาวที่มีกรีนการ์ดด้วย ซึ่งเราก็ตอบตามความจริงทุกประการ ผลก็คือท่านพิจารณาให้วีซ่ากับหนูค่ะ ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่ go visa ที่ได้ชี้แนะแนวทางแล้วให้คำแนะนำดีๆ กับหนูนะึคะ

    ขอบคุณมากค่ะ 🙂

    • govisa  On April 3, 2012 at 11:29 pm

      น้อง Tintin คะ ดีใจด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะที่ในที่สุดน้องก็ผ่านวีซ่าแล้ว เป็นข่าวดีที่สุดของพี่วันนี้หลังจากที่พี่กลับจากการเดินทางไปทำงานไกล หายเหนื่อยเลยค่ะ ขอบคุณน้อง Tintin มากๆนะคะที่ช่วยส่งข่าว ขอให้น้องตั้งใจไปเรียนหนังสือที่อเมริกาเรียนจบแล้วกลับบ้านเรานะคะ เผื่อวันหลังน้องๆของน้องที่จะตามไปเรียนกันต่อๆไปจะได้ไม่มีอุปสรรคในการขอวีซ่าแบบที่น้องเคยผ่านมาแล้วค่ะ ดีใจด้วยอีกครั้งจริงๆค่ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ

      อนึ่ง หากน้องแวะเข้ามาที่บล็อกนี้อีก พี่จะขอบคุณน้องมากถ้าน้องช่วยบอกด้วยว่า กงสุลถามคำถามอะไรน้องบ้างค่ะ

  • Exempli  On April 7, 2012 at 9:19 pm

    ขอสอบถาม คุณ govisa ครับ
    หากต้องการแก้ไขข้อมูลใน DS-160 โดยนัดสัมภาษณ์ไปแล้วนี่
    เรา print ใบยืนยันใหม่พร้อมใบเก่า ไปในวันสัมภาษได้เลย (ตามที่คุณgovisa อธิบายไว้ข้างบน)
    แล้วชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ทราบตรงนั้นได้เลยเหรอครับ
    เจ้าหน้าที่เค้าจะยอมรับฟังใช่ไหมครับ เพราะมันดูกระทันหันไปหน่อย กลัวเค้าไม่ฟัง
    แล้วต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ส่วนไหนเหรอครับ
    เจ้าหน้าที่ด้านนอก หรือเจ้าหน้าที่กงสุลผู้สัมภาษณ์

    พอดีผมเพิ่งไปสัมภาษณ์มาเมื่อวันที่2 เมษา แล้วถูกปฏิเสธ
    เลยกลับมาเตรียมเอกสารเพิ่ม จะกลับไปลองอีกรอบครับ
    แต่ก็มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนข้อมูลอีกแล้ว แย่เลย

    ผมสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่ วันนั้นไปเจอเจ้าหน้าที่ด้านนอกเค้าก็ไม่ค่อยถามอะไรเลยครับ
    แค่ดูๆตรวจๆเอกสาร ส่วนได้คุยจริงๆก็กับกงสุลฝรั่งลย
    แต่เค้าก็ถามเราไม่กี่คำเอง แล้วก็โดนปฏิเสธมา

    เท่าที่อ่านมาของคนอื่นๆที่กรุงเทพ เหมือนจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ด้านนอกมากหน่อย

    อยากทราบว่าที่ชี้แจงเหตุผลที่เปลี่ยน DS160 ควรบอกตรงไหนครับ

    ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

    • govisa  On April 7, 2012 at 11:14 pm

      น้อง Exempli คะ สำหรับ DS-160 ที่กรอกผิดหลังจากได้วันนัดสัมภาษณ์แล้ว น้องกรอก DS-160 ใหม่เพื่อแก้ไขความผิดพลาด เวลานำ DS-160 Confirmation ทั้งหมายเลขเก่าและใหม่ไปแสดงนั้น เจ้าหน้าที่คนไทยจะถามก่อนเป็นด่านแรกว่า เพราะเหตุใดจึงต้องนำมาทั้งสองหมายเลข น้องอธิบายเหตุผลไป ท่านเจ้าหน้าที่ก็อาจจะมี remark ให้กงสุลท่านทราบ หรือหากไม่มี remark ท่านกงสุลอาจจะถามกับตัวน้องเองอีกครั้ง ให้น้องอธิบายเหตุผลท่านกงสุลไปนะคะ

      ส่วนการที่น้องถูกปฏิเสธ และครั้งนี้จะกลับเข้าไปขอใหม่เป็นครั้งที่สองนั้น พี่ไม่สามารถวิเคราะห์เหตุผลได้ เพราะน้องไม่ได้ให้รายละเอียดของคำถามและคำตอบที่น้องโต้ตอบกับท่านกงสุล รวมทั้งเอกสารที่น้องนำไปแสดง พี่ขอให้น้องลองทบทวนเหตุการณ์ครั้งแรก ลองตั้งสมมติฐานว่า ถ้าน้องต้องขึ้นศาล น้องจะตอบคำถามอย่างไรที่จัดว่าเป็นหตุเป็นผลดูน่าเชื่อถือว่า น้องเป็นฝ่ายถูกไม่ใช่ฝ่ายผิดค่ะ ขอให้น้องโชคดีนะคะ

      • Exempli  On April 7, 2012 at 11:58 pm

        ขอบคุณครับ
        และขอมาเล่ารายละเอียดครับ

        เอกสารประกอบที่ผมเตรียมไปวันน้้น
        มีใบรับรองการเป็นนศ.ปี3 จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ใบทรานสคริป
        มีจดหมายรับรองบัญชี จากธนาคาร และสมุดเงินฝากและกองทุนเล่มจริง
        ทั้งของผมและของแม่ (แม่เป็นสปอนเซอร์)
        passport เล่มเก่า ที่เคยได้วีซ่า เคยไปเที่ยว 10 ปีที่แล้ว

        ตอนเข้าไปพิมพ์นิ้วมือในห้อง เจ้าหน้าที่ไทยก็ถามแค่ว่าเรียนปีอะไร และขอpassportเก่าไป
        แล้วเค้าก็บอกมาว่า “สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนะครับ”
        ผมก็เลยถามไปว่า เป็นภาษาไทยได้ไหม
        เค้าตอบกลับมาว่า ขอภาษาอังกฤษเถอะ ตอนนั้นผมก็ งงๆนิดหน่อยแต่ก็คิดว่าไหว เลยตกลงไป
        กับเจ้าหน้าที่ไทยมีแค่นี้

        จนมาถึงตอนเข้าไปเจอเจ้าหน้าที่ฝรั่ง
        ทักทายกันเสร็จ คำถามแรกเค้าถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่
        ผมก็ตอบว่าเรียนปี 3 คณะ…. ม.เชียงใหม่

        แล้วเค้าก็ถามทำไมถึงอยากไป ไปทำอะไร
        ผมก็ตอบไป คือ ญาติผมเคยทำงานอยู่โน่นหลายสิบปี
        ตอนนี้เกษียรแล้วกลับมาอยู่ไทยได้หลายปีแล้ว
        แล้วตอนนี้จะกลับไปทำธุระ แล้วเที่ยวต่อสักพัก เลยชวนผมไปเที่ยวด้วย
        แล้วเค้าก็ถามความสัมพันธ์ ผมก็อธิบาย ว่าเป็นน้องสาวของย่า
        หรือก็คือ น้าแท้ๆของพ่อ อายุมากแล้วครับ 70 กว่าปี

        คำถามต่อมา ถามว่าไปพักกับใคร
        ผมมีญาติที่โน่นอีกคน ก็บอกว่าไปพักกับคนนี้ ตามที่อยู่ที่กรอกไป
        (ญาติคนนี้เคยเป็นโรบินฮู้ดตอนวัยรุ่น แต่ต่อมาแต่งงานได้เป็น LPR – ไม่รู้ตรงนี้รึเปล่าทำให้เค้าสงสัยว่าผมอาจจะไปแนวเดียวกัน)
        เค้าถามต่อว่า กับคนนี้เป็นอะไรกัน ผมก็ตอบว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อผม

        ต่อมาเค้าถามถึงค่าใช้จ่าย
        ผมก็ตอบว่าแม่เป็นสปอนเซอร์ เค้าก็ถามว่าแม่ทำอาชีพอะไร ผมตอบไปว่าที่บ้านเป็นร้านค้า แล้วให้เอกสารการเงินเค้าไปดู
        คือสมุดบัญชีมีหลายเล่มมาก รวมสิบกว่าเล่ม กระจายๆ
        บางเล่มเงินเยอะ บางเล่มเงินน้อย และสมุดกองทุนก็รายละเอียดเยอะ อ่านค่อนข้างยาก
        ผมเห็นเค้าเปิดดูแค่สองสามเล่มเท่านั้น ไม่รู้เห็นแค่ไหน

        แล้วเค้าก็ถามว่า พ่อทำอาชีพอะไร ผมก็ตอบว่าทำเหมือนแม่
        ที่บ้านเป็นธุรกิจของครอบครัว ทำด้วยกัน
        แต่ผมไม่มีเอกสารของพ่อเลย ที่จริงทะเบียนการค้าเป็นชื่อพ่อ แต่ไม่ได้เอาไปโชว์
        มารู้ตัวทีหลังจริงๆว่าสะเพร่ามากๆ อาจจะเป็นตรงนี้ที่ไม่ชัดเจนพอ
        ตอนแรกคิดว่าแม่สปอนเซอร์ เอาแค่ของแม่ไปก็พอ แต่เค้ากลับถามเรื่องพ่อด้วย

        แค่นี้แหละครับ เค้าดูสมุดบัญชีไม่กี่เล่ม แล้วก็ทำหน้าเฉยๆ จากตอนแรกก็ยิ้มแย้ม
        เอกสารอื่นๆเค้าดูเร็วมาก อ่านผ่านๆ ใบรับรองนศ. จดหมายของธนาคาร แทบไม่อ่านเลย

        จากนั้นก็บอกผม Sorry แล้วยื่นใบปฏิเสธให้ผม

        ตอนนี้ที่เดาไว้ เหตุผลที่ไม่ได้
        1. ญาติที่โน่นเคยเป็นโรบินฮู้ด อาจโดนสงสัย
        2. ข้อมูลของพ่อ และธุรกิจไม่ชัดเจนพอ

        ไม่ได้เตรียมตัวไปคุยอังกฤษ แต่ก็คุยได้รู้เรื่อง ผมเข้าใจทุกคำถาม ตอบได้
        แต่ก็งงเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่ทำไมถึงขอให้ผมคุยอังกฤษ

        —————
        รบกวนคุณ govisa ช่วยวิเคราะห์ด้วยครับ ว่าทำไมไม่ได้
        แล้วช่วยแนะนำด้วยครับ ว่าควรเตรียมอะไรเพิ่มเติมให้เข้มแข็งที่สุด
        ผมกะจะเอาเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจและข้อมูลของพ่อไปเพิ่ม
        และจะให้ญาติผมที่เป็น citizen เขียนจดหมายไปอธิบายรายละเอียดดีไหมครับ
        หรือผมควรจะเขียนจดหมายชี้แจงส่วนของตัวเอง ว่าเรียนปี3แล้ว อีกปีเดียวจะจบ ยังไงก็ต้องกลับมาเรียน จะเปิดเทอมเดือนมิถุนา กลับมาก่อนหน้านั้นแน่นอน

        ช่วยแนะนำด้วยครับ จะไปลุ้นอีกรอบ
        คงมีโอกาสได้ไปแค่ช่วงนี้เท่านั้น ปีหน้าเรียบจบคงต้องหางานทำหรือหาที่เรียนต่อ คงไม่น่ามีเวลาว่างๆแล้ว

        จริงๆกลับมาทบทวนดูก็พบว่าสะเพร่าไปมาก น่าจะเตรียมตัวดีกว่านี้

        ข่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

      • govisa  On April 8, 2012 at 9:04 am

        น้อง Exempli คะ ที่เจ้าหน้าที่ให้น้องพูดภาษาอังกฤษ พี่สันนิษฐานว่า เพราะเจ้าหน้าที่เห็นน้องเป็นนักศึกษา น่าจะมีความสามารถในการฟังภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่งค่ะ และยังเป็นการทดสอบด้วยว่า ถ้าน้องจะเข้าไปเที่ยวและมีความจำเป็นต้องไปไหนเองคนเดียว จะช่วยเหลือตนเองได้ดีมากน้อยอย่างไรค่ะ

        ส่วนคำถามเกี่ยวกับญาติก็น่าจะเป็นประเด็นหนึ่ง พี่จึงเตือนน้องๆหลายคนว่า ถ้ามีโอกาสไดวีซ่าเข้าไปในสหรัฐอเมริกาแล้ว อย่าพยายามทำอะไรผิดกฎหมาย เช่น อยู่เกินกว่าเวลาที่อิมมิเกรชั่นกำหนดให้อยู่ เพราะนอกจากจะเป็นผลไม่ดีกับตนเองแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อยาติผู้ใกล้ชิดกับตัวเราด้วยค่ะ อันที่จริงแล้วถ้าญาติไม่ได้มีนามสกุลเดียวกับน้องก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึงเขาก็ได้คะ เพราะฝรั่งเขามีวัฒนธรรมในการนับญาติต่างจากของไทยอยู่ค่ะ และในส่วนที่เขาถามว่าไปทำอะไร ควรชี้แจงสั้นๆว่า ไปเป็นเพื่อนเดินทางกับคุณย่า คุณย่าอายุมากแล้ว แต่อยากกลับไปเที่ยวอเมริกาอีกครั้ง น้องจึงถือโอกาสไปเที่ยวด้วย ไม่ต้องอธิบายมากว่า ญาติเคยทำงานอยู่ที่โน่นและเกษียณแล้ว เพราะน้องไม่ใช่คุณย่า ถ้ากงสุลสัมภาษณ์คุณย่าๆจึงตอบตรงจุดนั้นค่ะ น้องต้องรู้จักเลี่ยง คิดก่อนตอบว่า คำตอบเราจะต้องไม่ไปเพิ่มความไม่ไว้วางใจให้กับกงสุลว่า เราจะไม่กลับประเทศไทยหรือไม่นะคะ เหตุการณ์มันผ่านไปแล้วอย่าไปคิดมาก แต่จงใช้เหตุการณ์นั้นเป็นบทเรียนและหาทางแก้ไขปัญหาแล้วกันนะคะ สิ่งที่น้องต้องทำเพิ่มคือ

        1. เมื่อแจ้งไปแล้วว่าจะไปพักบ้านญาติที่เคยเข้าไปในประเทศสหรัฐฯแบบโรบินฮู้ด ก็คงต้องตอบไปแบบเดิม ซึ่งขอแนะนำสำหรับคนที่เข้ามาอ่านคนอื่นๆว่า ถ้าญาติคนนั้นไม่ได้นามสกุลเดียวกับเรา อาจจะให้คำตอบแบบเลี่ยงไปว่า เป็นเพื่อนกับคุณย่าที่เราจะเดินทางไปพร้อมกันก็ได้ค่ะ
        2. ให้น้องแต่งจดหมายในนามของคุณพ่อคุณแม่ และให้คุณพ่อคุณแม่เซ้นต์ชื่อด้วย อธิบายว่า คุณพ่อคุณแม่มีอาชีพอะไร ขายอะไร มีรายรับต่อปีประมาณเท่าไร มีลูกกี่คน มีใครที่ยังเรียนหนังสืออยู่ การที่คุณพ่อคุณแม่มีภาระเรื่องลูกที่ต้องรับผิดชอบน้อยก็จะทำให้เงินในบัญชีถ้ามีน้อยก็จะดูเหมือนมีเงินไม่มากไม่น้อย มีฐานะไม่ลำบาก เพราะดูแลน้องคนเดียว แต่ถ้ามีลูก 2 คน ก็ยังดุไม่มีภาระมากนัก เพราะผู้ปกครองมีธุรกิจส่วนตัวด้วยกันทั้งคู่ ในเนื้อความจดหมาย คุณพ่ออาจกล่าวถึงคุณย่าว่า คุณย่าอยากจะกลับไปเที่ยวอเมริกา และถือโอกาส reunion กับเพื่อนรุ่นเดียวกับคุณย่า แต่คุณพ่อเป็นห่วงการเดินทางคนเดียวของคุณย่า เพราะคุณย่าอายุมากแล้ว จึงอยากให้น้องไปเป็นเพื่อนร่วมเดินทางด้วยค่ะ ส่วนน้องเป็นนักศึกษาปีที่ 3 และจะขึ้นชั้นเรียนปีที่ 4 ในเดือนมิถุนายน 2555 คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้น้องเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทยแน่นอนค่ะ ก่อนจบจดหมายน้องควรจะสรุปเงินที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารทั้งของฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ว่า มี total amount คนละเท่าไรค่ะ การนำสมุดบัญชีไปให้เขาดูหลายเล่มอาจจะดูว่าทำให้เรามีสถานภาพทางการเงินที่ดูดี แต่ถ้ากงสุลท่านดูแล้วไม่เข้าใจ กลับสร้างปัญหาให้เรามากกว่านะคะ เพราะส่วนใหญ่เขาจะดูบรรทัดสุดท้ายกันว่า มียอดเงินเท่าไร และอาจจะมีการดูภาพรวมใหญ่ๆว่า ในช่วงที่ผ่านมามีเงินเข้า-ออกหมุนเวียนเป็นเลขกี่หลัก ดูน่าเชื่อถือไหมนะคะ พี่แนะนำให้เลือกบุ๊คเล่มที่มีตัวเลขเยอะหน่อยสักเล่มสองเล่มก็พอแล้วค่ะ ก่อนจบบรรทัดสุดท้ายบอกด้วยว่า คุณพ่อคุณแม่ยินดีสนับสนุนให้น้องไปเที่ยวในสหรัฐฯ เพื่อจะได้เป็นแรงจูงใจให้อยากเรียนต่อปริญญาโท หลังจากปริญญาตรีที่เมืองไทยแล้วก็ได้นะคะ และอย่าลืมเอาทะเบียนการค้าของคุณพ่อไปด้วยค่ะ
        3. จดหมายที่น้องจะเขียนในนามของน้อง ก็คงพูดว่า น้องเคยมีวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเคยมีโอกาสไปเที่ยวกี่ครั้ง น้องกลับเมืองไทยทุกครั้งหลังจากเที่ยวเสร็จ ครั้งนี้จะไปเที่ยวในรัฐที่ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เช่น น้องวางแผนจะไปเที่ยวชมสถานที่ชืออะไรบ้างเป็นต้น ที่เหลือก้ต้องดูแลคุณย่าบ้างเวลาท่านไปซื้อของที่ไหนก็ตามค่ะ การไปเที่ยวของน้องไม่น่าจะเกินหนึ่งเดือน เพราะต้องดูวงเงินในบัญชีธนาคารที่คุณพ่อคุณแม่น้องมีด้วยค่ะ เป็นต้นว่า มีหนึ่งล้านอาจจะอยู่เที่ยวได้นานหนึ่งเดือน แต่ถ้ามีประมาณห้าแสน น่าจะขอเข้าไปเที่ยวประมาณ 10-15 วันพอแล้วค่ะ

      • Exempli  On April 9, 2012 at 1:18 am

        ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

        ผมไปโพสถามหลายๆที่ แต่ก็ไม่ค่อยได้คำตอบที่ละเอียด
        โชคดีจริงๆที่ได้มาเจอเว็ปพี่

        ขอบคุณมากๆครับ

      • govisa  On April 9, 2012 at 8:15 am

        น้อง Exempli คะ สอบสัมภาษณ์รอบใหม่ขอให้ตั้งใจเตรียมเอกสารไปให้ครบ อย่าคิดว่า คนอื่นเขาโพสต์กันว่า อันโน้นอันนี้ไม่จำเป็น พี่ขอให้น้องคิดว่า เตรียมตัวไปให้ดีและพร้อมที่สุด ถ้าไม่ได้รับวีซ่า จะได้ไม่เสียใจมาก เพราะถือว่า น้องได้เตรียมตัวมาอย่างดีที่สุดแล้ว เหมือนเราแต่งตัวไป present ผลงานก่อนเรียนจบนะคะ พี่ขอให้น้องโชคดี ได้ผลอย่างไร เขียนมาให้อ่่านกันบ้างนะคะ

      • Exempli  On April 23, 2012 at 12:24 pm

        พี่ Govisa ครับ ไปสัมภาษณ์รอบสองมาแล้วครับ
        ได้วีซ่าแล้วครับ

        ผมเตรียมเอกสารไปเต็มที่ มีจดหมายเขียนไปชี้แจง
        ครั้งนี้เค้าำไม่ถามเลยว่าจะสัมภาษณ์ภาษาอะไร
        พอเข้าไปเจอท่านกงสุลเค้าก็พูดภาษาไทยใส่เราเลย
        คุยแป๊ปเดียว ประมาณ 2-3 นาที เค้าก็ตกลงให้เลย ดีใจมากครับ

        ขอบคุณพี่มากจริงๆครับ สำหรับคำแนะนำ

        ขอบคุณครับ.

      • govisa  On April 23, 2012 at 9:57 pm

        ดีใจด้วยค่ะ น้อง Exempli แล้วเที่ยวนี้ท่่านกงสุลถามคำถาม2-3 นาทีพอเฉลยได้ไหมคะว่า ท่านถามอะไรบ้างคะ อย่างไรก็ตาม ขอให้ไปเที่ยวอเมริกากับคุณย่าให้สนุกค่ะ

      • Exempli  On April 23, 2012 at 11:25 pm

        ครับ
        คำถามคล้ายที่เจอครั้งแรกเลยครับ แต่ถามน้อยกว่าเดิมอีก
        กงสุลคนละท่านกับครั้งที่แล้วครับ

        ถามว่า
        1. จะไปทำอะไร
        2. พ่อแม่(สปอนเซอร์) ทำอาชีพอะไร
        3. คนที่จะไปพักด้วยเป็นอะไรกัน

        แค่นี้เองครับ จากนั้นเค้าก็ขอดูเอกสาร
        ของผมคราวนี้เตรียมไปชุดใหญ่พอสมควร
        เค้าเปิดดูคร่าวๆทั่วๆ และก็ตกลงให้วีซ่าผมเลย ใช้เวลาแป๊ปเดียวครับ

        ขอขอบคุณพี่อีกครั้งครับ.

      • govisa  On April 23, 2012 at 11:57 pm

        ขอบคุณค่ะน้อง Exempli ที่กรุณาแชร์ข้อมูลให้พี่ๆ น้องๆ และท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่าน จะได้เก็บไว้ใช้เป็นบทเรียนที่ปรับให้เหมาะในการเตรียมตัวของแต่ละท่านค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^_^

      • Exempli  On April 25, 2012 at 12:17 am

        ขอรบกวนพี่อีกครั้งครับ

        พอจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองบ้างมั้ยครับ

        มีของอะไรที่ไม่ควรพกไปบ้างรึป่าวครับ

        เราแค้ไปเที่ยวนี้ไม่ต้องพกเอกสารอื่นๆไปเลยใช่มั้ยครับ
        (มีแค่พาสปอร์ทกับตั๋วขากลับก็พอ)

        หรือมีปัญหาอะไรที่คาดว่าจะพบ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ

        ขอบคุณมากครับ.

      • govisa  On April 25, 2012 at 5:44 am

        น้อง Exempli ลองเข้าไปอ่านที่เขียนไว้ใน blog นี้ภายใต้หัวข้อ Pre-departure เช่น เรื่อง ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา , สิ่งของที่นำเข้าได้และไม่ควรนำเข้าสหรัฐฯ หรือจะเข้าไปดูที่ 2 เว็บไซต์นี้คือ http://www.cbp.gov/ และ http://www.tsa.gov/travelers/index.shtm เป็นต้นค่ะ ส่วนคำถามที่มักจะถูกถามกันคือ
        1. เดินทางเข้าสหรัฐมาทำอะไร
        2. จะไปพักที่ไหน ตอบให้ตรงกับที่น้องกรอกใน I-94 ซึ่งแอร์โฮสเตสจะแจกให้บนเครื่อง เช่นคตอบว่า พักบ้านเพื่อนคุณย่า
        3. จะมาสักกี่วัน
        4. มีเงินติดตัวเดินทางมาเท่าไร เช่นตอบว่ามีเงินสดเท่าไรแต่ว่าเราก็มีบัตรเครดิตมาด้วย
        5. จะไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือมีญาติไหม เป็นคำถามที่อาจจะเจอได้ค่ะ ส่วน 4 คำถามแรกเป็นคำถามหลักๆทั่วไปค่ะ
        อย่าตอบอะไรที่เสี่ยงๆ เช่น จะมาอยู่นานสามเดือน ดูเหมือนน้องเป็นคนที่ไม่มีงานทำที่เมืองไทย เขาอาจคิดเป็นอย่างอื่นได้ว่า จะไปหาทางอยู่บ้านเมืองเขาหรือเปล่านะคะ อย่างคุณย่าอาจตอบได้ เพราะท่านอายุมากแล้ว คงไม่ต้องกลับไปทำงาน ส่วนของน้องอาจเป็นลักษณะลางานเพื่อเข้าไปท่องเที่ยวพักผ่อนสักระยะหนึ่งเท่านั้น ดูความเป็นเหตุเป็นผลในการตอบคำถามด้วยค่ะไม่ยากเหมือนตอบคำถามกงสุลค่ะ โชคดีในการเดินทางนะคะ

  • blue  On April 7, 2012 at 10:24 pm

    ้ขอสอบถามคุณ govisa ค่ะ
    DS-160 มันมีวันหมดอายุไหมค่ะ
    เรากรอกไว้ตั้งแต่เดือนที่แ้ล้ว ตอนนี้ยังหาวันนัดสัมภาษณ์ไม่ได้เลยค่ะ
    มีคนบอกว่ามันมีอายุ 30 วัน ท่าเป็นแบบนั้นจริง 16 เดือนนี้ DS-160 เราก็จะหมดอายุ
    แล้วแบบนี้ เรา ต้องกรอก DS-160 ใหม่แล้วก็ ซื้อพินใหม่ด้วยใช่ไหมค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On April 7, 2012 at 11:03 pm

      น้อง Blue คะ ตอนที่กรอกฟอร์ม DS-160 ยังไม่เสร็จดี น้องจะเห็นมีข้อความเขียนไว้ว่า ฟอร์มนี้จะหมดอายุในอีกสองปีข้างหน้า ดังตัวอย่างพี่ลองกรอกฟอร์ม DS-160 วันนี้ ฟอร์มจะระบุวันที่จะหมดอายุเป็น 04/30/2014
      https://ceac.state.gov/GENNIV/General/complete/complete_personal.aspx?node=Personal1
      พี่คิดว่า น้องอย่ากังวลไปเลยค่ะ สิ่งที่จะต้องกังวลว่า มีวันหมดอายุคือพินที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์มีอายุ 3 เดือน ถ้าภายในสามเดือนยังหาวันที่จองนัดสัมภาษณ์ไม่ได้ น้องต้องซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ค่ะ ส่วนฟอร์ม DS -160 มีน้องบางคนกรอกเสร็จเรียบร้อยนัดวันสัมภาษณ์เสร็จพบว่า ตนเองกรอกข้อมูลบางอย่างผิด ก็ยังต้องกรอกใหม่ แล้วนำทั้ง Ds-160 ใบใหม่และใบเก่าเข้าไปในสถานทูตด้วยค่ะ

  • blue  On April 8, 2012 at 1:22 am

    ขอบคุณมากเลยค่ะ กังวลมาก ใจจริงเจอ วันนัดสัมภาษณืว่างทุกวันที่เข้าไปดู แต่ไม่กล้ากด
    เพราะกลัว DS จะหมดอายุ 555 พลาดเลยอ่ะ TwT

    • govisa  On April 8, 2012 at 8:16 am

      น้อง Blue อย่าลังเลใจเลยค่ะ ยิ่งเข้าเดือนมิถุนายน คิวจะยิ่งแน่นมากกว่านี้นะคะ เพราะหลายสถานที่เรียนในอเมริกาจะทยอยส่ง I-20 กลับมาให้นักเรียนนักศึกษา เพื่อเตรียมตัวขอวีซ่านักเรียนกันแล้วค่ะ เท่าที่เคยสัมผัสมานานหลายปีแล้ว ใครที่จะขอวีซ่านักท่องเที่ยว จะหาคิววีซ่านักท่องเที่ยวว่างยากมากก็ในช่วงปลายมิถุนายนต่อต้นเดือนสิงหาคมค่ะ

      • BJ  On April 22, 2012 at 8:15 am

        คือได้กรอก DS160 เรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อพินและนัดสัมภาษณ์ อยากจะแก้ไขเปลี่ยนวันเดินทางและจะใส่ชื่อที่อยู่เจ้านายเก่าเป็นผู้หญิง(คนเมกัน)เป็นบุคคลอ้างอิงที่อาศัยอยู่ในเมกา ไม่ทราบว่าต้องกรอกใหม่เลยใช่ไหมคะ กลัวข้อมูลมันจะซ้ำซ้อนคะ และทางสหรัฐจะมองว่ามีการบิดเบือนข้อมูลรึป่าว

      • govisa  On April 22, 2012 at 8:33 pm

        ถูกต้องค่ะ น้อง BJ กรอก DS-160 ใหม่ เพราะน้อง submit ไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ submit จึงจะแก้ไขได้ค่ะ ส่วนเรื่องข้อมูลบิดเบือนไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นนะคะ เพราะเราอาจกรอกผิดได้ค่ะ และถ้ายังไม่ได้นัดก็ยิ่งเป็นการดี เพราะจะได้ใช้หมายเลข DS-160 ใหม่ไปเลยค่ะ

  • poring  On April 23, 2012 at 7:08 pm

    สวัสดีค่ะ ขอความรบกวนช่วยตอบคำถามหน่อยนะคะ ตอนนี้หนูได้ทำการจองวันการสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว วันที่ 3พค นี้ แต่ติดปัญหาที่ว่าต้องการจะแก้ไข DS-160 เนื่องจากว่าในการกรอกครั้งแรก หนูโกหกเรื่องไม่มีพี่สาวอาศัยที่อเมริกาอะค่ะ พี่สาวไปเรียนได้1ปีค่ะ ลงเรียน collage เดียวกัน และจะไปพักบ้านพี่อะค่ะ (ตอนแรกได้คำแนะนำว่า อย่าบอกว่ามีญาติอาศัยที่นู่น จะผ่านง่ายT^T) ปรากฏว่าหลังจากที่คอนเฟิร์มไป พี่สาวเพิ่งจะมาบอกว่าควรกรอกตามความจริง เพราะถ้าเค้าเช็คนามสกุลกับcollage ก็จับได้อะค่ะ …ตอนนี้พยายามกลับไปแก้ไข ช่องที่ให้ใส่หมายถึง DS-160 อันใหม่ ก็เป็นช่องเทาๆพิมพ์ไม่ได้อะค่ะ *****จึงจะถามว่าถ้าทำอันใหม่แล้วปรินท์ไปให้เค้าดู มันจะดูว่าเราตั้งใจบิดเบือนมั๊ยคะ เพราะเป็นข้อมูลที่สำคัญเลย หรือว่าจะปล่อยผ่านไป แล้วไปวัดดวงดีคะ T^T

    • govisa  On April 23, 2012 at 10:22 pm

      น้อง Poring คะ ถ้าเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไม่กล่าวถึงพี่สาวค่ะ เมื่อแก้ไข DS-160 อันเดิมไม่ได้ ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่แล้ว Print DS-160 Confirmation หมายเลขใหม่นำไปแสดงพร้อมหมายเลข DS-160 Confirmation Number อันเดิมค่ะ อย่าใช้คำพูดรุนแรงว่า น้องโกหกเลยนะคะ เอาเป็นว่า ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ น้องฟังคนอื่นเล่าและอ่านมากจนทำให้กังวลมาก และคิดว่า ถ้าเลือกไม่บอกว่ามีพี่สาวกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกาจะดูดี แต่กรณีของน้องนี้ไม่บอก ไม่ได้ก็เท่านั้นเองนะคะ อย่างลงโทษตัวเองมากไปเลยค่ะ ไปเตรียมเอกสารให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเตรียมตัวตอบคำถามด้วยการตั้งใจฟังคำถามอย่างมีสมาธิ และตั้งใจตอบเต็มที่ว่า น้องตั้งใจจะไปทำอะไรนะคะ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยค่ะ โชคดีค่ะ

      • poring  On April 24, 2012 at 12:22 am

        ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและคำอวยพรมากๆค่ะ ^^ ขอถามเพิ่มเติมค่ะ ถ้าหนูบอกเหตุผลที่แก้ DS-160 อันใหม่ว่า ตอนแรกเข้าใจคำถามผิดว่า “ถามถึงญาติที่เป็น citizen หรืออาศัยอยู่ที่นั่นมานาน” ก็เลยไม่ได้กรอก เพราะว่าพี่สาวถือวีซ่านักเรียน เพิ่งไปอยู่ได้ปีเดียว ไม่ได้ permanent แล้วพี่ก็จะกลับมาไทยในปีนี้อะค่ะ เพราะเหลืออีกสี่เดือนพี่ก็จะจบคอร์สเรียน(อันนี้สามารถตรวจสอบกับทางมหาลัยได้ค่ะ) หนูเลยไม่ได้กรอกข้อมูลญาติลงไป … เหตุผลประมาณนี้พี่ว่าเพียงพอมั๊ยอะคะ ขอบคุณมากๆอีกทีค่ะ ^^

      • govisa  On April 24, 2012 at 5:36 am

        ใช้ได้ค่ะน้อง Poring ถ้ากงสุลท่านถามน้องนะคะ แต่ถ้าไม่ได้ถาม อย่าไปพูดถึงนะคะ เหมือนกับว่าอะไรที่ท่านไม่สงสัยอย่าไปจุดให้สงสัยค่ะ

  • Fozetell  On April 23, 2012 at 11:36 pm

    หนูจะต้องไปสัมภาษวันที่25นี้แล้วค่่ะ แต่อยากทราบว่าเอกสารที่ต้องเอาไปมี่อะไรบ้างค่่ะ ขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวไปเยี่ยมญาติกะคุณป้าค่่ะ

    • govisa  On April 24, 2012 at 12:09 am

      วีซ่านักท่องเที่ยวมีเอกสารดังทั่วๆไปดังนี้คือ
      1. ใบยืนยันหมายเลข DS-160
      2. หนังสือเดินทาง
      3. ค่าธรรมเนียมวีซ่าจ่ายที่ไปรษณีย์ถ้าน้องจ่ายตอนนี้คือ 5,120 บาท ถ้าจ่ายก่อนหน้า 13 เมษายนคือ 4,480 บาทโดยประมาณ
      4. จดหมายรับรองการทำงาน(ถ้าทำงานแล้ว) ถ้ายังเรียนหนังสืออยู่ จดหมายรับรองความเป็นนักศึกษาและ transcript
      5. จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของตนเองและบุ๊คบัญชีเงินฝาก(ถ้าทำงานแล้ว) แต่ถ้าบัญชีมีน้อย นำจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของผู้ปกครองไปเพิ่มด้วยได้ หากยังเรียนอยู่ให้นำจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของผู้ปกครองและบัญชีตัวจริงไปด้วยค่ะ ถ้าผู้ปกครองทำธุรกิจส่วนตัว นำทะเบียนการค้าไปด้วย แต่ถ้าท่านทำงานเป็นลูกจ้าง มีจดหมายรับรองเงินเดือนผู้ปกครองไปด้วยก็ดี น้องจะได้ไม่ต้องแอธิบายมากว่า ผู้ปกครองทำอาชีพอะไร มีรายรับเท่าไรค่ะ
      6. ใบยืนยันการนัดหมาย จะนำใบที่ซื้อพินนัดถ้าตัดจากบัตรเครดิตก็คือ print เก็บไว้ไปด้วยก็ดีค่ะ ไม่ได้ print ไว้ก็บอกไปว่า ไม่ได้นำมาด้วยค่ะ
      7. ถ้าน้องสามารถพิมพ์รายการว่า แผนการเดินทางท่องเที่ยวของน้องจะไปที่ไหนบ้างก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ตอบตะกุกตะกักว่า จะไปไหนบ้างค่ะ

  • poring  On April 30, 2012 at 6:28 pm

    ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ ^^ แต่คือพี่หมายถึงให้หนูทำฉบับที่สองไป แต่ว่าอย่าเพิ่งยื่นให้ท่าน จนกว่าท่านจะสงสัยหรือเปล่าคะ หรือว่าให้แนบฉบับที่สองไปกับเอกสารให้ท่านกงสุลตรวจตั้งแต่แรกเลยค่ะ

    • govisa  On April 30, 2012 at 9:50 pm

      น้อง Poring คะ พี่หมายความว่า ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่ และเพิ่มเติมชื่อพี่สาวลงได้วยเพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ น้องเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ตรวจเอกสารในตอนแรกที่น้อง Poring เดินเข้าไปในสถานทูตอาจจะถามว่า ทำไมน้องถึงต้องมี DS-160 สองหมายเลข น้องค่อยตอบว่า น้องลืมใสชื่อพี่สาวไปค่ะ หลังจากนั้นเมื่อไปยืนต่อหน้ากงสุล ขึ้นอยู่กับว่า ท่านกงสุลจะมีคำถามพาดพิงไปถึงพี่สาวไหม เป็นต้นว่า ท่านกงสุลอาจจะถาม ตอนนี้พี่สาวกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเรียนอยู่ขอให้น้องสอบถามชื่อสถานที่เรียนจากพี่สาว เผื่อจะได้มีคำตอบที่ชัดเจนถูกต้องให้ท่านกงสุลได้ทราบค่ะ ถ้าท่านถามว่า พี่สาวจะกลับไทยเมื่อไร ค่อยตอบเดือนที่พี่สาวจะกลับให้ท่านทราบค่ะ รู้ผลวันที่ 3 พฤษภาคมแล้วส่งข่าวกันบ้างนะคะ โชคดีค่ะ

      • poring  On May 6, 2012 at 1:06 pm

        มารายงานผลค่ะ ผ่านแล้วนะคะ ^^ เฮ้อ โล่งอกเลยค่ะ…ต้องขอบคุณคำแนะนำของ Govisa มากๆเลย ช่วยได้เยอะจริงๆ ขอแชร์ประสบการณ์นะคะ สำหรับใครที่ต้องการแก้เอกสาร DS-160 หลังจองไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งตกใจให้ทำอันใหม่แล้ว นำใบconfirm อันใหม่ไปยื่นกับพนักงานเก็บเอกสารคนไทยได้เลยค่ะ ไม่มีตรวจสอบหรือถามอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ ขอแค่เราพูดความจริงๆนะคะ ขอบคุณ Govisa อีกทีนะคะ ^^

      • govisa  On May 6, 2012 at 1:37 pm

        ขอบคุณค่ะน้อง Poring พี่ดีใจด้วยที่น้องสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่านแล้ว ท่านกงสุลถามคำถามน้องมากไหมคะ พอบอกคร่าวๆได้ไหมว่า ท่านถามอะไรบ้างเผื่อเป็นประโยชน์กับน้องท่านอื่นค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จในการไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วยค่ะ

      • poring  On May 6, 2012 at 2:24 pm

        ค่ะ วันนั้นราบรื่นในทุกขั้นตอน ผ่านไปแบบงงๆ เหมือนกันค่ะ ^^” วันที่ไปได้เข้าไปในนั้นประมาณ 9 โมง แต่นั่งรอประมาณ 10 โมงครึ่งถึงจะได้สัมภาษณ์

        ท่านกงสุล:สวัสดีครับ จะไปทำอะไรที่อเมริกาครับ (ท่านพูดภาษาไทย)
        poring: จะไปเรียน Intensive English course ที่… (ตอบเป็นภาษาอังกฤษไป คิดว่าถ้าเราพูดได้หน่อย ก็พูดกับท่านไปเลยค่ะ)

        …. แล้วก็สนทนาอังกฤษกันตลอดค่ะ
        ท่านกงสุล: ไปเรียน 1 ปีหรอ
        poring: ค่ะ
        ท่านกงสุล: แต่ในนี้ระบุว่า 2 ปี (ชี้ที่ใบ i20 ค่ะ)
        poring: (ตกใจนิดนึงค่ะ ไม่ได้เตรียมมา 55) เริ่มต้นคิดว่า 1 ปีเพียงพอแล้วสำหรับฉัน แต่ถ้าฉันสอบไม่ผ่าน level ก็สามารถเรียนต่อได้อีก 1 ปี

        ท่านกงสุล: มีแพลนหลังจากกลับมาไหม
        poring: ค่ะ อยากลองสมัครเป็น cabin crew

        ท่านกงสุล : คุณเรียนจบจาก.. สาขาอะไร (ดูใบ transcript เราค่ะ)
        poring: computer science

        ท่านกงสุล: มีพี่น้องอยู่ที่อเมริกาไหม
        poring: มีค่ะ พี่สาว

        ท่านกงสุล: อยู่ที่ไหน
        poring: เท็กซัสค่ะ เรียนที่มหาลัยเดียวกัน

        ท่านกงสุล: พี่สาวไปอยู่นานหรือยังครับ
        poring: 1 ปีค่ะ

        ท่านกงสุล: ใครเป็น sponser ส่งพี่สาวไปเรียนครับ
        poring: (ฟังผิดค่ะ ตอบsponser ของตัวเองที่เป็นน้า ท่านเลยย้ำว่าพี่สาวอีกที) คุณแม่ค่ะ
        ท่านกงสุล: แสดงว่าคุณแม่รักพี่สาวมากกว่าคุณหรอ ^^
        poring: (ขำค่ะ ท่านตลกดี) ไม่ใช่ค่ะ น้าต้องการช่วยคุณแม่ แม่มีเงินไม่พอที่จะส่งฉัน

        ท่านกงสุล: น้าทำอาชีพอะไร
        poring: ครู แต่ตอนนี้ early retire แล้ว

        ท่านกงสุล: ขอดูเอกสารของน้าหน่อยครับ
        poring: ยื่นให้ทั้ง ใบsponser statement บัตรข้าราชการ ใบสมรส

        ท่านก็ตรวจสอบสักพักค่ะ ให้แสกนนิ้วโป้งขวา คืนเอกสารของน้า ก็เสร็จสิ้้นค่ะ

        โดยภาพรวมเป็นการสัมภาษณ์ที่ไม่เครียดเลยค่ะ ท่านอารมณ์ดีค่ะ ^^
        ฝากให้คนที่จะไปสัมภาษณ์ เตรียมตัวให้ดี อย่าเครียดค่ะ เคสของดิฉัน มีแต่คนว่าโหด เพราะน้าเป็นสปอนเซอร์ และมีพี่อยู่ที่่นั่น แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
        ที่สำคัญ อย่าลืมกินข้าวเช้านะคะ เพราะกว่าจะได้สัมภาษณ์ก็จะเที่ยงแล้วเดี่๋ยวจะหิวค่ะ
        โชคดีค่ะ

      • govisa  On May 6, 2012 at 8:58 pm

        ขอบคุณน้อง Poring นะคะที่กรุณาแชร์ประสบการณ์ อ่านแล้วรู้สึกอย่างเดียวกับน้อง คือ ท่านกงสุลดูใจดีและไม่น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนกลัวค่ะ ถ้าน้องๆทุกคนตั้งใจเตรียมเอกสารกันไปให้ครบพร้อม และทราบแผนการที่เราจะไปอย่างแน่ชัด พี่คิดว่า ทุกคนสามารถผ่านวีซ่าได้ค่ะ ขอให้น้องเดินทางถึง Texas โดยปลอดภัยและกลับมาสอบเป็น cabin crew ได้สมใจปรารถนาค่ะ

  • Boeing  On May 10, 2012 at 2:24 am

    สวัสดีคะ รบกวนสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลที่ต้องกรอกในฟอร์ม DS-160 เนื่องจากจะยื่นวีซ่าแบบ B2 เพื่อไปท่องเที่ยว แล้วลองโหลดตัวอย่างคู่มือการกรอกแบบฟอร์มมาจากเวปของสถานฑูตซึ่งจะมีระบุไว้ว่าให้กรอกข้อมูลว่าเราเคยไปต่างประเทศในช่วงห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ ถ้ามีให้ระบุด้วย……. แต่พอเริ่มไปกรอกเองจริงๆ กลับไม่เห็นมีคำถามดังกล่าวให้กรอกเลยคะ เลยอยากรู้ว่าแบบฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงคำถามบางส่วนไปแล้วหรือว่าเรากรอกผิดตรงไหนรึเปล่าคะ งงมากเลย

    (พอดีว่าเคยไป ญี่ปุ่นและอังกฤษมาก่อนคะ เลยอยากให้มีคำถามข้อนี้อยู่ด้วย เพราะแอบหวังเล็กๆ ว่ามันจะช่วยให้วีซ่าผ่านง่ายขึ้น ^^)

    ขอบคุณคะ

    • govisa  On May 10, 2012 at 5:51 am

      น้อง Boeing คะ คำถามที่ถามมาจะอยู่หลังคำถามที่ถามเกี่ยวกับการศึกษา ประมาณคำถามที่ถามว่า did you have your studies beyond secondary institutions? อะไรทำนองนี้ ถ้าตอบว่า No จะไม่พบคำถามเกี่ยวกับการไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างค่ะ แต่บางครั่งที่้่เคยมีประสบการณ์ในการกรอกให้เพื่อนด้วยการตอบว่า yes และใส่รายละเอียดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่จบปริญญาตรีไป ก็ไม่พบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่เคยไปเที่ยว ตรงจุดนี้อย่าไปกังวลเลยค่ะ แนะนำให้นำหนังสือเดินทางทุกเล่มที่มีไปด้วยค่ะ เมื่อเปิดหนังสือเดินทางจะเห็นวีซ่าที่มีและเคยใช้เข้าประเทศอื่นค่ะ

  • Opel  On May 19, 2012 at 4:54 pm

    เข้ามาขอบคุณเว็บไซต์นี้นะคะ ไม่เคยกรอกคำร้องแบบออนไลน์มาก่อน วีซ่าเดิมที่มีเป็นรุ่นเก่าตั้งแต่ปี95 ช่วยได้มากเลยค่ะรวมทั้งเรื่องการจองวันนัดสัมภาษณ์ด้วย อยากจะขอแชร์ประสบการณ์นะคะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ขอวีซ่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน และครั้งล่าสุด สิ่งที่ทำเหมือนเดิมคือตอบทุกอย่างตามความจริง ไม่โกหกรวมทั้งมีหลักฐานยืนยันว่าเราต้องกลับมาแน่นอน ตัวเลขในบัญชีก็ไม่สำคัญนักค่ะ เพราะขอครั้งแรกมีเงินอยู่ไม่มาก ส่วนครั้งนี้ กงสุลไม่ขอดูเลย อันนี้ในกรณีวีซ่าท่องเที่ยวนะคะ ถ้าป็นวีซ่านักเรียนเรื่องค่าใช้จ่ายจำเป็นแน่นอนค่ะ ขอให้ผู้ที่กำลังจะขอวีซ่าทำตามขั้นตอนทุกอย่างจะทราบว่าไม่ยากจนเกินไปค่ะ แต่ใช้เวลาเยอะพอสมควร อีกนิดเรื่องการจองคิวนัดสัมภาษณ์ รอบแรกได้ 18มิถุนายน รอช่วงกลางคืนราวสี่ทุ่มไปแล้ว ก็มีสีเขียวหลายวันทีเดียว เลยได้วันที่10 พ.ค. มาแทน และสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    • govisa  On May 19, 2012 at 7:45 pm

      น้อง Opel คะ ดีใจด้วยค่ะที่วีซ่าผ่านแล้ว และขอขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำที่มีให้น้องๆท่านอื่นเพิ่มเติมด้วยนะคะ พี่ดีใจที่พี่ได้มีโอกาสช่วยน้องๆที่ได้เข้ามาอ่านบล็อกนี้ค่ะ การขอวีซ่าประเทศอื่นๆก็ตาม ถ้าน้องๆพยายามทำตามที่เว็บไซต์สถานทูตต่างๆแนะนำไว้ น้องๆจะรู้สึกว่า น้องพอทำเองได้และไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรือกลัวว่าจะกรอกเองไม่ได้ หรือ เตรียมเอกสารไม่ถูกค่ะ ขอให้น้องเดินทางปลอดภัยและเที่ยวให้สนุกนะคะ

  • dizzy  On May 22, 2012 at 5:23 pm

    พี่ค่ะถ้าเราจองวีซ่าเรียบร้อยแล้วจ่ายเงินที่ ไปรษณีย์ pay at postเรียบร้อยแล้วต้องเข้าไปconfirmครั้งสุดท้ายที่website thailand-us visa servise อีกไหมค่ะ เพราะตอนนี้เข้า web ไม่ได้เลย

    • govisa  On May 22, 2012 at 8:50 pm

      ไม่ต้อวทำอะไรแล้วค่ะน้อง dizzy โชคดีนะคะ อย่าลืมส่งข่าวมาให้ทราบด้วยนะคะว้า วีซ่าผ่านแล้วหรือยังค่ะ

  • nichakul  On May 26, 2012 at 11:45 pm

    ถ้าหากว่าสามารถแก้ไขเลข confirmation number ได้อยู่ก็ไม่ต้อง print อันเก่าไปให้สถานทูตใช่ปาวคะ

    • govisa  On May 27, 2012 at 1:07 pm

      ใช่ค่ะ น้อง Nichakul

      • nichakul  On May 27, 2012 at 2:03 pm

        ขอถามอีกทีนะคะ คือว่า จะไปอเมริกาก่อนไป exchange ประมาณ 1 เดือน และหลังจาก exchange. อึกประมาณ 2 อาทิตย์ อยากทราบว่า ตรง length of stay in USA อ่ะค่ะ ต้องใส่ กี่วันอ่อคะ

        ขอบคุนค่ะ 🙂

      • govisa  On May 28, 2012 at 5:37 am

        น้อง Nichakul คะ พี่ไม่เข้าใจคำถามของชัดเจนนัก นัองถามว่า หลังจาก Exchange อีกประมาณ 2 อาทิตย์ หมายความว่าอย่างไรคะ พี่สันนิษฐานว่า น้องเข้าไปครั้งแรกด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ต่อมาจะเข้าด้วยวีซ่าไปโครงการแลกเปลี่ยน อาจจะเป็นไป work and travel ของเด็กอินเตอร์ หรือ โครงการแลกเปลี่ยนลักษณะอื่นๆว่า ควรมีระยะห่างของเวลาเข้าประเทศต่างกันเท่าไรใช่ไหมคะ ที่จริงไม่ได้มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว อยู่ที่เหตุผลมากกว่า เวลาที่น้องตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ(ตม.) น้องต้องอธิบายได้ว่า เข้ามาในประเทศสหรัฐฯด้วยระยะเวลาที่ห่างกันกับเวลาที่ออกไปจากประเทศสหรัฐเพียงสองอาทิตย์เพราะเหตุใดค่ะ ส่วนมากนักธุรกิจที่ต้องมีการบินเข้าออกบ่อยเขาอาจจะมีจดหมายเชิญประขุม หรือเชิญไปดูงานชี้แจงกับตม.สหรัฐฯ ในกรณีที่ถามมา จะชี้แจงได้ไหมว่า ตอนไปเที่ยวเป็นการไปเที่ยวแบบรวมญาติ จำเป็นต้องไปกับญาติๆ ครั้งที่ 2 เป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่สมัครไว้นานแล้วค่ะ

      • nichakul  On May 28, 2012 at 6:47 am

        ขอโทษทีคะพอดีหนูพิมตกไปคะ คือหนูจะไปเที่ยวอเมริกาก่อน 1 เดือรน แล้วไปเรียนแลกเปลี่ยนที่แคนาดาคะ แล้วหลังจากนั้นอยากกลับไปเที่ยวอเมริกาอีกรอบก่อนจะกลับ แล้วจะจองตั๋วเครื่องบินกลับจากอเมริกาเลยอ่ะคะ ยังงี้ต้องใส่ length of stay เท่าไหร่หรอคะ

      • nichakul  On May 28, 2012 at 6:47 am

        ขอโทษทีคะพอดีหนูพิมตกไปคะ คือหนูจะไปเที่ยวอเมริกาก่อน 1 เดือรน แล้วไปเรียนแลกเปลี่ยนที่แคนาดาคะ แล้วหลังจากนั้นอยากกลับไปเที่ยวอเมริกาอีกรอบก่อนจะกลับ แล้วจะจองตั๋วเครื่องบินกลับจากอเมริกาเลยอ่ะคะ ยังงี้ต้องใส่ length of stay เท่าไหร่หรอคะ….ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

      • govisa  On May 28, 2012 at 9:44 pm

        น้อง Nichakul คะ ครั้งแรกที่น้องจะแวะเที่ยวอเมริกานาน 1 เดือนนั้น น้องคงกรอกในฟอร์ม DS-160 ว่า น้องจะเข้าไปเที่ยวอเมริกาวันที่เท่าไร และกะว่าจะอยู่นานกี่วัน น้องสามารถใส่ 1 เดือนได้ถ้า statement ของ sponsor น้องมีมากเช่นมีประมาณหลักแสนแก่ถึงใกล้หลักหนึ่งล้านบาท เมื่อน้องผ่านการสัมภาษณ์วีซ่า น้องจะได้วีซ่าที่มีอายุนานประมาณ 5 ปีก่อน แต่ก็มีหลายๆคนที่ขอวีซ่านักท่องเที่ยวครั้งแรกผ่านได้วีว่าที่มีอายุนาน 10 ปีเลยค่ะ เมื่อน้องไปเรียนแลกเปลี่ยนที่แคนาดา พี่ไม่ทราบว่าไปนานแค่ไหน สมมติว่าไปนาน 1 ปี หลังจากเสร็จสิ้นโครงการแลกเปลี่ยน น้องก็มีสิทธิ์แวะเที่ยวอเมริกาได้อีกครั้งก่อนกลับบ้านที่ไทยค่ะ ครั้งที่สองนี้น้องไม่ต้องขอวีซ่าใหม่แล้วจึงไม่มีเรื่องระเวลาที่อยู่ในสหรัฐนานเท่าไรที่น้องต้องกรอกค่ะ ส่วนตอนเวลาเข้าเมืองน้องยื่นเอกสาร I-94 ให้เจ้าหน้าที่ตม. ใน I-94 ไม่ได้ถามระยะเวลาที่จะพักว่าจะอยู่นานเท่าไร ยกเว้นตม.จะสัมภาษณ์น้อง ตอนนั้นน้องค่อยคิดตอบคำถามอีกครั้งว่า จะอยู่เที่ยวที่อเมริกานานเท่าไร พี่คิดว่า ไม่น่าจะอยู่นานเกิน 2 เดือนนะคะ เพราะพี่ไม่ทราบว่า น้องจะต้องกลับมารายงานที่สถานศึกษาเดิมในเมืองไทย หรือต้องกลับมามาลงทะเบียนเรียนต่อที่เมืองไทยอีกไหมนะคะ

  • เอเอ  On May 30, 2012 at 10:55 pm

    คุณ govisa คะ หาคำถามเกี่ยวกับประวัติการศึกษา หรือประเทศที่เคยไปเที่ยวเท่าไหร่ก็ไม่เจอค่ะ มีแต่ถาม primary occupational ค่ะ แล้วก็จบเลย จริงๆอยากตอบค่ะ เพราะก็เคยไปเที่ยวพอสมควร และจบปริญญาโท คิดว่าจุดนี้น่าจะช่วยได้ แต่ไม่มีให้ตอบ ไม่มีให้add ข้อมูลเพิ่มเลยจริงๆค่ะ เปิดย้อนกลับไปกลับมาหลายรอบมากค่ะ ตอนแรกก็ไม่กังวล ไปๆมาๆชักจะกังวลแล้วสิคะ แล้วสรุปว่ากรณีของคุณ boeing เป็นอย่างไรบ้างแล้วคะ รบกวนช่วยคิดหาคำตอบด้วยค่ะ ไม่รู้จะถามใครแล้วค่ะ งงมากเลย แง….

    • govisa  On May 30, 2012 at 11:18 pm

      น้องเอเอคะ คำถามประวัติการศึกษาจะมาถึงก่อนคำถามเรื่องงาน ถ้าหากน้องตอบคำถามที่ถามว่าน้องผ่านการศึกษาระดับหลัง secondary studies หรือไม่ว่า no จะผ่านไปสู่คำถามเรื่องงานเลยค่ะ แต่ถ้าตอบ yes จะมีคำถามว่าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่ไหน และเคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ถ้าน้องเผอิญ submit และทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้ว คำแนะนำทำได้ 2 อย่างคือ กรอก DS-160 ใหม่และนำ DS-160 หมายเลขใหม่แนบไปกับหมายเลขเก่าที่ใช้ทำการนัดวันสัมภาษณ์ไปในวันสอบสัมภาษณ์ด้วยค่ะ หรือสอง เขียน resume เหมือนตอนสมัครงานแนบไปเอกสารขอวีซ่ายื่นให้กงสุลพิจารณา รวมทั้งทำ list ว่าเคยไปเที่ยวที่ไหน เมื่อไร ไปนานเท่ไร แนบไปด้วยก็ได้ค่ะ

      อนึ่งพี่ตอบคำถามน้อง Boeing ไปแล้วในวันเดียวกัน แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากน้อง Boeing หากน้องสนใจคุยกับน้อง Boeing พี่แนะนำให้น้องลองอีเมล์ไปคุยกับน้อง Boeing ตามอีเมล์ที่ปรากฏอยู่ในกระทู้นะคะว่า น้องเขาจะสะดวกให้ข้อมูลหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวพี่ พี่จะตอบคำถามให้น้องๆทุกคน และขออนุญาตที่จะไม่เข้าไปสอบถามเป็นการส่วนตัวกับอีเมล์น้องๆโดยตรงค่ะ หากน้องท่านนั้นๆไม่ติดต่อกลับมานะคะ

      • เอเอ  On June 6, 2012 at 10:12 pm

        ขอบคุณมากค่ะ แต่ลองกรอก ds160 ใหม่อีกรอบแล้ว สมัครแบบ b2 นะคะ ก็ไม่พบคำถามเกี่ยวกับการศึกษา หรือprevious workค่ะ แต่พอลองคลิ๊กดูเล่นๆ สมมุติว่าเป็น investor หรือ student จะมีเรื่องประวัติการศึกษา กับประวัติการทำงานขึ้นมาให้กรอกอ่ะค่ะ เป็นไปได้หรือไม่คะว่าประเภท b2 เขาได้ตัดคำถามเหล่านี้ออกไปแล้วอะค่ะ ขอบคุณค่ะ

      • govisa  On June 6, 2012 at 11:05 pm

        น้องเอเอคะ อย่าไปกังวลกับคำถามเรื่องประวัติการศึกษาและสถานที่ที่เคยไปมาแล้วค่ะ เพราะมีหลายคนที่ไม่พบกับคำถามข้อนั้นคล้ายกรณีของน้องค่ะ ถ้าเราปฏิบัติทุกขั้นตอนในการกรอกแล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอนในการเข้าไปสัมภาษณ์ค่ะ มีบางคนเคยพูดกันว่า เหมือนเป็นการสุ่มถามคำถามนี้ค่ะ วีซ่านักเรียนของน้องบางท่านที่กรอกขอวีซ่าได้แล้วและไม่พบคำถามข้อนี้ก็มีค่ะ หากเป็นกังวล ให้น้องแนบรายละเอียดประวัติการศึกษาคล้าย resume และประวัติการเดินทางไปแต่ละประเทศในปีต่างๆตลอด 10 ปีที่ผ่านมาให้กงสุลดูในวันยื่นเอกสารสัมภาาษณ์ด้วยได้ค่ะ

  • เอเอ  On May 30, 2012 at 11:08 pm

    รบกวนอีกคำถามนะคะ ไปเที่ยวอย่างเดียว นี่เป็นประเภท B2ใช่ไหมคะ แล้วประเภทที่เขาขอ b1ควบb2 นี่หมายถึงอะไรอะคะ คืออ่านตามที่เขาอธิบายพอจะเข้าใจ แต่สงสัยว่า ในกรณีเราไปเที่ยวเราจะapplyเป็น b1/b2 ได้ไหมอะคะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On May 30, 2012 at 11:20 pm

      B-1 คือวีซ่านักธุรกิจ B-2 คือวีซ่านักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เวลาที่น้องผ่านวีซ่านักท่องเที่ยวได้รับหนังสือเดินทางคืน น้องลองเปิดดูที่หน้าที่ได้รับวีซ่า จะเขียนว่า B-1/B-2 ค่ะ น้องเอเอ

  • patty  On May 30, 2012 at 11:11 pm

    นู๋ขอสอบถามหน่อยค่ะ กรอกDS160 คอนเฟิรมเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ปริ้นไว้ กะว่าจะปริ้นที่ทำงาน สรุปว่าเข้าไปจะปริ้นแล้วก็ไม่สามารถปริ้นได้ นู๋จองวันสัมภาษณ์แล้วด้วย นู๋จะทำยังไงดีค่ะขอคำแนะนำหน่อยนะค่ะ ขอบคุนค่าา

    • govisa  On May 30, 2012 at 11:40 pm

      ให้ลองเข้าไป https://ceac.state.gov/GENNIV/common/Recovery.aspx อีกครั้งและใส่รหัส AA002….. โปรดสังเกตว่าในคอมพิวเตอร์ของน้องจะต้องไม่ใช้ program chrome เครื่องคอมพิวเตอร์น้องใช้ Internet Explorer หรือ Firefox หรือ Safari ได้ค่ะ แต่ถ้าลองแล้วยังทำไม่ได้อีก ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่ แล้วนำ DS-160 Confirmation Number ใหม่ไปแสดงพร้อมอธิบายด้วยว่า เข้าไปหน้าที่พี่อธิบายข้างต้นแล้ว print ไม่ได้ ถ้าคอมน้องขึ้นตัวอักษรในหน้าที่เข้าไม่ได้ว่าอย่างไร ให้น้อง print หน้านั้นออกมาประกอบด้วยก็ดีค่ะ เพื่อเป็นหลักฐานเวลาอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้น้องต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ

  • Dang  On June 2, 2012 at 9:16 pm

    ขอสอบถามหน่อยค่ะ กลุ้มใจมากเพราะ confirm นัดสัมภาษณ์วันที่ 7 มิ.ย. 55 นี้แล้ว แต่เพิ่งมาเช็คดูว่ากรอกใบ DS-160 ใส่เลขที่พาสปอร์ตถูกต้อง แต่ใสวัน Issue Date และวัน Expiry Date ผิด ไปเอาวันที่ของบัตรประชาชนมาแทน ถือว่าเป็นสาระสำคัญหลักมั้ยคะ ต้องกรอกใบใหม่หรือไม่คะ

    • govisa  On June 2, 2012 at 9:52 pm

      ใช่ค่ะน้อง Dang น้องต้องกรอก DS-160 ใหม่ แล้ว Print ใบยืนยันใบใหม่แนบไปกับใบยืนยันใบเก่า เวลาไปสัมภาษณ์ในวันที่ 7 มิถุนายนค่ะ

  • Super  On June 2, 2012 at 9:32 pm

    รบกวนพี่ Govisa ด้วยครับ

    พอดีว่าผมเพิ่งไปสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนมา สมัครไปเรียนภาษา 6 เดือนแต่โดนปฎิเสธ
    เพราะเหตุผล 214b โดยที่ผมให้คุณลุง เป็น sponsor ให้ ซึ่งคนละนามสกุลกัน แต่ผมทำงานกับคุณลุงมา 3 ปีแล้่ว เหตุผลที่คุณลุงเป็น sponsor ให้เพราะว่าพ่อแม่ หญ่ากัน และอยู่กับคุณลุงมานานแล้ว

    แต่ตอนไปขอก็นำเอกสาร ทะเบียนการค้าคุณลุง statement ทั้งหมดไป และเจ้าหน้าที่ถามหา จดหมายรับรองจากคุณลุง(แต่ผมไม่ได้นำไปด้วยเพราะไม่ทราบว่าต้องมีจดหมาย)

    และตอนสัมภาษณ์ ท่างกงศุลก็ถามแต่ว่าใครเป็น sponsor และขอดูเอกสาร

    แล้วก็โดน ปฎิเสธครับ

    ตอนนี้เครียดมากเลยครับอยากทราบว่าพอจะมีโอกาสไหมโดยให้คุณลุงเป็น sponsor เพราะคุณลุงก็เคยส่ง ลูกไปเรียนที่อเมริกา ทุกคนแล้วผ่าน

    รบกวนปรึกษาที่ Go visa ด้วยครับ

    • govisa  On June 2, 2012 at 10:25 pm

      น้อง Super ค่ะ ถ้าน้องจะยื่นวีซ่าครั้งที่สอง ให้น้องทำจดหมายที่เขียนในนามคุณลุงและให้คุณลุงเซ็นต์ชื่อ เพื่อยืนยันว่าคุณลุงยินดีรับผิดชอบน้อง Super ทั้งค่าเรียน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัวของน้อง ควรแจ้งในจดหมายด้วยว่า คุณลุงมีรายรับจากธุรกิจประเภทใดและมีรายรับประมาณปีละเท่าไรค่ะ สาเหตุที่ลูกคุณลุงผ่านวีซ่าไม่ได้หมายความว่า คุณลุงเป็น Sponsor ให้น้องแล้ว เหตุการณ์ไปขอวีซ่าของน้องจะราบรื่นเหมือนของลูกคุณลุงค่ะ เหตุผลของลูกคุณลุงที่ผ่านวีซ่า ประเด็นหนึ่งคือ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลุงและลูกคุณลุงใกล้ชิดกว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณลุงและน้องซึ่งเป็นหลาน เป็นไปได้ไหมคะที่น้องจะลองถามว่า คุณพ่อหรือคุณแม่ใครคนใดคนหนึ่งจะช่วยเป็น Sponsor เพิ่มให้น้องอีกคนได้ไหมคะ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า น้องยังมีความผูกพันที่จะต้องกลับมาดูแลคุณพ่อหรือคุณแม่เมื่อเรียนจบแล้วค่ะ

  • Super  On June 3, 2012 at 9:24 pm

    ขอบคุณ มากครับ สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้หดหู่มากครับ เดี่ยวผมจะลองใหม่อีกครั้ง แล้วผมจะมารายงานน่ะครับ

    ขอบพระคุณพี่ Govisa สำหรับคำแนะนำดีๆครับ

  • Super  On June 4, 2012 at 12:49 pm

    พี่ Govisa ครับ รบกวนอีกครั้ง ที่พี่แนะนำให้คุณพ่อเป็น สปอร์นเซอร์ร่วม เนื่องจากคุณพ่อทำงานบริษัท และมีเงินเก็บไม่มากเพียงหลักแสน ยังงี้ควรเตรียมเอกสารอะไรไปบ้างครับ ต้องใช้ใบรับรองจากธนาคารไหมครับ แล้วควรกรอกข้อมูลยังไงดีครับ

    ผมรบกวนพี่ Govisa ด้วยครับ

    • govisa  On June 4, 2012 at 10:20 pm

      น้อง Super คะ เอกสารของคุณพ่อใช้จดหมายรับรองจากที่ทำงานของคุณพ่อเพื่อรับรองตำแหน่งงานและเงินเดือนที่ได้รับค่ะ ขอให้คุณพ่อเตรียมจดหมายรับรองฐานะการเงินจากบัญชีในธนาคารของคุณพ่อและบุ๊คบัญชีเงินฝากเตรียมไปด้วยค่ะ
      หมายเหตุ ตรงที่กรอกว่าใครเป็น sponsor หากใส่ชื่อคุณลุงไปและไม่ได้ add ชื่อ Sponsor ให้เตรียมหลักฐานของคุณพ่อไป พร้อมทั้งมีจดหมายแนะนำ(ที่พี่แนะนำน้องให้เขียนในตอนแรกที่น้องถามเข้ามา)ว่า คุณลุงมีรายรับจากทางใดและทำไมถึงยินดีเป็น Sponsor ให้น้อง โดยน้องเขียนทำนองว่า We the undersigned, Mr……. and Mr……are the uncle and father of Mr.Super respectively.และก็เริ่มอธิบายไปทีละท่านว่าแต่ละท่านเป็นอะไรกับ Mr.Super มีรายรับจากทางใด ประมาณการรายรับปีละเท่าไร หรือถ้าเป็นลูกจ้างของหน่วยงานก็อธิบายว่า ตำแหน่งอะไรอยู่หน่วยงานใดค่ะ มีเงินเดือนต่อปีเท่าไร สรุปว่า เราทั้งสองยินดี support Mr.Super ทั้งค่าใช้จ่ายในการเรียนและค่ากินอยู่ระหว่างศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐฯ และพอน้องลงท้ายว่า Yours faithfully, ให้น้องทำที่ให้เซ็นต์ชื่อได้ทั้งสองท่านคือคุณพ่อและคุณลุง อย่างไรก็ตาม การสมัครไปเรียนภาษาอย่างเดียวจะเป็น case ทีค่อนข้างถูกปฏิเสธวีซ่าได้ง่ายเมื่อเทียบกับการสมัครได้รับ I-20 รับเข้าเรียนต่อตรี หรือ โท หรือเอกค่ะ เพราะมีเป้าหมายปลายทางที่ชัดเจน ส่วนภาษาอาจเกิดความไม่แน่นอนว่า จะเรียนต่อ หรือจะไปทำอะไรอย่างอื่นหรือเปล่าเมื่อจบคอร์สเรียนภาษา ดังนั้น เวลาเตรียมเอกสารวีซ่าของผู้ที่ไปเรียนภาษาเฉยๆควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและมีแผนการที่จะไปเรียนที่ชัดเจนเมื่อถูกสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ

  • k  On June 5, 2012 at 2:54 pm

    สวัสดีค่ะคุณGovisa ขอสอบถามค่ะ คือว่าสามีมีวีซ่า10 ปีแล้ว แล้วเขาเรียนจบที่อเมริกา ค่ะ ที่นี้เขาจะพาดิฉันไปเที่ยว14 วันจะไปเยี่ยมอาจารย์ที่เคยสอนเขาด้วยค่ะแต่เราไม่ได้ให้อาจารย์เขียนจดหมายเชิญเรานะค่ะ
    1.ดิฉันเคยขอวีซ่าเมื่อ 11 ปี ก่อน และครั้งนี้สามีเป็นคนกรอกข้อมูลของดิฉันแต่เขาลืมไปว่าดิฉันเคยขอวีซ่ามาก่อนแล้วถูกปฎิเศษ ดิฉันนัดสัมภาษณ์วันที่ 18 มิถุนายน2555 อย่างนี้ดิฉันจะต้องกรอกDS-160 ใหม่หรือเปล่าค่ะ และกรอกว่ามีคนรู้จักอยู่ที่อเมริกาด้วยแต่พวกเราคงไม่ได้ไปเจอพวกเขาหรอกค่ะไม่มีเวลาเพราะที่เราไปมันไกลกันค่ะ
    2. ดิฉันทำธุรกิจของตัวเอง และแจ้รายได้ไป 50,000บาท สุมดบัญชีธนาคารก็มีเงินเข้าออกหลักหมื่น หลักแสนค่ะ และตอนนี้ก็มีเงินอยู่ในธนาคาร ประมาณ 600,000 บาท
    3. ดิฉันต้องเอาหลักฐานฉโนดบ้านและคอนโด ที่ดิน ทะเบียนรถ ใบซื้อทอง และหลักฐานผ่อนบ้านกับธนาคารอยู่2 หลัง ประกันชีวิตด้วย
    4. เอกสารของบริษัทค่ะ
    5. เอกสารของสามีใหม่(เราไม่ได้จดทะเบียนกันค่ะอยู่กันมา10 ปี)จะเป็นจดหมายว่าเราจะไปเที่ยวกับเขาสามีคนไทยนะค่ะ(ดิฉันต้องเอาหนังสือเดินทางตัวจริงของสามีไปให้เขาดูหรือเปล่าค่ะ
    6.รายละเอีดยว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง พักโรงแรมอะไรแต่ยังไม่ได้จองนะค่ะ (ต้องรอว่าดิฉันจะขอวีซ่าผ่านหรือเปล่า) จะไปปลายตุลาคมกลับวันที่14 พ.ย 2555
    7.หนังสือเดินทางดิฉันเอาเล่มเก่าไปให้เขาดูทั้งหมดเลยหรือเปล่าค่ะ

    ดิฉันต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมอะไรอีกมั้ยค่ะ
    ขอบคุณมาก
    k

    • govisa  On June 5, 2012 at 10:25 pm

      คุณ K คะ พี่ไม่ทราบว่า คุณ K ถูกปฏิเสธมานานกี่เดือน หรือ กี่ปีแล้ว และด้วยเหตุผลอะไร อย่างไรก็ตาม เท่าที่คุณ K เขียนมาดูเหมือนว่า สามีคนแรกของคุณ K จะเป็นชาวต่างชาติ หากเป็นเพราะเหตุผลที่ทางสถานทูตมีบันทึกไว้ว่า คุณ K ควรขอวีซ่าประเภท K-1 เพราะคุณ K สมรสกับชาอเมริกัน ครั้งนี้คุณ K ควรจะมีทะเบียนหย่าไปแสดงด้วยค่ะ หากฐานะการเงินของคุณ K ดีพอที่จะแสดงว่า คุณ K มีฐานะที่ไม่ลำบากที่จะไปท่องเที่ยวนานประมาณ 14 วัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีจดหมายเชิญมาจากอาจารย์ค่ะ สำหรับคำตอบของคำถามคุณ K เท่าที่พี่พอจะช่วยแนะนำให้ได้นะคะ

      1.คุณ K สามารถกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่อีกครั้งได้และ print ใบยืนยันหมายเลข DS-160 ใบใหม่ที่แก้ไขแล้วไปแสดงพร้อมหมายเลข DS-160 ใบเก่าที่ใช้ในการนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ
      2.หลักฐานทางการเงินก็ดูมั่นคงดีอยู่นะคะสำหรับการเดินทางประมาณ 14 วันค่ะ
      3.คุณ K จะนำหลักฐานทั้งหมดที่แจ้งมาไปแสดงด้วยก็ได้ค่ะ แต่กงสุลจะให้น้ำหนักกับเงินหกแสนที่มีอยู่ในธนาคารค่อนข้างมากกว่า เพราะมีสภาพคล่องสูงกว่าหลักฐานประเภทอื่นๆค่ะ
      4.ถ้าหมายถึงจดหมายรับรองการทำงานจากบริษัทถูกต้องค่ะ
      5.ที่แจ้งมาทั้งหมดเกี่ยวกับสามีใหม่ใช้ได้ค่ะ และหากทำได้มีจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของสามีใหม่ว่าจะ support คุณ K ไปแสดงด้วยก็ดีค่ะ หากกงสุลสงสัยเรื่องการไม่ได้จดทะเบียนสมรส คุณ K มีรูปถ่ายคู่หรือรูปถ่ายงานเลี้ยงฉลองการอยู่ด้วยกันกับสามีใหม่จะเป็นในหมู่ญาติหรือเพื่อนฝูงไปแสดงให้กงสุลดูประกอบว่าคุณ K แต่งงานกับสามีใหม่แล้วก็ดีค่ะ
      6.ควรมีรายละเอียดการเดินทางและท่องเที่ยวตามที่คุณ K แจ้งมาถูกต้องค่ะ
      7.นำหนังสือเดินทางไปทั้งหมดก็ได้ค่ะ เพื่อแสดงว่า เคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างในต่างประเทศค่ะ
      โชคดีค่ะ

      • K  On June 11, 2012 at 12:13 am

        พี่ govisa ค่ะขอบคุณมากค่ะที่ตอบให้ค่ะ วีซ่าของkถูกปฎิเสธมา11ปีแล้วค่ะและตอนนั้นที่ขอคือสามีเก่าเป็นคนไทยไปทำงานที่อเมริกาค่ะแต่ตอนนั้นเราหย่ากันแล้วแต่เขาต้องการให้kพาลูกๆๆไปเที่ยวกันแต่ขณะนั้นลูกๆๆก็อายุ6กับ7ขวบค่ะช่วงเด็กปิดเทอมพอดีค่ะและหลักฐานอะไรหลายอย่างก็น่าจะถูกปฎเสธค่ะตอนนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกปฎิเสธ แต่พอkได้มาอ่านพี่ตอบปัญหาของแต่ล่ะคนเลยเข้าใจค่ะคิดว่าทางสถานฑูตไม่ให้ก็คงคิดว่าเราจะไม่กลับแน่นอน แต่ขอไปครั้งนั้นก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ว่าจะไม่กลับนะค่ะแต่ด้วยเหุตผลหลาย ก็เลยถูกปฎิเสธแต่สามีเก่าก็ไปอยู่ได้แปดเดือนก็กลับมาแล้วค่ะ
        ข้อ4 คือk มีบริษัทเป็นของตัวเองค่ะทำเกี่ยวกับเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเป็นบริษัทเล็กๆๆค่ะเอกสารต้องมีอะไรบ้างค่ะ และต้องทำจดหมายไม่เข้าใจค่ะ อันนี้ คือkทำคนเดียวค่ะลักษณะงานคือลูกค้าสั่งทำตามใบสั่งซื้อค่ะ

        ข้อ5 ค่าใช้จ่ายในการเดินสามีกรอกว่าช่วยกันทั้งสองคน อย่างนี้ต้องเอาจดหมายรับรองฐานการเงินของสามีด้วยใช้มั้ยค่ะหรือไม่ต้องค่ะ
        ข้อ7 คือหนังสือเดินทางเล่มเก่านานเป็น”นาง”ค่ะ แต่เล่มใหม่เปลี่ยนเป็น”นางสาว” มีหนังสือรับรองจากทางราชการเป็นภาษาไทยอันนี้k ต้องแปลงเป็นภาษาอังกฤษหรือเปล่าค่ะแต่ถ้าจะต้องแปลงต้องเป็นทางการหรือแปลกันเองค่ะ.
        ข้อ8สามีกรอกไปว่าจำวันเกิดคุณพ่อไม่ได้อันนี้จะมีผลหรือเปล่าค่ะ
        ข้อ9ต้องเอาเอกสารการหย่ากับสามีเก่าไปด้วยหรือเปล่าค่ะ kมีลูกสาวสองคนค่ะkเป็นผู้ปกครองลูกๆก็อยู่กับkค่ะตอนนี้ลูกสาวเรียนอยู่ม.5ม.6ค่ะ
        ขอขอบพระคุณมากค่ะ

      • govisa  On June 11, 2012 at 10:30 am

        คุณ K คะ พอเข้่าใจที่คุณ K ถูกปฏิเสธวีซ่าในครั้งแรกที่ไปขอค่ะ ขอตอบคำถามเลยนะคะ
        4.พี่ไม่ทราบว่าคุณ K เป็นเจ้าของธุรกิจ คิดว่า เป็นพนักงานของบริษัท จึงให้ทำจดหมายรับรองเงินเดือนและตำแหน่งงานจากบริษัทค่ะ หากเป็นเจ้าของ ให้นำใบจดทะเบียนการค้าไปด้วยเผื่อต้องแสดงให้ท่่านกงสุลดูค่ะ
        5.ใช่ค่ะ
        7.ควรแปลไปด้วยค่ะจะแปลเองก็ได้ และนำไปรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์อยู่ในกรมกงสุล ที่ไปทำหนังสือเดินทางค่ะ
        8.ไม่มีปัญหาค่ะ
        9.ต้องนำหลักฐานการหย่าไปด้วย และมีรูปถ่ายการแต่งงานกับสามีใหม่ไปประกอบด้วยหากไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ ควรมีสำเนาหนังสือเดินทางของสามีใหม่และวีซ่าเข้าอเมริกาของสามีใหม่ติดไปด้วยค่ะ กงสุลจะได้เข้าใจว่าทำไมสามีใหม่จึงมาเป็น sponsor ร่วมค่ะ

      • k  On January 26, 2015 at 9:07 pm

        สวัสดีค่ะคุณ govisa k.เคยเข้ามาถามเรื่องขอวีซ่าของตัวดิฉันเองครั้งก่อนปี 2012 แต่ตอนนี้จะเรียนถามเรื่องจะขอวีซ่าให้ลูกสาว 1)ตอนนี้ลูกสาวอายุ18 กับ19 ปี เรียนอยู่มหาลัยปีหนึ่ง คือจะขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อไปเที่ยว เยี่ยมสามีและไปดูมหาลัยเพื่อจะไปต่อโทที่นั่น ขอไป 1 เดือน (เมื่อก่อนลูกสาวเคยขอวีซ่าเมื่อ12-13ปีที่แล้ว และถูกปฎิเสธ แต่ลูกสาวลืมกรอกและต้องเข้าไปแก้หรือป่าวคะเพราะจ่ายตังไปแล้วแต่ยังไม่นัดสัมภาษณ์ 2)หลานสาวจบป.โทและมีงานทำแล้ว แต่ขอเพื่อไปท่องเที่ยวขอไป 15 วัน แต่หลานเคยไปเที่ยวที่อิสลาเอลมา 15วัน เมื่อเดือนพฤศจิกา 2557 กรณีของหลานจะขอยากไหม?(เพราะไปเที่ยวทางตะวันออกกลาง 3)ตัวดิฉันได้วีซ่ามา10ปี เคยเดินทางไปอเมริกามาแล้ว ในกรณีนี้ลูกสาวไปขอวีซ่าตัวดิฉันต้องไปด้วยหรือเปล่าค่ะและถ้าไม่ต้องไปด้วยต้องเตรียมเอกสารของดิฉันมีอะไรบ้าง ดิฉันมีบริษัทของตัวเอง ดิฉันหย่ากับสามีเก่าและเป็นผู้ปกครองเด็ก และมีสามีใหม่ คนไทยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ตอนนี้เรียนดร.อยู่ที่อเมริกา ต้องมีเอกสารอะไรเกี่ยวกับสามีใหม่มั้ยค่ะ 4) มีจดหมายรับรองจากมหาวิทยาลัยทั้ง4 คนร่วมดิฉันด้วย ที่สามีเรียนอยู่ค่ะ 5)วันไปสัมภาษณ์หลานสาวและลูกสาวต้องเข้าสัมภาษณ์ด้วยกันได้มั้ย แต่คนละนามสกุลและไม่ได้อยู่ทะเบียนบ้านเดียวกันแต่นามสกุลเดียวกันกับดิฉันค่ะ

        รบกวนคุณgovisa ช่วยตอบด่วนด้วยค่ะ
        ขอบพระคุณอย่างสูง

      • govisa  On January 26, 2015 at 9:58 pm

        คุณ K คะ ลูกสาวอายุ 18 ปีแล้วที่อเมริกาเค้าถือว่าโตแล้วคุณแม่ไม่ต้องเข้าไปด้วยค่ะ คุณแม่ควรจะถ่ายเอกสารหนังสือเดินทางคุณแม่ หน้าวีซ่าเข้าอเมริกาของคุณแม่ให้ลูกสาวไปด้วยค่ะ ส่วนลูกสาวควรจะขอจดหมายรับรองความเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่เรียนปี1และขอ transcript แนบไปด้วยกงสุลจะได้ทราบว่าปัจจุบันลูกสาวเรียนชั้นปีอะไรอยู่มหาวิทยาลัยอะไรในไทยค่ะ
        ส่วนการที่ลืมแจ้งว่าเคยถูกปฏิเสธวีซ่าสามารถแก้ไขได้ด้วยการกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ค่ะ และในวันสัมภาษณ์ให้นำ DS-160 Confirmation Number ทั้งเก่าและใหม่ไปด้วยค่ะ

        กรณีหลานสาวเคยไปเที่ยวอิสราเอลไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติวีซ่าหรือไม่ค่ะ ตามหลักการของประเทศสหรัฐฯ สหรัฐเค้าเป็นประเทศที่ไม่ได้แบ่งแยกสีผิว เชื้อชาติ สัญชาติ เค้าปฏิบัติต่อคนทุกชาติเท่าเทียมกันค่ะ

        ขอให้คุณเตรียมตัวลูกสาวและหลานสาวให้ดีว่า จะตอบกงสุลว่าแผนการเดินทางครั้งนี้คืออะไร วางแผนจะไปเมืองอะไรบ้าง หรือจะไปแวะชมมหาวิทยายาลัยชื่ออะไรค่ะ ใครเป็นสปอนเซอร์ จะไปพักที่ไหน อยู่นานเท่าไร ของหลานสาวก็ต้องมีจดหมายรับรองการทำงานและเงินเดือนไปด้วยค่ะ

        กรณีเอกสารของสามีใหม่หากคุณ K ต้องการชี้แจงความสัมพันธ์กับสามีใหม่เพื่อเป็นเอกสารประกอบให้ลูกสาวและหลานสาวนำติดตัวไปด้วยในวันสัมภาษณ์ พี่คิดว่า หลักฐานรูปถ่ายคู่ที่ใช้ชีวิตกันตอนคุณทั้งสองอยู่ที่เมืองไทย และแสกนจดหมายตอบรับของสถานศึกษาที่สามีใหม่เรียนอยู่แนบไปด้วยพร้อมทั้งสามีใหม่อาจจะเขียนจดหมายเชิญคุณ K ให้คุณ K ลูกสาวและหลานสาวไปพักที่ที่พักของสามีคุณ K ด้วยก็ยิ่งดีค่ะ

        หลานสาวกับลูกสาวคงไม่ได้เข้าไปสัมภาษณ์พร้อมกันเพราะคนละคุณพ่อคุณแม่และไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันค่ะ แต่มีสิทธิ์ที่จะเข้าแถวเดียวกันหรือยืนใกล้ๆกันได้ เพียงแต่สัมภาษณ์คนละทีค่ะ

      • K  On June 22, 2012 at 10:35 pm

        สวัสดีค่ะคุณgovisa. Kไปสัมภาษณ์มาแล้วค่ะ ผ่านแล้วค่ะได้10ปีค่ะได้กงสุลหล่อมากสัมภาษณ์
        ต้องขอขอบคุณคุณgovisa. มากๆที่ให้คำแนะนำที่ดี.

      • govisa  On June 23, 2012 at 9:38 am

        ยินดีด้วยค่ะคุณ K กรณีของคุณ K ก็คงจะเป็นกำลังใจที่ดีให้คนที่เคยถูกปฏิเสธวีซ่ากันมาแล้วยังมีกำลังใจเพิ่มขึ้นได้ว่า ถ้ามีการเตรียมหาเอกสารเพิ่มที่ดี และมีเหตุผลที่จะโน้มน้าวให้ท่านกงสุลเห็นว่า เรามีเหตุผลที่จะเดินทางไปทำภารกิจนั้นๆจริงๆก็จะทำให้เราได้รับวีซ่าผ่านได้ไม่ยากค่ะ เสียดายที่คุณ K ไม่ได้เล่ามาว่า กงสุลท่านถามคำถามอะไรที่พาดพิงไปถึงการถูกปฏิเสธวีซ่าครั้งก่อนไหมคะ ถ้าแวะเข้ามาอ่านบล็อกนี้อีกนะคะ พี่จะขอขอบคุณคุณ k มากๆค่ะ ถ้าคุณ K จะกรุณาเขียนมาแชร์ประสบการณืในวันสัมภาษณ์ให้ผู้ถูกปฏิเสธท่านอื่นๆมีกำลังใจและความกล้าหาญที่จะกลับเข้าไปยื่นขอวีซ่าอีกครั้งค่ะ ขอบคุณอีกครั้งที่บอกมาว่าได้วีซ่าแล้วค่ะ ขอให้เที่ยวอเมริกาให้สนุกนะคะ

  • paula  On June 6, 2012 at 3:21 am

    สวัสดีค่ะ เพิ่งสมัครวีซ่าอเมริกาครั้งแรกค่ะ และได้confirmedนัดสัมภาษณ์วันที่ 6 ก.ค. 55 เรียบร้อยแล้ว เพิ่งมาอ่านกระทู้ของหลายๆท่าน ทำให้ทราบว่าตัวเองใส่ข้อมูลพลาดไปคือ ใส่ชือ ที่อยุ่ เบอร์ติดต่อของเพื่อนที่เป็นคนอเมริกันที่อยู่อลาสก้าค่ะ แต่ว่าไม่ได้เดินทางคนเดียวน่ะค่ะมีหลานชายไปด้วย 1 คนค่ะ ขอให้ข้อมูลเบื้องต้นน่ะค่ะ ดิฉันเดินทางไปต่างประเทศเกือบทุกปี จะมีทั้งญี่ปุ่น 2 ครั้ง เกาหลี จีน ฮองกง มาเก๊า มาเลเซีย อียิปต์ และเพิ่งได้เช้งเกนประเทศเชคมาค่ะ มีคำถามค่ะ (กังวลมากเพราะอ่านหลายท่านบอกว่าไม่ควรรุ้จักใครในอเมริกา)และใน book bank มีไม่ถึง 6 หลักค่ะ แต่มีใบรับรองงานซึ่งทำงานที่นี่มา8 ปีแล้วค่ะ จะมั่นคงพอไหมค่ะ
    1) จำเป็นไหมที่ต้องขอจดหมายรับรอง(เชิญ)จากเพื่อนต่างชาติคนนี้ (ในใบสมัครเขียนว่าไปพักกับเขาค่ะ แต่ออกค่าใช้จ่ายเอง)หรือว่าไม่ต้องก็ได้ค่ะ
    2) จะเดินทางช่วงสงกรานต์ปี 56 ไม่ทราบว่านัดสัมภาษณ์เร็วไปหรือไม่ ควรเลื่อนนัดเป็น สิงหาหรือไม่ค่ะ เพราะในใบรับนัดสามารถเปลียนแปลงได้ถึงวันที่ 26 ส.ค. 55 ค่ะ
    รบกวนช่วยตอบด้วยน่ะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On June 6, 2012 at 5:49 am

      น้อง Paula คะ การใส่ชื่อคนรู้จักที่เป็นคนอเมริกัน เพราะเป็นเพื่อนและเป็นข้อมูลที่ในแบบฟอร์มสอบถามถามมาก็มีเหตุผลอยู่ค่ะ หากน้องตอบคำถามท่านกงสุลได้ดีว่าเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ได้ต้องการไปอยู่ที่อเมริกา น้องเองก็เคยเดินทางไปหลายแห่งแล้วกลับประเทศไทยทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการเดินทางก็ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ สิ่งที่พี่เห็นว่า อาจจะเป็นจุดอ่อนของน้อง คือ เงินในบัญชีธนาคารที่เป็นเลขหลักหมื่น พี่คิดว่าน้อยเกินไป ควรมีเป็นเลขหลักแสน หลานชายที่ไปด้วยมีวีซ่าเข้าอเมริกาหรือยังคะ ถ้ามีแล้วให้ถ่ายสำเนาเอกสารแนบไปด้วยว่า จะไปเที่ยวกับหลานชายท่านนี้ และควรมีหลักฐานเชื่อมโยงหรืออธิบายได้ว่า เป็นหลานชายทางใด เช่น เป็นลูกของพี่ชายหรือพี่สาว อาจจะดูจากทะเบียนบ้านของหลานชายที่ระบุว่า พ่อแม่เขาชื่ออะไร ซึ่งจะเชื่อมโยงไปได้ว่า พ่อแม่ของพ่อหลาน หรือแม่หลานเป็นชื่อพ่อแม่เดียวกันกับน้อง Paula ค่ะ
      คำถามที่หนึ่งที่ถามมา ควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีจดหมายเชิญ เพราะเงินในบัญชีธนาคารของน้องมีน้อยเกินที่จะทำให้กงสุลมั่นใจว่าจะมีพอที่จะไปเที่ยวในอเมริกาค่ะ
      คำถามที่สอง เรื่องการขอวีซ่าตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อไปเที่ยวสงกรานต์ปีหน้า ถ้าน้องจะให้เหตุผลว่า การขอนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าช่วงต้นปีเกรงว่าจะไม่ค่อยมีคิวนัดสัมภาษณ์สำหรับ B-2 มากนักก็มีเหตุผลอยู่ เพราะนักศึกษาที่ขอวีซ่าไป Work and Travel ช่วงนั้นมีมากค่ะ แต่พี่อยากให้เลื่อนวันนัดออกไป เพื่อเตรียมเอกสารวีซ่าให้พร้อมกว่านี้ เป็นต้นว่า จดหมายเชิญไปพักอย่างอย่างเดียว ไม่ต้องให้ทางเพื่อนออกค่าเที่ยวให้ก็ได้มั๊งคะ เพราะการเตรียมอย่างหลังด้วยจะยุ่งยากสำหรับเพื่อนพอสมควรค่ะ กล่าวคือ เพื่อนคงต้องแสดงฐานะทางการเงิน การเสียภาษี แหล่งที่มาของรายได้ พี่อยากให้น้องลองทบทวนดูว่า จะให้พี่แท้ๆของน้องหรือพ่อแม่ช่วยเป็น sponsor ร่วมกับน้องด้วยจะดีกว่าไหมนะคะ

      • paula  On June 6, 2012 at 1:52 pm

        ขอบคุณค่ะพี่govisa สำหรับเรื่องหลานชาย มีทะเบียนด้วยอยู่ในเล่มเดียวกันค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนจดหมายเชิญจะบอกให้เพื่อนช่วยทำให้สำหรับพักค้างแรมอย่างเดียวค่ะ จะได้ไม่ยุ่งยากค่ะ เกรงใจเขาเหมือนกัน สำหรับเรื่องเงินคาดว่าคงต้องที่บ้านเป็น sponsor ให้แน่นอนค่ะ 🙂 ได้ฟังคำตอบแล้วอุ่นใจค่ะ จะได้เตรียมเอกสารให้พร้อมกว่านี้ ขอบคุณอีกครั้งน่ะค่ะ

      • govisa  On June 6, 2012 at 9:29 pm

        ด้วยความยินดีค่ะน้อง Paula

      • Paula  On July 20, 2012 at 10:21 pm

        ไปทำวีซ่าที่สถานทูตอเมริกามาแล้วค่ะเมื่อวันที่18 ก.ค. 55 ดีใจมากที่ผ่านค่ะ วันนี้กลับบ้านเห็นซองสีเหลืองรีบเปิดดูทันที อยากกรี๊ดดังๆไม่ใช่ดีใจอะไรน่ะค่ะแต่เป็นเพราะว่าทำไมได้แค่1ปี เราทำพลาดอะไรไป ตอนนี้ทราบจุดบกพร่องแล้วค่ะเลยรีบมาบอกเพื่อนๆที่กำลังจะไปสัมภาษ์น่ะค่ะ คือว่า
        1 ถ้าเพื่อนๆลงว่ามีเพื่อนชาวต่างชาติไปแล้ว ตอนสัมภาษณ์อย่าบอกว่ารู้จักทางอินเตอร์เน็ตน่ะค่ะ ให้บอกว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะ (บางครั้งบอกความจริงไปก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ)
        2 อย่างที่คุณ govisa แนะนำควรมีเงินในบัญชีมากๆค่ะ จะเป็นbook ประจำ,ออมทรัพย์ มีกี่เล่มเอาไปเผื่อให้หมดค่ะ เพราะบางครั้งเขาก็ขอดูค่ะ
        ขอให้ทุกท่านโชคดีได้ 10 ปีกันน่ะค่ะ (ที่เสียใจเพราะทำวีซ่าที่นี่ขั้นตอนเยอะมากๆๆแถมต้องคอย 3 ชั่วโมงครึ่งถึงจะได้สัมภาษณ์อีก ไม่เหมือน ยุโรปหรือเอเซีย รวดเร็วแถมค่าใช้จ่ายถูกกว่ามากๆๆค่ะ

      • govisa  On July 21, 2012 at 1:25 am

        น้อง Paula คะ ยินดีด้วยนะคะที่น้องผ่านการสัมภาษณ์และได้รับวีซ่าแล้วค่ะ ถ้าได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวในข่วงหนึ่งปีข้างหน้าและกลับมาประเทศไทยหลังจากเที่ยวเสร็จ น้องก็จะมีประวัติว่าเคยเข้าไปเที่ยวและปฏิบัติตนถูกต้องตามกฎหมายอเมริกัน เมื่อจะเข้าไปเที่ยวครั้งต่อๆไปอีกที่ประเทศสหรัฐฯและจะต้องขอวีซ่านักท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง พี่คิดว่าน้องคงจะได้วีซ่าที่มีอายุนาน 10 ปีค่ะ
        อนึ่ง พี่ไม่ทราบว่า น้องถูกถามอะไรบ้าง แต่สันนิษฐานจากที่น้องเขียนมา น้องคงจะถูกถามว่า รู้จักเพื่อนฝรั่งคนนั้นได้อย่างไร การที่น้องตอบว่า รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตก็อาจจะคล้ายกับบางท่านที่เคยเขียนมาถาม พี่คิดว่า กงสุลท่านก็สมัยใหม่พอที่จะยอมรับความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนในลักษณะใหม่เช่นที่น้องกล่าวมาค่ะ กงสุลท่านก็ให้โอกาสน้องพิสูจน์ความตั้งใจจริงว่า ไปเที่ยวแล้วจะกลับมาประเทศของตนด้วยการให้วีซ่าหนึ่งปีก่อน ถ้าผู้ยื่นขอวีซ่าปฏิบัติตนตามกฎ ครั้งต่อไปก็จะได้รับความไว้วางใจจากสถานทูตให้ได้วีซ่านานขึ้นค่ะ พี่เข้าใจความรู้สึกของน้องและเห็นใจกงสุลค่ะ เคยมีผู้ยื่นขอวีซ่าจำนวนหนึ่งที่เมื่อได้มีโอกาสเข้าสหรัฐฯแล้วและทำตนผิดระเบียบด้วยการหาทางพยายามอยู่ที่อเมริกาเลย อาจจะสร้างความรู้สึกไม่สบายใจใ้ห้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกงสุลตอนสอบสัมภาษณ์เพื่ออนุมัติวีซ่าด้วยเช่นกัน ดูแล้วงานสัมภาษณ์วีซ่าเป็นงานที่หนักจริงๆค่ะ คนที่ทำหน้าที่เป็นกงสุลเหล่านี้ก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการพิจารณาผู้ยื่นขอวีซ่าแต่ละท่านค่ะ เพราะเห็นหน้าและตอบคำถามกันคนละไม่นาน แต่ต้องใช้วิจารณญาณว่า ควรจะให้หรือไม่ให้วีซ่าค่ะ

    • k  On January 26, 2015 at 10:01 pm

      พึงเข้ามาเห็นวันนี้ค่ะ ขอโทษมากๆๆค่ะ เรื่องที่ถูกปฏิเสธวีซ่าเมื่อ11ปีก่อน ท่านกงสุลก็ถามดิฉัน ว่าทำไมคุณถึงถูกปฎิเสธท่านถามเรา ดิฉันก็ตอบว่าเอกสารหลักฐานต่าง และ การเงินของดิฉันไม่พอเพียงอันนี้ดิฉันผิดเอง ท่านถามแค่นี้ แล้วท่านก็ให้มา 10 ปี ดิฉันยังถามท่านว่า ดิฉันได้เหรอค่ะ ท่านบอกทำไมจะไม่ได้ล่ะ!!!! ท่านกงสุลท่านนี้หล่อมาก วันนั้นสัมภาษณ์คนแรกด้วยค่ะ ถ้าได้มารู้จักคุณgovisa ตั้งแต่11ปีที่แล้วคงจะไม่ถูกปฎิเสธ เพราะเราไม่รู้อะไรจริงๆไม่มีที่ศึกษาข้อมูลและเราเองก็ไปขอแบบไม่รู้เรื่องจริงๆก็สมคารถูกปฎิเสธ
      ค่ะ

      ดิฉันขอโทษคุณgovisa มากๆๆค่ะ สองปีนะคะนี้ พึงเข้าอ่านวันนี้

      • govisa  On January 29, 2015 at 9:00 pm

        คุณ K ได้วีซ่ามาก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ คราวนี้ก็คงจะมีประสบการณ์ในการเตรียมเอกสารให้ทั้งลูกสาวและหลานสาวได้ ขอให้ลูกสาวและหลานสาวโชคดีเหมือนคุณ K ค่ะ

  • เพลิน เพลิน  On June 8, 2012 at 12:41 pm

    สอบถามหน่อยค่ะ
    1.พอดีกรอกds160 และ submit เรียบร้อย พอมาตรวจพบว่าใส่ข้อมูลใน additional point of contact information ผิด จำเป็นต้องกรอก ds 160 ใหม่รึเปล่าคะ
    2.ยังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์ค่ะ เลยอยากจะทราบว่า ถ้าต้องกรอกฟอร์มใหม่แล้วจะต้องใช้ confirmation number อันไหนในการยื่นขอวีซ่าคะ กลุ้มใจจัง

    • govisa  On June 9, 2012 at 9:41 pm

      น้องเพลินเพลินคะ ถ้ายังไม่ได้จองวันนัดสัมภาษณ์ กรอก DS-160 ใหม่ก็ได้ค่ะ และที่จริงคำถามที่ถามมาว่าจะใช้หมายเลขไหนในการนัดสัมภาษณ์ คำตอบคือ ถ้าน้องใช้หมายเลขใหม่นัดสัมภาษณ์ได้ก็ใช้หมายเลข DS-160 ใหม่ไปค่ะ แต่ถ้าบังเอิญได้ใช้หมายเก่าเข้าไปกรอกตอนเตรียมจะนัดวันสัมภาษณ์ และจ่่ายเงินค่าทำนัดวันสัมภาษณ์ด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว และเข้าไปแก้ไขหมายเลข DS-160 ไม่ได้ ให้น้องนำหมายเลข DS-160 ทั้งใบใหม่และไปเก่าไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์ และถ้าน้องแก้ไขหมายเลข DS-160 ในการจองวันนัดได้ก็ให้เลือกใช้หมายเลข Ds-160 ใหม่ไปค่ะ

  • C  On June 11, 2012 at 3:07 pm

    อยากสอบถามว่าข้อมูลที่กรอกใน DS-160 หัวข้อ U.S.contact หนูระบุชื่อมหาวิทยาลัยและที่อยู่ที่จะไปเรียนต่อโท โดย submit ไปแล้ว แต่ข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยส่ง I-20มาให้เค้าระบุชื่อเจ้าหน้าที่ของ International Student Services กับที่อยู่ซึ่งไม่ตรงกับที่กรอกไป แบบนี้จะต้องกรอก DS-160 ใหม่หรือเปล่าค่ะ และอีกคำถามหนึ่งคือเคยขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาตอนเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น แล้วเค้าบอกว่าให้กลับมาขอที่เมืองไทย แบบนี้เรียกว่าถูกปฏิเสธวีซ่าหรือเปล่าคะ แล้วถ้าไม่ได้กรอกไปว่าเคยถูกปฏิเสธ เค้าจะเช็คได้หรือเปล่าคะ

    • govisa  On June 11, 2012 at 8:06 pm

      น้อง C คะ แสดงว่า น้องกรอก DS-160 ก่อนได้รับ I-20 ทำให้น้องไม่ทราบว่า ชื่อเจ้าหน้าที่ International Student Services คือชื่ออะไร และที่อยู่มหาวิทยาลัยที่บอกว่าไม่เหมือนกัน อาจเป็นไปได้ค่ะ พี่ไม่ทราบว่า น้องนำที่อยู่ของมหาวิทยาลัยมาจากส่วนไหนของเว็บไซต์ หรือนำมาจากการโต้ตอบทางอีเมล์ เช่น นำมาจากที่อยู่ของคณะที่จะไปเรียน หรือนำมาจากบางหน่วยงานที่อยู่บนเว็บไซต์ เป็นไปได้ไหมว่า ใน I-20 ใช้ที่อยู่ของ International Student Office ค่ะ

      ส่วนการขอวีซ่าตอนไปเรียนที่ญี่ปุ่นเพื่อไปเที่ยวสหรัฐฯที่จริงก็ทำได้นะคะ เหมือนนักเรียนที่ไปเรียนที่สหรัฐฯจะขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยว โดยนักเรียนขอวีซ่าจากสภานทูตประเทศนั้นๆในประเทศสหรัฐฯก็ทำได้เช่นกันค่ะ พี่ไม่แน่ใจว่า เขามีเหตุผลอื่นหรือเปล่าที่บอกให้น้องกลับมายื่นที่ประเทศไทยค่ะ น้องมีเอกสารไม่ครบหรือเปล่าคะ น้องเคยลองถามเพื่อนๆหรือมีเพื่อนๆที่เรียนอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและต้องการขอวีซ่าไปเที่ยวในประเทศสหรัฐฯไหมคะ ผลลัพธ์ในการขอวีซ่าเป็นอย่างไรคะ

      อย่างไรก็ตามให้น้องสำรวจหนังสือเดินทางเล่มที่เคยไปเรียนญี่ปุ่นและขอวีซ่าจะเข้าสหรัฐฯ มีรอยถูกประทับตราจากสถานทูตพร้อมวันที่หรือเปล่าคะ ถ้ามีก็แปลว่า น้องถูกปฏิเสธวีซ่า พี่แนะนำให้น้องกรอก DS-160 ใหม่ แก้ไขเรื่อง US Contact ให้เรียบร้อยไปเลย เพราะไหนๆก็ต้องกรอกฟอร์มใหม่แล้วนะคะ และตรงที่เคยขอวีซ่าไหม ให้แจ้งความจริงไปว่าเคยขอวีซ่า ยิ่งถ้ามีการประทับตราวันที่ที่ยื่นขอวีซ่า และบอกให้กลับไปขอที่ประเทศของตน ยิ่งต้องใส่ไปเลยว่า น้องเคยถูกปฏิเสธวีซ่าแล้วค่ะ

  • C  On June 12, 2012 at 7:56 pm

    ลองเช็คในหนังสือเดินทางแล้ว ไม่มีรอยประทับตราจากสถานฑูตเลยค่ะ จำได้ว่าได้กระดาษมาใบหนึ่งแต่จำเนื้อหาในนั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่มีรอยประทับตรา ก็น่าจะไม่เคยถูกปฎิเสธวีซ่า..พอดี ตอนที่ไปขอวีซ่าตอนนั้นใกล้จะกลับเมืองไทยแล้ว แต่ไม่อยากบินไปบินมา เลยคิดว่าจะขอวีซ่าจากที่ญี่ปุ่น เพื่อเดินทางไปเที่ยวอเมริกาก่อนแล้วค่อยกลับเมืองไทยทีเดียว

    ส่วนเรื่องที่อยู่ที่กรอกใน DS-160 พอดีใช้ที่อยู่ของคณะที่เรียน จึงมิใช่ที่อยู่ของ International Student Services ที่ระบุมาใน I-20 เหตุผลที่ใช้ที่อยู่คณะที่เรียน เพราะเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อ เค้าให้ข้อมูลใน I-20 มาแค่ SEVIS ID กับ SCHOOL CODE เพื่อให้ไปทำนัดก่อน ส่วนตัวจริงส่งตามมาทีหลังเพราะเค้ากลัวว่าจะทำวีซ่าไม่ทัน หนูก็เลยใส่ US Contact เป็นชื่อมหาวิทยาลัย กับที่อยู่มหาวิทยาลัยไป แล้วอย่างนี้ต้องกรอกที่อยู่ใน DS-160 ใหม่ เป็นที่อยู่ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ตรงกับใน I-20 หรือเปล่าค่ะ หรือหนูจะใช้ที่อยู่คณะที่เรียนได้หรือเปล่าคะ

    • govisa  On June 12, 2012 at 9:27 pm

      น้อง C คะ ไม่ต้องกรอฟอร์ม DS-160 ใหม่ print อีเมล์ที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้น้องเป็นหลักฐาน อีเมล์ฉบับที่บอกให้น้องนำ SEVIS ID กับ School Code ไปทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ก่อนที่ I-20 ตัวจริงจะถูกส่งมาถึงน้องที่เมืองไทย ถ้าทางสถานทูตถามให้นำอีเมล์ฉบับนั้นให้กงสุลดูนะคะ เพราะน้องไม่สามารถนำโทรศัพท์มือถือตลอดจนเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเข้าไปในบริเวณสถานทูตได้ พี่จึงแนะนำให้น้อง print อีเมล์ฉบับนั้นออกมาค่ะ ส่วนถ้ากงสุลท่านถามถึงเรื่องการขอวีซ่าที่ประเทศญี่่ปุ่น (อาจจะเป็นไปได้ที่ทางสานทูตสหรัฐฯในญี่ปุ่นเขียนคอมเม้นท์เก็บไว้ใน record ของน้อง) ส่วนใหญ่สถานทูตจะเก็บหลักฐานไว้ประมาณ 10 ปีเป็นอย่างน้อยค่ะ น้องก็ชี้แจงท่านไปเหมือนที่อธิบายมาให้พี่อ่าน คือ น้องกำลังจะกลับเมืองไทยเพราะเรียนจบแล้ว เพียงอยากแวะเที่ยวแอลเอ อาจจะเป็นดิสนีย์แลนด์หรืออะไรก็ว่าไปนะคะ แต่น้องเตรียมเอกสารไปยื่นไม่ครบ จึงได้รับคำแนะนำให้กลับมาขอที่ประเทศไทยค่ะ หรือเป็นทำนองว่า น้องกำลังจะกลับประเทศไทยอยู่แล้ว ทางสถานทูตเลยแนะนำให้กลับมาขอที่ประเทศไทยค่ะ อ่านดูแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการขอวีซ่าครั้งนี้นะคะ

  • C  On June 12, 2012 at 10:16 pm

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวก่อนเข้าสัมภาษณ์นะคะ…ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย ส่วนคำชี้แจงท่านกงสุลที่พี่แนะนำมาทั้งสองกรณี ก็เป็นความจริงทั้งสองอย่างเลยค่ะ เพราะหนูก็อยากแวะเที่ยวก่อนกลับเมืองไทยด้วย และสถานฑูตญี่ปุ่นก็อาจเห็นว่าเอกสารยังไม่เพียงพอด้วย หนูก็จะเรียนท่านกงสุลไปตามความจริงทุกประการ และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นและได้เดินทางไปเรียนต่อภายในกำหนดค่ะ..ขอบคุณอีกครั้งนะคะ 🙂

    • govisa  On June 12, 2012 at 11:33 pm

      ขอให้โชคดีนะคะน้อง C และน้อง C อย่าลืมเขียนมาแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าเช่นกันค่ะ

  • Pim  On June 16, 2012 at 12:12 am

    สวัสดีค่า จะรบกวนถามค่า คือตอนกรอก work/ educational/ training แล้วพอใส่ previous work แล้วหลังจากนั้น คลิก next มันข้ามไป security เลยค่ะ ไม่มีให้กรอก Have you attended any educational institutions other than elementary school? และคำถามอื่นๆเกี่ยวกับ Additional Work/Education/Training Information ไม่ทราบว่าทำอย่างไรได้บ้างคะ

    และเราจำเป็นต้องกรอกงานที่เคยทำให้ครบมั้ยคะ เขียนแค่งานล่าสุดที่เคยทำก่อนลาออกได้มั้ยคะ

    ขอบคุณมากค่า

    • govisa  On June 16, 2012 at 8:16 pm

      น้อง Pim คะ ขอโทษที่พี่ตอบน้องช้าไปค่ะ พี่อยากบอกว่า อย่ากังวลเลยค่ะ ถ้าน้องเข้าไปอ่านในกระทู้ที่หลายคนเคยเขียนมาถามพี่เกี่ยวกับคำถามข้อนี้ แสดงว่า ไม่ได้มีน้องคนเดียวที่พบปัญหานี้ มีหลายคนที่พบปัญหาแบบเดียวกันกับน้องค่ะ ให้น้องคิดว่าเรา ได้ทำตามระบบที่โปรแกรมทางสถานทูตเซ็ตไว้เป็นขั้นตอนแล้ว ไม่ควรจะมีปัญหา หากยังวิตกกังวอยู่ ให้เขียน resume ขึ้นมาคล้าย resume สมัครงานว่า เราเคยเรียนที่ไหนมาบ้างระหว่างปีค.ศ.อะไรถึงค.ศ.อะไร ได้คดีกรีเรียกว่าอะไร และเคยผ่านการทำงานที่ไหนมาบ้าง ชื่อที่ทำงาน ปี ค.ศ.ที่ทำและลาออก ตำแหน่งงาน และเงินเดือนสุดท้ายตอนทำงานที่นั่น ส่วนที่ที่เคยไปเที่ยว ก็ใส่ list ไปเลยว่า ปีไหนเคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง นำหนังสือเดินทางเล่มเก่าไปด้วยค่ะ ส่วนที่ถามว่า ใส่เที่ทำงานล่าสุดไปก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะน้องจะมี resume แนบไปพร้อม DS-160 Confirmation Number ในวันสัมภาษณ์ด้วยค่ะ

      • Pim  On June 16, 2012 at 9:56 pm

        เพิ่งได้ลองถามเพื่อนๆค่ะ หลายคนบอกว่า ไม่มีส่วนนี้ให้กรอกเหมือนกันค่ะ เลยจองวันสัมภาษณ์ไปแล้วค่า ที่พี่แนะนำว่าให้นำ resume ไปเป็น option ใช่มั้ยคะ
        ปกติไม่ต้องเตรียมไปใช่มั้ยคะ ขอบคุณมากนะคะ

  • Pim  On June 16, 2012 at 2:08 am

    ได้ลองเข้าไปเริ่มต้นกรอกอันใหม่แล้วก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมค่ะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ 🙂

  • Pim  On June 16, 2012 at 2:09 am

    เข้าไปเริ่มต้นกรอกอันใหม่แล้วก้ยังเป้นเหมือนเดิมค่า รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ 🙂

    • govisa  On June 16, 2012 at 8:16 pm

      ตอบแล้วนะคะ น้อง Pim และขอโทษอีกครั้งที่ตอบช้าค่ะ

  • topping  On June 16, 2012 at 2:17 am

    สวัสดีคะ มีปัญหาจะรบกวนถามคะ เนื่องจากตอนที่เข้าจองวันนัดสัมภาษณ์รีบกรอกข้อมูลเพื่อเอา confirmation number ไปจองวันสัมภาษณ์ แต่ตอนหลังต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน DS160 เลยเข้าไปกรอกข้อมูลและได้ confirmation number ใหม่มา เราสามารถปริ้นใบเก่าและใบใหม่ไปในวันสัมภาษณ์ได้ และอธิบายเหตุผลที่เรามี 2 ใบ โดยเค้าจะเลือกเอาใบใหม่ที่สุดไปใช้ตอนสัมภาษณ์ และจะไม่มีผลต่อการสัมภาษ์ของเราใช่มั้ยคะ
    ถ้าไปในโครงการแลกเปลี่ยน และระบุว่าไปกับเพื่อนสองคน แต่เพื่อนลงข้อมูลวันเดินทางไม่ตรงกับเราคือเรากรอกว่าเดินทางวันที่ 5 แต่เพื่อนกรอกเดินทางวันที่ 3 จะมีปัญหาอะไรมั้ยคะ
    และสุดท้ายอยากถามประสบการณ์คนที่เคยไปสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่คะ ว่าได้ยากมั้ย

    • govisa  On June 16, 2012 at 8:25 pm

      น้อง Topping คะ ให้น้องนำ DS-160 Confirmation Number ไปทั้งหมายเลขเก่าและใหม่ค่ะ พี่คิดว่ากงสุลท่านรับฟังเหตุผลของน้องว่า เพราะเหตุใดจึงต้องมี Ds-160 มาสองหมายเลขค่ะ ส่วนวันเดินทางไม่เป็นไร ขึ้นอยู่กับวิธีการตอบคำถามอย่างมีมุขค่ะ น้องอาจอธิบายได้ว่า ตั๋วยังไม่ confirm เพราะช่วงเวลาดังกล่าว คือ กลางเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม ตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาแน่นมากๆค่ะ (นี่เป็นเรื่องจริงค่ะ) ดังนั้นเราคาดว่าจะเป็น 3 แต่ agent ที่จองตั๋วทำไว้เป็น 2 วันคือ 3 กับ 5 ค่ะ

      ส่วนการสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่ไม่น่าจะยากมากค่ะ พี่เคยอ่านจากผู้ที่โพสต์เข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่นี่ และจากเว็บอื่นๆ เช่น พันธ์ทิพย์ค่ะ จำนวนคนเข้าไปนัดสอบสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่มีจำนวนน้อยกว่าที่กรุงเทพ บรรยากาศในห้องสัมภาษณ์และคำถามในการสัมภาษณ์มีความกดดันน้อยกว่าค่ะ

  • Pim  On June 16, 2012 at 10:04 pm

    เพิ่งถามเพื่อนๆดูค่ะ มีคนที่ไม่ได้กรอกส่วนนี้หลายคน เลยคิดว่าไม่น่าจะเป็นไรแล้วค่ะ
    ที่พี่แนะนำเรื่องให้นำ resume ไป คือไม่จำเป็น แต่เป็น option ใช่มั้ยคะ ขอบคุณมากค่า

    • govisa  On June 17, 2012 at 10:13 am

      ใช่ค่ะ น้อง Pim เป็น option อย่างที่น้องเข้าใจค่ะ เพราะพี่เข้าใจความรู้สึกวิตกกังวลกลัวและอื่นอีกมากมายจนกว่าจะสัมภาษณ์ผ่านและรู้ผลสัมภาษณ์ จึงจะกินได้นอนได้อย่างปกติเหมือนเดิม จึงเขียนมาให้กำลังใจว่า เรามีทางแก้ไขทางอื่น คือเขียนเป็น resume ไป ซึ่งก็มีบางคนเขามีอยู่แล้วและเขารู้สึกสบายใจที่จะเอาไปเพิ่มเพื่อให้ดูว่า เขามีการเตรียมตัวมาอย่างดีค่ะ อย่างไรก็ตาม พี่ขออวยพรให้น้องเป็นอีกคนหนึ่งที่โชคดีผ่านการสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ ถ้ามีเวลาเขียนมาเล่าด้วยนะคะว่า กงสุลสัมภาษณ์อะไรบ้าง และผลสัมภาษณ์เป็นอย่างไรค่ะ

  • Pumz  On June 16, 2012 at 11:31 pm

    รบกวนสอบถามค่ะ ถ้าแฟนอยู่อเมริกาเป็นคนไทยมีกรีนคาร์ด เขียน จดหมายเชิญมาแล้วเขียนว่าเป็นผู้สปอนเซอร์เราทุกอย่าง จดหมายเค้าส่งมาให้แล้วแนบมามีใบเสียภาษีแต่ไม่มีใบรับรองรายได้ แบบนี้เพียงพอไหมคะ

    • govisa  On June 17, 2012 at 10:08 am

      น้อง Pumz คะ ถือว่า ยังยื่นหลักฐานไม่ครบค่ะ แฟนต้องมีจดหมายรับรองการทำงาน ถ้าแฟนเป็นลูกจ้าง ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ มีใบรับรองที่มาของรายได้ ให้แฟนปรึกษาทนายความทางโน้นได้ค่ะ รวมทั้งมีจดหมายรับรองจากธนาคาร และสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร และกรอกแบบฟอร์ม I-130 มาให้เรียบร้อยด้วยค่ะ อย่างไรก็ตาม แม้มีเอกสารครบ น้องก็ต้องเตรียมคำตอบทำนองว่า ถ้าเป็นแฟนกัน ทำไมไม่ให้แฟนทำเอกสารมาเพื่อขอ K-1 visa ไปซึ่งน้องก็ต้องหาเหตุผลดีๆมาสนับสนุนว่า ทำไมยังไม่พร้อมที่จะยื่น K-1 visa ค่ะ

  • Pumz  On June 17, 2012 at 10:27 am

    หนูไปเยี่ยมเค้า 10 วัน น่ะค่ะ ไม่ได้ไปอยู่เลย เรายังไม่ได้แต่งงานกัน ตั้งใจจะแต่งต้นปีหน้าค่ะ ก้อต้องเตรียมให้ครบตามที่บอกด้วยใช่ไหมคะ หนูทำงานเป็น sales and marketing ที่ กทม มา 5ปี แล้ว ไปเยี่ยมเดี๋ยวก้อกลับมาทำงานต่อค่ะ

    • govisa  On June 17, 2012 at 9:01 pm

      น้อง Pumz คะ การที่น้องให้แฟนเป็น sponsor ให้ทุกอย่างทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ จำเป็นต้องให้แฟนเตรียมเอกสารให้ครบ เพื่อแสดงถึงฐานะของแฟนว่า แฟนประกอบอาชีพอะไร มีรายรับประมาณเท่าไร เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้รัฐบาลอเมริกัน และที่สำคัญสามารถดูแลและรับผิดชอบน้องได้ตลอด 10 วันที่น้องจะไปพักอยู่ด้วยค่ะ และก็แน่นอนกงสุลคงถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าน้องกับแฟน พร้อมทั้งมีคำถามอื่นๆที่อาจเกี่ยวข้องกับแผนการในอนาคตระหว่างน้องกับแฟนค่ะ อย่างไรก็ตาม ถ้าน้องทำงานมานาน 5 ปี มีเงินเก็บในบัญชีธนาคารจำนวนเป็นเลขหลักแสน เป็นต้นว่า ประมาณ 4-5 แสนบาท ถ้าไม่อยากรบกวนให้แฟนต้องเตรียมเอกสารมาก น้องน่าจะใช้จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของน้องเองได้ โดยไม่ต้องแสดงหลักฐานจากทางแฟน และจดหมายเชิญจากแฟนค่ะ น้องอาจจะแจ้งกงสุลว่า น้องจะเดินทางร่วมไปกับบริษัททัวร์ชื่อนี้ ระหว่างวันที่นี้ถึงวันที่นี้ ไปไหนกันบ้าง โดยน้องอาจจะนำโบร์ชัวร์ของบริษัททัวร์นั้นให้กงสุลดูได้ค่ะ น้องลองวิเคราะห์และตัดสินใจเองนะคะ

  • topping  On June 17, 2012 at 12:23 pm

    ขอบคุณพี่มากคะ ที่มาช่วยตอบคำถาม

    • govisa  On June 17, 2012 at 8:43 pm

      ยินดีให้ความช่วยเหลือน้องค่ะ น้อง Topping

  • topping  On June 18, 2012 at 4:21 pm

    ถ้าได้ทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนระยะสั้น (1เดือน) โดยมีหนังสือจากทางคณะออกให้ว่าช่วยออกค่าใช้จ่ายให้จำนวนหนึ่ง จำเป็นต้องใช้ statement ของผู้ปกครองมั้ยคะ

    • govisa  On June 18, 2012 at 7:06 pm

      น้อง Topping คะ การใช้จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของผู้ปกครองและแสดงบัญชีเงินฝากของผู้ปกครอง เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งที่มีนัยยะบอกว่า น้องยังมีความผูกพันอยู่กับครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคมไทยอยู่ค่ะ แม้จะไปแค่เดือนเดียว ทางทุนคงแสดงจดหมายรับรองการเงินว่ารับผิดชอบเพียงเดือนเดียวค่ะ แต่ถ้าน้องมีจดหมายรับรองจากทางบ้านด้วยอาจเป็นตัวช่วยให้จำนวนระยะเวลาที่จะได้รับวีซ่าให้อยู่ในประเทศสหรัฐฯมีระยะเวลาที่นานกว่าจดหมายจากคณะเพียงอย่างเดียวค่ะ

  • C  On June 21, 2012 at 9:51 am

    ได้วีซ่าเรียบร้อยแล้วค่ะ ท่านกงศุลใจดีมากเลย บรรยากาศการสัมภาษณ์ก็เลยสบายๆ ท่านไม่ถามถึงเรื่องที่ไปขอวีซ่าตอนที่อยู่ที่ญี่ปุ่น ถามแต่ว่าจะไปเรียนอะไรที่อเมริกา ใครเป็นsponsorให้ แล้วหลังจากเรียนจบกลับมาจะทำอะไรต่อ ประมาณนี้ค่ะ..

    ขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำนะคะ

  • Fern  On June 21, 2012 at 1:35 pm

    พี่ค่ะ คือ หนูกรอกข้อมูลในDS160ให้ครอบครัวผิดค่ะ ทั้งเรื่องการสะกดชื่อและเรื่องกำหนดการเดินทาง ซึ่งหนูได้ทำการ submit ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำเรื่องขอนัดสัมภาษณ์
    1) ไม่ทราบว่าหนูสามารถกลับไปแก้ไขข้อมูลใหม่ได้ไหมค่ะ แล้วถ้าหนูต้องการเลื่อนกำหนดวันเดินทางให้เร็วขึ้น จากวันที่1ตุลาคม2012นี้ มาเป็นช่วงเดือนสิงหาคม 2012 ไม่ทราบว่าจะได้ไหมค่ะ
    2) จริงหรือเปล่าค่ะ ที่คนที่เกษียณอายุราชการแล้วมีโอกาสจะไม่ผ่านการสัมภาษณ์สูง คือ คุณแม่ของหนูจะเกษียณในเดือนกันยายน 2012 นี้ค่ะ

    • govisa  On June 21, 2012 at 8:52 pm

      น้อง Fern คะ
      1. ถ้าน้องยังไม่ได้ทำการนัดวันสัมภาษณ์ ให้น้องกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ และใช้หมายเลข DS-160 อันใหม่ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ แต่ถ้ามีการผิดพลาดไป ด้วยการจองวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่และ print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ออกมา ในวันสัมภาษณ์ให้นำทั้งหมายเลขเก่าที่ใช้ในการจองวันนัดสัมภาษณ์และหมายเลขใหม่ที่แก้ไขแล้วเข้าไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตค่ะ ส่วนเรื่องวันเดินทาง อย่าได้เป็นกังวลว่าจะต้องตรงกันกับวันที่กรอกไปในฟอร์มวีซ่า อาจมีการขยับเลื่อนเข้าหรือเลื่อนออกได้ค่ะ สิ่งที่น้องไม่ควรกรอกผิดเลย คือ ชื่อและนามสกุลของผู้ยื่น รวมทั้งรายละเอียดของผู้ยื่นขอวีซ่าค่ะ
      2. ไม่จริงค่ะ เพียงแต่เป็นเรื่องพูดกันปากต่อปากว่า ถ้าไม่ได้ทำงานแล้ว เดี๋ยวกงสุลไม่เชื่อว่า มีฐานะทางสังคมมั่นคงดี อาจจะทำให้กงสุลกลัวว่าไปแล้วไม่กลับ ที่จริงพี่อยากบอกว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลมากกว่า ถ้าผู้สูงอายุท่านนั้น ไม่เคยเก็บเงินเก็บทอง พูดง่ายๆว่า มีเงินในบัญชีน้อยมากถึงไม่มีเงินเหลือเก็บอยู่ในบัญชีเลย และถ้ามีลูกหลานเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่อเมริกาอีก case แบบนี้ก็เสี่ยงอยู่ว่า จะอยากไปอยู่กับลูกหลานทางโน้นหรือไม่ค่ะ เพราะอยู่เมืองไทยเป็นคนไม่มีอะไรเลยค่ะ แบบนี้อาจจะเรียกได้ว่า เป็น case ที่ดูน่ากลัว คือ ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือว่า จะมีความสามารถดูแลตนเองได้ในระหว่างไปท่องเที่ยวในสหรัฐฯค่ะ แต่ถ้าผู้สูงอายุท่านนั้นมีเงินเหลือเก็บในบัญชีบ้าง เช่น มีสักประมาณ 6-7 แสน ก็ยังดูน่าเชื่อถืออยู่นะคะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องวีซ่าค่ะ ยิ่งถ้าไม่มีญาติอยู่ในสหรัฐฯเลย ก็ไม่มีเหตุปัจจัยอะไรที่ผู้สูงอายุท่านนั้นจะอยากอยู่ที่สหรัฐฯค่ะ

  • Fern  On June 26, 2012 at 11:38 am

    ขอบคุณพี่มากนะคะที่เข้ามาช่วยตอบคำถามให้อย่างละเอียด ตอนนี้คุณแม่สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ

  • แฟร์  On June 26, 2012 at 11:43 am

    ถ้าเราต้องการปริ้นรายละเอียดที่เรากรอกให้ DS-160 เราจะปริ้นจากตรงไหนได้คะ
    (เราคอนเฟิร์มไปแล้ว แต่อยากปริ้นรายละเอียดมาอ่านอีกทีคะ)

    • govisa  On June 26, 2012 at 7:27 pm

      น้องแฟร์คะ คำถามน้องเหมือนคำถามน้อง Fern คือ น้องไม่สามารถ print DS-160 Application ออกมาได้แล้วค่ะ เพราะน้องจะต้อง print ทันทีที่น้อง confirm and submit ไปแล้วค่ะน้องจะทดลองทำดูก็ได้คือ เข้าไปที่เว็บไซต์ https://ceac.state.gov/genniv/General/complete/complete_gettingstarted.aspx?node=GetStarted คลิกเลือก retrieve application ใส่รหัส AA002…….กรอกรหัสตามที่โปรแกรมกำหนด ลองดูว่าจะคลิก application ได้ไหมค่ะ เวลาสัมภาษณ์ไม่ได้ใช้ DS-160 Application ค่ะ

  • Fern  On June 26, 2012 at 11:52 am

    พี่ค่ะ ถ้าหนูต้องการปริ้นข้อมูลที่ได้กรอกไว้ในแบบฟอร์มมาอ่าน หนูต้องปริ้นยังไงค่ะ คือ ตอนที่ทำไม่มีเครื่องปริ้น ก็เลยไม่ได้ปริ้นออกมาหลังกด submit ได้แต่ส่ง confirmation number เข้าเมลล์ตัวเองค่ะ (ตอนนี้ปริ้นได้แต่ใบนี้อ่ะค่ะ)

    • govisa  On June 26, 2012 at 7:20 pm

      น้อง Fern คะ ถ้าไม่ได้ print ออกมาตั้งแต่แรก น้องจะ print ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะจะต้อง print หลังคลิก confirm and submit ถ้าคิดจะมา print ภายหลังจะทำไม่ได้ค่ะ น้องอาจจะลองเข้าไปที่ https://ceac.state.gov/genniv/General/complete/complete_gettingstarted.aspx?node=GetStarted
      คลิกเลือก retrieve application ใส่รหัส DS-160 Confirmation Number และอื่นๆตามที่โปรแกรมสั่งให้น้องกรอก ถ้าคลิกเลือก application แล้วยอมให้ print ก็แปลว่าน้องโชคดีมากค่ะ พี่จะบอกว่า อย่ากังวลเลยถ้า print ไม่ได้ พยายามนึกว่าเรากรอกอะไรไปบ้างจะได้สบายใจค่ะ อย่าไปเครียดมาก เตรียมเอกสารอย่างอื่นให้ดีที่สุดค่ะ

  • ao  On July 3, 2012 at 3:32 am

    เนื่องจากเป็นการขอครั้งแรก แล้วไม่มีประสบการณ์ จึงขอถามเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง คือ มีการกรอกข้อมูล DS160 พร้อมกับมีการนัดวันสัมภาษณ์ไว้เรียบร้อยตั้งแต่เดือน พค. มีนัดสัมภาษณ์วันที่ 9 กค นี้ แต่ยังไม่ได้มีการปริ้น confirmation DS160 ปัญหาคือ ตอนนี้ได้ทำการเข้าไปปริ้น แต่ไม่สามารถเข้าไปยังข้อมูลได้ ไม่แน่ใจว่าเป็นปัญหาจากระบบ หรือลืมคำตอบ คำถามคือ
    1. จำเป็นไหม ที่ต้องอีเมลล์ไปถาม visasbkk@state.gov เพื่อแจ้งปัญหา ก่อนทำ DS160 ใหม่
    2. กรณีกรอก DS160 ใหม่ เอกสารที่นำไปจะมี ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์ซึ่งระบุหมายเลยเก่า พร้อมกับ confirmation DS160 ใบใหม่ ถูกต้องไหมคะ (เพราะ confirmation อันเก่า ปริ้นไม่ได้)
    3.ใบ confirmation DS160 คือ ใบที่ออกมามี barcord พร้อมกับรูป ใช่หรือไม่
    4. กรณีไม่ได้กรอกเอกสารใหม่ สามารถใช้ใบยืนยันนัดสัมภาษณ์แทนได้หรือไม่ เพราะในใบนั้นระบุ application ID

    • govisa  On July 3, 2012 at 5:32 am

      น้อง Ao คะ พี่เข้าใจว่าสิ่งที่น้อง print ไม่ได้คือ Application form มาแน่ใจยิ่งขึ้นเมื่ออ่านคำถามไปเรื่อยๆในข้อ 3 และข้อ 4 ขอตอบความสงสัยของน้องดังนี้คือ

      1. ในการยื่นเอกสารวันนัดสัมภาษณ์ สิ่งที่ต้องยื่นให้กงสุลดูคือ DS-160 Confirmation Number ที่มีรูปน้องและบาร์โค้ด มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวน้อง เช่นหนังสือเดินทาง วันเดือนปีเกิด ฯลฯ
      2. ไม่ต้องยื่น Application form ของ DS-160 ให้กงสุลดู หลายท่าน Print Application form ออกมาเก็บไว้เพื่ออ่านเอง กฎในการ Print คือ ถ้าน้องจะ print ต้อง print ตั้งแต่ตอนแรกที่ทำเสร็จ ถ้าจะกลับมา print ในวันหลังจะ print ไม่ได้แล้วค่ะ
      3. หมายเลข Application ID กับหมายเลข DS-160 Confirmation Number คือหมายเลขเดียวกัน

      น้องไม่ต้องเป็นกังวลจนถึงต้องกรอก DS-160 ใหม่เลยค่ะ ใช้หมายเลข DS-160 เดิมได้ค่ะ ส่วนคำถามที่ถามว่า ถ้าจะกรอกข้อมูลใหม่และยื่นพร้อมทั้งหมายเลขเก่าและใหม่ถูกต้องแล้วค่ะ คือทำได้ แต่เราจะใช้ในกรณีที่เรากรอกข้อความผิดและเป็นความผิดหลักๆเกี่ยวกับข้อมูลของตัวเราเองค่ะ

  • peehub  On July 10, 2012 at 11:59 pm

    รบกวนถามคะ เรากรอก ds-160 และยืนยันวันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ได้คิวนัดสัมภาษณ์วันที่ 6 สิงหาคม 55 จะเดินทางวันที่ 21-28 ตุลาคม 2555
    – แต่มีข้อมูลที่ผิดอยู่ตรงวันเริ่มทำงานคือ 1 พ.ค. 55 แต่จริงๆแล้วเราเริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่เดือนกันยายน 54 แต่พอเดือนพฤษภาคม 55 เราสอบเปลี่ยนตำแหน่งได้ จะดูว่าทำงานมาเวลาน้อยเกินไปมั้ยคะ และหนังสือรับรองการทำงานระบุวันเริ่มทำงานตั้งแต่กันยายน 54 ซึ่งจะไม่ตรงกะข้อมูลที่กรอก ds-160 ควรทำการไปแก้ไขให้ตรงกันหรือเปล่า และกรอกemailของเพื่อนที่เรียนต่อปริญญาเอกที่เราจะไปพักด้วยผิดคะ
    – แล้วอีกกรณีคือดิฉันจะไปเที่ยวกะสามีคนไทย สามีมีวีซ่าแล้ว 10 ปีและเพิ่งไปมาเมื่อเดือนมิถุนายน 55 จดทะเบียนสมรสตั้งแต่ปี 52 แต่ดิฉันไม่ได้เปลี่ยนคำนำหน้าและนามสกุลจะมีปัญหามั้ยคะ มีบุตรแล้ว 1 คนรบกวนช่วยแนะนำด้วยคะ จองตั๋วเครื่องบินไป-กลับเรียบร้อยแล้วด้วยคะ

    • govisa  On July 11, 2012 at 5:41 am

      น้อง Peehub คะ ถ้าจะไม่ให้รู้สึกไม่สบายใจกรอก DS-160ใหม่ที่ถูกต้อง และถ้าลืมกรอกชื่อผู้ที่จะร่วมเดินทางไปด้วยคือสามี ให้กรอกให้เรียบร้อยด้วยนะคะ อย่าลืมนำหมายเลข DS-160 ทั้งใหม่และเก่าไปด้วย แนะนำให้ถ่ายเอกสารที่จะเป็นหลักฐานของสามีหรือจะนำหนังสือเดินทางสามีไปด้วยก็ได้เพื่อให้กงสุลเห็นว่าเราเดินทางพร้อมสามี ส่วนมีลูกด้วยกันก็นำใบเกิดลูกไปแสดง พร้อมทั้งทะเบียนสมรส(ถ้าจดทะเบียนสมรส)เพราะน้องยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุล ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรแสดงว่า น้องกับผู้ที่จะเดินทางร่วมกับน้องมีความสัมพันธ์กันในฐานะอะไรค่ะ

  • peehub  On July 12, 2012 at 7:50 am

    แล้วอย่างดิฉันใช้การจองแบบโทรนัดสัมภาษณ์ จะเหมือนกับจองทางอินเตอร์เน็ตมั้ยค่ะ เพราะเค้าส่งemailยืนยันมา ซึ่งมีรหัสหมายเลขds-160ระบุไว้ ถ้ากรอกใหม่ก็จะไม่ตรงกับอันเดิมไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ

    • govisa  On July 12, 2012 at 5:35 pm

      น้อง Peehub คะ การนัดวันสัมภาษณ์ด้วยการนัดหมายทางโทรศัพท์กับทางอินเทอร์เน็ตเหมือนกันทุกประการค่ะ ต่างกันที่ราคาค่าใช้จ่ายในการทำวันนัดและการเข้าไปดูวันนัดสัมภาษณ์ที่ว่างและเปิดให้จอง ทางอินเทอร์้เน็ตมีความได้เปรียบกว่าที่ผู้จะทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เพราะผู้ที่จะขอวีซ่าสามารถ log in ในเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์เพื่อเข้าไปดูตารางนัดได้ 24 ชั่วโมง และตลอด 7 วัน ในขณะที่การนัดทางโทรศัพท์จะต้องโทรในเวลาทำการที่กำหนด และได้เฉพาะวันทำการ โทรติดต่อไม่ได้ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ค่ะ

      ถ้าจะกรอก DS-160 ใหม่ก็จะได้หมายเลขใหม่ไม่ตรงกับ DS-160 ที่อยู่ในอีเมล์ที่คอนเฟิร์มวันนัดสัมภาษณ์มาให้น้องค่ะ นั่นคือความหมายที่พี่แนะนำให้น้องนำหมายเลข DS-160 ทั้งของใหม่และของเดิมไปทั้งสองใบในวันสัมภาษณ์ค่ะ

  • peehub  On July 12, 2012 at 9:35 pm

    ขอบคุณนะค่ะสำหรับคำแนะนำ วันที่ 6 สิงหา เดือนหน้าจะแจ้งผลนะค่ะ

    • govisa  On July 13, 2012 at 5:26 am

      โชคดีนะคะน้อง Peehub พี่จะคอยฟังข่าวค่ะ

  • JongJIt V  On July 14, 2012 at 4:36 pm

    อยากทราบเกี่ยวกับการขอวีซ่านักเรียน จะเดินทาง 3 ส.ค เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ แต่ตอนนี้ทำวีซ่าเป็นนักท่องเที่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้วเพราะกลัวว่าจะไม่ทัน แต่ได้ i-20มาพอดี จะเปลี่ยนได้ไหมค่ะ หรือต้องขอใหม่ เป็นเด็กอายุ 15 ค่ะ ขอบคุณคะ

    • govisa  On July 14, 2012 at 8:30 pm

      น้อง JongJIT คะ ถ้าน้องจะไปเรียนหนังสือ เมื่อได้รับ I-20 มาแล้ว น้องคงต้องขอวีซ่านักเรียน F-1 ค่ะ วีซ่านักท่องเที่ยว B-2 ตามกฎหมายเรียนหนังสือเกิน 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไม่ได้ค่ะ เหลือเวลาอีกสองอาทิตย์น้องก็คงต้องกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ตอนนี้ และทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ไป น้องสามารถขอ expedite วันนัดสัมภาษณ์วีซ่าได้แต่ต้องยืนอยู่บนเหตุผล หมายความว่า น้องต้องสแกนหน้าแรก I-20 เข้าไปให้สถานทูตดูว่า I-20 ของโรงเรียนน้องระบุให้เข้าประเทศอย่างช้าไม่เกินวันที่เท่าไรค่ะ ดังนั้นถ้าน้องบอกว่าจะเดินทางวันที่ 3 สิงหาคม แต่ถ้าใน I-20 ระบุว่านักเรียนสามารถเข้าประเทศได้ก่อนล่วงหน้าไม่เกิน 20 สิงหาคม ทางสถานทูตอาจจะให้คิวเร่งรัดวีซ่าน้องออกมาเป็น 15 สิงหาคม ซึ่งน้องก็คงต้องยอมรับข้อเสนอนั้น พี่คิดว่า น้องหาวันเดินทางใหม่อาจจะง่ายกว่าหาวันจองนัดสัมภาษณ์วีซ่า (แม้ว่าช่วงนี้ตั๋วจะแน่นก้ตามค่ะ) พี่เข้าใจว่า การเปลี่ยนวันที่เดินทางจะต้องมีค่าใช้จ่ายให้ทางสายการบินค่ะ เท่าที่พี่ทราบคิวนัดสัมภาษวีซ่านักเรียนช่วงนี้แน่นมากๆค่ะ ไม่สามารถคาดเดาได้ค่ะว่า น้องจะได้วันนัดสัมภาษณ์วันที่เท่าไรค่ะ ลองทำดูนะคะ เอาใจช่วยค่ะ

      อนึ่งถ้าหากจะถามว่า น้องเข้าไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยวก่อนแล้วไปทำเรื่องเปลี่ยนสถานภาพวีซ่าเป็นวีซ่านักเรียนได้ไหม พี่ขอเรียนให้ทราบว่า ทำได้แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานค่ะ อย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไปนะคะ และอาจต้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานทนายความที่สหรัฐฯหากทำเองไม่ถูกค่ะ

      • JongJIt V  On July 14, 2012 at 11:14 pm

        ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ ถ้าต้องเดินทางวันที่3แน่นอน เพราะจะไปพร้อมกับคุณลุงเพื่อที่จะไปเยี่ยมเพื่อนที่นั่น อย่างนั้นตอนนี้สมัครF1ไว้ได้ไหมแล้วจะมีผลกับวีซ่านักท่องเที่ยวที่เพิ่งได้หรือไม่ (แล้วค่อยกลับมาเมืองไทยขอวีซ่านักเรียนใหม่อีกที ตอนปลายเดือนสิงหา เพราะโรงเรียนเปิดประมาณกันยาค่ะ แล้วค่อยบินไปเองอีกรอบดีไหมค่ะ)

      • govisa  On July 15, 2012 at 9:22 am

        น้อง JongJIT คะ จะทำตามที่น้องอธิบายพี่มาก็ได้ค่ะ ไม่มีผลกระทบกับวีซ่านักท่องเที่ยว (B-2) ถ้าน้องเข้าประเทศสหรัฐฯด้วยวีซ่านักเรียน(F-1) อิมมิเกรชั่นจะดูว่า น้องปฏิบัติตามกฎการเข้าเมืองของวีซ่านักเรียน คือ จะเข้าก่อนหน้าสถานศึกษาเปิดได้ไม่เกิน 30 วันรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หากเข้าประเทศสหรัฐฯเกินกำหนดแม้แต่วันเดียวก็ต้องเดินทางออกไปนอกประเทศสหรัฐฯก่อน อิมมิเกรชั่นไม่ให้น้องๆนอนค้างรอที่สนามบินเหมือนที่น้องบางคนเคยเขียนถามมาค่ะ

        อนึ่ง น้องต้องกะจังหวะให้ดีด้วยว่า น้องจะกลับมาหลังจากเที่ยวเสร็จ เพื่อสอบสัมภาษณ์วีซ่าให้ทันตามที่กำหนดนัดไว้นะคะ น้องบางคนที่ไม่ได้มีคนรู้จักอยู่ที่อเมริกาอาจจะไม่อยากทำอย่างที่น้องบอกพี่มา เพราะต้องประหยัดเงินค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ

  • Benz  On July 18, 2012 at 8:23 am

    เมื่อวานและวันนี้เข้าเวปนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาไม่ได้เลยค่ะ เกิดอะไรขึ้นค่ะ พอจะทราบข้อมูลมั๊ยะค่ะ
    และอีกคำถามค่ะเรื่องวีซ่า ถ้าในวันสัมภาษณ์พาสปอร์ตมีอายุเกิน 6 เดือน แต่วันไปจริงมีอายุไม่เกิน 6 เดือน เพื่อนแนะนำว่าควรไปทำพาสปอร์ตใหม่เลย แต่ในใบนัดและ ds160 เป็นหมายเลขพาสปอร์ตเดิม เพื่อนบอกให้ถือไปได้ 2 เล่ม ถ้าผ่านให้พาสปอร์ตเล่มใหม่ไป เป็นไปได้รึป่าวค่ะในกรณีนี้ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On July 18, 2012 at 5:00 pm

      น้อง Benz คะ การเข้าเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์เป็นปรากฏการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกิดจากเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์เองค่ะ ต้องลองทิ้งไว้สักพัก ส่วนใหญ่ไม่เกินหนึ่งวันก็จะกลับมาใช้ได้อีกค่ะ
      ส่วนการที่หนังสือเดินทางจะมีอายุไม่ถึงหกเดือนนั้น ให้น้องทำหนังสือเดินทางใหม่และกรอก DS-160 ใหม่ print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ออกมาและนำไปยื่นในวันสัมภาษณ์พร้อมหมายเลข DS-160 หมายเลขเก่า อย่าลืมนำหนังสือเดินทางเล่มเก่าเข้าไปด้วยพร้อมทั้งอธิบายเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตว่า เกรงว่าจะได้วันนัดช้าจึงรีบกรอกเอกสารไปก่อน และไปทำหนังสือเดินทางทีหลังค่ะ

  • jongjit v  On July 18, 2012 at 9:02 am

    เด็กอายุ 15 และ 13 ผู้ชายเดินทางเองด้วยวีซ่านักเรียน ผ่านตม.อเมริกา ได้ไหมค่ะ ต้องมีคนพาไปหรือเปล่า

    • govisa  On July 18, 2012 at 5:05 pm

      น้อง Jongjit v คะ ถ้าเด็กทั้งสองท่านเป็นลูกของน้อง และน้องมีความมั่นใจว่าเด็กมีความพร้อมที่จะตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯเองและแก้ไขสถานการณ์เองได้ คำถามเช่น เด็กทั้งสองท่่านเข้ามาทำอะไรในประเทศสหรัฐฯ พร้อมทั้งเด็กสามารถไปรับกระเป๋าเดินทางเอง ไปพบกับกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อยื่นเอกสารเกี่ยวกับ custom เองได้ ก็ปล่อยให้เด็กเดินทางไปกันเองได้ค่ะ โดยน้องไม่ต้องไปส่งค่ะ

      อนึ่ง น้องควรตรวจสอบกับสายการบินที่น้องจะซื้อตั่วให้เด็กใช้ในการเดินทางด้วยว่า เขามีกฎระเบียบอย่างไรสำหรับเด็กที่จะเดินทางเองคนเดียว พี่จะส่งลิงก์ของบางของสายการบินมาให้ดังนี้ คือ

      1. Delta : http://www.delta.com/planning_reservations/special_travel_needs/services_for_children/children_traveling_alone/index.jsp
      2. United: https://www.united.com/web/en-US/content/travel/specialneeds/minors/default.aspx?Mobile=1

      หรือ ลองเข้าไปอ่านเรื่องกฎระเบียบความปลอดภัยในการเดินทางทางเครื่องบินที่ http://www.airsafe.com/kidsafe/kidrules.htm หรือเคล็ดลับ 10 ประการในการเดินทางของเด็ก หากผู้ปกครองมั่นใจในวุฒิภาวะของเด็ก และไม่เป็นการผิดกฎระเบียบของสายการบินนั้นๆ ผู้ปกครองก็ควรจะสอนเด็กให้เข้าใจถึงวิธีการวางตนเมื่ออยู่บนเครื่องบิน ทั้งไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นระหว่างเดินทาง และในขณะเดียวกันก็ดูแลตนเองได้ไม่ถูกผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่คนอื่นเอาเปรียบด้วย http://www.airsafe.com/kidsafe/kidsolo.htm

  • Elep  On July 18, 2012 at 10:40 am

    พี่คะ หนูอยากทราบว่า ทำไมหนู create account แล้ว เมื่อคืนวันจันทร์และก็จองวันสัมภาษณ์แล้ว (แต่ยังไม่ใช่วันที่ต้องการ คือ จองไว้ก่อน) พอเมื่อคืนจะ login ก็เข้าไม่ได้เลย พอใส่ username กับ password มันก้อขึ้นว่า Feature not found. Please try again later ตลอดเลยค่ะจนถึงเช้านี้ อย่างนี้คือ PIN หนูมีปัญหาหรือเปล่าคะ แล้วพอมีวิธีแก้ไขไหมคะ
    ช่วยตอบด้วยนะคะ (เครียดมากๆเลย) ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On July 18, 2012 at 5:16 pm

      น้อง Elep คะ พี่สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นน้องรีบคีย์เลยใส่ตัวอักษรใน username หรือ password พลาดไปหรือเปล่าค่ะ แต่พอไปอ่านที่น้อง Benz ถามเข้ามา น้อง Benz พูดถึงเหตุการณ์เข้าเว็บนัดสัมภาษณ์วันนี้ไม่ได้ พี่จึงคิดว่าเป็นที่ตัวระบบของเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์แล้วค่ะ เพราะเคยมีปรากฏการณ์ทำนองนี้ และสักพักเว็บจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งค่ะ ถ้ากากไม่ใช่ทั้งสองเหตุผลคงต้องเขียนปัญหาไปที่ visasbkk@state.gov ค่ะ หรือถ้าจะต้องการความเร็วไม่อยากรอคำตอบก็ต้องยอมจ่ายเงินค่าซื้ิอพินใหม่ ซึ่งคำตอบหลังอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีนักค่ะ

  • Benz  On July 18, 2012 at 10:54 pm

    ขอบคุณพี่มากนะค่ะ สำหรับคำแนะนำ ส่วนเวปก็ยังเข้าไม่ได้เหมือนเดิม 2 วันแล้วค่ะ แต่จะลองเข้าเรื่ิอยตามที่พี่แนะนำค่ะ เพราะต้องจองให้เพื่อนที่จะไปด้วยกัน ส่วนถ้าตัวเองไปสัมภาษณ์แล้วจะมาอัพเดตให้ค่ะ ลุ้นมากค่ะ

  • Benz  On July 19, 2012 at 12:45 am

    มาอัพเดตเพื่ินๆค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์ ตอนนี้เวปนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาเข้าได้แล้วนะค่ะ เพิ่งเข้าได้ตอนเที่ยงคืนค่ะ วันนัดสิงหานี้ตั้งแต่ 21 ยังว่างนะค่ะ รีบด่วนค่ะ ดีใจมากจองให้เพื่อนได้แล้วค่ะ

    • govisa  On July 19, 2012 at 5:40 am

      น้อง Benz คะ ขอบคุณที่เขียนมาบอกนะคะ เพราะหลายๆคนที่เข้ามาอ่านจะได้ทราบว่า เว็บนัดสัมภาษณ์ช่วงที่มีการนัดหมายหนาแน่นในบางครั้งจะเกิดอาการอย่างที่น้องพบได้ คือ เข้าไม่ได้เหมือน server ล่มประมาณนั้นค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าของเว็บจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อสงสัยว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านเราเสียหรือเปล่าค่ะ ดีใจด้วยที่น้องเข้าเว็บนัดได้แล้วและจองวันนัดได้แล้วค่ะ มีอะไรสงสัยเขียนมาถามได้อีกค่ะ

  • jongjit v  On July 20, 2012 at 8:26 am

    ขอรบกวนเพิ่มเติมนะคะ คือตอนนี้นัดวันสัมภาษณ์ให้หลาน 2 คนได้แล้ว สำหรับF1วีซ่า ในวันที่ 24/7 นี้ ถ้าได้F1แล้ว วีซ่านักท่องเที่ยวของเขาที่ได้รับก่อนหน้านี้จะถุกยกเลิกไหมค่ะ และใน I-20 ระบุวันที่ report to school no later than 5/9/12 แสดงว่าเขาจะเดินทางไปพร้อมกับคุณลุงวันที่ 3 สิงหา ไมได้ใช่ไหมค่ะ เพราะเกิน 30 วันและเดือนสิงหามี 31 วัน เพราะฉะนั้นเขาจะเดินทางได้เร็วที่สุดวันไหนค่ะ ถ้าจะเดินทางวันที่3 เราควรจะใช้วีซ่านักท่องเที่ยวแทน แล้วให้บินกลับมาแล้วค่อยบินไปอีกทีด้วยวีซ่านักเรียน หรือว่าอยู่ต่อได้เลยค่ะ ฟังดูน่าเวียนหัวนะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดี เพราตั๋วก็ซื้อแล้ว คุณลุงก็เปลี่ยนแปลงการเดินทางไม่ได้ ขอบคุณมากนะค่ะที่ช่วยเหลือ

    • govisa  On July 20, 2012 at 7:34 pm

      น้อง Jongjit v คะ ขอตอบคำถามเป็นข้อๆดังนี้คือ

      1. เมื่อหลานทั้งสองได้รับวีซ่านักเรียน วีซ่านักท่องเที่ยวไม่ได้ถูกยกเลิก ถ้าเราใช้วีซ่านักเรียนเข้าประเทศ เราจะอยู่ในประเทศสหรัฐฯในฐานะนักเรียน วีซ่านักท่องเที่ยวจะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อนักเรียนทั้งสองท่านเรียนจบ เช่น สมมติหลักสูตร 1 ปี กลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทยและวันหลังอยากจะกลับเข้าไปเที่ยวประเทศสหรัฐฯใหม่โดยวีซ่านักท่องเที่ยวของหลานทั้งสองยังไม่หมดอายุ หลานทั้งสองก็ยังมีสิทธิที่จะเข้าไปในประเทศสหรัฐฯในฐานะนักท่องเที่ยวได้ค่ะ

      2.วันที่ที่ระบุใน I-20 ถ้าเป็น 5/9/12 แปลว่าวันที่ 9 พฤษภาคม 2012 ซึ่งเลยมาแล้ว น่าจะเป็นวันที่ 9/5/12 มากกว่า เพราะจะหมายความว่า วันที่ 5 กันยายน 2012 คนอเมริกันจะวางเดือนไว้ข้างหน้าวันที่ค่ะ ถ้าเดินทางพร้อมลุงวันที่ 3 สิงหาคมแปลว่าเข้าไปในประเทศสหรัฐฯก่อนล่วงหน้าวันเปิดเรียนประมาณ 34 วันค่ะ ถือว่าผิดกฎหมายการเข้าเมืองของวีซ่าประเภทนักเรียนค่ะ ถ้าถามว่าเขาควรจะเดินทางวันไหนดี น่าจะเป็น 7 สิงหาคมค่ะ นับไปถึง 5 กันยายนจะได้ 30 วันพอดีค่ะ

      3. ถ้าจะเดินทางวันที่ 3 สิงหาคมด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว คำตอบคือได้ค่ะ แต่หลังจากเที่ยวเสร็จไม่มีสิทธิ์เรียนหนังสือ เพราะเป็นวีซ่านักท่องเที่ยว ต้องทำเรื่องเปลี่ยนสถานภาพเป็นใช้สิทธิ์ของวีซ่านักเรียน โดยการกรอกฟอร์ม I-539 เพื่อยื่นเรื่องไปที่ CNMI ต้องชำระค่าธรรมเนียมคนละ 290 ดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลารอฟังผลการพิจารณาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนขึ้นไปค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=94d12c1a6855d010VgnVCM10000048f3d6a1RCRD&vgnextchannel=db029c7755cb9010VgnVCM10000045f3d6a1RCRD
      ขึ้นอยู่กับว่าเด็กจะดำเนินเรื่องเองได้ไหมด้วยค่ะ หรือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ที่น้องรู้จัก

      4. การตัดสินใจของเรื่องนี้อยู่ที่ผู้ปกครอง เพราะน้องก็เขียนมาบอกพี่อยู่แล้วว่า ถ้าเดินทาง 3 สิงหาคมเกรงว่าจะเกิน 30 วันแปลว่า น้องทราบกฎการเข้าเมืองของวีซ่านักเรียนอยู่แล้ว ดังนั้นจะตัดสินใจเป็นวันที่ 3 สิงหาคมทำไปเพื่ออะไร ถ้าลุงมีธุระจะรีบไปก็ให้ลุงเดินทางไปคนเดียว ส่วนน้อง Jongjit ก็ขอวีซ่านักท่องเที่ยวไปส่งคุณหลานทั้งสอง ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับของน้อง Jongjit คนเดียวน่าจะถูกกว่าซื้อไปกลับอีก 2 ใบให้หลานทั้งสองคนค่ะ เพราะเขาทั้งสองคนก็ต้องจ่ายราคาค่าตั๋วเครื่องบินเท่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว หรือ จะลองปรึกษาเอเจนซี่ขายตั๋วเลื่อนการเดินทางของทั้งสามท่านออกมาและยอมจ่ายค่าเปลี่ยนตั๋วอีกคนละ 3-4 พันบาท 3 คน คำนวณออกมา 3 คนอาจจะอยู่ราว 12,000 บาท ก็ยังถูกกว่าซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับให้หลานทั้งสองคนไปเที่ยวอเมริกาก่อนเสร็จแล้วกลับมาไทยแล้วกลับไปอเมริกาใหม่ค่ะ ถ้าจะเลื่อนวันเดินทางก็รีบตัดสินใจ เพราะตั๋วเครื่องบินช่วงเดือนสิงหาคมแน่นพอสมควรค่ะ

  • palm  On July 22, 2012 at 1:49 pm

    -ต้องจ่ายค่า sevis fee ก่อน จึงจะกรอกข้อมูล ds-160 เสร็จได้ใช่มั้ยคะ
    -เลข application ID ตอนกรอก ds-160 คือเลขเดียวกันกับ confirmation number รึป่าวคะ ถ้าใช่ เรายังกรอก ds-160 ไม่เสร็จ ก็ทำการนัดสัมภาษณ์ก่อนโดยใช้เลขนี้ได้ใช่มั้ยคะ

    • govisa  On July 22, 2012 at 9:02 pm

      น้อง Palm คะ เวลากรอกฟอร์ม DS-160 เมื่อถุงคำถามที่ถามว่า Sevis Number ของน้อง ให้น้องนำหมายเลข N000..ที่อยู่เหนือบาร์โค้ดในหน้าแรกของ I-20 มากรอก เพราะหมายเลขดังกล่าวคือหมายเลข Sevis I-901 ของน้องค่ะ ดังนั้นน้องอาจจะกรอกฟอร์ม Ds-160 ให้เสร็จก่อนโดยเมื่อถึงเวลาต้องตอบคำถามว่า ชำระค่า Sevis หรือยัง ให้เลือกตอบว่า yes คือจ่ายแล้วค่ะ เมื่อกรอกฟอร์ม Ds-160 เสร็จค่อยจ่ายเงินค่า Sevis ผ่านหน้าเว็บไซต์ http://www.fmjfee.com ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นกังวล จะชำระค่า Sevis ก่อนกรอกฟอร์ม DS-160 ก็ได้ แล้วแต่น้องจะเลือกค่ะ

  • stormax  On July 24, 2012 at 2:26 pm

    พอดีว่ากรอกประเภทวีซ่าให้น้าผิดไป ควรจะเป็น B2 แต่ดันเป็น B1 แล้วพอถึงวันนัดเมื่อวานนี้ถูกปฏิเสธ มันเสียเวลามากเลยครับ รอคิวมาเป็นเดือนแต่ดันผิด แต่ก็นะความผิดเราเองจะไปโทษใครได้ แต่ว่าไม่มีทางแก้ไขให้มันง่ายกว่านี้แล้วเหรอครับ หรือว่าต้องทำใหม่หมดทุกขั้นตอนอย่างเดียว แล้วต้องทำไงต่อครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ พอดีน้าจะต้องเดินทางปลายสิงหานี้แล้วกลัวไม่ทันมากๆ เลย อีกอย่างต้องไปขอวีซ่าแคนาดาด้วย สามารถใช้ PIN เดิมได้ไหมครับ เพราะมันยังไม่หมดอายุอ่ะ ถ้าไม่ได้ก็เหมือนทิ้งเงินไปเฉยๆ เลยอ่ะครับ
    เครียดมากเลยครับ

    • govisa  On July 24, 2012 at 7:38 pm

      น้อง Stormax คะ
      1. พินเดิมที่ใช้นัดใช้ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะน้องได้เข้าไปยื่นเอกสารแล้ว และถ้าดูตามกำ น้องจะเห็นหลังจากที่เรา confirm วันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว พินจะมีอายุอยู่ได้อีกประมาณ 10 วัน ดูได้ที่ http://bangkok.usembassy.gov/root/pdfs/pinhowto_english2.pdf ค่ะ
      2. น้องต้องกรอก DS-160 ใหม่เลือกนัดสัมภาษณ์แบบนักท่องเที่ยวคือ B-2 เพราะถ้าเป็น B-1 นักธุรกิจ น้องจะต้องเตรียมเอกสารอีก เช่นจดหมายเชิญประชุม หรือ จดหมายไปอบรมระยะสั้น เช่น 15 วัน เป็นต้นค่ะ
      3. เมื่อกรอก Ds-160 เสร็จ ได้ DS-160 Confirmation Number ให้น้องจองนัดวันสัมภาษณ์ให้คุณน้า
      4. เตรียมเอกสาร เช่น จดหมายรับรองการทำงาน,ถ้าไม่ใช่ลูกจ้างเป็นเจ้าของธุรกิจ นำใบทะเบียนการค้าไปด้วย, จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารและบุ๊คบัญชีเงินฝากตัวจริง ถ้าคุณน้าพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องให้ทำใบรายการว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างให้คุณน้าติดตัวไปด้วยเผื่อถูกซักถาม ถ้าพูดภาษาอังกฤษคล่องใช้ตอบคำถามเอาค่ะ
      หมายเหตุ พี่ไม่อยากพูดให้เสียกำลังใจ แต่ก็อยากบอกให้เผื่อใจว่า อาจจะไปไม่ทันปลายสิงหาคมค่ะ เพราะพี่ไม่ทราบว่าคุณน้าจะได้คิวนัดวันไหน ส่วนใหญ่ในช่วงเดือนที่การจองคิวหนาแน่น วีซ่านักท่องเที่ยวมักจะไม่ได้รับการอนุญาตให้ expedite หรือเร่งรัดวันนัดสัมภาษณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับวีซ่าประเภทอื่นๆค่ะ แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าได้วันนัดไม่ถูกใจ ลองเขียนอีเมล์ชี้แจงแผนการเดินทางและบอกกงสุลไปเลยว่า ต้องไปขอวีซ่าเข้าแคนาดา นัดเพื่อนที่อยู่ทั้ง 2 ประเทศทำแผนการเดินทางท่องเที่ยวแล้วค่ะ เอาใจช่วยให้เลื่อนนัดได้ค่ะ

  • Benz  On July 24, 2012 at 11:25 pm

    พออ่านคำถามคุณ stormax เลยงงค่ะ เรื่องประเภทวีซ่า ในใบ confirmation ds160 เขียนเป็นประเภทวีซ่าที่เราขอคือ B1/B2 นั่นคือ หมายถึงวีซ่าท่องเที่ยวรึป่าวค่ะ หรือว่าหนูกรอกข้อมูลผิด ส่วนในใบนัด เขียนวีซ่าเป็นประเภท visitor for tourism/Family visit นั่นคือ ท่องเที่ยวใช่ป่าวค่ะ ตอนนี้กังวลไปหมดเลยค่ะ เนื่องจากนับวันรอสัมภาษณ์แล้ว

    • govisa  On July 25, 2012 at 5:32 am

      น้อง Benz คะ ตอนกรอกฟอร์ม DS-160 มีส่วนที่ต้องชี้แจงว่าเราต้องการขอวีซ่าประเภทอะไรซึ่งถ้าเป็นไปเที่ยวหรือไปธุรกิจจะอยู่ในหมวด B คือ Visitor เหมือนกัน เพียงแต่ B มีหลายประเภทคือ visitor for tourism/family visit อย่างที่น้องเข้าใจถูกแล้วค่ะ และก็ยังจะมี visitor ในฐานะ Business กับ visitor ไปรักษาตัวซึ่งถ้าไม่อ่านให้ละเอียดอาจจะกรอกผิดได้ค่ะ พี่คิดว่า ในกรณีของน้อง Stormax กงสุลคงไม่ได้เป็นปฏิเสธด้วยเหตุผลที่แก้ไขเหตุการณืไม่ได้ค่ะ เพียงแต่ปฏิเสธเพราะเลือกประเภทวีซ่ามาผิดค่ะ และเนื่องจากขอผิดประเภท ทำให้ได้คิววันนัดสัมภาษณ์ผิดประเภทด้วยค่ะ คิวนัดของกลุ่มนักท่องเที่ยวกับนักธุรกิจจะมีความแตกต่างนิดหน่อย ตรงที่เขาจะให้คิวนัดสัมภาษณ์นักธุรกิจมากกว่านักท่องเที่ยวเท่านั้นเองค่ะ

  • Chanisa  On July 27, 2012 at 1:54 pm

    เรียน พี่govisa
    ดิฉันพึ่งไปจดทะเบียนสมรสกับแฟนมาค่ะเมือ่วันที่ 25 กค.นี้ จะขอรบกวนสอบถามค่ะ
    1. ถ้าดิฉันเดินทางไปต่างประเทศต้องแปลเป็นทะเบียนสมรสเป็นภาษาอังกฤษหรือไม่ค่ะ เพราะตอนที่จดทะเบียนสมรสแจ้งว่าขอใช้ นามสกุลเดิม และคำนำหน้าชื่อเป็นนางสาวอย่างเดิม(บางคนบอกว่าให้พกทะเบียนสมรสไปด้วยตอนเดินทาง)
    2.ดิฉันกับแฟนมีลูกด้วยกัน 1 คนเกิดที่ประเทศไทยค่ะ ต้องแปลสูติบัตรเช่นเดียวกันหรือเปล่าค่ะถ้าเอาลูกไปด้วย
    3.ถ้าแปลแล้วให้กระทรวงต่างประเทศรับรองการแปล อยากทราบว่าแปลทะเบียนสมรส หรือสูติบัตรมีอายุการแปลหรือไม่ค่ะ หรือว่าสามารถใช้ได้ตลอดอายุเลย
    4.หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว แฟนต้องไปแจ้งสถานะการสมรสที่สถานทูตหรือเปล่าค่ะว่ามีการสมรสแล้วที่ประเทศไทย เพื่อแจ้งให้ทางประเทศอเมริกาทราบถึงสถานะของแฟน
    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On July 27, 2012 at 9:26 pm

      น้อง Chanisa คะ เว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพ http://bangkok.usembassy.gov/service/marriage.html (หรือ http://thai.bangkok.usembassy.gov/service/marriage.html) มีคำอธิบายเกี่ยวข้องกับการแต่งงานกับพลเมืองอเมริกันในประเทศไทยดังนี้คือ

      ก่อนที่จะไปจดทะเบียนสมรสกัน ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือ ที่ว่าการเขตของไทย ฝ่ายที่เป็นพลเมืองอเมริกันควรจะเตรียมเอกสารไปให้ทางสถานทูตอเมริการับรองด้วยโดยมีขั้นตอน คือ

      1. กรอกหนังสือรับรองที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯกำหนด แบบฟอร์มหนังสือรับรอง http://bangkok.usembassy.gov/root/pdfs/marriage_affidavit.pdf ตัวแบบฟอร์มที่ดาวน์โหลดออกมากรอกแล้วต้องนัดวันเวลากับสถานทูตแผนก US Citizen Services เพื่อเข้าไปทำ Notary Public เสียค่าใช้จ่าย 50 US$ รวมทั้งนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายไทยไปให้สถานทูตดู อาทิ อาจจะมีใบเกิดของน้อง Chanisa หรือถ้าหากเคยมีการหย่าร้างก็ควรมีการแปลทะเบียนหย่าและรับรองการแปลจากกรมกงสุลด้วยค่ะ ฯลฯ

      2. มีหนังสือรับรองที่รับรองการแปล หน่วยงานรับรองการแปล คือ กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมกงสุล
      Legalization Division
      Department of Consular Affairs
      Ministry of Foreign Affairs
      3rd Floor, 123 Chaeng Wattana Road
      Tung Song Hong, Laksi District, Bangkok
      Tel: 02-575-1057-8, Fax: 02-575-1054

      3. นำแบบฟอร์มในข้อ 1 และเอกสารสนับสนุนอื่นๆ เช่น หนังสือเดินทางอเมริกันของสามี บัตรประชาชน ใบรับรองความเป็นโสดของสามี หรือหากสามีเคยผ่านการหย่าร้างก้ควรมีหลักบานการจดทะเบียนหย่า เพื่อแสดงความบริสุทธิืใจว่า ไม่ได้จดทะเบียนซ้อนค่ะ นำเอกสารทั้งหมดไปจดทะเบียนสมรส ณ ที่ที่ว่าการเขต หรือที่ว่าการอำเภอของทางประเทศไทย การจดทะเบียนสมรสในลักษณะดังกล่าวจึงจะถือได้ว่า ได้รับการรับรองว่าถูกต้องตามหลักกฎหมายของประเทสสหรัฐอเมริกา

      อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์จดทะเบียนได้ผ่านไปแล้วขอให้เช้าวันจันทร์ 30 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ น้อง Chanisa กรุณาโทรศัพท์ไปสอบถามความถูกต้องเรื่องการสมรสอีกครั้งที่แผนก US Citizen Services (http://bangkok.usembassy.gov/service.html) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-205-4049 ระหว่างเวลา 7.30-11.00 น.และ 13.00-14.00 น.ว่าควรทำอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่าค่ะ

      ส่วนคำถามที่ถามเรื่องการแปลสูติบัตรของลูกและทะเบียนสมรส ควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแปลเก็บไว้และต้องได้รับการรับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมกงสุล กระทรวงการต่างประเทศค่ะ ส่วนในวันหลังถ้าจะมีการขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐก็จะเป็นการขอวีซ่าประเภท K-3 ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
      http://travel.state.gov/visa/immigrants/types/types_2993.html เริ่มด้วยการกรอกฟอร์ม I-130 และ I-129F และเตรียมเอกสาร

      You, the foreign-citizen spouse, (and eligible children applying for K-4 visas) will be required to bring the following forms and documents to the visa interview:

      1. Two (2) Nonimmigrant Visa Applications, Form DS-156 (prepared in duplicate.) NOTE: K-3/K-4 visa applicants should not fill in Form DS-160, Online Nonimmigrant Visa Application
      2. One (1) Application For Immigrant Visa and Alien Registration, Form DS-230, Part I (You are not required to complete Part II.)
      K Visa applicants applying at U.S. Consulate General Montreal and U.S. Consulate General Ciudad Juarez have different application form requirements. Review information on the U.S. Consulate General Montreal or U.S. Consulate General Ciudad Juarez website to learn which forms you must complete.

      3. A passport valid for travel to the United States and with a validity date at least six months beyond your intended period of stay in the U.S. (unless country-specific agreements provide exemptions)
      4. Birth certificate
      5. Marriage certificate for the marriage to the U.S. citizen spouse
      6. Divorce or death certificate(s) of any previous spouse(s)
      7. Police certificates from your present country of residence and all countries where you have lived for 6 months or more since age 16. (Police certificates are also required for accompanying children age 16 or older.)
      8. Medical examination (vaccinations are optional, see below)
      9. Evidence of financial support (Form I-134, Affidavit of Support may be requested)
      10. Two (2) 2×2 photographs. See the required photo format explained in Photograph Requirements
      11. Evidence of relationship with your U.S. citizen spouse
      12. Payment of fees, as explained below (240 US$)

      หากไม่ถนัดอ่านภาษาอังกฤษ พี่ขอแนะนำเว็บไซต์ที่เขียนได้ดีเกี่ยวกับการขอวีซ่า K-3 คือ การขอวีซ่าสำหรับคนที่มีคู่สมรสเป็นชาวอเมริกันได้ที่ http://www.usvisa4thai.com/board/viewtopic.php?f=14&t=15572

  • Khuanrat  On July 29, 2012 at 11:07 am

    กำลังจะเดินทางไปดูงานที่อเมริกาค่ะ(เป็นพยาบาล)
    ในครั้งแรกที่กรอกข้อมูล DS160 ตรงส่วรเลขที่หนังสือเดินทางได้กรอกเลขที่หนังสือเดินทางบุคคลทั่วไปไปค่ะ เพราะระยะเวลาไม่พอทำหนังสือเดินทางข้าราชการแน่นอน
    แต่ตอนนี้ทางหน่วยงานเร่งเรื่องให้จนสามารถได้หนังสือเดินทางข้าราชการมาเรียบร้อยและ
    หนังสือนำจากทางกระทรวงตปท.ก็เขียนว่า อนุญาติให้ LT….(เป็นทหารค่ะมียศทางราชการด้วย) ถือหนังถือเดินทางเล่มนี้ ไปเข้าศึกษาดูงานที่… น่ะคะ
    ในกรณีนี้หนูต้องเข้าไปกรอกข้อมูล DS160 ใหม่ให้เป็นเลขที่หนังสือเดินทางราชการยังไม่ถึงวันสุดท้ายของการนัดแต่ระบบไม่อนุญาตให้แก้ไขข้อมูลในจุดนี้ค่ะ) แล้วถือใบข้อมูลใหม่ไปคู่กับใบเก่าใช่ไหมคะ

    • govisa  On July 29, 2012 at 1:10 pm

      น้อง Khuanrat คะ ถ้าน้องจะเดินทางไปปฏิบัติงานในหน้าที่ ใช้หนังสือเดินทางของราชการดีกว่าคะ ให้น้องกรอก Ds-160 ใหม่อีกครั้ง และถือ DS-160 Confirmation Number ไปทั้งของใหม่และเก่า ถ้าถูกสอบถามถึงเหตุผล ก็ชี้แจ้งเจ้าหน้าที่สถานทูตตามที่น้องบอกพี่มา ฟังดูมีเหตุผลอยู่ค่ะ เพราะเราต้องรีบจองวันนัดสัมภาษณ์ดี๋ยวจะไม่ได้วันนัดสัมภาษณ์ก่อนเปิดเรียนค่ะ ได้ผลวีซ่าเป็นอย่างไร เขียนมาแชร์ประสบการณ์บ้างนะคะ

  • Khuanrat  On July 29, 2012 at 1:54 pm

    ขอถามเพิ่มอีกข้อนะคะ
    มีพี่ที่ทำงานที่เคยไปมาก่อนและเจอเหตุการณ์เดียวกันเล่าให้ฟังว่า กรณีของหนูเป็นการไปดูงานระยะสั้นที่รพ.1 เดือนและสอบสัมภาษณ์ชิงทุนของรพ.ไปเอง และลักษณะการไปคือไปในเชิงดูงาน ดูสถานที่ ไม่ใช่ลักษณะไปเรียนเป็นคอร์สหรือไปทำงาน สามารถถือหนังสือเดินทางธรรมดาไปได้ เพียงแต่ให้หน่วยงานช่วยรับรองเอกสารให้และนำไปประกอบกันถ้าสถานทูตถามให้ชี้แจงไปตามจริงว่าเราทำพาสปอร์ตราชการไม่ทัน แต่บังเอิญว่าหน่วยช่วยจึงได้มาก่อนกำหนดและประสงค์ให้ใช้พาสปอร์ตเดิมในการทำวีซ่า
    และพี่เขายังบอกอีกว่าถ้าไปโดยใช้พาสปอร์ตราชการไปต้องทำเรื่องต่างหาก มีการกรอกเอกสารในส่วนอื่นเพิ่มและต้องแจ้งเปลี่ยนประเภทวีซ่าจากที่ขอไปB1/B2 เป็นวีซ่าราชการแบบ J หรืออื่นๆ (ให้ไปศึกษาเพิ่มเองพี่เขาไม่แน่ใจเหมือนกัน)
    ตอนนี้หนูมีใบตอบรับจากทางรพ.UMC ใบรับรองเงินเดือน/ทุนจากรพ. สเตทเมนท์ และหนังสือนำจากกระทรวงต่างประเทศ(ที่เป็นปัญหาว่าทำให้เอกสารไม่ตรงในตอนนี้) พี่คิดว่าหนูยังมีหลักฐานอะไรที่ควรนำไปเพิ่มเติมอีกไหมคะ
    หนูจะไปเดือนกย.นี้แล้วค่ะ นัดสัมภาษณ์วันที่ 14 สค. (พาสปอร์ตราชการเพิ่งได้มาวันศุกร์นี้เองค่ะ)
    หนูไม่มีปัญหาหากต้องทำเรื่องหรือต้องกรอกเอกสารใหม่ กลัวเพียงแต่จะทำเรื่องขอวีซ่าไม่ผ่านและต้องกลับมาทำใหม่ซึ่งต้องเขียนรายงานชี้แจงหน่วย/ผู้ให้ทุนค่ะ ซึ่งปัญหาข้อนี้หน้ากลัวว่าไม่ผ่านวีซ่าเสียอีกค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On July 29, 2012 at 10:27 pm

      น้อง Khuanrat คะ

      1.คำตอบรับจาก UMC ที่น้องได้รับมา บรรทัดบนสุดเขียนว่าอะไรคะ เช่น เขียนว่า Certificate of Eligibility for Exchange Visitor(J-1) Status หรือเขียนว่า Certificate of Eligibility for Non-immigrant(F-1) Status จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยซึ่งน้องไม่ได้บอกชื่อเต็มของมหาวิทยาลัยมาว่าเป็น University of Maryland at College Park หรือ University of Missouri at Columbia ควรจะเป็นตัวกำหนดว่าน้องควรจะขอวีซ่าประเภท J-1 หรือ F-1 ส่วนคำถามที่พูดถึงการเปลี่ยนวีซ่าจาก B1/B2 ไปเป็นวีซ่าราชการแบบ J วีซ่าราชการแบบ J ไม่มีค่ะ เพราะคนที่ไม่ได้ทำงานรับราชการก็จะสามารถขอวีซ่าแบบ J ได้ค่ะ เช่น พวกนักเรียนทุนที่ไปเรียนนานเกิน 1 ปี หรือวีซ่าของเด็กมหาวิทยาลัยที่ไปในรายการ Work and Travel ก็จะได้วีซ่าประเภท J-1 หาก UMC ไม่ได้ส่งฟอร์มที่มีข้อความแบบใดแบบหนึ่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เพียงแต่ส่งจดหมายเชิญไปอบรมแบบธรรมดามา น้องสามารถขอวีซ่านักธุรกิจ B-1 เพื่อไปอบรมหรือไปประชุมได้ค่ะ ดุเอกสารให้ดีค่ะ เพราะจะมีผลกระทบต่อการจองวันนัดสัมภาษณ์เข้าไป ถ้าหากน้องจะต้องขอวีซ่าประเภท J-1 แต่น้องทำคิวนัดสัมภาษณ์แบบ B1/B2 ไปแล้วก็จะไม่สามารถเข้าไปสัมภาษณ์ได้ในวันนั้น เพราะถือว่า น้องยื่นเรื่องเข้ามาผิดประเภทค่ะ แนะนำให้ซื้อพินนัดสัมภาษณ์และทำคิวนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ ไม่เช่นนั้นก็ต้องยกเลิกวันนัดเก่าและลองดูว่าจะแก้ไขประเภทของการขอวีซ่าได้ไหม ถ้าแก้ไขไม่ได้ ซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ง่ายที่สุดค่ะ

      2. ความแตกต่างระหว่างวีซ่านักธุรกิจ B-1 ที่ไปดูงาน คือไม่ได้มีเงื่อนไขว่า จะต้องเดินทางเข้าประเทศก่อนวันที่กำหนดมาในจดหมายตอบรับได้ไม่เกิน 30 วัน และการที่จะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะอยู่ได้นานเท่าไร ขึ้นอยู่กับการตอบคำถามสัมภาษณ์ระหว่างน้องกับเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ บางคนยื่นจดหมายประชุมให้ เจ้าหน้าที่ประทับตราลงวันที่ที่น้องต้องออกจากประเทศสหรัฐฯภายใน 1 เดือนเศษก็มี บางคนได้รับการประทับตราให้อยู่ได้ 3 เดือน หากน้องกล่าวถึงวีซ่าประเภท J วีซ่าประเภทนี้จะใช้กฎเดียวกันกับวีซ่านักเรียน F-1 คือ น้องจะเข้าประเทศก่อนหน้าวันไปเข้าอบรมได้ไม่เกิน 30 วัน และเมื่อเสร็จภารกิจ 1 เดือน น้องจะมีเวลาเก็บของ 30 วันก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โปรดอ่านเพิ่มเติมที่ http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_1267.html/#24

      พี่คัดบางส่วนมาเป็นตัวอย่างค่ะ How Long Am I Permitted to Stay in the U.S. After My Program Has Ended?
      The initial admission of an exchange visitor, spouse and children may not exceed the period specified on Form DS-2019, plus a period of 30 days only for domestic travel and/or to prepare for and depart from the U.S.

      จากคำถามครั้งแรกของน้องที่บอกว่า กระทรวงต่างประเทศเขียนว่า อนุญาตให้ LT…ถือหนังสือเดินทางเล่มนี้ไปเข้าศึกษาดูงานที่ …..ถ้าน้องต้องการให้ถูกต้องตามระเบียบการลาของข้าราชการไทยก็ใช้หนังสือเดืนทางตามที่ราชการกำหนดค่ะ และกรอก DS-160 ใหม่ไป พร้อมทั้งสามารถตอบคำถามเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯได้ว่า ทำไมต้องถือหมายเลข DS-160 Confirmation Number มาทั้งใบใหม่และใบเก่าค่ะ ส่วนเวลาที่น้องได้รับวีซ่าจากสถานทูตสหรัฐๆ ให้สังเกตในหนังสือเดินทางจะไม่มีการเขียนยศทางทหารของประเทศไทยลงไปในหน้าวีซ่า แต่จะเขียนว่าเป็น Mr. Mrs. หรือ MS. ค่ะ

      ส่วนคำถามเรื่องเอกสารเพิ่ม พี่แนะให้นำบุ๊คบัญชีเงินฝากของน้อง หรือถ้าของน้องมีเงินใบัญชีน้อย อาจจะใช้ของผู้ปกครองแนบไปให้เขาดูด้วยว่า หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ ญาติๆที่บ้านของน้องยินดี support น้องเต็มที่ค่ะ

      • khuanrat  On July 30, 2012 at 7:35 am

        ขอบคุณมากค่ะพี่ กระจ่างมากเลย ของหนูคงเป็นแค่B1 จริงๆเพราะเป็นแค่จม เชิญไปอบรมธรรมดาค่ะ
        อีกสองอาทิตย์สัมภาษณ์แล้ว ได้ความว่าอย่างไรจะมาแชร์แน่นอนค่ะ^^

      • govisa  On July 30, 2012 at 7:35 pm

        เอาใจช่วยน้อง Khuanrat นะคะ พี่มั่นใจว่า case น้องไม่มีปัญหา วีซ่าผ่านแน่นอนค่ะ เพราะไปตามคำเชิญของสถานศึกษาค่ะ

  • Khuanrat  On July 29, 2012 at 2:55 pm

    ขอแถมอีกหนึ่งข้อคำถามค่ะ แล้วในกรณีเช่นนี้หนูควรจะทำอย่างไรกับการจองตั๋วเครื่องบินดีคะ จองไปกับเอเจนซี่เรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้โอนเงิน เขาใช้แต่ชื่อในการจองไม่ได้ขอเลขที่พาสปอร์ตเราไปใช้จอง แต่เท่าที่หนูเคยเดินทางไปตปท.มาแค่คำนำหน้าMrs, Ms ไม่ตรงก็ถือว่าไม่ใช่บุคคลเดียวกันทำให้มีปัญหาไม่สามารถเดินทางได้ แต่อันนี้มันเป็นยศต่างกันตรงLT.กับMs. มันคงเป็นปัญหาแน่นอน แล้วหนูจะทำยังไงดี ตอนนี้เครียดมากค่ะ เครียดจนรู้สึกเสียใจที่ได้ทุน
    ขอบคุณพี่ีทีมงานมากค่ะที่ช่วยตอบคำถาม พวกพี่ช่วยคนที่กำลังจะเป็นบ้าไว้ได้มากจริงๆค่ะ
    ปล.ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากด้านบนค่ะ หนังเชิญที่หนูได้จากUMC เป็นหนังสือเชิญมาดูงานในส่วนหอผู้ป่วยกับERประมาณนี้ค่ะ ไม่ได้มีส่วนใดของจม.ที่บอกว่าต้องไปกรอกข้อมูลในส่วน I 2019หรืออื่นเหมือนคนอื่น(ตามที่ลองรีวิวคำถามย้อนหลังดู)เลยค่ะ

    • govisa  On July 29, 2012 at 10:47 pm

      ให้น้อง Khuanrat เช็คกับเอเจนซี่ที่น้องบอกว่า จองตั๋วเรียบร้อยแล้วนั้นว่า ใน e-ticket ใส่ยศนำหน้าทางทหารของน้องหรือเปล่านะคะ ถ้าหากเขาใส่ น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายว่า น้องควรใช้หนังสือเดินทางราชการ เพราะหนังสือเดินทางไทยระบุยศทางทหารของน้องค่ะ ถ้าหนังสือที่น้องได้รับมาไม่ได้เขียนบรรทัดบนสุดเหมือนที่พี่บอกไปแล้วก็เป็นอันว่า น้องต้องขอวีซ่าประเภท B-1 แบบนักธุรกิจ คือไปดูงาน, ไปประชุมค่ะ

      หมายเหตุ พี่ขอส่งลิงก์ที่เป็นตัวอย่างของฟอร์มจดหมายตอบรับที่เรียกว่า DS-2019 เพื่อขอวีซ่าประเภท J-1 จากเว็บไซต์ของ U.of Pennsylvania ค่ะ http://www.upenn.edu/oip/isss/ds2019 มาให้ดูประกอบกับจดหมายตอบรับที่มีอยู่ในมือน้องค่ะ ขอให้เดินทางไปอบรมดูงานได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์กลับมาช่วยสังคมบ้านเรานะคะ หากมีอะไรสงสัยเขียนมาถามอีกนะคะ และถ้ารู้ผลวีซ่าแล้ว เขียนมาแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ

  • chai  On August 1, 2012 at 9:34 pm

    กรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานผิด ไม่ทราบว่าทางสถานทูตเช็คไปที่ทำงานหรือเปล่า ต้องแก้ไขหรือกรอกds160.ใหม่

    • govisa  On August 1, 2012 at 10:40 pm

      น้อง Chai คะ หมายเลขโทรศัพท์ไม่นับว่าเป็นความผิดร้ายแรง ไม่ต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ ให้น้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนตรวจเอกสารก็ได้ว่ากรอกหมายเลขผิดค่ะ ความผิดร้ายแรงที่ควรกรอกฟอร์มใหม่ คือ เขียนชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขหนังสือเดินทางผิด ความผิดเหล่านี้นับว่าผิดแรง เพราะทำให้ข้อมูลของผู้ยื่นผิดเป็นคนละคน ต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ

      • peehub  On August 6, 2012 at 9:04 pm

        มาแจ้งผลการสัมภาษณ์วีซ่า ประเภท B2 ผ่านแล้วค่ะได้มา 10 ปี ที่เคยมาสอบถาม govisa เรื่องกรอก DS-160 ผิดสามารถแก้ไขได้หรือไม่อ่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ฝรั่งผู้หญิง พูดภาษาไทยชัด ถามไม่กี่คำถามด้วยค่ะ 1.ไปทำอะไร 2.ไปกะใคร 3.สามีเคยไปมาแล้วกี่ครั้ง 4.แต่งงานแล้วมีบุตรมั้ย ให้ผ่านเลยค่ะ ไม่ขอดูบัญชี ดูแค่เอกสารรับรองการทำงานของดิฉันและสามี สำเนาทะเบียนสมรส จดหมายเชิญจากเพื่อนเท่านี้ค่ะ ดีใจมากลุ้นและเตรียมเอกสารมาเป็นเดือน เจ้าหน้าที่ที่ดิฉันสัมภาษณ์ใจดี พูดเพราะ และสวย พูดจาดีกว่าเจ้าหน้าที่ไทยที่สัมภาษณ์ด่านแรกอีกค่ะ

      • govisa  On August 6, 2012 at 10:28 pm

        พี่ขอแสดงความยินดีกับน้อง Peehub ด้วยค่ะที่วีซ่าผ่านแล้ว และขอให้เดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัวอย่างมีความสุขมากๆค่ะ ขอบคุณน้องมากๆที่น้องเขียนมาแชรืประสบการณ์ค่ะ

  • me_may  On August 9, 2012 at 7:29 pm

    สวัสดีคะ พี่govisa มีคำถามเบื่้องต้นน่ะค่ะ สำหรับการกรอก ds-160 ตอนนี้มาติดอยู่ที่ u.s contact ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะไม่มีใครที่รู้จักเลย อีกคำถามนะคะ ด้านค่าใช้จ่ายควรตอบยังไงดี เพราะส่วนตัวทำงานบ้านแฟน ก็กะใช้จดรับรองจากบ้านแฟน (เค้าจดทะเบียนรูปแบบบริษัท) กะมีบัญชีออมทรัพย์ น่าจะประมาณ 4 แสน (2 บัญชีรวมกัน นะคะ) กะว่าจะไป ประมาณ 6 เดือน ตรงนี้เราต้องให้แม่เป็นสปอนเซอร์เพิ่มอีกป่ะคะ ถ้าจะให้เป็นเราต้องกรอกอะไรเพิ่มใน ds-160 อีกคะ ขอบคุณนะคะ
    ปล.อาจมีคำถาม มารบกวนเรื่อยๆนะคะ

    • govisa  On August 9, 2012 at 9:35 pm

      น้อง Mayjira คะ US Contact คือชื่อคนที่เป็นบุคคลอ้างอิงได้ในสหรัฐฯ น้องบอกว่าไม่รู้จักใครเลย ขณะเดียวกันก็จะไปอยู่ที่อเมริกานาน 6 เดือน มีเงินในบัญชี 400,000 บาท ซึ่งน่าจะพออยู่ได้ประมาณ 3 เดือนเองเพราะน้องไม่รู้จักใครก็ต้องจ่ายเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าเดินทางและฯลฯ ค่ะ เวลาที่เหลืออีก 3 เดือนน้องจะเอาเงินจากที่ไหนมาทำให้กงสุลเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินของน้องดีคะ ถ้าน้องจะบอกกงสุลว่าน้องไม่รู้จักใครเลยในอเมริกา

      พี่ยังไม่ทราบเลยว่า น้องจะเดินทางเองคนเดียว หรือไปกับบริษัททัวร์คะ ถ้าเดินทางเองคนเดียว กงสุลท่านอาจมีคำถามอื่นๆ เช่น น้องเคยเดินทางคนเดียวไปประเทศไหนมาก่อนหรือเปล่า เป็นต้นค่ะ พี่แนะนำให้น้องใช้บัญชีแม่ช่วยเป็น sponsor เพิ่มด้วยค่ะ โดยน้องสามารถนำเอกสารทางการเงินของแม่ไปให้กงสุลดูเพิ่ม หรือ น้องออาจจะร่างจดหมายแทนคุณแม่และให้แม่เซ็นต์ชื่อ เนื้อความในจดหมายเขียนทำนองว่าแม่มีอาชีพอะไร มีรายรับต่อปีประมาณเท่าไร ยินดีเป็น sponsor ให้ลูกสาวได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาที่อเมริกาประมาณ 6 เดือนหลังจากทำงานหนักมานานกี่ปีแล้วเป็นต้นค่ะ ส่วนใน DS-160 มีที่ให้ใส่ว่าใครเป็น sponsor ได้เพียงคนเดียวค่ะ

  • me_may  On August 9, 2012 at 7:44 pm

    *แก้ไขคะ ไปประมาณ 1 เดือน ค่ะ

    • govisa  On August 9, 2012 at 9:38 pm

      น้อง Mayjira คะ พี่เพิ่งเห็นว่าน้องมีคำถามเข้ามาเพิ่มเติมค่ะ ถ้าน้องแจ้งว่าไปเพียง 1 เดือน ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ จำนวนเงิน 400,000 บาทในบัญชีน่าจะพออยู่ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดูหนักแน่นและดูมีความน่าเชื่อถือว่า ต้องกลับมาดูแลผู้ปกครองหลังเที่ยวเสร็จ ให้น้องเอาบัญชีของคุณแม่ช่วยสนับสนุนเพิ่มด้วยก็ได้ค่ะ

  • Memay  On August 10, 2012 at 12:29 am

    พี่Govisaขอบคุณนะคะที่เข้ามาตอบให้ค่ะ ตามแผนคือเมย์จะเดินทางไปกะแฟน 2 คน ไปเองค่ะ แล้วเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา เพิ่งเดินทางไปเกาหลี (ไปเอง) โดยส่วนตัวเมย์ ได้เปลี่ยนชื่อมา แต่ถ้าชื่อเดิม เมย์ เคยไปออสเตรเลีย 2 ครั้ง ครั้งแรก ไป 5 สัปดาห์. ครั้งที่2 ไปมา 5 เดือน ตรงนี้ มันจาทำให้เราได้วีซ่าง่ายขึ้นป่ะคะ แล้วเราต้องัอาพาสปอร์ตเล่มเก่าไปแสดงให้เค้าดูรึป่าวคะ ส่วนเรื่องที่จะให้แม่เป็นสปอนเซอร์นี่ ในแบบฟอร์มเรา ก็เลือก ว่ามีสปอนเซอร์ แล้วเราต้องทำไงต่อคะ ต้องไปขอสเตจเมนท์จากแบงค์ (เป็นอังกฤษ?) กะสมุดบัญชีของแม่ ไปให้เค้าดูด้วยป่ะคะ แล้วแม่ต้องเซนต์อะไรด้วยไหม? ถามเยอะหน่อยนะคะ รบกวนพี่อีกทีนะคะ ( อาจมีตามมาอีกคะ)- -”
    ขอบคุณมากๆค่ะ

    • govisa  On August 10, 2012 at 5:33 am

      น้อง Mayjira คะ ถ้าน้องเคยมีหลักฐานว่า มีการเดินทางไปต่างประเทศมาแล้วกลับประเทศไทยนับเป็นหลักฐานที่ดีนะคะว่า เรายึดความถูกต้องตามกฎหมายว่า ไปเที่ยวแล้วต้องกลับประเทศของตนเองค่ะ ให้น้องนำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อไปให้กงสุลดูด้วย ควรจะแปลและนำไปรับรองที่กรมกงสุลตรงที่น้องไปทำหนังสือเดินทางให้เรียบร้อยด้วยค่ะ ส่วน sponsor ถ้าหากน้องทำงานแล้ว น้องก็ต้องยื่นบุ๊คบัญชีของน้องด้วยนะคะ ส่วนจะให้แม่เป็น sponsor ร่วมด้วยให้แม่ขอจดหมายรับรองฐานะการเงินจากะนาคารของแม่และนำบุ๊คบัญชีตัวจริงของแม่ไปแสดงด้วย และถ้าไม่คิดว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรมากมายและพอถึงเวลาสัมภาษณ์ กงสุลอาจจะไม่ได้ดู จึงไม่เตรียมไป พี่คิดว่า เตรียมเอกสารไปให้พร้อมและสมบูรณ์ดีกว่า พี่ขอแนะนำให้นำหลักฐานแสดงว่า แม่ทำงานอะไรไปเผื่อด้วย เพราะพี่ไม่มีโอกาสทราบเลยว่า case ของน้องกงสุลอาจจะถามแหล่งที่มาของรายได้ของ sponsor ด้วยไหมค่ะ ถ้าหากถูกถามน้องก็หยิบเอกสารชิ้นนั้นให้กงสุลพิจารณา เช่น จดหมายรับรองการทำงานของแม่ ถ้าแม่เป็นลูกจ้าง ถ้าแม่เป็นเจ้าของธุรกิจ ให้นำใบทะเบียนการค้าไปให้ดูค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรเตรียมคือ แผนการเดินทางไปเที่ยวว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างอย่างคร่าวๆค่ะ ยังไม่ต้องทำแบบที่บริษัททัวร์ทำคือมีชื่อโรงแรมไปด้วย แต่ถ้าหากเตรียมงานแบบฝรั่งเดินทางไปท่องเที่ยวก็ทำไปเลยได้ค่ะ ยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ แสดงว่า เรามีการวางแผนที่ดีนะคะ

  • jeab  On August 12, 2012 at 3:57 am

    สวัสดีค่ะพี่govisa คือจะไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาในเดือนตุลาคือส่วนตัวไม่ได้ทำงาน คืออยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ พอดีป้าของแฟนอยากไปเที่ ยวเมกา(เค้าเห็นเราอยากไปเที่ยวด้วย)ป้าก็เลยชวนไปป้าอายุ85 ยังแข็งแรง ยังเที่ยวไหวอ่ะค่ะและป้าเค้าเป็นคนออกค่าทัวว์ให้เรากับลูก(ลูกอายุ2ขวบ)คือไม่ได้ทำงานเลยไม่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเป็นรายเดือนส่วนมากแฟนเค้าให้เป็นเงินสดไว้ใช้จ่ายในบ้านอ่ะค่ะ และแฟนเค้าทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศที่ยะลา แต่รับเงินเดือนโดยไม่ได้ผ่านบัญชีและแฟนไม่ได้ไปด้วย เพราะตอนนี้แฟนอยู่ที่แคนนาดา เราจะไปเที่ยวกัน 3 คน กับทัวว์โดยมีคุณป้าของแฟนเป็นสปอนเสอหลักค่ะ ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวบางอย่างก็จะขอแฟนเพิ่มอีก เลยกลัวว่าจะมีผลไรกับวีซ่ารึป่าวน่ะคะ จะเดินทาง1อาทิตย์คุณป้าเข้ามีเงินสดในบัญชีประมาณ300,000 และมีฉลากออมสินอีก 2,000,000 และมีค่าเช้าบ้านรายเดือนอีก นิดหน่อยไม่รู้ว่าจะสามาถคอบคุมให้เรากับลูกได้หรือป่าวแล้วต้องขอหนังสือรับรองการทำงานของสามีไปด้วยหรือไม่ คือกังวลน่ะค่ะ ขอบคุณค่า ช่วยตอบด้วยนะคะ

    • govisa  On August 12, 2012 at 10:26 pm

      น้อง Jeab คะ ให้น้องขอเอกสารจากทางแฟนเพิ่มเติมด้วยนะคะ เพราะเงินในบัญชีของคุณป้าจำนวน 500,000 บาท ในความคิดเห็นของพี่ ดูแล้วไม่น่าจะพอที่จะให้คุณป้าเป็น sponsor คนเดียวค่ะ เอกสารจากทางสามีที่น้องควรนำไปแสดงด้วยคือ
      1. ทะเบียนสมรส
      2. จดหมายรับรองการทำงานของสามีว่า ทำงานตำแหน่งงานอะไร ตั้งแต่เมื่อไร และรับเงินเดือนเดือนละเท่าไรค่ะ
      3. จดหมายรับรองฐานะการเงินจากะนาคารของบัญชีสามี พร้อมบุ๊คบัญชีเงินฝากตัวจริงของบัญชีเล่มนั้น
      4. สูติบัตรของลูก
      5. นำใบรายการทัวร์ที่ระบุว่าออกเดินทางเมื่อไร ไปเที่ยวที่ไหนบ้างของบริษัททัวร์นั้นไปแสดงด้วยนะคะ
      ขอให้น้อง Jeab โชคดีค่ะ

  • golf  On August 15, 2012 at 1:28 pm

    เรียน จนท รบกวนช่วยตอบคำถามให้ด้วยครับ
    ผมมีภรรยาเป็นชาวจีน (กวางเจา) ได้สมรสและจดทะเบียนที่เมืองไทย ภรรยาไม่มีใบอนุญาตทำงานที่ไทย แต่มี วีซ่า 1 ปี non-immigrant visa ส่วนตัวผมมีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้ว ถึงปี 2015
    ไม่ทราบว่าภรรยาผมจะสามารถยื่นวีซ่าที่ประเทศไทยได้หรือไม่ครับ

    • govisa  On August 15, 2012 at 8:16 pm

      น้อง Golf คะ ถ้าแฟนน้องแสดงใบทะเบียนสมรสกับหลักฐานการทำงานของน้องซึ่งเป็นสามี เช่น จดหมายรับรองการทำงาน จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร บุ๊คแบงค์ของน้อง Golf เพื่อให้ทางกงสุลเห็นว่า ภรรยาน้องอยู่ที่เมืองไทยมานานเท่าไรแล้ว และสามีก็มีหลักฐานที่มั่นคงในเมืองไทย แฟนน้องสามารถขอวีซ่าเข้าอเมริกาที่กรุงเทพได้ค่ะ

  • jane  On August 22, 2012 at 6:21 pm

    ได้วันสัมภาษณ์หลังวันที่กำหนดการเดินทางที่ระบุไว้ใน DS160 ควรเข้าไปกรอก DS160 ใหใหม่ใช่หรือป่าวค่ะ และตอนเลือกประเภทวีซ่า เลือก B1/B2 แต่ตอนจองวันสัมภาษณ์มีให้เลือกอย่างเดียว จึงเลือก B2 ได้หรือป่าวค่ะ

    • govisa  On August 22, 2012 at 7:23 pm

      น้อง Jane คะไม่ต้องกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่เพราะวันทีนัดที่ได้ไม่ตรงกับวันที่ระบุว่าจะเดินทาง น้องสามารถแจ้งกงสุลได้ว่า ไม่มีคิวนัดสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่างเลยค่ะ

      ส่วนประเภทวีซ่าไม่ทราบว่าตอนแรกที่ให้เลือกว่าจะเลือกวีซ่าประเภทอะไรนั้น น้องคลิกเลือกอะไรคะ เพราะจะมีคำศัพท์ให้เลือก เช่น Business, pleasure หรือ Treatment ซึ่งทั้ง 3 ประเภทอยู่ในหมวด B เพียงแต่ถ้าไป Business จะเป็น B-1 ส่วนที่เหลือเป็น B-2 ถ้าน้องเลือกไปถูกแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะตอนกรอกฟอร์นัดวันสัมภาษณ์เหมือนเขาจะตั้งโปรแกรมให้เอื้อกับตอนกรอกค่ะ ถ้าเรากรอกว่าไปเที่ยว ตรงนัดก็จะมีให้เลือกคือ B-2 ค่ะ

  • jane  On August 22, 2012 at 9:13 pm

    แบบนี้ค่ะ
    the list of purposes of trip to the U.S : TEMP.BUSINESS PLEASURE VISITOR (B)
    purpose of trip to the U.S.(1) : BUSINESS & TOURISM (TEMPORARY VISITOR ) Specify : (B1/B2)

    แต่ตอนเลือกจองวันสัมภาษณ์เลือก B2 ค่ะ

    • govisa  On August 23, 2012 at 5:27 am

      น้อง Jane น้องเลือกถูกแล้วค่ะ ไม่ต้องทำอะไรอีกค่ะเพราะนักท่องเที่ยวจะอยู่ในประเภท B-2 เมื่อน้องได้รับวีซ่าหน้าวีซ่าเข้าอเมริกาในหนังสือเดินทางของน้องจะมีคำว่า ประเภทวีซ่าของน้องคือ B-1/B-2 ค่ะ

  • ปุ๊ก  On August 23, 2012 at 5:07 pm

    ได้ทำการกรอกข้อมูลจนเสร็จแล้ว และได้ Confirmation No. มาแล้ว แต่ผู้เดินทางมีบัตรเอเปคการ์ดจึงไม่ต้องทำการนัดล่วงหน้า แต่ต้องการแก้ไขข้อมูลใหม่ แต่เนื่องด้วยไฟล์ที่เซฟไว้หายไป (ช่วงแก้ไขข้อมูล) ก็เลยกรอกใบสมัครใหม่ค่ะจะมีปัญหาอะไรไหมค่ะ และค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปตั้งแต่มกราคมยังสามารถนำไปยื่นได้อีกไหมค่ะ หรือต้องเสียค่าธรรมเนียมใหม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On August 23, 2012 at 8:39 pm

      น้องปุ๊กคะ ถ้ามีบัตร APEC ไม่ต้องนัดล่วงหน้าค่ะ แต่จะต้องเข้าไปในสถานทูตระหว่างเวลา 7.30-10.00 น.เท่านั้นนะคะ ถ้า file ของน้องหาย และน้องยังไม่ได้ print confirmation number ออกมา ให้น้องกรอกฟอร์มใหม่และ print confirmation number หมายเลขใหม่ออกมา เพื่อความสบายใจของน้อง น้องจะนำหมายเลขเก่าติดตัวไปในวันนัดสัมภาษณ์ด้วยก็ได้ หากมีการพูดถึงหมายเลขเก่า ก็ให้เหตุผลไปว่า file เก่าหายไปค่ะ แต่กรณีของน้อง พี่คิดว่าหมายเลขเก่าไม่มีผลอะไรกับน้อง เพราะน้องไม่ต้องใช้หมายเลข DS-160 ไปทำการนัดวันสัมภาษณ์ น่าจะใช้หมายเลขใหม่อย่างเดียวด้วยซ้ำไปค่ะ

      • ปุ๊ก  On August 24, 2012 at 7:50 am

        และส่วนเรื่องใบเสร็จค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปตั้งแต่มกรา ยังใช้ได้อยู่ใช่ไหมค่ะ
        ขอบคุณค่ะ

      • govisa  On August 24, 2012 at 7:30 pm

        น้องปุ๊กคะอย่ากังวลเรื่องราคาถ้ามีการปรับราคาขึ้น ทงสถานทูตจะให้น้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ ส่วนใบเสร็จจะมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1 ปีหลังจากซื้อค่ะ

  • nicky  On August 27, 2012 at 1:04 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ govisa
    ที่บอกว่า เข้าไปนัดวันใหม่ได้ให้เร็วขึ้น ทำได้ยังไงค้ะ
    แล้วเคยเต็มแล้วทำไมถึงว่าง
    เห็นน้องคนหนึ่งเขียนว่าเข้าไปตอนประมาณ สี่ทุ่ม จะว่างอะค่ะ
    รบกวนตอบด้วยน้ะค้ะ เพิ่งส่ง DS160 เมื่อคืนจองได้ 1 ต.ค แน่าค่ะ นานมาก

    • govisa  On August 27, 2012 at 8:36 pm

      น้อง Nikky คะ การจะเข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ หมายความว่า น้อง Nikky จองวันนัดสัมภาษณ์ได้แล้วแต่ไม่ถูกใจ อยากเลื่อนให้เร็วขึ้น จะต้องเข้าไป log on ในหน้าวันนัดสัมภาษณ์และทำการ delete วันนัดสัมภาษณ์เดิมทีได้จองไว้ก่อน อย่าลืม print การยกเลิกวันนัดเดิมออกมาด้วยค่ะ หลังจากนั้นจึงเข้าไป reschedule วันนัดสัมภาษณ์ใหม่ จะเห็นตารางปฏิทินนัดสัมภาษณ์อีกครั้ง ส่วนที่คนเขาเขียน Post ว่าเข้าไปจองตอนสี่ทุ่ม ได้วันนัดเร็วขึ้น ต้องเรียนให้ทราบว่า แล้วแต่ดวงค่ะ เพราะบางทีเข้าไปตอนดึกแต่ทาง outsource ของสถานทูตเขายังไม่ปล่อยวันที่ล็อตใหม่ออกมาก็ไม่มีวันที่เร็วขึ้นกว่าเดิมให้จองค่ะ การ delete วันนัดสัมภาษณ์เดิมและแก้ไขวันนัดสัมภาษณ์ใหม่สามารถทำได้สองครั้งด้วยพินนัดสัมภาษณ์เดิม ถ้ามากกว่าสองครั้ง ต้องซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ค่ะ

  • nicky  On August 28, 2012 at 12:45 pm

    ขอบคุณมากๆค่ะคุณgovisa
    มีอีกอย่างที่อยากให้คุณ govisa ช่วยวิเคราะห์ ที่คาดว่าจะเป็นประเด็นให้ไม่ผ่านค่ะอยากถามความเห็นน้ะค้ะ
    คือว่า nikky มีใบรับรองการทำงาน 2 ใบ บริษัทเดี่ยวกันใบแรกเริ่มงานนับจาก ปี
    Apr ‘ 2003 ถึง Dec’2011 และใบที่2 เริ่มงาน Mar 1 2012 ถึงปัจจุบัน
    สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก บริษัทถูกนำ้ท่วมไม่สามารถแบกรับภาระพนักงานพันกว่าคนได้จึงจ้างพนักงานออกหมดทั้งบริษัท แต่ได้เลือกพนักงานที่จะเก็บไว้ set up บริษัทกันใหม่จำนวนหนึ่ง แต่วันบันจุใหม่ไม่ติดต่อกันเว้น 2 เดือน ม.ค.กพ. (ในความเป็นจริงเข้าทำงานตลอดรวมทั้ง ม.ค-ก.พ. บริษัทจ่ายเงินเดือนโดยตรงกับพนักงาน )
    ไม่ทราบว่าจะเป็นเหตุให้ไม่ได้รับการพิจารณาเข้า USA. หรือไม่เพราะถ้าดูอายุงานใหม่เพิ่ง 6 เดือนเท่านั้นดูไม่มั่นคงจะมองว่าไปแล้วจะไม่กลับมาไหม.
    อีกอย่างเงินเดือนแค่ 30 K. ต้นๆเท่านั้น การลาก็ลากิจwithout pay
    เดินทาง 2 คนกับลูกสาว ใช้วีซ่าท่องเที่ยว ลุกสาวอยู ม.3 ภาคเรียนที่1มีใบรับรองจากโรงเรียนเรีบร้อย
    nickyมีเงินในบันชีแม่ประมาณ 4 แสน ลูกสาว 1 แสน เดินทางไปอยู่ 17 วัน มีใบ book ตั๋วเครื่องบิน19 Oct-5 Nov.
    พำนักอยู่บ้านคนรู้จัก ใน DS160 บอกว่า เป็นเพื่อน
    ทั้งหมดนี้คิดว่าจะมีปัญหาตรงไหนไหมค้ะ

    • govisa  On August 28, 2012 at 9:15 pm

      น้อง Nikky คะ
      1. เรื่องจดหมายรับรองการทำงานสองฉบับไม่มีปัญหาค่ะ เท่ากับว่า น้องทำงานมานาน 9 ปี 6 เดือนค่ะ ถ้ากงสุลถามว่า ทำไมลาออก ให้ตอบเหมือนที่เขียนมาบอกพี่ คือ บริษัทปิดกิจการเพราะน้ำท่วมค่ะ และเปิดบริษัทใหม่ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมค่ะ
      2. เรื่องเงินสองบัญชีที่มีอยู่ 500,000 บาท อุปการะสองคนดูน้อยไปนิดค่ะ น้องอาจจะให้สามีช่วย support เพิ่มอีกคนหนึ่ง ถ้าสามีมีเงินเก็บในบัญชีไม่มาก อาจจะให้คุณพ่อคุณแม่ของน้อง Nikky คนใดคนหนึ่งช่วย support ร่วมด้วยก็ได้ค่ะ
      3. ให้เพื่อนที่อเมริกาทำจดหมายเชิญทั้งแม่และลูกให้ไปพักที่บ้านเพื่อไปเที่ยวระหว่าโรงเรียนที่เมืองไทยปิดเทอมประมาณ 2 อาทิตย์ด้วยค่ะ
      หมายเหตุ เอกสารของลูกสาวต้องมีจดหมายรับรองความเป็นนักเรียนพร้อมกับใบ Transcript แสดงผลการเรียนด้วยค่ะ

  • nicky  On August 29, 2012 at 10:53 am

    คุณ govisa
    ขอบคุณมากค่ะ ถ้าสัมภาษณ์แล้วได้หรือไม่จะมาเล่าให้ฟังน้ะค้ะ หรือระหว่างนี้ถ้ามีข้อสงสัยอีกคงต้องรบกวนเข้ามาถามอีกน้ะค้ะ
    nikky

    • govisa  On August 29, 2012 at 8:14 pm

      ได้เลยค่ะคุณ Nikky ขอให้โชคดีนะคะ

  • Jane  On August 31, 2012 at 10:07 pm

    พี่ govisa ค่ะ …ถ้าใน DS-160 ใส่คำนำหน้าชือเป็นยศตำรวจ แต่ในพลาสปอร์ใช้นาย จะมีปัญหาหรือป่าวค่ะ มีวิธีแก้ไขหรือป่าวค่ะ

    • govisa  On August 31, 2012 at 10:48 pm

      น้อง Jane คะ ถ้าน้องยังไม่ได้ submit แบบฟอร์ม DS-160 ก็เข้าไปจัดการแก้ไขให้ถูกต้องได้อยู่ค่ะ แต่ถ้า submit ไปเรียบร้อยแล้ว ต้องการจะแก้ไขให้ถูกต้อง เข้าไปกรอก DS-160 ใหม่ และถ้ายังไม่ได้ทำการน้ดวันสัมภาษณ์ ให้นำหมายเลข DS-160 ใหม่ไปกรอกเพื่อนัดวันสัมภาษณ์ แต่ถ้า confirm วันนัดสัมภาษณ์ไปแล้วก็ให้นำใบยืนยันหมายเลข DS-160 ทั้งของใหม่และของเก่าไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • jane  On September 3, 2012 at 2:38 pm

    พี่ค่ะ…ถ้าเตนได้วันนัดสัมภาษณ์..หลังวันที่แจ้งว่าจะเดินทางใน DS160 ตอนเข้าไปกรอก DS160 ใหม่ ต้องใส่วันเดิมหรือว่าเปลี่ยน และถ้าเปลี่ยนต้องกรอกใหม่ทั้งคณะหรือว่ายังไงค่ะ

    • govisa  On September 3, 2012 at 8:15 pm

      น้อง Jane คะ ไม่มีปัญหาเรื่องวันนัดสัมภาษณ์ที่ได้ไม่ตรงกับวันที่แจ้งไว้ใน DS-160 เพราะวันนัดสัมภาษณ์วันนั้นอาจแน่นจนจองไม่ได้ ไม่ต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ แต่ถ้าอยากกรอกใหม่ก็ตามใจน้อง ให้น้องเปลี่ยนวันที่จะเดินทางใหม่ทั้งคณะ ซึ่งในความเห็นพี่ พี่คืดว่า ไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยเสียเวลาค่ะ และกรณีที่น้องถามมาก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงประเภทกรอกชื่อ-นามสกุล หรือวันเดือนปีเกิดผิดค่ะ

  • jane  On September 3, 2012 at 9:04 pm

    คืออย่างนี้ค่ะ เจนพบความบกพร่องของเจน คือ 1.ใส่คำนำหน้าผู้ร่วมเดินทางผิด ตามพาสปอร์ตเป็นนาย แต่เจนไปใส่ ยศตำรวจไป 2. ได้วันสัมภาษณ์วันที่ 26 ก.ย. 55 แต่วันที่ระบุว่าจะเดินทางคือวันที่ 25 ก.ย.55 แล้วพอจะไปกรอก DS-160 เพื่อแก้ไขคำนำหน้าให้ถูกต้อง จะต้องเปลี่ยนกำหนดการที่คาดว่าจะเดินทางหรืิอป่าว เพราะชื่อคนที่ผิดเนี้ย เค้าจะมีลูกอายุประมาณ 2 ขวบไปด้วย จึงอยากทราบว่าตเ้องเปลี่ยนของลุกด้วยหรือป่าวค่ะ เพราะ 2 คนนี้ใช้ Pin เดียวกัน

    • govisa  On September 3, 2012 at 10:26 pm

      น้อง Jane คะ ถ้าน้องจะต้องแก้ไขยศของพ่อเด็กให้เหมือนในหนังสือเดินทาง ก็ถือโอกาสเปลี่ยนวันที่เดินทางไปด้วยเลยเช่น อาจจะเปลี่ยนเป็นเดินทางตอนตุลาไปนะคะ พี่ไม่คิดว่า กงสุลจะถามว่า ทำไมถึงเปลี่ยนวันที่เดินทางจากเดิมที่เคยกรอก ถ้าถามก็ไม่แปลกตอบไปได้เลยว่า เพราะจองวันนัดสัมภาษณ์เร็วกว่านี้ไม่ได้ เลยต้องเลื่อนการเดินทางออกไปค่ะ ส่วนลูกสองขวบไหนๆก็แก้ไขของพ่อให้ถูกต้องแล้วก็แก้ไขของลูกให้เหมือนกันกับของพ่อไปเลยค่ะ เพราะเด็กก็ต้องเดินทางพร้อมพ่ออยู่แล้วนอกเหนือไปจากเหตุผลที่เด็กจะใช้พินเดียวกันกับพ่อค่ะ

  • Fern  On September 9, 2012 at 8:12 am

    พี่ค่ะพ่อ-เม่ และคุณป้าของหนูเพิ่งทำการขอสัมภาษณ์วีซ่าไปเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา และได้วีซ่าทุกคน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า
    1.พี่สาวและน้องสาวหนูเพิ่งตัดสินใจได้ว่าอยากตามมาเที่ยวที่อเมริกาด้วย ไม่ทราบว่าถ้าจะทำการขอวีซ่าทีหลังให้กับทั้งสองคนนี้ควรทำอย่างไรดีค่ะ
    2.กรณีของน้องสาวหนูไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นนักศึกษา แต่กรณีของพี่สาวหนูนั้น จบมาทำงานหลายปีแล้วค่ะ แต่ทำงานกับที่บ้าน ฉนั้นจึงไม่มีตำแหน่งงานที่แน่ชัดเหมือนกับทำงานบริษัท อีกทั้งเรื่องฝากก็ไม่สูงมาก แต่พอจะมีกองทุน ไม่ทราบว่าจะแสดงเงินฝากแบบกองทุนได้หรือเปล่าค่ะ
    3.เมื่อจะเดินทางมาทั้งครอบครัว ควรจะตอบว่าพี่สาวsupportตัวเอง หรือพ่อแม่เป็นผู้support ดีค่ะ

    • govisa  On September 9, 2012 at 10:13 am

      น้อง Fern คะ

      1. พี่สาวและน้องสาวกรอกฟอร์ม DS-160 และปฏิบัติตามขั้นตอนของการวีซ่าท่องเที่ยว B-2 เหมือนอย่างที่คุณพ่อคถณแม่เคยปฏิบัติค่ะ
      2. กรณีของน้องสาว ขอ Transcript จากมหาวิทยาลัยที่กำลังเรียน และขอใบรับรองความเป็นนิสิต หรือความเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่กำลังลงทะเบียนเรียนอยู่
      ส่วน กรณีของพี่สาว ก็ให้ที่บ้านรับรองว่า พี่สาวทำงานหน้าที่อะไรที่บ้าน ถ้า Fern อยู่ที่อเมริกาภาษาอังกฤษก็ต้องดีในระดับหนึ่ง น่าจะเป็นคนร่างจดหมายให้ที่บ้านคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเซ็นต์ชื่อว่า พี่สาวทำงานที่บ้านมากี่ปี และได้เงินเดือนๆละเท่าไรค่ะ ส่วนคำถามที่ว่าใช้กองทุนไปแสดงได้ไหม คำตอบคือได้ค่ะ เอาบุ๊คบัญชีสะสมทรัพย์ไปด้วยแล้วกันค่ะ พี่สาวสามารถอธิบายให้กงสุลฟังได้ว่า การซื้อหุ้นจากกองทุนรวมเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เงินที่เก็บสะสมไว้มีค่าเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถือว่าเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง และสามมรถนำไปหักค่าลดหย่อนภาษีได้ด้วยค่ะ ดังนั้น การตอบคำถามสัมภาษณ์ขึ้นอยู่กับปฏิภาณของผู้ตอบคำสัมภาษณ์คนนั้นด้วยค่ะ ถ้าพูดกันด้วยหลักการและเหตุผล กงสุลท่านพิจารณาได้ว่า เรามีการวางแผนความมั่นคงของเราในอนาคตด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่คิดจะขอวีซ่าไปเที่ยวและหาทางทุกวิถีทางเพื่อไปอยู่ที่อเมริกาอย่างถาวรเหมือนคนไทยบางคนค่ะ
      3. ในการกรอกฟอร์ม DS-160 มีการถามว่าจะไปกับใคร ก็ใส่ชื่อพ่อและแม่ไปด้วย และของทั้งพี่สาวและน้องสาวควรใช้บัญชีพ่อแม่ช่วย support ด้วยยิ่งดีค่ะ และให้เหตุผลของการมาขอวีซ่าหลังจากคุณพ่อและคุณแม่ว่า เพิ่งหาจังหวะที่จะมีคนมาช่วยทำงานแทนที่ร้านที่บ้านได้เลยจะไปเที่ยวกับพ่อแม่ด้วย ส่วนน้องสาวก็จะปิดเทอมเดือนตุลาคมนี้อยู่แล้ว เลยอยากไปเที่ยวกับพ่อแม่และพี่สาวค่ะ

      ได้ผลอย่างไรส่งข่าวให้ทราบด้วยนะคะ และพอบอกได้ไหมคะว่า คุณพ่อคุณแม่ถูกถามอะไรบ้าง ยากไหม เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ค่ะ ขอบคุณน้อง Fern ล่วงหน้าค่ะ

  • Fern  On September 9, 2012 at 11:12 am

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ส่วนเรื่องการสัมภาษณ์(พ่อ-แม่ และป้าสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยพร้อมกันค่ะ) เห็นคุณแม่บอกว่าถามไม่ยากค่ะ
    แค่ถามว่าจะไปทำอะไรที่อเมริกา ถามเรื่องอาชีพของแต่ละคน ขอดูสมุดบัญชีของทุกคน และคุณแม่ได้ยื่นจดหมายที่หนูเขียนถึงทางสถานทูตว่าหนูเป็นนักเรียนที่กำลังจะเรียนจบ และอยากให้ครอบครัวมาเที่ยวด้วยกันก่อนที่หนูจะเดินทางกลับค่ะ

    • govisa  On September 9, 2012 at 3:50 pm

      ขอบคุณค่ะน้อง Fern ที่เขียนมาแชร์ประสบการณ์ของผู้ปกครองให้หลายๆท่านในที่นี้ที่กำลังเตรียมขอวีซ่าท่องเที่ยวได้รับทราบกันนะคะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ พี่ขออวยพรให้พี่สาวและน้องสาวของ Fern เป็นอีกสองคนที่โชคดีได้เดินทางไปเที่ยวพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่และคุณป้าค่ะ

  • pha  On September 10, 2012 at 4:23 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ govisa
    ดิฉันเดินทางไปเที่ยวโดยพักบ้านเพื่อนที่USซึ่งเพื่อนดิฉันเดินทางไปด้วยกันแต่ใน DS160 ดิฉันไม่ได้ใส่ชื่อเพื่อน ใส่แต่ชื่อลูกสาวไปเพราะเข้าใจว่าให้ใส่ช่ือผู้ที่ไปด้วยซึ่งขอvisa พร้อมก้น จะมีปัญหาไหมค้ะที่ไม่ได้ใส่ช่ืเพื่อน แล้วควรทำอย่างไรต่อค้ะ
    ( เพื่อนเดินทางไปหาครอบครัวเกือบทุกปีค่ะ )

    • govisa  On September 10, 2012 at 8:36 pm

      คุณ Pha คะ ไม่ได้ใส่ชื่อเพื่อนก็เป็นไรค่ะ แต่ตรงที่ฟอร์มถามว่า จะไปพักที่ไหน คุณ Pha ใส่ชื่อบ้านเพื่อนที่จะไปพักได้ค่ะ หรือถ้าตอนกรอก DS-160 ไปแล้วไม่ได้ใส่เป็นบ้านเพื่อนแต่ใส่เป็นชื่อโรงแรมไปก็ไม่มีปัญหาอีกเมือนกันนะคะ เพราะให้คิดถึงภาพรวมใหญ่ๆว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนหรือญาติอยู่เสมอไป เค้าอาจจะไปเที่ยวแบบฝรั่งที่แบกเป้ไปเที่ยวก็ต้องจองพักกับโรงแรมไปค่ะ ความสำคัญอยู่ที่วิธีการตอบคำถามของเราว่า เราจะสามารถตอบคำถามอย่างจริงใจได้มากน้อยแค่ไหนว่า แผนการเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ เราจะอยู่ในสหรัฐประมาณกี่วัน กะว่าจะไปเที่ยวรัฐอะไรบ้าง หรือวางแผนจะเช่ารถไปเที่ยวกัน หรือเพื่อนพาไปเที่ยว ถ้าเราสามารถตอบคำถามได้เป็นเป็นราว ไม่ใช่กงสุลท่านถามอะไร เราตอบไม่ได้เลย อยุ่ที่เพื่อนหมดทุกอย่าง ก็ดูไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือค่ะ อนึ่ง ถ้าหลักฐานการเงินเราดีพร้อมก็ไม่เป็นอุปสรรคใดๆต่อการขอวีซ่าเลยค่ะ

  • nicky  On September 11, 2012 at 4:18 pm

    สวัสดีอีกครั้งค่ะ คุณ govisa
    nikky เคยถามไปแล้วพอดีว่ามีข้อสงสัยเพิ่ม คือว่า nikky ขอ visa พร้อมกับลุกสาวก็เลยลงใน DS160ว่าเดินทางกับลููก แต่จริงจริงแล้วเพื่อนnikky ที่เป็นลูกของเจ้าของบ้านพักที่ อเมริกา เดินทางไปด้วย (พูดงายๆก็คือเพื่อนพา ไปเที่ยว) แต่ใน DS160 ไม่ได้ใส่ชื่อเพื่อนลงไป จะเป็นไรไหมค้ะจะเข้าไปแก้DS160ก็กลัวยุ่งยาก
    หรือถ้าไปบอกวันสัมภาษณ์ จะต้องเอาหลักฐานอะไรไปอีกค้ะ
    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    • govisa  On September 11, 2012 at 8:31 pm

      น้อง Nikky คะ อย่ากังวลเรื่องเพื่อนของน้องที่เป็นลูกของเจ้าของบ้านพักที่จะเดินทางไปด้วยแล้วไม่ได้ใส่ชื่อลงไปพี่มีทางเลือกให้น้องสองทางคือ

      1. ถ้าน้องต้องการจะแก้ไข DS-160 ให้เข้าไปกรอกใหม่และใส่ชื่อผู้ที่จะเดินทางไปกับน้อง คือ ลูกของเพื่อนพร้อมทั้งถ่ายสำเนาเอกสารหนังสือเดินทางและหน้าวีซ่าของเขาติดมือไปด้วย ถ้าเขามีกรีนการ์ด ก็ถ่ายสำเนาหน้านั้น หรือถ้าเขาถือหนังสือเดินทางอเมริกันก็ถ่ายสำเนาเอกสารติดมือไปด้วย เผื่อกงสุลถามอะไรน้องและน้องมีความจำเป้นต้องใช้เอกสารที่กล่าวมาจะได้หยิบขึ้นมาแสดงให้กงสุลดูค่ะ พี่คิดว่ากงสุลคงอยากทราบว่า น้องรู้จักกับครอบครัวที่จะไปพักด้วยมานานกี่ปี หรือรู้จักกันได้อย่างไร มีความสนิทสนมกันมากน้อยแค่ไหน เป็นต้นค่ะ

      2. น้อง Nikky ไม่จำเป็นต้องกรอก DS-160 ใหม่ ถ้าน้องเคยเดินทางไปต่างประเทศมาบ้างแล้ว น้องสามารถเดินทางเองคนเดียว เพื่อไปพักบ้านเพื่อนคนนี้ได้ค่ะ แต่ถ้าน้องไม่เคยเดินทางเองคนเดียว น้องสามารถที่จะให้คำตอบได้หลากหลายแบบค่ะ เป็นต้นว่าซื้อทัวร์ 5 วัน 7 วันจากเมืองไทยไป แต่เวลากลับไม่ได้กลับพร้อมทัวร์ ตกลงให้เจ้าหน้าที่ทัวร์ไปส่งที่สนามบินภายในเพื่อต่อเครื่องบินไปที่เมืองที่เพื่อนของน้องอยู่ และเวลากลับประเทศไทย น้องกับลูกสาวจะกลับกันเองไม่ได้กลับพร้อมทัวร์ก็ได้ค่ะ

      พี่ไม่มีข้อมูลว่า เพื่อนน้องอยู่เมืองไหนรัฐอะไร ถ้าเป็นเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนียที่คนไทยชอบไปอยู่กัน อาจจะไม่ต้องชี้แจงว่าไปกับทัวร์ คือ เดินทางไปพร้อมลูกสาวและเพื่อนของน้องจะมารับน้องและลูกสาวที่สนามบิน ช่วงนั้นลุกสาวของน้องปิดเทอม น้องกับลุกสาววางแผนจะให้เพื่อนพาไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ คือ ขอให้น้องรู้จักที่เที่ยวในอเมริกาบ้าง ไม่ใช่รอเพื่อนพาไปโดยที่ตัวน้องไม่รู้อะไรเลย เหมือนน้องไม่ได้ทำการบ้านว่า น้องวางแผนจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างค่ะ

  • Siripong  On September 12, 2012 at 1:22 pm

    ขอโทษนะครับพอดีว่าผมกรอก DS 160 เรียบร้อยแล้ว แต่ ผมลืมคำตอบตรวที่เป็น Security Questions ผมจดไว้แล้วแต่อาจจะสะกดบางตัวผิดไป จึงเข้าไป application online ที่กรอกเพื่อ complete ไม่ได้ ผมจะทำยังไงได้มั้งครับ

    • govisa  On September 12, 2012 at 9:26 pm

      น้อง Siripong คะ น้องเริ่มต้นกรอกใหม่ทั้งหมดเลยค่ะ ก่อนจะเริ่มต้นกรอก ให้ print Application ID และอย่าลืมจดคำตอบที่เราตั้งให้เป็นรหัสของเราไว้ด้วยค่ะ เผื่อถ้ากรอกแบบฟอร์มไม่เสร็จ คลิก Save ไว้ ถ้าวันหลังจะเข้ามากรอกใหม่ ให้คลิกเลือก Retrieve จะได้เข้าไปกรอกต่อในหน้าที่ยังไม่ได้กรอกได้ค่ะ

  • Siripong  On September 13, 2012 at 8:51 am

    ขอบคุณครับพี่ govisa แต่ application ID เก่าที่ผมได้นั้นผม ได้จองวันสัมภาษณ์แล้วนะครับได้วันที่ 19 สิงหานี้ ถ้าผมทำ DS 160 หมายเลขใหม่ขึ้นมา ผมต้องจองคิวใหม่ไหมครับ
    ถ้าจองใหม่เกรงว่าจะไม่ทันเพราะผมต้องเดินทางไปอเมริกาวันที่ 7 ตุลาคม เพราะดูจากคิวสัมภาษณ์แล้วไม่ค่อยมีว่างเลย ถ้าผมทำ ID ใหม่ขึ้นมาแล้วผม สามารถใช้ คิวเดิมได้ไหม๊คับ

    • govisa  On September 13, 2012 at 9:28 pm

      น้อง Siripong คะ ถ้าดูจากคำถามครั้งแรกของน้องคือน้องกรอก DS-160 เสร็จแต่น้องยังไม่ได้ submit น้องเอา Application ID ซึ่งจะกลายเป็น DS-160 Confirmation Number เมื่อ submit ถูกต้องเรียบร้อยไปจองวันนัดสัมภาษณ์ก่อน เรียกว่า ทำลัดขั้นตอนเพราะอาจจะเป็นกังวลกลัวจะไม่ได้วันนัดเร็วๆ น้องคงต้องกรอก DS-160 ใหม่ เพราะการที่น้องจำรหัสไม่ได้ น้องก็เข้าไป submit อันเก่าและprint ไม่ได้อยู่ดีค่ะ ถ้าน้องยืนยันจะใช้วันนัดเดิม พี่คะเนว่าน่าจะเป็น 19 กันยายนมากกว่า เพราะ 19 สิงหาคมเลยมาแล้วค่ะ ให้น้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ตรวจเอกสารถึงปัญหาที่น้องลืมรหัส เข้าไป print ไม่ได้แล้วกัน ถ้าเขาอนุโลมให้น้อง คือน้องไปเจอกงสุลใจดี ไม่เข้มงวดมาก น้องก็เข้าไปสัมภาษณ์ได้ค่ะ ถ้าไม่อยากพลาด พี่แนะนำให้ไปพบเจ้าหน้าที่ที่ประตูสถานทูต ขอคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง กรณีน้องจะไม่เหมือนคนที่ submit ไปแล้ว และเขาต้องการแก้ไขด้วยการกรอกใหม่ เขาสามารถ print DS-160 Confirmation Number อันใหม่ไปแสดงคู่กับอันเก่าได้ค่ะ
      หมายเหตุ พี่ได้ลองโทรสอบถามแหล่งข้อมูลในเรื่องนี้ น้องสามารถ Print DS-160 หมายเลขใหม่เข้าไปยื่นให้เจ้าหน้าที่สถานทูตดูได้เลยค่ะ ไม่ต้องกังวลกับหมายเลข DS-160 หมายเลขเก่านะคะ ถ้าถูกถามให้น้องชี้แจงเหตุผลได้พอค่ะ

  • Siripong  On September 14, 2012 at 2:54 pm

    ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์มากเลยสำหรับการทำวีซ่าในครั้งนี้ ขอบคุณจริงๆครับ

    • govisa  On September 14, 2012 at 9:23 pm

      ได้ผลวีซ่าเป็นอย่างไร เขียนมาแชร์ประสบการณ์ที่อาจจะให้ประโยชน์แก่ผู้ไปขอวีซ่าท่านอื่นๆบ้างนะคะน้อง Siripong

  • kan  On September 19, 2012 at 4:59 pm

    สวัสดีค่ะ ขอรบกวนถามหน่อยค่ะ
    กรอก DS-160 ไปแล้ว และ นัดวันที่สัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว
    แต่ไม่ได้ print ทั้งหมดที่กรอกออกมา วันที่นัดสัมภาษณ์ นอกจากเอกสารทั่วไปที่ต้องเตรียมไปแล้ว เรานำใบที่มีูรูปที่เราที่อัปโหลดลงไปแสดงอยู่ online nonimmigrant visa application( DS-160) และprint ใบ appointment confirmation information ใช่มั้ยค่ะ
    DS-160 ที่กรอกไปหลายๆหน้า ต้องprint ไปให้เจ้าหน้าที่ด้วยหรือเปล่าค่ะ (ไม่ได้save และprint ตอนที่กรอกเสร็จ )

    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On September 19, 2012 at 5:34 pm

      น้อง Kan คะ DS-160 ที่เป็นหน้า Application หลายๆหน้าไม่ต้อง Print ออกมาค่ะ สิ่งที่ต้อง Print คือ DS-160 Confirmation Number แผ่นที่มีรูปใบหน้าของน้อง และมีบาร์โค้ด หมายเลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปีเกิด และหมายเลข Confirmation Number ที่ขึ้นต้นด้วย AA002…..ค่ะ

  • tor  On September 20, 2012 at 8:40 pm

    ได้เข้าไปกรอกDS160แล้วได้นำIDนี้ไปซื้อpinแต่พอจะเข้าไปกรอกข้อมูลเพิ่มเติมกลับเข้าม่ายได้งี้สามารถไปกรอกDs160ใหม่รึป่าวค่ะแล้วต้องเอาnumberไปเปลี่ยนข้อมูลที่เรานัดสัมภาษณ์ด้วยป่าวค่ะ

    • govisa  On September 20, 2012 at 9:27 pm

      น้อง Tor คะ ถ้าน้องทำการยืนยัน (Confirm) วันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว น้องจะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขหมายเลข DS-160 ในหน้าฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ได้ค่ะ ให้น้องกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ ถ้าน้องเข้าไปกรอกฟอร์ม DS-160 ตามหมายเลขเก่าไม่ได้ และให้น้องเข้าไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ในสถานทูตในวันไปสอบสัมภาษณ์อีกทีว่า เพราะเหตุใดหมายเลข DS-160 Confirmation Number จึงไม่ตรงกันกับหมายเลข DS-160 Confirmation Number ในตอนกรอกฟอร์มนัดสัมภาษณ์ค่ะ

      นี่คือ เหตุผลที่ทางสถานทูตสหรัฐฯได้จัดทำวิดีโอแนะนำว่า ควรกรอกรอกฟอร์ม Ds-160 ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงค่อยทำการนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

      • tor  On September 20, 2012 at 9:44 pm

        ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ^^ ตอนเริ่มกรอกม่ายได้ศึกษาข้อมูลเลยทำามที่ญาติบอกมาก^^”

      • govisa  On September 20, 2012 at 10:12 pm

        เอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จคะน้อง Tor มีอะไรไม่เข้าใจเขียนมาถามได้เสมอค่ะ

  • tor  On September 21, 2012 at 6:14 pm

    รบกวนถามอีกค่ะ^^เรื่องรูปเราสามารถถ่ายเองได้ไหมค่ะ

    • govisa  On September 21, 2012 at 9:11 pm

      ได้ค่ะน้อง Tor ถ้าน้องทำตามกฎระเบียบของรูปถ่าย น้องจะสามารถ upload รูปไปใส่ไว้ในแบบฟอร์มได้ค่ะ ลองอ่านเรื่องคุณสมบัติของรูปถ่ายได้จากเว็บไซต์นี้ค่ะ http://travel.state.gov/visa/visaphotoreq/visaphotoreq_5334.html

  • Siripong  On September 27, 2012 at 7:12 pm

    พี่ Govia ครับ ขอบคุณครับ เป็น อย่างที่พี่แจ้งจริงๆด้วย ถ้าเราจองคิวแล้ว แต่จำคำตอบที่เขาถามไว้ไม่ได้รือสะกดผิด เราสามารถทำออนไลต์ ds 160 ใม่ได้ ซึ่ง เอาวันที่เราได้วันนัดอันเดิมไป ไม่เป็นไรครับ แต่ผม ได้วีซ่าแต่ 90 วันเอง เพื่อนๆได้กันเป็นสิบปี แอบน้อยใจ
    ผมจะไป พบลูกค้าที่ Enfiled, Conneticut นั่งเคืร่องไปลง JKF ยังไม่รู้จะไปยังไงเลยครับ
    แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่ให้ข้อมูล

    • govisa  On September 27, 2012 at 9:07 pm

      อย่าน้อยใจไปเลยค่ะน้อง Siripong ที่น้องได้วีซ่ามาแค่ 3 เดือนต้องคิดว่าดีกว่าถูกปฏิเสธนะคะ เพราะกงสุลท่านคงไม่มั่นใจในตัวน้องหลายอย่าง แต่ก็จำนนด้วยเอกสารว่า ไม่มีเอกสารอะไรของน้องบกพร่องเลยให้วีซ่าที่มีระยะเวลาไม่นานนัก หากน้อง Siripong เดินทางเข้าไปในสหรัฐอเมริกาครั้งนี้แล้วเมื่อถึงเวลาที่ครบกำหนดเสร็จธุระ น้องเดินทางกลับเมืองไทย ครั้งต่อไปกงสุลจะให้วีซ่าน้องที่มีระยะเวลานานเหมือนเพื่อนๆค่ะ

      สำหรับระยะทางจากสนามบิน JFK ปเมืองห่าง Enfield, CT ห่างกันประมาณ 139 ไมล์ หรือ 87 กิโลเมตร ถ้าจะเช่ารถที่สนามบินขับ อย่าลืมเวลาเช่ารถเจ้าหน้าที่เขาจะบวกค่าประกันรถด้วยนะคะ และอย่าลืมนำใบขับขี่สากลไปด้วยค่ะ ลองศึกษาเส้นทางจาก Google Map นะคะ
      http://maps.google.co.th/maps?hl=th&biw=1920&bih=943&q=distance+between+jfk+to+Enfield,+Connecticut&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_qf.&um=1&ie=UTF-8&sa=N&tab=wl

  • nicky  On October 1, 2012 at 4:28 pm

    สวัสดีค่ะคุณ govisa วันนี้ไปสัมภาษณ์มาแล้วเจ้าหน้าที่ถาม ดิฉัน 1 ประโยค เดินทางคนเดียวหรือ? ถามลูกสาว 2 ประโยค อยู่ร.ร. อะไร อยากไปทำอะไรที่อเมริกา
    สามีไม่ได้ไปด้วยแต่ดิฉันขอให้เข้าไปเป็นผู้ปกครองเด็ก ถามสามีว่า ไม่ไปด้วยหรือ สามีบอก งานยุ่ง แล้วถามสามีว่าทำงานอะไร
    แค่นี้จริงๆไม่ถึง 3 นาที แต่ที่ดูแบบพินิจพิเคราห์คือ หนังสือเชิญนอกนั้นดูผ่านๆ จากประสบการณ์วันนี้คิดว่าหนังสือเชิญสำคัญมากทีเดียว เสร็จแล้วบอกโชคดี
    ดีใจมาก
    ดิศันมีเรื่องจะรบกวนถามคุณ govisa ค่ะว่า บังเอิญว่าplanไปกลางตุลาเพราะงานว่างช่วงนั้น ลูกก็ปิดเทอม แต่เกิดจะมีงานด่วนขึ้นมาดิฉันไม่แน่ใจว่าจะได้ไปไหม แต่ลูกอยากไปมาก
    ถ้าลูกเดินทางไปกับเพื่อนที่planจะไปด้วยกัน ซึ่งเป็นลูกของเจ้าของบ้านที่เชิญ โดยไม่มีผู้ปกครอง ( พ่อแม่ ) ไปด้วย จะได้ไหมค้ะ
    ลููกก็ได้visa แล้ว แต่ที่ใบสมัครบอกว่าจะเดินทางไปกับแม่ อายุไม่ถึง 18 ปี
    จะถูกส่งกลับไหมค้ะ
    ช่วยตอบด้วยน้ะค้ะ
    ขอบคุณค่ะ
    Nikky

    • govisa  On October 1, 2012 at 10:13 pm

      น้อง Nikky คะ ถ้าลูกสาวของน้องอายุเกินสิบสามปีแล้ว สามารถเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนของน้องได้ค่ะ ถ้ากลัวเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองซักก็บอกได้ว่า มากับญาติ เช่น ป้าหรือน้าก็เรียกไปค่ะ แต่ถ้าเป็นลูกสาวพี่ พี่คงไม่กล้าฝากไปกับใคร แม้ลูกจะอยากไปเที่ยวมากก็ตาม หนึ่งเป็นการสอนให้เด็กรู้จักคำว่า อดทนและรอคอย เข้าใจเหตุผลและความจำเป็นของครอบครัวค่ะ สอง พี่ไม่ตามใจเพราะพี่เป็นห่วงค่ะว่า คนๆนั้นจะมีเวลาดูแลลูกของเราได้เต็มที่หรือเปล่านะคะ ถ้าลูกเราซนเกินมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา เราจะไปโทษเพื่อนก็คงไม่ได้ ตัวเราอาจจะมาเสียใจภายหลังได้ค่ะ เด็กๆยังอายุน้อย มีโอกาสได้ไปเที่ยวอีกหลายครั้งถ้าที่บ้านไม่ได้มีอุปสรรคเรื่องเงินๆทองๆค่ะ อย่างไรก็ตาม พี่ขอขอบคุณน้อง Nikky ที่เขียนมาแชร์ประสบการณ์นะคะ ดีใจด้วยอย่างมากค่ะที่ได้วีซ่าทั้งสองคนแล้วค่ะ

  • nicky  On October 2, 2012 at 12:30 pm

    ขอบคุณ คุณ govisa มากค่ะ ที่ แสดงความห่วงใย ดิฉันคงต้องรับไปพิจารณาค่ะ
    อีกอย่างที่ดิฉันกับลูกได้ visa ก็เพราะคุณ govisa ด้วยค่ะ หลังจากอ่านคำแนะนำ ที่คุณ govisa ให้หลายๆคนไปทำให้ดิฉันได้ทำการบ้านสำหรับตัวเองเลยรู้สึกมั่นใจเวลาเดินเข้าไป และคำพูดของพวกเราก็มั่นใจด้วย ทำให้ไม่มีประเด็นให้เจ้าหน้าที่สงสัยใดๆด้วยค่ะ
    แต่งตัวสุภาพเข้าไว้ แสดงความมั่นใจในตัวเองค่ะ
    ขอบคุณมากๆค่ะ

    • govisa  On October 2, 2012 at 8:31 pm

      ดีใจที่ข้อมูลในบล็อกมีประโยชน์กับน้อง Nikky ค่ะ ถ้าน้องสามารถปลีกเวลาไปเที่ยวกับลูกสาวได้ ขอให้ท่องเที่ยวให้สนุกทั้งคุณแม่และลูกสาวค่ะ

  • nicky  On October 3, 2012 at 4:35 pm

    ขอบคุณค่ะ
    วันนี้Passport ส่งมาถึงบ้านแลาั Nicky ได้มา 10 ปี
    ลูกสาวได้มา 2 ปี
    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

    • govisa  On October 3, 2012 at 7:43 pm

      ดีใจด้วยค่ะน้อง Nikky

  • Neeair  On October 5, 2012 at 2:27 am

    รบกวนถามหน่อยค่ะ ถ้าเค้าถามว่า
    Have you attended any educational institutions other than elementary school?
    แล้วเราตอบว่า ใช่ หลังจากนั้นเค้าถามว่า
    Date of attendance to.อย่างนี้เราต้องตอบว่าอะไรหรอคะ ถ้าเรายังเรียนอยู่ยังไม่จบ

    • govisa  On October 5, 2012 at 5:16 am

      น้อง Neeair คะ Date of attendance คือ ศึกษาอยู่ระหว่างปีคศ.อะไรค่ะ เป็นต้นว่า 2000-2005 ค่ะ

  • Neeair  On October 5, 2012 at 5:12 pm

    ขอบคุณมากนะคะ

    • govisa  On October 5, 2012 at 8:40 pm

      ยินดีช่วยน้อง Neeair ถ้ามีปัญหาถามมาได้อีกนะคะ

  • pitchayasa  On October 15, 2012 at 3:10 pm

    สวัสดีค่ะ อยากรบกวนสอบถามการกรอกฟอร์มDS-160 ตรง Given Names ต้องใส่คำนำหน้าชื่อ Mr., Ms., Mrs ด้วยมั้ยค่ะ หรือเขียนชื่อไปเลย…

    • govisa  On October 15, 2012 at 8:41 pm

      น้อง Pitchayasa คะ ใส่ชื่อน้องเลย ไม่ต้องใส่คำนำหน้า Mr., Mrs, Ms.ค่ะ

  • pitchayasa  On October 15, 2012 at 9:30 pm

    ขอบคุณมากค่ะ…จะรบกวนถามเพิ่มเติมนะคะ กรอกข้อมูลDS-160 เหมือนสามีทุกอย่างค่ะ เราสมัครวีซ่าท่องเที่ยว B2 แต่ของหนูตอนมาถึง Travel information ของหนูไม่มีคำถาม Have you made specific travel plans? เลยไม่สามารถกรอกแผนการท่องเที่ยวได้ ของแฟนกรอกได้ มีคำถามเมืองที่จะไป+จะกลับและflight ไป+กลับ. งงมากค่ะ ของหนูไม่มีให้กรอก
    อีกอย่างที่หนูไม่เหมือนแฟนคือ ตรงข้อมูลการศึกษา+การเดินทางไปต่างประเทศ+ภาษาที่พูดได้ก็ไม่มีให้กรอก ไม่แน่ใจเพราะว่าตรงนี้ของหนูเป็น not employed รึเปล่า คืออยู่ในช่วงเปลี่ยนงาน เพิ่งลาออกจากงานเมื่อ 15 Sep’12 และกำลังจะเข้างานใหม่ 7 Jan’13 เลยจะไปเที่ยวกันที่อเมริกา ตรงนี้ Present work หนูควรลงว่างงานหรือมีงานทำคะเพราะจริงๆบริษัทใหม่ตอบรับรับแล้วตามสัญญาว่าจ้างจะเริ่มปีหน้าเป็น Project Eng. มีใบตอบรับเข้าทำงาน
    หนูลองดูใหม่เข้าไปแก้ พอดียังไม่ได้ submit ให้อาชีพหลักเป็น Engineer(primary occupation) แต่ระบบก็ไม่ยอมให้กรอกตรงข้อมูลการศึกษา+การเดินทางไปต่างประเทศ+ภาษาที่พูดได้ แต่ของแฟนกรอกได้หมดทุกอย่างนะคะทั้งงานปัจุบัน+งานในอดีตการศึกษา+การเดินทางไปต่างประเทศ หนูพยายามเข้าไปกรอกใหม่ใช้ Aplication ID ใหม่เลยอีก2ครั้ง ก็เหมือนเดิม …. ขอโทษทีนะคะยาวมากเลยคำถามหนู

    • govisa  On October 15, 2012 at 10:14 pm

      น้อง Pitchayasa คะ อย่ากังวลเรื่องการกรอกฟอร์มที่ถามมาว่าไม่เหมือนกันระหว่างน้องกับสามีของน้องเลยค่ะ เพราะถ้าน้องเข้าไปอ่านของคนอื่นๆที่เคยเขียน comment เข้ามาถาม จะพบว่า มีคนที่พบปัญหาเช่นเดียวกับน้องจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว กล่าวคือ ไม่พบคำถามเหมือนเพื่อนอีกคนที่กรอกเสร็จไปก่อนล่วงหน้า พี่ก็เคยพบปัญหาเดียวกันกับน้องตอนกรอกให้เพื่อนสองคน วิธีการแก้ไขง่ายๆ คือ ให้น้องเตรียมหลักฐาน เช่น resume ของน้องที่ระบุปีการศึกษาว่า เรียนจบอะไรมา จบจากสถานศึกษาชื่ออะไร ประวัติการทำงาน ทำนองน้องเขียน resume เพื่อจะไปสมัครงานแนบไปด้วยกับเอกสารยื่นขอวีซ่า ถ้าเจ้าหน้าที่ที่ตรวจเอกสารคืนเอกสารชิ้นนี้ให้น้องตอนตรวจเอกสาร ก็ไม่เป็นไรนะคะ ตอนถูกเรียนกสัมภาษณ์ เกิดมีคำถามว่า น้องเคยทำงานที่ไหนมา ให้หยิบ resume ขึ้นมาชี้แจงท่านกงสุลได้ค่ะ และเนื่องจากช่วงนี้ยังไม่ได้ทำงานใส่คำว่า not employed ก็ถูกแล้วค่ะ

      ข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง ตอนกรอกแบบฟอร์มครั้งแรกของสามี หลังจากจบการกรอกจะมี icon ให้เลือกทำนองว่ากรอกให้คนที่อยู่ใน family เดียวกับ กับ exit ออกไปแล้วกรอกใหม่ น้องเลือกแบบไหนไป ถ้าเลือกแบบกรอกคนใน family เดียวกันบางส่วนของคำตอบจะ pop up ขึ้นมาในแบบฟอร์มเอง เช่น บ้านที่อยู่หลังเดียวกัน หรือที่อยู่ที่จะไปพักที่ในสหรัฐฯเป็นที่อยู่เดียวกัน เป็นต้น แต่ถ้าผ่านมาแล้วขอแนะนำว่า ไม่ต้องย้อนกลับไปทำใหม่ค่ะ ไม่มีความจำเป็นจริงๆนะคะ เตรียมเอกสารทางการเงินที่มั่นคงเพื่อชี้แจงว่า ที่บ้านมีฐานะอย่างไร พอจะไปเที่ยวจำนวนเท่านี้วันได้ไหม และหลักฐานเรื่องการทำงาน คือจดหมายผ่านงานจากที่เก่าว่า เคยทำและดำรงตำแหน่งอะไร เงินเดือนเท่าไร ทำอยู่ระหว่างเมื่อไรถึงเมื่อไร พร้อมทั้งถ้าทำได้ มีจดหมายยืนยันการรับเข้าทำงานของที่ใหม่ติดมือไปด้วยตามที่เขียนมาบอกพี่นะคะ เพราะถ้าพี่แนะนำให้น้องไปขอจดหมายรับรองการทำงานจากที่ใหม่ พี่ทราบดีว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะน้องยังไม่ได้เข้าไปปฏิบัติงานจริง ที่ทำงานใหม่ก็จะไม่ออกจดหมายรับรองดังกล่าวได้ค่ะ

      ส่วนประวัติการเคยเดินทางไปต่างประเทศไหมกับภาษาที่พูดได้ ต้องบอกตรงนี้เลยว่า มีคนจำนวน 50 % ที่ไม่พบคำถามนี้และไม่ได้กรอกไป และวีซ่าก็ผ่านด้วยค่ะ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นนะคะ คนที่จะได้พบและต้องตอบคำถามข้อนี้คือ คือคนที่ได้กรอกประวัติสถานศึกษาค่ะ

  • pitchayasa  On October 15, 2012 at 10:56 pm

    ขอบคุณมากค่ะ พี่govisa ที่ช่วยตอบคำถาม ^^

    ปล.นะคะ ในส่วนของที่สามีกรอกไม่มีไอคอนใดๆขึ้นมาเลยค่ะ แต่หนูเดาเองว่าเค้าะบุว่าเดินทางกับหนู ระบบฉลาดเลยตัดตอนให้หนูไม่ต้องกรอกแผนการเดินทาง ส่วนการศึกษาและอื่นๆที่กล่าวมาอาจตรงกับที่พี่บอกเหมือนคนอื่นๆ ตกลงหนูคิดว่าจะแนบ resume ตามคำแนะนำของพี่นะคะ

  • pitchayasa  On October 15, 2012 at 11:09 pm

    ขอบคุณมากนะคะพี่govisa ที่ช่วยตอบคำถาม
    ปล.ในส่วนของสามีไม่ได้มีไอคอนใดๆขึ้นมาเลยค่ะ แต่หนูเดาเองว่า เค้าระบุว่าเดินทางกับหนู เป็นไปได้ว่าระบบมันฉลาด ตัดตอนให้หนูไม่ต้องกรอกแผนการเดินทาง ส่วนอื่นที่หนูไม่ได้กรอกอาจเป้นเหมือนคนอื่นๆที่พี่บอก แต่หนูตกลงจะทำ resumeแนบไปตามที่พี่แนะนำนะคะ thanks again ^^

    • govisa  On October 16, 2012 at 5:25 am

      น้อง Pitchayasa คะ ดีแล้วค่ะที่น้องไม่ได้กังวลมาก จะได้ไม่ตื่นเต้นมากจนทำอะไรผิดไปในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • pitchayasa  On October 16, 2012 at 10:01 am

    พี่govisa ตื่นมาตอบตอนตี5 เลยหรือคะ … สุดยอดจริงๆ … ตื่นเช้ามาก
    คือหนูแอบสงสัยเพิ่มเติม คือหนูได้ลองกรอกแบบDS-160 ไปหลายอัน(ตอนยังไม่เจอพี่govisa) หมายถึง get new Application ID แต่ยังไม่ได้ submit เลยสักอัน ได้เพียงแต่ save เฉยๆ และก็ยังไม่ได้ใช้ PIN ยังไม่ได้เข้าไปจองวันสัมภาษณ์ใดๆ แบบนี้ หนูแค่เลือกแบบDS-160 ซักอัน(เบอร์เดียวพอ)กรอกให้เสร็จ ตรวจทาน sign+submit ปริ๊นออกมา ส่วน Application ID ที่เหลือก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้น ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีกใช่มั้ยคะ
    เจ้าหน้าที่เค้าเห็นมั้ยคะชื่อเดียวกันมากรอกตั้งหลายครั้ง แถมบางอันลองหลอกระบบใส่ชื่อแฟน passport+บัตรประชาชนของหนู คือตอนนั้นยังไม่เจอพี่govisa เลย trial&error เอาเอง คิดว่าระบบมัน bug บ้าง ว่าทำไมกรอกได้ไม่เหมือนกัน…แต่สุดท้ายยังไม่มีอันไหนที่หนู sign+submit ไปเลยค่ะ แต่ save ไว้ในระบบทุกอัน !!!

    • govisa  On October 17, 2012 at 12:59 am

      น้อง Pitchayasa คะ น้องเลือกฟอร์ม DS-160 ที่กรอกถูกต้องแล้วคลิก sign and submit ไปนะคะ กงสุลจะพิจารณาจากฟอร์มที่น้อง submit ไปค่ะ และในการนัดวันสัมภาษณ์ น้องจะใช้ DS -160 Confirmation Number อันที่น้องได้เลือก submit ไปแล้วเท่านั้นค่ะ

  • pitchayasa  On October 17, 2012 at 11:47 am

    ขอบคุณมากๆค่ะ พี่govisa^^

    • govisa  On October 17, 2012 at 9:32 pm

      ด้วยความยินดีค่ะน้อง Pitchayasa

  • hhansa  On October 17, 2012 at 7:12 pm

    พี่ govisa หนูข้อถามบ้างได้ไหมคะ คือด่วนมากคะ Ds-160 ยังสามารแก้ไขได้อยู่ไหมคะ พรุ่งนี้จะไปสัมภาษณ์แล้ว พอดีวันนี้มานั่งอ่านทบทวนดูแล้วพบว่า มีข้อมูลบางส่วนผิดไป วันนี้สามารถปริ้นท์อันใหม่แล้วนำไปบอกเจ้าหน้าที่ได้ไหมคะ ขอบคุณมากๆนะคะ ถ้าได้หนูจะได้นำอันใหม่ไปเลยคะ

    • govisa  On October 17, 2012 at 9:32 pm

      น้อง Hhansa คะ ถ้ามีอะไรผิดในฟอร์ม DS-160 ให้แก้ไขให้ถูกต้อง และ Print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ออกมา พร้อมทั้งนำหมายเลขเก่าที่ใช้ในตอนนัดวันสัมภาษณ์ไปด้วยค่ะ ขอให้โชคดีสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่านค่ะ

  • Ton  On October 18, 2012 at 2:01 pm

    รบกวนสอบถามด่วนครัับ ขอรบกวนด้วยครับ จะเดินทางเสา์ที่ 20แล้ว ไผสัทภ่ษณ์วีซ่าท่องเที่ยวผ่านเรียบร้อยแล้ว ปรากฎไปรษณีย์ส่งไปที่ไหนไม่รู้ หาไม่เจอ เลยรีบไปกรอกds160ใหม่ submit. ไปแล้วกรอกไปว่่า ไม่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์. แต่ยะงไม่ได้จองสัมภาษณ์ ผ่านมาสองวันไปรษณีย์ไปตรมเจอว่าส่งผิดบ้าน. แบบนี้ ds160ที่กรอก submitไปแล้วมีผลอะไรมั้ยครับ

    • govisa  On October 18, 2012 at 9:19 pm

      น้อง Ton คะ ไม่เป็นไรค่ะ เพราะน้องยังไม่ได้เข้าไปนัดวันสัมภาษณ์เพื่อยื่นเอกสารค่ะ มีหลายคนที่เคยกรอก DS-160 แล้ว submit ไป ตอนหลังพบว่า กรอกผิดมากรอกใหม่อีก ต้องยื่นในวันสัมภาษณ์ทั้ง DS-160 เก่าและใหม่ในวันสัมภาษณ์ ดังนั้นในกรณีของน้องอย่ากังวลเลยค่ะ ขอให้เดินทางไปถึงอเมริกาโดยปลอดภัยค่ะ

  • fufighter  On October 26, 2012 at 7:02 pm

    คุณ govisa ครับ ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณดังๆเลยครับ ตอนเเรกกลุ้มใจมากเเต่พอเปิดมาเจอเวปนี้หาทางออกไปได้เยอะเลยครับ

    1. ผม summit DS-160 ไปแล้วบอกว่าจะไป LA นัดวันเเล้วคืออีก 3 วันข้างหน้า ปรากฏว่าเพิ่งมารุ้ตัวว่ากรอกข้อมูลเพี้ยนไปเยอะมาก เช่น point of contact คือผมไม่มีคนรู้จัก เห็นเค้าบอกว่าให้ใส่เป็นชื่อ store/organzation/company เเทนได้ ผมก้โง่ไปใส่ร้านอาหารเเทน กะจะบอกเค้าว่าก็จะเเวะไปร้านนี้ระหว่างทริปไง ปรากฏเพื่อนเเย้งมาว่าทำไมไม่ใส่ชื่อโรงเเรมตัวเองเเทน แล้วโรงเเรมที่อยู่ก็อยู่ห่างจากร้านอาหารนี้มากๆเลย ผมเลยอยากเเก้ครับ เพราะจริงๆเมืองที่จะไปคือ las vagas เเต่เข้าใจผิดว่าเป็น LA ตอนจองตั๋วเครื่อง เลยเออออไปก่อนเพราะไม่อยากเปลี่ยนรายละเอียดใหม่ ตอนนี้ผมว่าเเก้ทุกอย่างไปเลยดีกว่า ก็คือเข้าไปกรอก DS-160 ใบใหม่เเล้วเอาไปพร้อมใบเก่าวันสัมภาษณ์ได้เลยใช่มั้ยครับ?

    2. ผมกลุ้มเรื่องที่ทำงานอยู่ครับ พอดีเพิ่งเริ่มงานใหม่เมื่อวันที่ 22 คุลานี้เอง 30 ตุลานี้จะไปสัมภาษณ์เเล้ว บิน 14 พย. กลัวเค้าบอกว่าเพิ่งเริ่มงานอ่ะครับ เค้าจะซีเรียสเรื่องนี้รึเปล่าครับ

    3. ไปอาทิตย์นึงครับ มีเงินในเเบงค์เเสนห้าเองครับ จะเป็นอะไรมั้ย เเต่ผมเคยไปที่อื่นมาหลายที่แล้ว ในยุโรป 4 ประเทศ แล้วก็ออส หวังว่าจะช่วยได้บ้าง หรือผมควรไปซื้อ traveller cheque มาเพิ่มมั้ยครับ?

    คำถามผมคิดว่าน่าเบื่อครับ แต่ผมก็อยากมาระบายให้ใครได้รู้บ้าง อย่างน้อยก็ได้คนเชี่ยวๆอย่างพี่มาเเนะนำให้ใจผมจะได้ชื้นขึ้นครับ ><

    • fufighter  On October 26, 2012 at 7:31 pm

      ลืมถามอีกเรื่องครับผม คือพอดีเห็นมีการบอกกันเยอะให้เอาพาสปอร์ตเก่าไปด้วย

      อันใหม่ที่ผมใช้อยู่นี้ออกตั้งเเต่ปี 2008 แล้วครับหมดอายุ 2013 ส่วนอันเก่าคุณเเม่ผมโยนลงถังขยะไปเมื่อ4 ปีก่อนหน้าเเล้วอ่ะครับ จะเป็นอะไรมากมั้ยครับ? เราต้องไปเเจ้งความไว้มั้ยก่อนไปสัมภาษณ์สัปดาห์หน้านี้

      • govisa  On October 26, 2012 at 8:48 pm

        ถ้าน้อง Fulfighter ไม่มีหนังสือเดินทางเก่าก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปแจ้งความค่ะ เพียงแต่น้องได้เสียโอกาสที่ดีไปเท่านั้นเองว่า น่าจะมีหลักฐานให้กงสุลดูว่า น้องเคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างจากหนังสือเดินทางเก่าที่อาจจะมีหน้าที่เคยขอวีซ่า หรือหน้าที่เคยมีการประทับตราจากกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศนั้นๆเท่านั้นเองค่ะ

    • govisa  On October 26, 2012 at 8:46 pm

      น้อง Fulfighter คะ ขอตอบคำถามดังนี้คือ

      1. การกรอกฟอร์ม DS-160 สำหรับไปขอวีซ่าท่องเที่ยวหรือ B-2 หากมีคนรู้จัก เช่น เป็นเพื่อนให้ใส่ชื่อเพื่อน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนเพื่อใช้ในการอ้างอิงได้ไม่ต้องกังวลว่ากงสุลท่านจะเข้าใจผิดว่า น้องอยากเข้าไปอยู่เลยนานๆค่ะ ส่วนที่พักเราอาจจะไปพักที่โรงแรมเพื่อต้องการความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ แต่ถ้ากรณีที่น้องไม่มีคนรู้จักก็คงต้องใสชื่อโรงแรม ไม่ใช่ใส่ชื่อร้านอาหารที่อยากไปรับประทานค่ะ บางท่านที่ไปกับบริษัททัวร์ๆจะมีแผ่นพับหรือใบรายการทัวร์ ผุ้ยื่นขอวีซ่าบางท่านก็จะแนบใบรายการทัวร์ไปให้ท่านกงสุลดูก็มีเพราะเตรียมแจ้งกงสุลว่า ถ้าวีซ่าผ่านแล้ว จะซื้อทัวร์ของบริษัทนี้ เป็นต้นนะคะ บางบริษัททัวร์จะมีแจ้งรายการเที่ยวแต่ละวันและชื่อที่พักเป็นชื่อโรงแรมในแต่ละจุดก็มีค่ะ และบางท่านที่ยื่นขอวีซ่าก็อาจจะใส่ชื่อบริษัททัวร์เป็น Point of Contact ได้ค่ะ

      ดังนั้นตามที่น้องเข้าใจ เพื่อความถูกต้องน้องกรอก DS-160 ใหม่ ก่อนกรอกคิดให้รอบคอบก่อนนะคะว่าจะใส่อะไร จะได้ไม่ต้องแก้ไขบ่อยๆค่ะ และนำ DS-160 Confirmation Number ทั้งใหม่และเก่าไปยื่นให้กงสุลดูค่ะ

      2. ใช้คำว่า “เพิ่งเริ่มที่ทำงานใหม่” แสดงว่าต้องเคยมีที่ทำงานเก่ามาก่อน ให้น้อง Fulfighter ขอจดหมายรับรองการทำงานจากที่ทำงานเก่าติดมือไปด้วยก็ได้ค่ะ ถ้ากงสุลมีคำถามพาดพิงทำนองว่า ทำไมถึงลาออกจากที่ทำงานเก่า น้องสามารถตอบไปได้เลยว่า ที่ทำงานใหม่ให้เงินเดือนมากกว่าได้ค่ะ อยู่ที่ปฏิภาณไหวพริบของผุ้ตอบคำถามค่ะ

      3. ถ้าถามว่ามีเงินแสนห้าพอไหม พูดกันตรงๆเลยว่าน้อยไปหน่อยค่ะ เฉพาะค่าตั่วเครื่องบินไปถึง Las Vegas ก็จะประมาณ 4-50,000บาทเศษอยู่แล้ว ค่าโรงแรมอีกคืนละ 80-100$ ประมาณ 5-6 คืนก็อีกประมาณ 19,000 บาท เท่ากับจะต้องใช้เงินในบัญชีซื้อตั๋วเครื่องบินกับค่าที่พักประมาณ 70,000 บาท เหลือเงินฝากอีกประมาณแปดหมื่นบาทในบัญชีเป็นค่าเที่ยว ค่ากิน ค่าซื้อของที่ระลึก ก็เอาเรื่องอยู่นะคะ ถ้ามีเงินของคุณพ่อหรือคุณแม่ใครคนใดคนหนึ่งจะช่วยเป็น sponsor เพิ่มด้วยอีกคนก็ดีเหมือนกันค่ะ ขอเพียงจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารและบุ๊คบัญชีของท่านติดมือไปด้วย หากท่านเป็นเจ้าของธุรกิจยิ่งดี ให้นำใบทะเบียนการค้าของท่านไปด้วยค่ะ ไม่ต้องไปซื้อเช็คเดินทางเพิ่ม เพราะกงสุลท่านไม่ดูหลักฐานเช็คเดินทางค่ะ

      พี่ขอให้กำลังใจให้ขอวีซ่าผ่านแล้วกันนะคะ ได้ผลอย่างไรเขียนมาบอกกันบ้างนะคะ

      • fufighter  On October 26, 2012 at 9:24 pm

        ขอบพระคุณมากเลยครับที่ช่วยตอบอย่างละเอียดยิบ
        2. จริงๆก็พยายามอยู่ครับ ปรากฏว่าคนที่บริษัทเก่า (มีเเค่ 2 คนทั้งบริษัท) ตอนนี้อยุ่ต่างประเทศกันหมด ที่มีอยู่ในมือตอนนี้เป็นเเค่จดหมายเเนะนำเราว่าทำงานดีอย่างงั้นอย่างงี้ เเต่เค้าดันไม่เขียนระบุวันที่ทำงานให้ในใบ เลยกลุ้มใจอยู่ว่าจะใช้ใยนี้เเทนได้รึเปล่า

        3. เค้าดูบัตรเครดิตมั้ยครับ? มีอยู่สามใบ ไม่มียอดหนี้สักใบ ลองปริ๊นเอายอดที่ใช้ได้จากบัตรก่อนหน้าวันสัมภาษณ์สักวันไปด้วยดีมั้ยครับ?

        ขอบคุณมากๆครับ ที่สละเวลาเเละช่วยทุกๆอย่าง ทั้งผมเเละของคนอื่นด้วยครับ

      • govisa  On October 26, 2012 at 9:52 pm

        น้อง Fulfighter คะ อีเมล์ไปบอกคนสองคนที่อยู่ในต่างประเทศให้ช่วยเพิ่มข้อความในจดหมายแล้วส่งกลับมาให้น้องให้ทันนำไปสอบวันที่ 14 พย.ดีไหมคะ ถ้าไม่ทันก็จำเป้นต้องใช้เท่าที่ออกมาแล้วค่ะ มีหลักฐานพวก slip เงินเดือนไหมคะ หรือทางบริษัทเก่าเอาเงินเข้าบัญชีให้เท่ากันทุกเดือน ให้นำบุ๊คบัญชีเงินเดือนไปแสดงได้ค่ะ

        ส่วนบัตรเครดิตกงสุลไม่ดูค่ะ ไม่ต้อง print ยอดการใช้บัตรไปค่ะ กงสุลดูเฉพาะเงินฝากในบัญชีธนาคาร หรือพวกใบหุ้นดูได้ค่ะ

      • fufighter  On October 26, 2012 at 10:39 pm

        ขอบคุณมากครับ จะพยายามหาหลักฐานไปให้ได้เยอะที่สุดครับ ผลเป็นไงจะมาเล่าให้ฟังนะครับ สัมภาษณ์อังคารนี้เเล้วครับ ไม่ใช่เดือนพ.ย

      • govisa  On October 26, 2012 at 10:56 pm

        ขอโทษค่ะน้อง Fulfighter พี่รีบอ่านไปนิดหนึ่ง น้องเดินทาง 14 พย สัมภาษณ์ 30 ตุลา ขอให้โชคดีค่ะ

  • Chanisa  On October 28, 2012 at 3:58 pm

    สวัสดีค่ะ พี่govisa น้องมีเรื่องรบกวนถามพี่อีกครั้งค่ะ ไม่แน่ใจว่าพี่พอทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ คือ น้องแต่งงานแล้วกับแฟนซึ่งเป็นคนอเมริกัน และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ซึ่งในสูติบัตรไทยลูกชายมีชื่อไทยอย่างเดียว แต่พอแฟนไปแจ้งเกิดกับสถานฑูตอเมริกาแฟนใส่ชื่อ กลาง เข้าไปในแบบฟอร์มด้วยและตอนนั้นก็ไม่เห็นทางสถานฑูตทักท้วงใดๆ “ไม่แน่ใจอาจจะไม่ได้ดูรายละเอียดว่าชื่อไทยไม่มีชื่อกลาง หรือทางสถานฑูตอเมริกาอนุญาติให้ใส่ชื่อกลางเข้าไปได้โดยชื่อในสูติบัตรไทยจะมีชื่อกลางหรือไม่มีก็ได้” และตอนนี้ลูกชายก็มีสูติบัตรอเมริกาและพาสปอร์ตอเมริกาโดยมีชื่อกลางด้วย แต่ในสูติบัตรไทยไม่มีชื่อกลางและน้องคิดว่าจะพาลูกชายไปทำพาสปอร์ตไทยไม่ทราบว่าน้องควรจะไปเพิ่มชื่อกลางลูกชายก่อนไปทำพาสปอร์ให้เหมือนกับพาสปอร์ตอเมริกา หรือว่าไม่ต้องก็ได้โดยเวลาเดินทางยื่นพาสปอร์ตทั้งสองประเทศให้ ตม.ดู เพราะเคยอ่านบางเคสแต่เป็นของประเทศญี่ปุ่นบอกว่าชื่อไทยมีชื่อกลาง แต่ชื่อญี่ปุ่นไม่มีชื่อกลาง และเวลาเดินทางเขายืนพาสปอร์ตทั้งสองประเทศเลย ขอขอบคุณพี่govisa มากค่ะ

    • govisa  On October 28, 2012 at 8:21 pm

      น้อง Chanisa คะ ลองเข้าไปอ่านที่เว็บไซต์ศูนย์ทนายความทั่วไทยนะคะ http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538974233&Ntype=19 เกี่ยวกับพรบ.ชื่อบุคคล พ.ศ.2505 ในมาตรา 5 ผู้มีสัญชาติไทยต้องมีชื่อตัวและชื่อสกุล และจะมีชื่อรองก็ได้

      อนึ่ง พี่ขอแนะนำให้น้องติดต่อกับที่ว่าการเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่ไปทำเรื่องแจ้งเกิดว่า จะเป็นไปได้ไหมถ้าจะขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขชื่อเด็กในสูจิบัตรโดยการเพิ่มชื่อกลางเข้าไปด้วย เพราะตามพรบ.ชื่อบุคคลพ.ศ.2505 ไม่ได้ขัดขวางการมีชื่อรองค่ะ ในการทำหนังสือเดินทางของเด็กต้องใช้สูจิบัตรประกอบด้วย เพื่อน้องจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปยังสถานที่ทำหนังสือเดินทางหลายรอบ กรุณาสอบถามจากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบโดยตรงและเตรียมเอกสารไปให้ครบค่ะ ข้อความเกี่ยวกับการทำหนังสือเดินทางของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีที่พี่คัดลอกมาจากเว็บไซต์ของกรมกงสุล http://www.consular.go.th/main/th/home คลิกเลือกหัวข้อ “บริการ”

      “ระเบียบการขอหนังสือเดินทางของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี

      ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องนำสูติบัตรฉบับจริง หากเป็นสำเนาต้องได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจาก อำเภอ/เขตมาแสดงพร้อมผู้มีอำนาจปกครอง หากผู้มีอำนาจปกครองไม่สามารถมาดำเนินการได้ สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทนได้โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศพร้อมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดาและ/หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริงมาแสดง ทั้งนี้หนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศต้องผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต

      เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี

      – สูติบัตรฉบับจริง หากเป็นสำเนาสูติบัตรต้องได้รับการรับรองจากอำเภอ/เขต
      – บิดาและมารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองนำบัตรประชาชนฉบับจริงมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่
      บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือ บัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ของบิดา มารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริง หากชื่อนามสกุลบิดา มารดาในสูติบัตรไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุลที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย ในกรณีที่มารดาหย่า และจดทะเบียนสมรสใหม่ และใช้นามสกุลใหม่ตามสามีให้นำหลักฐานการหย่าและการสมรสที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย
      – หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศและบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของบิดามารดาที่ไม่มา ในกรณีที่บิดา/มารดาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมาแสดงตัวได้
      **หนังสือยินยอมของบิดา/มารดา ต้องผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต
      (ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องมีบิดาหรือมารดา คนใดคนหนึ่งมาแสดงตัวให้ความยินยอม)
      – เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรอง บุตรหรือรับบุตรบุญธรรม บันทึกการหย่า ซึ่งมีข้อความระบุให้บุตรอยู่ในความดูแลของบิดา หรือมารดา เป็นต้น
      – กรณีบิดา มารดาผู้เยาว์เสียชีวิต / บิดาหรือมารดาผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติมิได้จดทะเบียนสมรสและ ไม่สามารถตามหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอมได้ /บิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสแต่บุตรอยู่ในความดูแลของบิดาฝ่ายเดียวมาตลอด และไม่สามารถตามหามารดาได้ ให้นำคำสั่งศาลซึ่งระบุชื่อผู้มีอำนาจปกครอง พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจปกครองมาแสดง
      ค่าธรรมเนียม
      – การทำหนังสือเดินทางใหม่เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท ”

      หมายเลขโทรศัพท์ของกองหนังสือเดินทางคือ 0-2981-7257 ถึง 60 โทรสาร 0-2981-7256 E-mail : consular05@mfa.go.th ได้คำตอบว่าอย่างไร กรุณาเขียนมาแชร์ประสบการณ์ด้วยนะคะ

  • noname  On October 29, 2012 at 11:14 am

    คุณ govisa ครับ พอดีผมกรอก DS-160 ส่งเเละนักสัมภาษณ์แล้ว ต่อมาเปลี่ยนเมือง เลยกรอก DS ใหม่ แล้วส่ง กะว่าจะเอาใบใหม่ไปพร้อมกับใบเก่า ตอนนี้มาเห็นว่าตัวเองใส่วันที่จ้างงานของบริษัทเก่าผิด ไม่ตรงกับจดหมายที่บริษัทเค้าออกให้เลยอยากจะเขียน DS ใหม่อีกครั้ง ถ้าผมทำครั้งที่ 3 เเล้วเอาครั้งที่ 3 นี้ไปยื่นหร้อมครั้งเเรกที่ confirmed ไปแล้วจะเป็นอะไรมั้ยครับ? คือ ignor อันที่ 2 ไปเลย อย่างนี้ทางสถานทูตเค้าจะว่าอะไรมั้ยครับว่าทำไมกรอกเเล้ว summit เยอะจัง สัมภาษณ์พรุ่งนี้เเล้ว ขอบคุณครับ

    • govisa  On October 29, 2012 at 8:58 pm

      น้อง Noname คะ เอาใบที่3 กับใบแรกไปค่ะ ถ้ามีการสอบถามก็ชี้แจงไปว่ากรอกอะไรไปผิดบ้างเหมือนที่น้องเขียนมาบอกพี่ค่ะ พี่มั่นใจว่า ถ้าน้องมีเหตุผล กงสุลท่านรับฟังเหตุผลของทุกคนค่ะ

  • toey..ka  On October 29, 2012 at 10:23 pm

    รบกวนสอบถามค่ะ นัดวันสัมภาษณ์แล้ว และมีmail confrimกลับมาเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่รายละเอียดที่แจ้งในmail แสดงเลขที่ DS160 ผิด, ชื่อสกุล สะกดผิด (1 PIN ขอทั้งหมด 4คนค่ะ พี่น้องกันหมด)ไม่ทราบว่าต้องแก้ไขยังไงหรือป่าวค่ะ (นัดวันสัมภาษณ์โดยซื้อPINทางโทรศัพท์ ด้วยบัตรเครดิต และนัดวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ค่ะ)

    • govisa  On October 29, 2012 at 10:31 pm

      น้อง toey..ka กรุณาเขียนอีเมล์ไปอธิบายกับ visasbkk@state.gov พร้อมทั้งสแกนหน้า DS-160 Confirmation Number ของทั้ง 4 คนพี่น้องแนบไปกับอีเมล์ด้วยก็ดีค่ะ และให้น้องรอฟังผลจากอีเมล์ตอบกลับของสถานทูตสหรัฐฯนะคะว่า ควรปฏิบัติอย่างไรต่อไปค่ะ เพื่อทางสถานทูตสหรัฐฯจะได้มีข้อมุลที่ตรงกันกับช่้อมูลที่เราได้รับการยืนยันจากหน้า DS-160 Confirmation ที่ถูกต้องในมือของเราแล้วด้วยค่ะ

  • noname  On October 30, 2012 at 8:52 pm

    ผ่านไปแล้วกับการณ์สัมภาษณ์วันนี้ เอามาเล่าให้ฟังกันนะครับ

    – เริ่มเลยก็คือปัญหาที่เขียนถามคุณ govisa ไป คือผมกรอก DS เสร็จแล้วส่งหร้อมนัดสัมภาษณ์เสร็จสับ ปรากฏตอนหลังจะเปลี่ยนเมืองที่ไป ก็เลยกรอกใหม่ summit ใหม่ เเล้วมาพบอีกว่าใส่วันทำงานผิดไป เลยตัดสินใจกรอกใหม่อีกเป็นครั้งที่ 3 และ summit เหมือนเดิม กังวลอยู่ว่าเค้าจะว่ารึเปล่าว่า summit มาทำไมตั้งสามครั้ง

    อีกเรื่องที่กังวลก็คืองานที่ทำอยู่เพิ่งเริ่มได้ 1 อาทิตย์ งานเก่าก็ทำไม่นาน เริ่มต้นปีออกสิงหาไม่ถึง 8 เดือนด้วยซ้ำ เเถมงานที่ทำไม่ใช่งานประจำเเต่เป็นงานกิน commission ดุเเล้วเครดิตไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่

    – นัด 8.30 ไปถึง 7.30 คนวันนี้ไม่เยอะครับ ตอนต่อเเถวก็จะมีน้องผู้หญิงเสื้อชมพูมาช่วยจัดเอกสารให้ พอเค้าดูใบ DS ผมซึ่งเป็นใบเเรกที่ผม summit เเต่ใช้ดินสอกากบาทเอาไว้ให้เห็นชัดๆ ว่าไม่เอา เค้าก็เปิดดูอันอื่น ถามผมว่า summit สองครั้งหรือคะ ผมก็บอกว่าครับ เปลี่ยนเมืองที่จะไป น้องเค้าก็ไม่ว่าอะไรครับ แล้วก็ให้ป้ายเทาๆมา เรื่อง DS ก็จบตรงนั้นเลยยังไม่ได้เข้าไปในกงศุลด้วยซ้ำ ขั้นตอนต่อๆไปก็ไม่ได้มีใครถามเรื่องนี้อีกสักคน

    ต่อไปแปปนึงพอใกล้ 8.30 ก็ได้เข้าไปเเระ ฝากมือถือ+กุญเเจเสร็จ ก็เดินเข้าไปข้างในต่อคิวให้เค้าเรียงเอกสารให้+ให้แฟ้มใสมา ซึ่งผมก็เตรียมไปถูกเพราะตอนเรียงเค้าเอาเเค่ ใบ DS +ใบจ้างงาน+พาสปอร์ตตัวจริง +ใบนัดสัมภาษณ์เท่านั้น ที่เหลือได้ยินน้องเค้าบอกคนอื่นที่พยามยัดเยียดให้เค้าว่าไม่ต้องค่ะ ไว้ใ present ตอนสัมภาษณ์เเทน

    เสร็จปุ๊ป กรอกใบฟ้าๆใบใหม่ที่เค้ายื่นให้ เเล้วกลับมาที่เดิมตรวจความถูกต้องอีกครั้ง แล้วก็เดินเลยไปที่ช่องรอคิวด้านบน มีอยุ่ 3 ช่อง วันนี้เปิดเเค่สองครับ ด้านขวาผู้หญิงที่นั่งอยู่ดุเหมือนกัน ตอนเดินขึ้นไปก็ได้ยิน

    “เช็ดมือด้วยค่ะ มือเปียกเยอะมากเลย (คือต้องเช็ดครับไม่งั้นสเเกนนิ้วไม่ติด)”
    “เดี๋ยวๆ ค่ะน้อง จะรีบไปไหน”
    “อันนี้ของคุณค่ะ (เอกสาร) ไม่ใช่ของดิฉัน”

    ซึ่งพี่เค้าก็ไม่ได้ดุอะไรมาก เพียงเเต่ทำเสียงเบื่อๆครับ คาดว่าคุณผู้ชายคงเอาเอกสารตัวเองยัดเข้าไปเพิ่ม เช่นพวก bank statement ไรงี้ อาจจะไม่เชื่อใจน้องผู้หญิงที่จัดเอกสารให้ข้างล่างมั้งครับ ไม่ง้นก็คงเข้าใจผิดว่าตรงนี้คือที่สัมภาษณ์

    – ทุกคนที่ยืนข้างหน้าผมก็หันมามองหน้ากันเลิกลั่ก ความคิดหนึ่งที่เหมือนกันตอนนี้คือ ขอให้ได้คิวของพี่ที่ยืนด้านซ้ายเถิด ไรงี้ เเต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นพี่ทางขวาเค้าดุใครอีกนะครับ

    พอตาผมปุ๊ป ก็ยื่นเอกสาร เเล้วก็เรื่มคำถาม

    +ไปกี่คนคะ
    – คนเดียวครับ

    +ไปไหนคะ
    – Las vegas ครับ

    +ไปกี่วันคะ
    – 6 วันครับ 14 ถึง 20 พย.

    +เคยขอวีซ่าอเมริกามาก่อนมั้ยคะ
    – ครั้งเเรกครับ

    +หนังสือยืนยันจากธนาคารด้วยค่ะ
    – ยื่นให้ หนังสือรับรอง + statement

    + วางนิ้วเลยค่ะ
    – ผมก็วางเเล้วก็สแกนนิ้ว เวลาเราวางนิ้วต้องออกเเรงกดนิดนึงครับ เหลือช่องว่าเเต่ละนิ้วนิดนึง ให้พอกดไปแล้วนิ้วมันเเบนเเล้วสนิทกัน บางคนเกร็งไปรวบนิ้วซะตึงชิด วางไปพื้นที่ต่อนิ้วไม่มากพอก็สเเกนไม่ติดครับ

    – หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปข้างในนั่งรอ ก้นหย่อนลงเก้าอี้ปั๊บโดนเรียกเบอร์ทันที เค้าจะเรียกทีละ 10 ครับ ผมก็ไปต่อ ช่องที่ผมต่ออยู่คนสัมภาษณ์เป็น African-american ครับ ปรากฏว่าช่องอื่นๆคนลดไปเยอะมาก ช่องผมไม่ขยับเลย เพราะป้าเเกไม่ยอม พยามจะบอกว่าคนนั้นคนนี้เป็นหลาน คนนี้เป็นอาไรงี้ ท่านกงศุลเค้าก็อดทนนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าดีรึไม่ดี ดีคือคนนี้คงมีความอดทนสูง อย่างน้อยคงไม่ได้ฟังโดยไม่มีเหตุผล ไม่ดีคือกลัวว่าป้าเเกจะไปทำเค้าอารมณ์เสีย คนที่เหลืออาจจะพลอยซวยไปหมดถ้าเเกตัดสินใจว่าวันนี้ฉันอดทนมามากพอแล้ว > ได้เครดิตมานิดนึงเเละ เพราะเราจำ details ได้เเปลว่าอาจจะไปจริงๆ แล้วก็ตอบอย่างฉะฉาน ไม่ได้หยุดคิดเลยด้วย

    + where r u goiing?
    -(ผม) Las Vegas

    +What do you do
    – Investment advisor

    ถึงตรงนี้เเล้วเค้าก็เห็นว่าผมเพิ่งเริ่มงาน

    + you’re just sta….
    – ไม่รอให้จบประโยคพูกแทรกเลย (ยิ้ม) yeah, I was just starting last week. But i got a letter from my previous company as well. Would u like to see?
    +เหมือนเซอไพรส์นิดนึง yeah, sure

    คือพยามจะยัดเยียดเอกสารให้เค้า กลัวว่าเค้าเห็นว่างานยังไม่มั่นคงพออ่ะครับ

    +And what do you do before?
    – the same job with this one(ชี้ไปที่จดหมายปัจจุบัน) , Investment Advisor
    + What exactly you have to do, is it like you point out which stock should buy or something like that.
    – Not exactly. I teach a student how to analyst the market , by using technical approach. Kinda like half lecturer ,half consultant.
    + ah i see.

    +You’ve never been to US before?
    – nope
    ตอนนี้เหมือนมองเเล้วไม่ค่อยเชื่อ เพราะสำเนียงไม่ค่อยเหมือนคนไทยพูดอังกฤษ ซึ่งจริงๆภาษาผมก็ไม่ได้เก่ง เเต่ฝึกจากการดุหนังเสลได้สำเนียง ส่วนเเกรมม่ามันตามมาบ้าง เเต่เรื่องตัวสะกดนี่ไม่ได้เลย วันดีคืนดีสะกดคำง่ายๆบางคำยังคิดไม่ออกเลยครับ
    +You dont have any relative in US?
    -nope
    + Not all all?
    – not a single one (ยิ้ม)

    กลับมาดูใบงานผมต่อ

    +You kind of change the job a lot
    – Yeah, Im not yet found the job that i really like till now. I always works in hotel business but change the field just the starting of this year. But i quite my previous job because the new one give me more salary.
    + more what?
    – commission
    + oh, ok.

    ณตอนนี้ดูออกว่า 80% คงให้ผ่านเเล้ว เเต่อาจจะติดใจเรื่องงานที่เพิ่งเริ่มอยู่บ้าง เค้าเลยหยิบพาสปอร์ตขึ้นมาเริ่มจะพลักดุ

    + Where else have you been to?
    – Hmmm, Europe. Milan, Paris, Amsterdam , Berlin., Indonesia..กำลังจะไล่ต่อ เเต่เจ้าหน้าที่พอฟังจบคำนี้ก็ปิดพาสปอร์ตเลย เหมือนไม่ต้องเช็คแล้ว เเล้วท่าทางบอกเลยว่าให้ 100% เพราะงั้นผมว่าถ้าเคยไปเที่ยวมาเเล้วบ้างจะถือว่ามีเครดิตเลยครับ

    หยิบตรายางอะไรมาไม่รู้ มาปั๊มๆ ผมก็รู้แล้วว่าน่าจะได้เเน่ๆ

    +when are u going there again? December? ยังไม่วายจะทดสอบอีก
    – the middle of November

    + What are you going to do there, party all night? (ยิ้มกว้างมากคราวนี้)
    – not sure, i might do a bit of sight seeing and maybe doing some show in the evening, I think 6 days is enough. พูดเหมือนไม่เเคร์เลยว่าจะได้วีซ่ามั้ย ประมาณว่ามั่นใจมากว่าไม่มีปัญหาเเน่ๆ

    เล้วเค้าก็คลิกๆ ปั๊มๆ เเล้วบอกว่าพาสปอร์ตจะส่งไปให้ภายใน 3-5 วัน

    เย้ๆ

    สิ่งสำคัญเหมือนกับต้องอย่าตื่นเต้น พยายามมองเค้าเวลาพูด ถ้าเหมือนมองออกว่าเค้าคิดว่าจุดอ่อนเราคืออะไรก็พยามหาทางเอาเอกสารให้เค้าดูเเต่ต้องไม่ใช่ว่ายัดเยียดให้

    หวังว่าคงช่วยหลายๆคนได้นะครับ

    • govisa  On October 30, 2012 at 10:16 pm

      ขอบคุณน้อง noname มากค่ะที่เขียนบรรยายมาได้ละเอียดน่าอ่านมากๆค่ะ สมแล้วกับเป็นผู้ถ่ายทอดสิ่งที่ยากๆ เช่น การสอนเรื่องการลงทุนให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่ายๆค่ะ เก่งมากค่ะ ขอให้ได้ประสบการณ์ชีวิตที่ดีตลอด 6 วันในเมือง Las Vegas นะคะ เดินทางถึงอเมริกาโดยราบรื่นไม่มีอะไรติดขัดนะคะ พบเห็นอะไรน่าสนใจเขียนมาแชร์ประสบการณ์ได้เลยค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

  • noname  On October 30, 2012 at 9:06 pm

    ลืมขอบคุณคุณ govisa ครับ ที่ช่วยเหลือทุกๆคนด้วยใจจริงๆ

    ขออำนาจเเห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ ได้โปรดช่วยดลบันดาลให้อานิสงค์ในการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังมีทุกข์อยู่นี้ของคุณgovisa ช่วยดลบันดาลให้คุณgovisa เกิดปัญญา สามารถหาทางออกเมื่อเกิดปัญหาต่างๆในชีวิตขึ้นมาได้ และขอให้ได้พบได้เจอเเต่กัลยานิมิตรที่มีศีล5 ประจำใจครับ สาธุ

    • govisa  On October 30, 2012 at 10:22 pm

      ขอบคุณมากๆอีกครั้งที่ให้พรยาวๆค่ะ วัตถุประสงค์ที่เขียน blog และตอบคำถามก็เพราะอยากช่วยเหลือคนในสังคมไทยให้ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ถูกใครหลอกง่ายๆ และมีความเข้าใจคนต่างชาติต่างวัฒนธรรม เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและมีความสุขนะคะ

      • govisa  On November 6, 2012 at 9:05 pm

        น้องปริญญานีคะ พี่ขอโทษที่พี่เพิ่งเห็นคำถามของน้องเลยตอบช้ามากค่ะ น้องสามารถ print วันที่จองนัดสัมภาษณ์ทีหลังได้นะคะ ไม่ต้อง print เลยทันทีหลังจากจองเสร็จแล้วค่ะ น้องสามารถทำได้สองทางเลือก คือ

        1. เข้าไป login ในเว็บไซต์จองวันนัดสัมภาษณ์และ Print วันที่นัดออกมา หรือ
        2. Print วันนัดสัมภาษณ์จาก auto email ที่สถานทูตส่งมาก็ได้ค่ะ

  • Nongluck  On November 20, 2012 at 5:25 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ GoVisa

    ดิฉันอยากรบกวนถามคุณ GoVisaว่า ถ้ากรอกข้อมูลใน DS160 ผิดหลายแห่ง ควรแก้ไขโดยการพิมพ์ DS 160 ใบใหม่ ดีไหม แล้วนำไปทั้ง 2 ใบตอนนัดสัมภาษณ์

    แต่มัีนมีปํญหาตรงที่ดิฉันได้พิมพ์หมายเลขยืนยัน DS 160 ใบเก่า
    ในใบนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์เลยนะคะ เพราะดิฉันต้องการนัดวันสัมภาษณ์ตอนต้นเดือน มกราคม 2556 ประมาณวันที่ 7 -8มกราคม 2556 ค่ะ ซี่งตอนนี้ ก็ยังไม่เปิดให้นัดสัมภาษณ์เลยค่ะ (ตอนนี้ ก็รออยู่ค่ะว่าเมื่ื่อไร จะเปิด )

    ปัญหาก็คือ ในบัตรนัด ดิฉันไม่สามารถแก้ไขหมายเลขยืนยัน DS160จากใบเก่าให้เป็นหมายเลขยืนยัน DS160 ใบใหม่ได้
    ดิฉันควรไปซื้อพินใหม่ ที่ไปรษณีย์ใหม่ดีไหมคะ เพื่อทำการนัดใหม่ กับDS 160 ใบใหม่
    คุณ GoVisa ว่ามีวิธีไหนดีกว่านี้ไหมคะ หรือว่า คุณGoVisa มีอะไรแนะนำไหมคะ

    • govisa  On November 20, 2012 at 7:22 pm

      น้อง Nongluck คะ ปกติถ้าในฟอร์ม DS-160 ตรงที่น้องแจ้งว่ามีข้อความกรอกผิดนั้น ไม่ใช่ความผิดที่ร้ายแรงมาก เช่น พิมพ์ตัวสะกดของเพื่อนที่จะไปอยู่ด้วยผิด ไม่ต้องแก้ก็ได้นะคะ เข้าไปชี้แจงเจ้าหน้าที่ในสถานทูตได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นความผิดปกติที่ร้ายแรง ได้แก่ สะกดชื่อนามสกุลของน้องผิด วันเดือนปีเกิดของน้องผิด ซึ่งจะถือว่าเป็นคนละคนไปเลย กรณีเช่นนี้ต้องแก้ไขด้วยการกรอกฟอร์มใหม่ค่ะ ถ้าน้องเป็นคนขยันและชอบทำทุกอย่างให้ถูกต้อง การกรอกฟอร์มใหม่จะทำให้น้องรู้สึกสบายใจเวลาไปยื่นเอกสารสัมภาษณ์ค่ะ ในวันสอบสัมภาษณ์ให้นำ DS-160 Confirmation Number ทั้งใบเก่าและใบใหม่ไปด้วยค่ะ

      เรื่องการแก้ไขหมายเลข DS-160 Confirmation Number ในแบบฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ในปัจจุบันทำไม่ได้แล้วค่ะ นั่นคือสาเหตุที่ต้องนำ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าและใหม่ไปให้กงสุลท่านดูในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ ส่วนวันนัดสัมภาษณ์ของปีหน้าจะยังไม่เห็นตอนนี้นะคะ ส่วนใหญ่เว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์จะเห็นวันที่ที่เปิดให้จองนัดได้ไม่เกิน 2 เดือนค่ะ น้องคงต้องเฝ้ารอน่าจะเห็นวันที่ที่ต้องการนัดในเดือนมกราคมประมาณไม่ปลายพฤศจิกายน ก็ต้นเดือนธันวาคมค่ะ

      น้อง Nongluck ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ก็ได้ค่ะ เสียดายเงินค่านัดวันสอบสัมภาษณ์จำนวน 384 บาทนะคะ มีคนที่ถือหมายเลข DS-160 Confirmation Number ไป 2 ใบหลายคนเหมือนกันค่ะ

      • Nongluck  On November 20, 2012 at 8:33 pm

        รียนคุณ GoVisa

        ขอบคุณ คุณ GoVisa มากๆๆ เลยค่ะ ที่ให้ข้อมูลดีๆ เป็นข้อคิด
        จะได้ไม่ต้องคิดมากอีกต่อไป
        ถ้าได้ไปขอวีซ่าแล้ว จะเขียนมาแชร์ประสบการณ์นะคะ 🙂

      • govisa  On November 21, 2012 at 5:23 am

        ขอบคุณมากค่ะน้อง Nongluck

  • Nongluck  On November 20, 2012 at 5:42 pm

    สวัสดีอีกครั้งค่ะ คุณ GoVisa

    คือว่า ดิฉันไม่อยากจะนำ DS 160 เข้าไปทั้ง 2 ใบ ใบเก่า และ ใบใหม่
    ดิฉันคิดว่าอยากจะนำ DS 160 ใบใหม่เข้าไปใบเดียว ตอนสัมภาษณ์
    เลยคิดอยากจะซื้อพินใหม่ และ ทำการนัดใหม่ โดยใช้ หมายเลขยืนยัน DS 160 ใบใหม่ค่ะ

    คุณ GoVisa คิดว่าอย่างไหน ดีกว่ากัน
    ระหว่าง นำเข้าไปทั้ง 2 ใบ หรือ นำใบใหม่ เข้าไปใบเดียว

    มีอีักคำถามที่สงสัยคือ ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตเขาจะเห็นข้อมูล DS 160 ใบเก่าที่เรากรอก และ submitted ไปแล้วไหมคะ ? หรือว่าเห็้นแต่ใบใหม่ใบเดียวค่ะ

    ขอบคุณมากๆ ค่ะ จะรอคำตอบนะคะ

    • govisa  On November 20, 2012 at 7:30 pm

      น้อง Nongluck คงต้องตัดสินใจเองแล้วค่ะว่า จะซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่เพื่อที่จะนำ DS-160 Confirmation Number เข้าไปเพียงใบเดียวดี หรือใช้วันนัดสัมภาษณ์เก่า และถือ DS-160 Confirmation Number ไป 2 ใบค่ะ เพราะอย่างที่พี่ตอบไปก่อนหน้าแล้วว่า มีคนถือไป 2 ใบหลายคนเหมือนกัน พี่ไม่สนับสนุนให้สิ้นเปลืองเงินมากโดยไม่จำเป็นค่ะ

      พี่คิดว่า ทางสถานทูตเค้าก็คงเห็นข้อมูลของน้องอันเดิมอยู่หรอกค่ะ แต่เค้าก็ให้เกียรติน้องนะคะว่า เค้าใช้อันที่น้อง Nongluck เลือกแล้วว่า เป็นอันที่ต้องการจะยื่นขอวีซ่าค่ะ น้องอย่ากังวลมากไปเลยค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายก่อนไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ เตรียมเอกสารให้พร้อม โดยเฉพาะตัวเงินในบัญชีธนาคารของน้องต้องดูมั่นคง และเป้าหมายในการเดินทางของน้องคืออะไร น้องต้องตอบได้ชัดเจน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ที่แก้ไขข้อมูลลำบากมาก โดยเฉพาะถ้าเงินในบัญชีมีน้อยค่ะ ถ้าได้วีซ่าแล้ว เขียนมาแชร์ประสบการณ์ด้วยนะคะ

  • Oui  On November 25, 2012 at 11:31 am

    ทำไมกรอกช่องที่อยู่บรรทัดที่หนึ่งไม่ผ่าน ค่ะ หนูก็ใส่ธรรมดา ไม่ทราบว่าต้องกรอกยังไงค่ะ

    • govisa  On November 25, 2012 at 8:01 pm

      น้อง Oui คะ น้องหมายถึงน้องกรอกข้อมูลเพื่อ Log in ที่หน้าเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์ หรือหมายถึงน้องกำลังจะเข้าไปเริ่มต้นกรอกฟอร์ม DS-160 คะ พี่ขอรายละเอียดเพิ่มจากน้อง จะได้อธิบายให้เข้าใจได้ค่ะ

  • Lalil  On November 26, 2012 at 7:21 pm

    ในการจองวันสัมภาษณ์วีซ่าที่สามารถใช้ PIN เดียวกันได้ ถ้าเราจองวันแล้ว แต่ต่อมาอยากเพ่ิมคุณแม่เข้าไปโดยใช้ PIN เดิม คุณแม่ต้องขอ Username ใหม่มั๊ยคะ? หรือว่าสามารถเข้า username เราแล้วไปเพ่ิมได้เลย
    คือไม่เข้าใจว่า I’m a sponsor user and have a Group Code:… และ I’m a group user and have an Access Code:… คืออะไรอะคะ

    • govisa  On November 27, 2012 at 10:48 am

      น้อง Lalil คะ น้องลองเข้าไป log in ที่ Username ของน้องและ และลอง add ชื่อคุณแม่ดูว่ายังทำได้อยู่ไหมนะคะ โดยมีเงื่อนไขว่า คุณแม่ต้องกรอก DS-160 เสร็จจนได้ DS-160 Confirmation Number แล้วนะคะ พี่ไม่แน่ใจว่า ถ้าน้องยืนยันการใช้พินเพื่อนัดวันสัมภาษณ์ไปแน่นอนแล้ว ดดยทั่วไปพินจะมีอายุการใช้งานคงเหลืออยู่อีก 10 วันโดยประมาณ ดังนั้นถ้าเข้าไปเพิ่มชื่อคุรแม่ไม่ได้แล้ว แปลว่าคุณแม่คงต้องซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ของคุณแม่เองค่ะ

      ส่วนข้อความที่ถามมานั้น ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ใช้ในกรณีที่เดินทางไปกับเอเจนซี่ที่จัดโครงการ Work and Travel โดยบริษัทเหล่านั้นจะส่งชื่อผู้ที่จะขอนัดวันสัมภาษณ์เป็นกลุ่มๆ เพราะมีปริมาณมาก โดยบริษัทเหล่านั้นจะได้ Group Code และ Access Code มาจากหน่วยงานที่จัดทำเรื่องนัดวันสัมภาษณ์ให้สถานทูตสหรัฐอเมริกาค่ะ

      • Lalil  On November 27, 2012 at 9:06 pm

        ขอบคุณคะ โชคดียังไม่เกิน 10 วัน คงต้องลองดู ^^

      • govisa  On November 27, 2012 at 9:08 pm

        เขียนมาส่งข่าวกันอีกนะคะ น้อง Lalil

  • Nongluck  On December 3, 2012 at 3:39 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ Govisa

    อยากรบกวนถามว่า นัดสัมภาษณ์วีิซ่า นักเรียน ของเดือน Jan. 2013
    ยังไม่เิปิดให้นัดเหรอคะ

    ดิฉัน อยากจะนัดสัมภาษณ์ วันที่ 7 or 8 Jan. 2013 นี้ จะทันไหมคะ ?
    จะไปสัมภาษณ์ กัน2 คน อีกคนอยู่ต่างประเทศ
    เขาจะกลับมาวันที่ 4 Jan. 2013 ก็เลยต้องรอไปพร้อมกันค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On December 4, 2012 at 12:59 am

      น้อง Nongluck คะ ต้องเฝ้าหน้าเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์นะคะ อาจจะประมาณอาทิตย์ที่สองเดือนธันวาคม ช่วงนี้ถ้าน้องพอมีเวลาว่างให้เปิดเว็บไซต์หน้านัดวันสัมภาษณ์ทุกวันเพื่อติดตามดูว่าวันที่น้องต้องการเปิดให้จองแล้วหรือยังค่ะ

  • Wa  On December 3, 2012 at 5:55 pm

    ถ้าต้องการเปลี่ยนสปอนเซอร์ ในDS-160 จองวันนัดสัมภาษเรียบร้อยแล้ว
    สามารถทำได้มั้ยคะ

    • govisa  On December 4, 2012 at 1:04 am

      น้อง Wa ค่ะ ถ้าต้องการจะเปลี่ยนก็กรอก DS-160 ใหม่ และนำ DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ไปด้วยกับหมายเลขเก่าที่นัดวันสัมภาษณ์แล้วค่ะ แน่นอนว่า กงสุลอาจจะถามว่าทำไมจึงเปลี่ยนผู้ที่จะเป็น sponsor และ sponsor ทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นอะไรกับน้องค่ะ รวมถึงแหล่งที่มาของรายได้ของ sponsor ค่ะ

  • Nongluck  On December 3, 2012 at 8:30 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ Govisa

    อยากรบกวนถามว่า นัดสัมภาษณ์วีิซ่า นักเรียน ของเดือน Jan. 2013
    ยังไม่เิปิดให้นัดเหรอคะ

    ดิฉัน อยากจะนัดสัมภาษณ์ วันที่ 7 or 8 Jan. 2013 นี้ จะทันไหมคะ ?
    จะไปสัมภาษณ์ กัน2 คน อีกคนอยู่ต่างประเทศ
    เขาจะกลับมาวันที่ 4 Jan. 2013 ก็เลยต้องรอไปพร้อมกันค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On December 4, 2012 at 1:33 am

      น้อง Nonguluck คะ ขอดทาที่ตอบช้า เลยทำให้ต้องเขียนมาถามซ้ำค่ะ คือ ต้องเฝ้ารอคอยหน้าวันนัดสัมภาษณ์อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ โดยทั่วไปกลางเดือนธันวาคม น่าจะเริ่มเห็นวันที่ของเดือนมกราคมเปิดให้จองแล้วนะคะ

  • Nongluck  On December 4, 2012 at 1:28 am

    ขอบคุณคุณ Govisa มากๆ เลยค่ะ 🙂

  • Nongluck  On December 4, 2012 at 1:30 am

    ขอบคุณคุณ Govisa มากๆ เลยค่ะ

  • Nutthapoom (@zmilejumba)  On December 5, 2012 at 12:19 am

    สวัสดีครับคุณ Govisa

    ผมได้ขอ visa ประเภท B1/B2 เพื่อไปเสนอผลงาน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ออกให้

    ในครั้งแรกผมตั้งใจว่าจะให้ทางบ้านออกไปก่อน แล้วค่อยทำเรื่องขอเบิกมหาวิทยาลัยทีหลัง แต่มีคนทักมาว่าจะมีปัญหาว่าผู้ที่ support เงินควรจะเป็นมหาวิทยาลัยมากกว่า และแนะนำให้ผมเปลี่ยน Person paying for your trip จาก parent เป็น University

    เนื่องจากผมได้กรอก DS-160 และนัดวันสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ผมจำเป็นต้องกรอก DS-160 ใหม่หรือไม่ครับ หรือว่าใช้ใบเดิมแล้วตอนสัมภาษณ์ก็ให้ยื่นหนังสือรับรองจากทางมหาวิทยาลัย พร้อมกับให้เหตุผลว่าทางบ้านอาจจะ support เงินล่วงหน้าให้ก่อน และกำลังอยู่ในขั้นตอนการขอเบิกจากทางมหาวิทยาลัยภายหลัง

    ขอบคุณมากครับ

    • govisa  On December 5, 2012 at 9:56 pm

      น้อง Natthapoom คะ ถ้าที่บ้านมีฐานะการเงินที่ดี และบัญชีที่นำไปแสดงมีจำนวนมาก และตัวน้อง Nattahapoom มีหลักฐานว่ากำลังศึกษาปริญญาเอก หรือ ปริญญาโทที่เมืองไทย พร้อมทั้งมีจดหมายหรือหลักฐานว่า เป็นกรณีบังคับตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยที่น้องกำลังเรียนอยู่ว่า ต้องไปนำเสนอผลงานที่ในต่างประเทศ น้องควรมีจดหมายหรืออีเมล์ติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่อนุญาตให้น้องไนำเสนอผลงาน พี่คิดว่า น้องไม่ต้องแก้ไขชื่อ sponsor และไม่ต้องกรอก DS-160 ใหม่ก็ได้ค่ะ เมื่อน้องนำเสนอผลงานเสร็จ และจะกลับมาขอเงินคืนจากทางมหาวิทยาลัย ก็จะเป็นเรื่องระหว่างน้องกับมหาวิทยาลัยไปเองค่ะ แต่ถ้าน้องได้รับจดหมายยืนยันจากทางมหาวิทยาลัยมาทันก่อนวันไปสัมภาษณ์ น้องก็สามารถบแจ้งทางสถานทูตได้เลยว่า ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย เพียงแต่จดหมายจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยออกมาล่าช้า ทำให้ต้องใช้ผู้ปกครองเป็น sponsor ค่ะ ไม่ต้องกรอก DS-160 ใหม่ก็ได้ค่ะ

  • Gerayut  On December 9, 2012 at 12:21 am

    ได้กรอกข้อมูลและคอนเฟิมวันนัดสัมภาษณ์ในวันที่ 13 ธันวานี้ แต่ต้องการแก้ไข DS-160 ฟอร์ม เพราะกรอกชื่อไม่ต้องกับ passport สะกดชื่อผิด ผิดตัวอักษรไปสองตัว จะแก้ไขได้ไหมคะ ลองเข้าไปดูที่ edit application แล้วเป็นตัวสีเทา

    • govisa  On December 9, 2012 at 1:16 pm

      น้อง Gerayut คะ แก้ไขในฟอร์มเดิมที่กรอกไปแล้วไม่ได้ค่ะ น้องต้องกรอก DS-160 ใหม่ เพราะความผิดเรื่องชื่อ-นามสกุลที่กรอกผิดถือว่า เป็นความผิดสำคัญที่ต้องแก้ไขเลยค่ะ ให้น้อง Print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ไปยื่นพร้อม DS-160 Confirmation Number หมายเลขเก่าที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์ด้วยค่ะ

  • Gerayut  On December 9, 2012 at 8:17 pm

    กรอก DS-160 ใหม่นั่นหมายความว่าเราต้องใช้ pin ใหม่ด้วยใช่ไหมคะ เพราะลองเข้าไปกรอกใหม่ด้วย pin เดิม ระบบจะขึ้นว่า pin ถูกใช้ไปแล้ว

    • govisa  On December 9, 2012 at 9:08 pm

      น้อง Gerayut คะ ที่พี่แนะนำให้น้องกรอก DS-160 ใหม่ พอกรอกเสร็จ print DS-160 Confirmation Number ใหม่ออกมา ส่วนพินที่น้องได้ใช้นัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วน้องไม่ต้องทำอะไรกับพินนั้นอีกค่ะ หมายความว่า น้องยังคงใช้พินอันเก่าและวันนัดสัมภาษณ์ก็ยังคงเป็นวันที่ 13 ธันวาคมอันเดิมของน้องค่ะ เพียงแต่วันที่ไปยื่นเอกสารคือในวันที่ 13 ธันวาคม ให้น้องนำ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าที่เคยใช้ทำการนัดวันสัมภาษณ์ กับหมายเลขใหม่ที่กรอกถูกต้องและที่พี่บอกให้น้อง print ออกมาให้นำไปด้วยเท่านั้นเองค่ะ

  • Gerayut  On December 9, 2012 at 10:26 pm

    ขอบคุณมากมากครับ เข้าไปกรอก DS-160 ใหม่แล้วครับ

    • govisa  On December 9, 2012 at 11:02 pm

      เตรียมเอกสารให้ครบนะคะน้อง Gerayut ขอให้สัมภาษณ์วีซ่าผ่านค่ะ

  • Aumaim  On December 13, 2012 at 7:09 pm

    พี่ Govisa ค่ะ ถ้าน้องพิมหมายเลขพาสปอร์ตใน DS160 ผิด จาก O2963xx เป็น 02963xx จะต้องทำการแก้ไขไหมคะ เจ้าหน้าที่จะเข้าใจไหมคะว่าตัวแรกของเลขพาสปอร์ตต้องเป็นตัวอักษรอยู่แล้ว ถ้าต้องแก้ไขจริงต้องพิมใบใหม่เลยใช่มั้ยคะ

    • govisa  On December 13, 2012 at 9:06 pm

      น้อง Aumaim คะ ถ้าน้องยังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์วีซ่า พิมพ์ Ds-160 ใหม่ไปเลยค่ะ แต่ถ้านัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วก็ต้องพิมพ์ DS-160 ใหม่เช่นเดียวกัน เพราะน้องจะเข้าไปแก้ไขของเดิมที่ผิดไม่ได้ค่ะ วันสัมภาษณ์ให้น้องถือหมายเลข DS-160 Confirmation ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่เข้าไปพร้อมๆกันค่ะ ความผิดเกี่ยวกับการพิมพ์ชื่อตัวสะกดที่แสดงอัตตลักษณ์เฉพาะของตนเองผิด ถือว่าเป็นความผิดที่ต้องแก้ไขให้ถูกต้องค่ะ ดังนั้นน้องต้องกรอก DS-160 อีกครั้งค่ะ

  • ju  On December 14, 2012 at 10:00 am

    สวัสดีค่ะคุณ Govisa

    ดิฉันเคยศึกษาประเทศสหรัฐอเมริกา (เมื่อ 5 ปีที่แล้ว) เคยได้รับ visa J1 กำลังจะสมัคร visa ประเภท B2 เพื่อไปท่องเที่ยวและเยี่ยมเพื่อนที่กำลังศึกษาระดับปริญญาโท โดยต้องการจะพาคุณแม่ อายุประมาณ 70 ปี ไปเที่ยวพร้อมกันในครั้งนี้ด้วย

    แต่เนื่องจากในการสมัคร J1 ในครั้งนั้น มีหน่วยงานราชการออกเอกสารรับรองให้ จึงไม่มีความยุ่งยากอะไรในการจัดเตรียมข้อมูลให้ พอต้องจัดเตรียมเอกสารสำหรับการท่องเที่ยวด้วยตนเอง จึงเกิดความกังวล และขอรบกวนถามคุณ Govisa ดังนี้นะคะ
    1. ดิฉันเคยได้ยินเพื่อนท่านอื่น พูดต่อๆ กันมาว่า…ผู้ที่เคยได้รับ visa ประเภท J1 อาจมีข้อยุ่งยากในการสมัคร visa หรืออาจถูกปฏิเสธ visa (ไม่ทราบเหตุผล) ..คุณเคยได้ยินเรื่องในทำนองเดียวกันนี้หรือไม่คะ
    2. ในการกรอกแบบฟอร์ม DS 160 (แบบฟอร์มใหม่) นั้น ทางดิฉันและคุณแม่ต้องกรอกแบบฟอร์มแยกกันคนละฉบับหรือไม่คะ
    3. เนื่องจาก ดิฉันและคุณแม่ มีที่อยู่เดียวกัน แต่ชื่อตามทะเบียนบ้านอยู่คนละแห่งกัน..โดยดิฉันและคุณแม่ใช้นามสกุลเดียวกัน ..อยากทราบว่า..ดิฉันจะสามารถซื้อพินเดียวกันกับคุณแม่ ในฐานะเป็นครอบครัวเดียวกัน ได้หรือไม่คะ
    4. หากดิฉันตั้งใจจะเดินทางไปเพื่อร่วมงานรับปริญญาของเพื่อนในเดินพฤษภาคม 2556 ดิฉันควรทำ visa ในช่วงใด …และดิฉันสามารถสมัคร visa ภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า (มกราคม 2556) ได้หรือไม่คะ (เนื่องจากดิฉันกรอกแบบฟอร์มเอกสารและอัพโหลดรูปไว้เรียบร้อยหมดแล้ว)
    5. ในกรณีที่ดิฉันเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวเองทั้งหมด (ตนเองมีเงินเก็บประมาณ 9xx,xxx บาท) โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของคุณแม่ด้วย ดิฉันจะต้องใช้หนังสือรับรองเอกสารทางการเงินของคุณแม่ด้วยหรือไม่คะ หากดิฉันใช้เอกสารรับรองทางการเงินของตัวเองเพียงคนเดียว เนื่องจากคุณแม่ไม่มีรายได้อื่นๆ จะเกิดข้อยุ่งยากอย่างไรหรือไม่ และดิฉันจะชี้แจงทางสถานฑูตอย่างไรคะ
    6. เห็นเพื่อนๆ หลายๆ คนในนี้ถามข้อมูลเกี่ยวกับ “ข้อมูลบุคคลที่จะยืนยันว่าเราอยู่ประเทศไทยอย่างน้อยสองคน” …แต่ดิฉันไม่เห็นข้อความส่วนนี้ในการกรอกแบบฟอร์มเลย จึงอยากรบกวนถามว่า ข้อความนี้อยู่ในส่วนใดของเอกสารคะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On December 14, 2012 at 10:37 pm

      น้อง Ju คะ

      1. น้องลองอ่านfile pdf.ของสถานทูตสหรัฐฯเกี่ยวกับการกรอกฟอร์มวีซ่าดูนะคะ http://thai.bangkok.usembassy.gov/root/pdfs/ds_160_step_by_step_guide_thai.pdf พี่คิดว่า หากน้องไม่เคยทำความผิดระหว่างอยู่ในสถานภาพ J-1 ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆในการยื่นขอวีซ่า B-2 ถึงแม้จะต้องเตรียมเอกสารเอง แต่น้องโชคดีกว่าใครอีกหลายคนในเรื่องของพื้นฐานความรู้และความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในการโต้ตอบ เพราะน้องเคยไปศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามาก่อนหน้านี้ค่ะ อนึ่ง น้องกลับอยู่ที่ประเทศไทยนาน 5 ปีแล้ว แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและความรับผิดชอบว่า เมื่อได้รับทุนไปเรียน ตั้งใจเรียนจนจบและกลับมาทำงานที่เมืองไทยค่ะ อย่าวิตกกังวลกับเรื่องที่เอ่ยถามมาเลยค่ะ

      2. น้องกรอกฟอร์ม DS-160 ของน้องเสร็จ print DS-160 Confirmation Number ของน้องออกมา หลังจากนั้นกรอกฟอร์ม DS-160 ของคุณแม่ให้เสร็จแล้ว print DS-160 Confirmation Number ของคุณแม่ออกมาเป็นหลักฐานในวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ

      3. น้องดูวิดีโอเรื่องการซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw&feature=youtu.be ซึ่งกล่าวไว้ว่า “Pin หนึ่งรหัสสามารถใช้นัดวันสัมภาษณ์ให้เจ้าของ Pin กับคนในครอบครัว(บิดา/มารดา, พี่/น้อง, สามี/ภรรยา,บุตร) ได้อีก 4 คน ถ้าทุกคนนัดวันสัมภาษณ์เดียวกัน” ส่วนเรื่องต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน กงสุลท่านไม่ได้ขอดูทะเบียนบ้าน ให้น้องใช้หลักการคิดดังนี้ค่ะ หากคุณแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และมีอายุแล้ว ต้องอาศัยน้องเป็นเพื่อน ประกอบกับในตอนกรอกฟอร์ม DS-160 น้องใส่ไปตามที่เป็นจริงว่าแม่อยูบ้านเดียวกับน้อง ก็ใช้พินเดียวกันไปเถอะค่ะ อย่าคิดมาก แต่ถ้าถามหลักการตามกฎจริงๆแล้ว คือต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันจึงจะใช้พินเดียวกันได้ อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่ทำแบบที่พี่กล่าวไว้ในตอนแรก เพราะคนไทยมักจะมีชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้านกับที่อยู่จริงไม่ค่อยตรงกัน เอาเป็นว่าอยู่ในดุลยพินิจของน้องดีกว่านะคะ ถ้าถามพี่ๆว่าไม่น่าเกลียดถ้าจะใช้พินเดียวกันทั้งแม่และลูก แต่ถ้าน้องเป็นกังวลว่า น้องจะกลายเป็นคนพูดไม่จริงถ้าใช้พินเดียวกัน ทางแก้ไขปัญหาคือ ซื้ออีกพินหนึ่งเป็นชื่อคุณแม่และ print ใบ confirm การซื้อพิน (หากตัดเงินจากบัตรเครดิต; แต่ถ้าซื้อพินที่ไปรษณีย์ เพียงแสดงใบเสร็จที่ซื้อพินจากไปรษณีย์อีกใบแต่ไม่ต้องนัดจริงๆก็ได้ค่ะ เพราะแม่ใช้พินเดียวกับน้องไปแล้ว

      4. วีซ่าท่องเที่ยวขอทิ้งไว้เมื่อไรก็ได้โดยอาจจะยังไม่มีการเดินทาง น้องสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไปไม่ทันงานรับปริญญาของเพื่อนตอนเดือนพฤษภาคม ประมาณมกราคมถึงเมษายนคิววีซ่าไปเที่ยวอเมริกาจะแน่นมาก เพราะช่วงจังหวะนั้นจะไปชนกับช่วงจังหวะที่นักศึกษาที่จะขอวีซ่า Work and Travel เพื่อไปทำงานช่วงมหาวิทยาลัยปิดภาคการศึกษา และบางครอบครัวส่งลูกไปเรียนภาษาอังกฤษช่วงปิดเทอมเมืองที่ไทยด้วยค่ะ พี่แนะนำให้เตรียมตัวขอวีซ่าเสียแต่เนิ่นๆค่ะ

      ส่วนใหญ่วีซ่าท่องเที่ยวมีอายุนาน 10 ปีค่ะ หากอยากจะบอกกงสุลว่าไปงานรับปริญญา ให้เพื่อนส่งจดหมายเชิญไปงานรับปริญญามาด้วยนะคะ แต่ถ้าบอกว่าจะไปเที่ยวกับทัวร์ ให้น้องขอใบรายการนำเที่ยวของทัวร์ที่เมืองไทยติดตัวไปด้วยในวันสัมภาษณ์ เผื่อกงสุลท่านซักถามว่า จะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างค่ะ

      5.ควรจะมีจดหมายรับรองฐานะการเงินของแม่ด้วยค่ะ ถ้าแม่มีบัญชีเงินฝากก็จะดูมีหลักฐานที่มั่นคงดีค่ะ แม่ไม่มีรายได้เพราะแม่เกษียณแล้วก็ไม่เป็นไรนะคะ แม่อาจจะมีรายได้อันเกิดจากดอกเบี้ยเงินฝากกับธนาคาร หรือมีเงินปันผลกรณีซื้อหุ้นก็เป็นได้ค่ะ

      6. เรื่องบุคคลอ้างอิง 2 ชื่อที่ถามมานั้น จะอยู่หน้าหลังๆเกือบจะจบการกรอกฟอร์มแล้วค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ก่อนหน้า Security ค่ะ ลองดูวิดีโอเรื่องนี้เพื่อศึกษาวิธีการกรอกนะคะ http://www.youtube.com/watch?v=6k43FdCW5kc

  • rut  On December 14, 2012 at 12:11 pm

    หวาาดีคร๊าบ พอดีผมอยากสอบถามว่า เรื่องรูป คับ
    พอดีตอบ submit ข้อมูลแล้วไม่ปรากฎหน้าที่จะให้ผมอัพรูป ซึ่งหลังจากนั้นมีข้อความว่า Photo archive bring photo to interview ผมควรต้องกังวลอะไรมั๊ยคับ เพราของพ่อกับแม่ ก็สามารถอัพโหลดรูปตามปกติ

    • govisa  On December 14, 2012 at 10:50 pm

      น้อง Rut คะ ถ้าน้อง Upload รูปน้องเองไม่ได้ ให้น้องถือรูปเข้าไปในสถานทูตในวันนัดสัมภาษณ์ด้วยค่ะ แต่ถ้าน้องยังพอมีเวลา จะลองกรอกใหม่ดูอีกครั้งก็ดีค่ะ ให้น้องupload รูปทีหลังๆจากกรอกข้อมูลทั้งหมดเสร็จแล้วค่ะ

  • rut  On December 14, 2012 at 12:51 pm

    ขอเพิ่มอีกนิดนะคับ เรื่องเอกสาร พอดีดีจะเดินทางไปกัน 3 คน พี่สาวสปอนเซอให้ ซึ่งส่งเอกสารต่างๆมาให้ รับรองให้ตั้งแต่วั่นที่ 1 กันยายน 2555 แล้วจะสัมภาษณ์วีซ่า ประมาณ ต้นเดือนมกราคม 2556
    เรื่องของระยะเวลาของเอกสารจะเป็นปัญหามั๊ยคับ ผมสามารถใช้เอกสารที่ส่งมาแล้วได้เลยหรือว่าต้องให้พี่ส่งเอกสารมาใหม่อีกทีหนึ่งคับ

    • govisa  On December 14, 2012 at 11:14 pm

      น้อง Rut จริงๆแล้วเอกสารควรจะ update ที่สุดไม่ควรจะนานเกิน 3 เดือนค่ะ ใให้น้องลองนับวันที่ดูนะคะถ้าเกินไปไม่มากก็อาจจะใช้เอกสารเดิมพอได้อยู่ค่ะ

      อนึ่ง การให้พี่สาวที่เมืองนอกเป็น sponsor ให้ทั้งสามคน พี่เกรงว่าจะไม่มีหลักฐานใดๆที่แสดงว่า ทั้งสามท่านที่กำลังจะยื่นขอวีซ่ามีความผูกพันทางเศรษฐกิจกับประเทศไทย และจะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการท่องเที่ยวแล้วค่ะ หากคุณพ่อ-คุณแม่พอจะมีบัญชีเงินฝากที่เมืองไทยอยู่บ้างให้ท่านนำติดตัวไปในวันสัมภาษณ์ด้วยก็จะดีมากนะคะ เผื่อกงสุลท่านถามถึงเงินรายได้ที่เมืองไทยหรือเงินเก็บในธนาคารค่ะ ส่วนของน้องถ้าทำงานแล้ว มีจดหมายรับรองการทำงาน หรือสมุดบัญชีเงินเดือนด้วยก็จะดี หากเป็นนักศึกษา ให้นำใบรับรองความเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่พร้อม Transcript ผลการเรียนไปให้กงสุลท่านดูด้วยนะคะ

  • rut  On December 15, 2012 at 8:24 am

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับ ผมคงต้องให้ทางพี่สาวส่งเอกสารมาอีกที เพือ่ความแน่นอน
    ผมแค่กังวลอยู่เรื่อง คือ เรื่องงาน ที่ทำงานออกใบรับรองการทำงานให้ได้ แต่ว่าผมกะไปเที่ยวซัก 1 เดือนไหนๆก็ไปทั้งทีแล้ว ซึ่งทางบรษัทคงไม่สามารถรับรองว่าจะกลับมาทำงาน พูดง่ายๆก็คงต้องลาออกจากงานชั่วคราง 😦

    • govisa  On December 15, 2012 at 10:48 am

      น้อง Rut ส่วนใหญ่คนทำงานจะขอลาหยุดพักผ่อนไป พี่ไม่ทราบว่า บริษัทที่น้องทำงานอยู่นั้นอนุญาตให้ลาหยุดพักผ่อนได้ปีละกี่วัน เท่าที่เห็นประมาณ 10-15 วันไม่นับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าลาไปทั้งหมดก็น่าจะได้เกือบ 1 เดือนแล้วค่ะ เพียงแต่ว่าตัวเราเองนั้นถ้าใช้วันลาหมดตั้งแต่ต้นปี กว่าจะถึงปลายปีจะทนไหวไหมเท่านั้นเองค่ะ อีกประการหนึ่งบริษัทอาจจะไม่ให้ลาทีเดียวทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะไปโหลดงานผู้ร่วมงานท่านอื่นๆ น้องไม่น่าต้องถึงกับลาออกเลยค่ะ พี่ก็ได้แต่แนะนำว่า ให้น้องเตรียมเอกสารให้ดีที่สุด แล้วตอบคำสัมภาษณ์ให้กงสุลทราบแผนการที่ชัดเจนว่า จะไปเที่ยวอย่างไร เที่ยวที่ไหน งบประมาณน่าอยู่ราวประมาณเท่าไร และจะกลับมาทำอะไรต่อที่เมืองไทยแล้วกันค่ะ โชคดีค่ะ

  • Gift  On December 21, 2012 at 10:28 am

    สวัสดีค่ะขออนุญาติสอบถามนะค่ะ คือเมื่อญาติกรอก DS-160 ทั้งหมด 5 ท่าน แล้วเกิดข้อผิดพลาดดังนี้ค่ะ
    1. กรอกผิด เลยไปกรอกใหม่ ท่านล่ะประมาณ 2 ครั้งค่ะ จนครั้งสุดท้ายถูกต้องที่สุด จึงไปนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ พอมานั่งอ่านกระทู้ด้านบน เห็นว่าต้องนำทั้งใบเก่าและใหม่ไปชี้แจงด้วยว่าทำไมกรอกใหม่ แล้วฟอร์มที่กรอกผิดอันเก่าๆ ก็ทิ้งไปหมดแล้ว เลยอยากจะขอสอบถามว่า จะทำยังไงดีค่ะ นำแต่ฟอร์มใหม่ที่ถูกต้องที่สุดไปได้มั้ยค่ะ เป็นกังวลมากเลยค่ะ
    2. คำถามสุดท้ายที่ถามว่า กรอกเองรึป่าวอ่ะค่ะ คือ ตอบไปว่ากรอกเอง แต่จริงๆแล้วให้ญาติ กรอกให้ (ญาติคนนี้ไ่ได้เดินทาง กรอกให้เฉยๆค่ะ) แล้ว 5 ท่านนี้ ก็อายุ 40 ขึ้นกันหมดแล้ว จะเป็นอะไรมั้ยค่ะ จะไปแก้ไข DS-160 ก็ไม่ได้แล้ว เพราะนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วค่ะ
    รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ เครียดมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

    • govisa  On December 21, 2012 at 7:35 pm

      น้อง Gift คะ

      1. ความหมายที่บอกว่าให้นำ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขใหม่และเก่าไปด้วยหมายถึงว่า น้องคนนั้นเค้าใช้หมายเลขเก่าทำการนัดวันสัมภาษณ์ ต่อมาพบที่ผิดในแบบฟอร์มที่กรอกไปแต่นัดวันไปแล้ว จึงแนะนำให้กรอกใหม่ และนำหมายเลข DS-160 ทั้งเก่าและใหม่ไปด้วยค่ะ ส่วนกรณีของน้อง Gift น้องแจ้งว่า ได้นำครั้งสุดท้ายที่กรอกถูกต้องที่สุดไปทำการนัดวันสัมภาษณ์ ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องนำหมายเลขเก่าๆไปค่ะ เพราะได้ใช้หมายเลข DS-160 Confirmation Number อันที่ถูกต้องที่สุดนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

      2. การให้ญาติกรอกให้และบอกว่า กรอกเองนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการตอบคำถามของผู้สัมภาษณ์ด้วยค่ะ ถ้าถูกถามและมีมุขที่จะตอบ เป็นต้นว่า นั่งอยู่ใกล้ญาติญาติตลอดเวลาของการกรอก ญาติเป็นคนถามเราตอบแต่เราพิมพ์ช้า ญาติเลยช่วยพิมพ์ให้เป็นบางจุด ก็น่าจะเป็นคำตอบได้ค่ะ แต่ถ้ายืนเฉยๆไม่ตอบอะไรเลย เค้าก็ต้องคิดว่า เราอ่านแล้วไม่เข้าใจไม่น่าจะกรอกเองได้ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าเราพูดไม่จริงตอนที่กรอกว่า เราเป็นคนกรอกเองค่ะ ดังนั้น การตอบคำถามสัมภาษณ์มักขึ้นอยู่กับปฏิภาณของผู้ถูกสัมภาษณ์ด้วยนะคะ ควรหมั่นฝึกซ้อมถาม-ตอบกันเองใน 5 ท่านบ่อยๆ โดยน้องอาจะซ้อมเป็นคนตั้งคำถาม ให้อีก 5 คนหัดตอบ เหมือนกำลังจะไปสอบ จะได้เคยชินไว้ว่า ควรจะตอบอย่างไรค่ะ

  • Nongluck  On December 25, 2012 at 1:27 am

    สวัสดีค่ะ คุณ Govisa

    อยากจะรบกวนถามว่า การขอวีซ่านักเรียน ที่ต้องใช้เอกสารของคุณพ่อ (ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ให้ลูกชาย) หนังสือรับรองจดทะเบียนการค้าต้องใช้ตัวจริงไหมค่ะ หรือว่า ใช้ตัวที่ถ่ายเอกสารแล้วเซ็นต์ชื่อรับรอง และ ประทับตราบริษัทได้ไหมค่ะ ถ้าทั้งลูกชาย และ ตัวดิฉัน (เป็นแม่) ไปขอวีซ่าพร้อมลูกชาย ต้องขอหนังสือรับรองจดทะเบียนการค้ากี่ฉบับ หรือ ต้องถ่ายเอกสารแล้วเซ็นต์ชื่อทั้ง 2 ชุด หรือว่า ใช้ชุดเดี่ยวกันได้ แต่ได้นัดเวลาสัมภาษณ์วันและเวลาเดียวกันนะคะ

    • govisa  On December 25, 2012 at 10:10 am

      น้อง Nongluck คะ ใบทะเบียนการค้าใช้ตัวจริงค่ะ ถ้าน้องจะเข้าไปขอวีซ่าพร้อมลูกชายใช้หลักฐานทะเบียนการค้าชุดเดียวกันได้ค่ะ หลักฐานที่จะใช้ยื่นขอวีซ่าของประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ตัวจริงเท่านั้นค่ะ จะไม่เหมือนของบางประเทศที่จะต้องถ่ายสำเนาเอกสารแนบไปด้วยค่ะ

  • Nongluck  On December 25, 2012 at 1:39 am

    รบกวนถามอีกหน่อยค่ะ

    คือ ได้พิมพ์ใบนัดสัมภาษณ์ออกมาแล้วของทั้งลูกชาย และ คุณแม่ แต่ในรายละเอียด บรรทัดแรกตรงที่เขียนว่า
    Appointment Confirmation Number มันไม่มี number ขึ้นมาค่ะ อันนี้ มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าค่ะ ? มีแต่รายละเอียดของ PIN ขึ้นมาเท่านั้นค่ะ ในใบนัดสัมภาษณ์ ชื่อ applicant เป็นชื่อ ลูกชาย แต่ด้านล่าง family member’s name เป็นชื่อคุณแม่ แบบนี้ถูกต้องไหมคะ ? ที่เป็นแบบนี้ เพราะใช้ PIN เบอร์เดี่ยววกันนัดหรือเปล่าค่ะ จึงได้ใบนัด ใบเดี่ยวกัน แต่มีชื่อของทั้ง 2 คน และ ได้เวลาเดี่ยวกันคือ 8 am. on Jan. 7, 2013
    ดิฉันพิมพ์ออกมา 2 ใบ เหมือนกัน
    ต้องถือไปในวันสัมภาษณ์ คนละใบ หรือว่าใช้ใบเีดียวกันได้ คะ

    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

    • govisa  On December 25, 2012 at 10:14 am

      ตามที่น้อง Nongluck เข้าใจถุกต้องแล้วค่ะคือใช้พินนัดวันสัมภาษณืเดียวกันจะมีชื่อลูกชายปรากฎและมีชื่อคุณแม่เป็นสมาชิกในครอบครัวค่ะ น้อง Nongluck คงจะพิมพ์ใบนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วก็ถือไปด้วยกันเลยแล้วกันค่ะ ถ้ายังไม่ได้พิมพ์และไม่อยากพิมพืหลายใบใช้ใบเดียวกันก้ได้ไม่ serious ค่ะ เพราะอย่างไรก็มีชื่อทั้งสองคนอยู่แล้วค่ะ ขอให้โชคดีได้วีซ่าท่องเที่ยว 10 ปีนะคะ

  • Nongluck  On December 25, 2012 at 9:03 am

    สวัสดีอีกครั้งค่ะ Govisa

    หนังสือรับรองจดทะเบียนการค้าต้องแปลเป็นภาษาัอังกฤษไหมคะ
    หรือใช้ทั้งที่เป็นภาำษาไทยได้
    และ ถ้าขอมาตั้งแต่เดือน Nov. 2012 และจะสัมภาษณ์วีซ่าเืดื่อน Jan. 2013 จะยังใช้ได้ไหมคะ
    และใช้สำเนาแทนตัวจริงได้ไหม แต่เซ็นต์ชื่อ และ ประทับตราของบริษัทด้วย

    อีกหนึ่งคำถามค่ะ
    ทำไมเขียนคำถาม ถามไปที่ visasbkk@state.gov จึงได้รับอีเมล์ ตอบกลับมาว่า Delivery Status Notification (Failure) ตลอดเลยค่ะ ส่งไปไม่ได้ค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On December 25, 2012 at 10:22 am

      สำหรับทะเบียนการค้าไม่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษค่ะ และที่จริงก็ไม่ต้องไปขอหนังสือรับรองจดทะเบียนอย่างเป็นทางการก็ได้ค่ะ เพราะน้อง Nongluck สามารถใช้ใบทะเบียนการค้าที่ทางร้านมีอยู่แล้วไปยื่นวีซ่าได้เลยค่ะ บางท่านใส่กรอบรูปติดไว้ที่ร้าน ก็อาจจะใช้วิธีปลดออกมาจากกรอบรูปวันหนึ่งไปยื่นให้สถานทูตดู ถ้าท่านกงสุลจะขอดูท่านดูแป๊บเดียวท่านก็ส่งคืนให้ผู้ยื่นขอวีซ่าวันเดียวกันนั้นเองค่ะ บางรายอาจจะมีการแชร์ข้อมูลในบางเว็บไซต์ว่า เตรียมเอกสารไปมากแต่กงสุลท่านไม่ขอดูก็มีค่ะ อยากเรียนให้ทราบว่า ขึ้นอยู่กับ case by case อาจจะไม่เหมือนกันทุกคนนะคะ เตรียมเอกสารให้ครบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ตัวเราเกิดความมั่นใจในวันสัมภาษณ์ด้วยค่ะ เหมือนเราเตรียมพร้อมเต็มที่ไปทำการสอบแข่งขันอะไรสักอย่างค่ะ อย่าลืมตอบเสียงดังฟังชัด ไม่ได้ยินหรือไม่เข้าใจคำถาม ให้ท่านกงสุลพูดซ้ำอีกครั้งก้ได้ค่ะ มีความเชื่อมั่นในตนเอง และสบตาท่านกงสุลบ้างนะคะ

  • Nongluck  On December 25, 2012 at 9:56 pm

    ขอบคุณมาก ๆๆๆ เลยค่ะ คุณ GOvisa ไ้ด้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ

    Merry Christmas ka 🙂

    • govisa  On December 26, 2012 at 12:02 am

      ขอบคุณมากค่ะ Merry Christmas เช่นเดียวกันนะคะน้อง Nongluck

  • Nongluck  On December 25, 2012 at 10:19 pm

    ขอบคุณมาก ๆๆๆ เลยค่ะ คุณ GOvisa ไ้ด้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ

    Merry Christmas ka 🙂 สุขสันต์วันคริสมาต นะคะ (*o*)

  • Gift  On December 27, 2012 at 10:56 pm

    ขอบคุณมากๆๆๆๆเลยนะค่ะ คุณ GOvisa แนะนำให้ข้อมูลที่ดีเยี่ยมมากๆๆๆเลย ไม่งั้นกลุ้มใจไปหลายวันแน่เลยค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ^^

    • govisa  On December 28, 2012 at 5:47 am

      ถ้า 5 ท่านได้วีซ่าแล้ว เขียนมาแชร์ประสบการณ์ว่าท่านกงสุลถามคำถามอะไรบ้างนะคะน้อง Gift โชคดีค่ะ

  • Ploy  On January 7, 2013 at 6:48 pm

    สอบถามหน่อยค่ะ ถ้าprint ใบ Appointment confirmation มา แล้วทำไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่ไปรษณีย์แล้ว ยังสามารถเลื่อนวันนัดสอบสัมภาษณ์ได้อีกหรือไม่คะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On January 7, 2013 at 9:32 pm

      น้อง Ploy คะ เปลี่ยนวันนัดสัมภาษณ์ได้ 3 ครั้งค่ะ โดยต้องทำการยกเลิกวันนัดสัมภาษณ์เดิมก่อนแล้วจึงจะเข้าไปดูวันนัดสัมภาษณ์ใหม่ว่า ต้องการวันไหน แล้วเลือกวันนัดสัมภาษณ์ใหม่ ที่สำคัญคือ ถ้าช่วงจังหวะการนัดสัมภาษณ์มีปริมาณผู้จองคิวนัดสัมภาษณ์จำนวนมากเช่นช่วงนี้ ซึ่งจะมีนักศึกษาที่เตรียมจะไป work and travel ระหว่างปิดเทอมเมืองไทยจองคิวกันหนาแน่น รวมทั้งพวกไปเรียนภาษา summer course ช่วงเมืองไทยปิดเทอมอีก อาจจะสุ่มเสี่ยงพอสมควร ถ้าทำการยกเลิกวันนัดเดิมไปแล้ว ยังหาวันนัดสัมภาษณ์ที่จะให้เร็วขึ้นไม่ได้ค่ะ

      อนึ่ง น้อง Ploy อย่าลืม print วันนัดสัมภาษณ์ใหม่ออกมาด้วยนะคะ น้องสามารถเข้าไปดูวิดีโอของสถานทูตอเมริกาประจำกรุงเทพเกี่ยวกับการจองวันนัดสัมภาษณ์ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw&feature=youtu.be ค่ะ

  • K.Tem  On January 11, 2013 at 11:55 am

    1. อยากรบกวนถามคุณ govisa, น้อง Ploy หรือ ผู้ที่เพิ่งเข้าไปจองวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ ว่าพอจะเห็นมั๊ยคะว่ามีเวลาให้จองนัดในช่วงปลายมกรา หรือ ในเดือนกุมภาอยู่รึเปล่าค่ะ และ ได้เข้าไปดู หรือ ทำการจองเมื่อไหร่?
    (อยากไปเดือนเมษาค่ะ แต่ยังกรอก Application ไม่เสร็จ เลยอยากทราบไว้เป็นข้อมูล เพราะเห็นว่าตั้งแต่มกราเป็นต้นไป จะมีคนเข้าไปขอ Visa เยอะมาก)

    2. มีใครพอจะทราบ Web ที่ Share ตารางเวลานัดสัมภาษณ์มั๊ยคะ? (แบบ Update ไม่ต้องถี่มาก เช่น Wk ละครั้งก็ได้ค่ะ เคยเข้าไป Check ที่ US embassy ประกาศไว้* แต่ข้อมูลไม่ตรงกับคนที่เข้าไปนัดเอง เลยอยากรบกวนคนที่เข้าไปนัดจริงๆค่ะ ..)
    *http://travel.state.gov/visa/temp/wait/wait_4788.html?post=Bangkok&x=87&y=10 )
    ยังไม่อยากสร้าง DS-160 ปลอมๆเข้าไปดูตารางเวลาค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ
    K.Tem

    • govisa  On January 11, 2013 at 11:42 pm

      น้อง Tem คะ ถ้าน้องมีแผนการจะเดินทางไปอเมริกาเดือนเมษายน 2556 น้องมีเวลาอีก 2 เดือนเศษในการกรอกฟอร์ม DS-160 ให้เสร็จและจองวันนัดสัมภาษณ์วีซ่า โดยทั่วไปคิวนัดสัมภาษณ์จะเปิดให้จองอย่างน้อย 2 อาทิตย์ขึ้นไป เช่น ถ้าน้องเปิดดูตารางนัดประมาณวันที่ 11 มกราคมนี้ ก็จะเห็นคิวนัดสัมภาษณ์ถึงปลายเดือนมกราคม และถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นอีกอย่างน้อย 1-2 อาทิตย์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า น้องจะเห็นวันนัดสีเขียวได้ทุกวันในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้เข้าไปสมัครนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าด้วยเหมือนกันค่ะ พอเลื่อนเวลาไปเป็นประมาณอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคม น้องก็อาจจะเห็นคิวนัดวันสัมภาษณ์ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ว่า มีคิววันนัดว่างเมื่อไหร่บ้างค่ะ พี่ไม่ทราบว่าน้องอยากได้คิววันนัดสัมภาษณ์เดือนอะไรคะ เช่น ถ้าน้องอยากได้คิวนัดต้นเดือนมีนาคม ให้น้องลองสุ่มเปิดเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นค่ะ

      เท่าที่สังเกตนะคะ ปี2555 คิวนัดวีซ่าได้เริ่มมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก มากกว่าปี 2553 ด้วยซ้ำที่ทำให้หลายคนหงุดหงิดกับการไปสัมภาษณ์วีซ่าเข้าอเมริกา เพราะหาวันนัดสัมภาษณ์สีเขียวไม่ค่อยได้ค่ะ ปัจจุบันเสียงบ่นดังกล่าวน้อยลงแล้วค่ะ พี่แนะนำให้น้องกรอกฟอร์ม DS-160 ให้เสร็จ และซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ได้เลย เพราะพินที่ซื้อจะมีอายุนาน 3 เดือนถ้าน้องยังไม่ยืนยัน (confirm)วันนัดสัมภาษณ์ ซึ่งก็จะครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนมีาคม ทันก่อนหน้าน้องเดินทางเดือนเมษายนค่ะ ดังนั้นน้องไม่จำเป็นต้องกรอก DS-160 ปลอมๆเพื่อเข้าไปดูตารางนัดเลยค่ะ เพราะภายใน 2 เดือนนี้ น้องก็ต้องกรอกฟอร์ม DS-160 อยู่ดีและเลือกวันนัดที่ต้องการจะจองได้ตามเท่าที่เห็นในตารางค่ะ

  • Piyanut  On January 14, 2013 at 9:42 pm

    รบกวนสอบถามหน่อยครับ
    เมื่อวันที่13 Jan 13 เพิ่งกรอก DS-160 แล้วจองวันสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว พบว่า ใส่ข้อมูลที่ถามว่า เคยไปประเทศใดมาบ้างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาผิดครับ คือตอบว่า ไม่เคย ทั้งที่ความเป็นจริงเคย มีวีซ่าประเทศนั้นๆ ระบุอยู่ในหนังสือเดินทาง ผมควรกรอก DS-160 อีกครัั้ง แล้ว print ใบ เก่าและใหม่ไปอธิบาย จนท ใช่ไหมครับ ขอบพระคุณมากครับ

    • govisa  On January 14, 2013 at 10:18 pm

      คุณ Piyanut คะ กรอกใหม่อีกครั้งก็ดีค่ะ จะได้มีข้อมูลถูกต้องครบถ้วน อย่างไรก็ตาม พี่ขออนุญาตเพิ่มเติมนิดหนึ่งว่า หากการกรอกครั้งที่ 2 ไม่พบคำถามที่ถามว่า เคยไปประเทศใดมาบ้างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องวิตกกังวลนะคะ คำแนะนำที่พี่จะให้คือ ทำ resume ใส่กระดาษ A4 แนบไปก็ได้ค่ะว่า เคยไปประเทศใดมาบ้าง ในช่วงปีค.ศ.ใดค่ะ

  • Piyanut  On January 14, 2013 at 10:00 pm

    ขอตอบคำถาม คุณ Tem ครับ
    ข้อมูล ณ วันที่ 13 ตอนประมาณ 2 ทุ่มครับ

    visa ยังมีว่างครับ สำหรับปลายเดือน Jan แต่ผมจำไม่ได้ครับ ว่าวันไหนบ้าง
    ส่วน เดือน Feb ก็ส่วนใหญ่ว่างครับ มีเฉพาะวันศุกร์และวันจันทร์ ที่คิวอาจเต็มในบางสัปดาห์ครับ ส่วนผมจองเดือน Mar ครับ ไปช่วงเมษาเหมือนกันครับ

    • govisa  On January 14, 2013 at 10:14 pm

      ขอบคุณคุณ Piyanut มากค่ะที่ช่วยน้อง Tem นะคะ ขอให้ผ่านการขอวีซ่านะคะ

      • K.Tem  On February 3, 2013 at 8:12 pm

        ขอบคุณ คุณ Govisa และ คุณ Piyanut มากนะคะ

        เมื่อเย็นนี้ (3/2/56) เข้าไปนัดวันมาค่ะ มีวันว่างให้นัดเริ่มที่ 13/2 ค่ะ

      • K.Tem  On February 3, 2013 at 8:22 pm

        ปัจจุบันทำงานแล้วค่ะ เคยไปเรียนที่อเมริกา แต่จบนานมากแล้ว ซึ่งกระบวนการขอ Visa เปลี่ยนไป เมื่อพบว่าทาง Website และ คุณ Govisa ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ และ ยังเผื่อแผ่ข้อมูลให้ผู้ต้องการขอ Visa เพื่อการท่องเที่ยวด้วย เลยถือโอกาสรบกวนค่ะ ..
        เนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะตอบแทนทางทีมงาน ได้อย่างไรบ้าง จึงขอ Share ประสบการณ์ที่เพิ่งกรอก DS-160 มา เผื่อข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อน้องๆ หรือ ท่านอื่นๆค่ะ

        ข้อมูลเกี่ยวกับ File .dat – File ที่เก็บข้อมูล DS-160
        —————-
        ระหว่างที่กรอก DS-160 จะมีหน้าจอให้เลือก “Save Application to File” เพื่อเก็บข้อมูลการสมัครลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นๆ ซึ่ง File ดังกล่าวสามารถใช้ Upload ข้อมูลที่ Save ไว้กลับเข้าไปในระบบได้ (CEAC**********.dat – ขึ้นต้นด้วย CEAC แล้วตามด้วยเลข App ID 10 หลัก)

        เมื่อ Upload ข้อมูล File .dat (*) เข้าไปในระบบแล้ว ระบบจะออก Application ID (App ID) ให้ใหม่ ซึ่งหากได้ Update ข้อมูลใน App ID ใหม่แล้ว การกรอกครั้งต่อๆไป จะต้องใช้ App ID ใหม่นี้

        ระบบจะไม่ลบ App ID เก่าและ DS-160 เก่าออกไป (ยังสามารถเลือก Retreive Application เพื่อเข้าไปที่ DS-160 ของ App ID เก่าได้) แต่ข้อมูลจะหยุดอยู่ที่การ Save .dat file ครั้งสุดท้ายของ App ID เก่านั้น ฉะนั้น ขอให้เลือก App ID ให้ถูกต้องค่ะ

      • K.Tem  On February 3, 2013 at 9:26 pm

        ที่จะไปเที่ยว ไปกันทั้งครอบครัวค่ะ ซึ่งเมื่อ Sign and Submit Application ของคนแรกแล้ว ไม่พบว่ามี “Thank you page” เพื่อให้นำข้อมูลมาใช้สำหรับกรอกของคนถัดไป ซึ่งหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ลองดู Link ในหน้านั้นๆ ก็ไม่พบ จึงได้นำ File .dat จากคนแรก ไปใช้สำหรับคนที่สอง ด้วยวิธีดังนี้

        1. เอา File .dat Upload เข้าไปใหม่ เพื่อให้ได้รับ Application ID ใหม่ ที่มีข้อมูลจาก DS-160 ที่ได้กรอกไปให้คนแรกแล้ว โดยเมื่อจะ Upload ข้อมูล ได้ใส่ นามสกุล 5 ตัว ปีเกิด ของคนแรกเข้าไป

        2. เมื่อเข้าไปใน Form DS-160 แล้ว จึงทำการแก้ไขชื่อ นามสกุล ปีเกิด และข้อมูลอื่นๆเป็นของคนที่สอง

        3. เมื่อจะ Retreive Application DS-160 ของคนที่สอง ให้ใช้ข้อมูลของคนที่สองในการ Retreive

        ซึ่งเมื่อ Sign and Submit Application ของคนถัดๆไป ก็ได้รับใบ Confirmation เรียบร้อยเหมือนกัน
        อย่างไรก็ตาม เมื่อ Submit Application ของคนที่สอง พบว่ามี “Thank you page” ให้ใส่ข้อมูลของ Family Member ได้

        ไม่แน่ใจว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สามารถใช้ปฏิบัติได้หรือไม่ ส่งมาให้เผื่อคุณ Govisa เห็นว่ามีประโยชน์กับผู้อื่นค่ะ

      • govisa  On February 3, 2013 at 10:46 pm

        พี่ขอขอบคุณน้อง K.Tem มากๆนะคะที่กรุณาเขียนมาอธิบายให้ท่านอื่นที่เข้ามาอ่านวิธีการกรอก DS-160 ค่ะ ทางพี่ได้อธิบายเรื่องการกรอกข้อมูลและ save อยู่ใน CEAC…..ไปแล้ว ซึ่งถ้าหากสังเกตให้ดีจะพบได้ว่าตัวเลขที่อยู่ต่อท้าย CEAC กับ DS-160 Application ID หรือ DS-160 Confirmation Number คือหมายเลขเดียวกัน และผู้กรอกข้อมูลไม่จำเป็นต้องกรอกข้อความใหม่ทั้งหมด เพราะสามารถ retrieve ข้อมูลได้ หากผู้กรอกยัง submit นะคะ หาก submit แล้วและทำการนัดวันสัมภาษณ์แล้วจะ retrieve ไม่ได้ และจะแก้ไขหมายเลข DS-160 Confirmation Number ไม่ได้ หากมาพบภายหลังว่า ข้อมูลที่กรอกไปแล้วผิดค่ะ พี่ได้ลองสอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูตที่จัดคิวนัดสัมภาษณ์ด้านหน้าประตูสถานทูต ท่านแนะนำให้กรอก DS-160 ใหม่และนำ DS-160 Confirmation ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่ไปในวันสัมภาษณ์ค่ะ ซึ่งท่านผู้กรอก DS-160 หลายท่านก็ได้ทำตามไปหากพบว่ามีการกรอกผิดในช่องที่เป็นข้อมูลที่สำคัญของตัวผู้ยื่นขอวีซ่า อาทิ วันเดือนปีเกิด หมายเลขหนังสือเดินทาง เป็นต้นค่ะ

        อนึ่ง การกรอกด้วยกันเป็น Family หากเกิดปัญหาในการกรอก ผู้กรอกแบบฟอร์ม DS-160 สามารถกรอกแยกกันก็ได้ไม่ได้ผิดนะคะ ถ้าถามว่าจะทำการนัดวันเดียวกันพร้อมกันได้อยู่ไหม ถ้ากรอกแยกก็ยังการทำวันนัดสัมภาษณ์วันเดียวกันได้ค่ะ (หากเป็นพ่อ-แม่-ลูก นามสกุลเดียวกัน มีชื่อในทะเบียนบ้านเดียวกันค่ะ)เมื่อผู้นัดคนแรกกรอกนัดวันสัมภาษณ์ไปถึงหน้าที่มี 2 ไอคอนให้เลือก คือ Skip Family Member or Add Family Member ถ้าจะ Add Family Member ให้ใส่ชื่อ-นามสุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขหนังสือเดินทาง และหมายเลข DS-160 Confirmation Number ของ Family Member ท่านนั้นที่ต้องการขอวีซ่าพร้อมเราค่ะ

  • Tong  On January 21, 2013 at 10:00 am

    เพิ่งทำการนัดสัมภาษณ์เสร็จค่ะ แล้วพบว่า ใน DS 160 กรอกเบอร์โทรศัพท์ ไม่ได้ใส่รหัสประเทศไปด้วย ไม่ทราบว่าจะได้มั๊ยคะ หรือควรทำการแก้ไข (ยื่นที่เชียงใหม่ค่ะ)

    • govisa  On January 21, 2013 at 8:31 pm

      ไม่เป็นไรค่ะน้อง Tong ใส่แค่ 053 ก็ได้ค่ะ

  • suvannee  On January 21, 2013 at 6:58 pm

    ในกรณีที่ กรอก DS-160 ใหม่ เนื่องจากใส่เลขที่พลาสปอร์ตผิด และได้เลข DS-160 Confirmation Number ใหม่ กรณีไปเสียค่าธรรมเนียมที่ไปรษณีย์จะต้องใช้เลข Confirmation Number ใหม่ หรือ เก่า คะฬ…ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On January 21, 2013 at 8:32 pm

      ใช้หมายเลข DS-160 Confirmation Number ใหม่ที่ถูกต้องค่ะน้อง Suvannee

  • Torn  On January 30, 2013 at 11:15 am

    เรียน GO VISA
    รบกวนสอบถามเรื่องวีซ่าดังนี้ครับ
    1.ต้องการยื่นวีซ่าพร้อมกับลูกชาย แต่ เดินทางไม่พร้อมกัน เราจะสามารถใช้ pin เดียวกันเพื่อนัดวันยื่นได้หรือไม่ครับ
    2. และการกรอกวันที่เดินทาง ถ้าเรายื่นพร้อมกัน เราควรลงวันที่เดินทางเดียวกันไปเลยจะดีมั้ย หรือ ควรแยก แจกแจงว่าใครจะเดินทางวันที่เท่าไหร่ (ลูกชาย อายุ 18 ปี ปิดเทอมจะเดินทางไปก่อน และผมจะเดินทางตามไปท่องเที่ยว และรับลูกกลับมาพร้อมกันครับ)
    3.มีคุณน้า อยู่ที่อเมริกา และมีใบเขียว เดินทางครั้งนี้จะไปพักบ้านคุณน้า เราควรอ้างอิงโดยใช้เอกสารใดบ้างจากคุณน้า (ส่วนตัวหลักฐานทางการเงินเราคิดว่าเพียงพอสำหรับรับรองตัวเอง และลูกชาย ครับ)
    4.กิจการทีทำอยู่กำลังจะระงับไว้ชั่วคราว เพื่อดูลู่ทางการเติบโตของธุรกิจ แต่ยังไม่ปิดกิจการส่วนตัว ผมอายุ 55 ปี จึงอยากจะถือโอกาสช่วงนี้ท่องเที่ยว และพักผ่อนประมาณ 3 เดือน เอกสารการงาน การเงิน ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติมมากน้อย แค่ไหนครับ
    5.ในส่วน Present Work เรากรอก Not Employed และแจ้งว่ามีกิจการส่วนตัวได้หรือไม่ครับ
    รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
    ขอบพระคุณมาล่วงหน้าครับ
    ธร

    • govisa  On January 30, 2013 at 7:46 pm

      เรียนคุณ Torn คะขอตอบคำถามดังนี้ค่ะ

      1. ถึงแม้จะเดินทางไม่พร้อมกันกับลูกชาย ก็ควรจะใช้วันที่เดินทางวันเดียวกัน เพื่อไม่ให้ลูกชายของคุณมีปัญหารในการตอบคำถามขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ เพราะคุณ Torn ไม่ได้เขียนมาบอกว่า ลูกชายคุณ Torn จะขอวีซ่าไปเรียนภาษาช่วงปิดเทอม หรือขอวีซ่าไปเที่ยว ถ้าจะขอวีซ่าไปเที่ยว ยิ่งควรจะเป็นการเดินทางพร้อมคุณ Torn มากขึ้นค่ะ เพราะคุณเป็นทั้งบิดาและเป็นผู้ปกครอง ควรจะเป็นจุดดีที่ทำให้กงสุลมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า เด็ก(แม้จะอายุ 18 ปีแล้วก็ตาม)มีคนดูแล ส่วนคำถามเรื่องการใช้พินนัดวันสัมภาษณ์ ตามกฎของการซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ คือ เป็น พ่อ-แม่-ลูก ที่ใช้นามสกุลเดียวกัน และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเดียวกันค่ะ โปรดดูวิดีโอที่ทางสถานทูตสหรัฐฯจัดทำขึ้นใน YouTube ประกอบนะคะ http://www.youtube.com/watch?v=0pp9Pb0-qbw&feature=youtu.be

      2. ควรตอบวันที่เดินทางเป็นวันเดียวกันตามคำอธิบายในข้อ 1 แม้คุณ Torn จะมีเหตุผลก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงละเอียดตามที่ว่ามานั้นได้ เพื่อแสดงให้กงสุลท่่านเห็นว่าเด็กเดินทางไป-กลับ กรุงเทพ-สหรัฐอเมริกาพร้อมผู้ปกครองค่ะ

      3. ถ้าหลักฐานทางการเงินของคุณ Torn มีเพียงพอที่จะค้ำประกันทั้งตัวคุณ Torn และลูกชาย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้จดหมายจากคุณน้าค่ะ ส่วนในการกรอกฟอร์ม DS-160 ตรงที่อยู่หากคุณ Torn และลูกชายจะอยู่ช่วงสั้นสามารถใส่ชื่อโรงแรมในเมืองที่คุณ Torn จะเดินทางไปเที่ยวได้ แต่ถ้าคุณ Torn และลูกชายจะอยู่นานเป็นเดือน คงต้องใช้ที่อยู่อ้างอิงเป็นที่อยู่ของคุณน้าค่ะ อาจจะมีคำถามจากท่านกงสุลว่าเป็นคุณน้ากันอย่างไร คือ เป็นคุณน้าของคุณ Torn คือ เป็นน้องของคุณแม่คุณ Torn หรือเป็นคุณน้าของลูกชาย คือ เป็นน้องของภรรยาคุณ Torn ค่ะ

      4. ถ้ามีกิจการส่วนตัว ให้นำใบทะเบียนการค้าไปแสดงด้วยค่ะ ไม่แนะนำให้แจ้งท่านกงสุลว่า จะไปท่องเที่ยวนาน 3 เดือน ควรจะแจ้งว่า ไปนานประมาณ 1 เดือนก็เพียงพอแล้วค่ะ การใช้ใบทะเบียนการค้า เพื่อแสดงให้ท่านกงสุลเห็นว่า คุณยังมีฐานะการเงินที่มั่นคง (เพราะคุณยังต้องดูแลบุตรชาย)อย่างไรก็ตาม ท่านกงสุลก็คงจะดูด้วยว่า การที่คุณจะทิ้งธุรกิจส่วนตัวไปเที่ยวอเมริกานาน 3 เดือนมีความเป็นไปได้มากน้อยเท่าไรในทางธุรกิจ เช่น ถ้าเป็นธุรกิจใหญ่ๆคุณอาจจะจ้างคนดูแลแทน หรือคุณจะให้ภรรยาดูแลแทน ซึ่งในที่นี้ไม่ได้เอ่ยถึงภรรยา หรือ ภรรยาคุณ Torn มีวีซ่าอยู่แล้ว ถ้าเป็นธุรกิจเล็กๆ จะดูน่าเชื่อถือไหมว่าต้องคนดูแลกิจการนาน 3 เดือนระหว่างคุณไม่อยู่ค่ะ

      สรุป คุณน่าจะขอวีซ่าโดยแจ้งว่าไปเที่ยวนาน 1 เดือนมากกว่า ด้วยอายุของคุณ เมื่อคุณได้วีซ่าท่องเที่ยว คุณจะได้วีซ่าที่มีอายุนาน 10 ปีอยู่แล้วค่ะ ส่วนเอกสารเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ถ้าคุณจะแจ้งว่ามีธุรกิจส่วนตัว ให้นำใบทะเบียนการค้า จดหมายรับรองฐานะการเงินจากบัญชีในธนาคารของคุณ และบัญชีตัวจริง คุณไม่ได้อธิบายมาชัดเจนว่า ที่คุณจะระงับกิจการไว้ชั่วคราว เป็นธุรกิจร่วมลงทุน หรือเป็นอะไร ถ้าคุณไม่ระงับธุรกิจจะทำให้ฐานะทางการเงินของคุณดูดีกว่าระงับไหม คุณ Torn คงต้องชั่งน้ำหนักดูเองค่ะ
      5. ใน part ที่ถามเกี่ยวกับการทำงาน ลองคลิกดูว่า มีคำว่า Business ไหมถ้าคลิกคำนี้ จะมีชื่อบริษัทให้กรอก ใส่ชื่อกิจการส่วนตัวไปจะดีกว่าไหมนะคะ และตรง salary ให้ตอบการคาดคะเนรายรับต่อเดือนค่ะ

      • Torm  On February 14, 2013 at 11:16 pm

        เรียนคุณ go visa
        เขียนมาขอบคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และขอแบ่งปันประสบการณ์สัมภาษณ์ กรณีที่เข้าสัมภาษณ์พร้อมลูก
        ผมได้รับการพิจารณาสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ท่านชาย เป็นฝรั่งพูดไทยปร๋อเลย
        คำถามของผม มีดังนี้ จะไปทำอะไรที่อเมริกา / จะไปอยูกับใคร ยังไง เราตอบอยู่กับญาติ / ญาติ ทำงานอะไรที่นั่น ตอบไปว่ามีกิจการส่วนตัว และก็ขอดูสมุดธนาคารของเรา หลังจากนั้นก็ปิดสมุด แล้วก็ไม่มีคำถามใดต่อเลย จากนั้นหันไปถามลูก ว่าเรียนชั้นไหน คณะอะไร จะเดินทางไปกับใคร มีหนังสือรับรองจากโรงเรียนมาด้วยมั้ย จบการสัมภาษณ์ แบบสั้นๆ ไม่ยืดเยื้อใช้เวลาไม่นานเลย แต่ผลยังไม่ออกนะ ก็มีลุ้นต่อเหมือนกันครับ เพราะรู้สึกว่ายัง งงๆอยู่ กับการจบสัมภาษณ์อันรวดเร็ว คิดว่าถ้าได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ไปเที่ยวที่อื่นก่อนก็ได้ แล้วไว้ลองยื่นใหม่ก็ได้ ท้ายนี้ก็ขอขอบคุณอีกครั้งนะครับสำหรับคำแนะนำที่ดีมาก

      • govisa  On February 15, 2013 at 5:25 am

        ถ้ากงสุลขอหนังสือเดินทางไว้และแจ้งว่าจะส่งหนังสือเดินทางกลับ หลังจากนั้นคุณ Torm
        ไปจ่ายค่าไปรษณีย์ส่งเอกสารกลับ แปลว่าได้รับวีซ่าแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่กรุณาเขียนมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ ขอให้เดินทางท่องเที่ยวอเมริกาให้สนุกค่ะ

  • Giselle  On February 1, 2013 at 3:32 am

    รบกวนขอคำแนะนำเกี่ยวกับ การกรอก ที่อยู่ใน DS 160 หน่อยค่ะ

    1.) คือเราและสามี แพลนจะไปเที่ยวอเมริกา อีกหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งยังไม่ชัวร์ว่าจะไปได้เดือนไหนแน่ เลยอยากจะรู้ว่า เราจะขอวีซ่าล่วงหน้าไว้ก่อนได้ใช้ไหมคะ

    2.) และ ตรงที่เค้าให้กรอกเกี่ยวกับ Travel Plan ว่าจะไปช่วงไหน เราสามารถ ใส่เดือนที่คาดว่าจะเดินทางได้ แบบมั่วๆเลยใช่ไหมคะ แล้วถ้าได้วีซ่าแล้วเรากลับเดินทางเข้าอเมริกา หลังจากนั้นหลายเดือน หรือว่า ก่อนกำหนด ได้กี่เดือนคะ เช่น เรากรอกไปว่า จะไปช่วงเดือน May แต่เอาเข้าจริง เราดันไปเดือน March or July จะมีปัญหาอะไรไหมคะ?

    3.) ที่พักที่เค้าให้กรอก เรากะว่าจะใส่ ที่อยู่ของโรงแรมไปคะ ซึ่งอันนี้ก็สุ่มชื่อที่อยู่ของโรงแรมใน รัฐที่เราคาดว่าจะไปได้หรือไม่คะ แบบว่า สมมุติเรากรอก ที่อยู่ของ Hotel ABC ใน San Francisco ไป แต่พอไปจริงเรากลับไม่ได้ไป San Fran และไป LA แทน และพักโรงแรมใน LA อย่างนี้จะมีปัญหาอะไรไหมคะ?

    4.) ในส่วนที่ให้กรอกข้อมูล Contact person in US เราใส่ว่า DO NOT KNOW ได้หรือไม่คะ เพราะไปดูใน website ของ สถานทูต เค้าบอกว่า ถ้าไม่รู้จักใครเลย ก็ให้กรอกชื่อร้านค้า บริษัก หรือ องกร อะไรที่เราแพลนที่จะไป อย่างนี้ดิฉัน ควรจะใส่ข้อมูล อะไรไปดีคะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

    ขอบคุณที่ช่วยอ่านคำถามค่ะ

    • govisa  On February 1, 2013 at 5:28 am

      น้อง Giselle คะ
      1+2. โดยปกติวีซ่าท่องเที่ยวของประเทศสหรัฐอเมริกามีอายุการใช้งานนาน 10 ปี (ยกเว้นบางกรณีที่บางคนอาจจะได้ระยะเวลาน้อยกว่านี้ เช่น 1 ปี แต่ถ้าขอใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากวีซ่าครบอายุ 1 ปีก็จะได้วีซ่านานขึ้นกว่าเดิมค่ะ)เคยทราบมาว่าบางท่านได้วีซ่า 10 ปีมาแล้ว แต่ไม่เคยเดินทางเข้าไปเที่ยวในสหรัฐอเมริกาเลยก็มี เพราะยังหาจังหวะวันว่างไม่ได้ แต่พอขอวีซ่า 10 ปีครั้งที่สอง จึงจะหาจังหวะว่างไปเที่ยวได้ค่ะ ดังนั้น น้องสามารถวางแผนการขอวีซ่าไปเที่ยวล่วงหน้าได้ค่ะ
      3. ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีการตามที่น้องถามมาในเรื่องการจองที่พักกันค่ะ เพราะเวลาเราไปเที่ยวจริง เราอาจจะมีการเปลี่ยนแผนการอยากเข้าไปเมืองนี้ก่อนอีกเมืองหนึ่งได้ค่ะ
      4. บางคนที่มีเพื่อนอยู่สามารถใส่ชื่อเพื่อนได้ในช่อง Contact person ถ้าไม่รู้จักใครเลย ก็อาจจะใส่ชื่อโรงแรมที่จองไปได้ค่ะ อย่างน้อยทางการเขาจะได้รู้ว่า จะติดตามน้องได้ที่ไหน หากน้องกลายเป็นบุคคลที่เกิดปัญหาขึ้นมาในอนาคตที่เป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึงนะคะ

      • Giselle  On February 1, 2013 at 5:40 pm

        ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่ช่วยตอบคำถาม

      • govisa  On February 1, 2013 at 8:33 pm

        ด้วยความยินดีค่ะ น้อง Giselle

  • Lek  On February 2, 2013 at 11:40 am

    ผมกรอกDS-160เรียบร้อยแล้ว นัดวันเรียบร้อยแล้ว จ่ายเงินค่าวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ปรากฎว่ามาพบความผิดพลาดเกี่ยวกับข้อมูลที่ทำงานเดิม(ผมเกษียนอายุแล้วครับ). คือกรอกชื่อบริษัทสุดท้ายที่ผมทำงาน สลับไปมา กรอกวันที่เริ่มงานและวันสิ้นสุดการทำงานผิดไปพอสมควร
    ผมนัดสัมภาษณ์ วันพุธนี้แล้วครับ

    อย่างนี้ผมควรจะต้องแก้ไขอย่างไรครับ

    • govisa  On February 2, 2013 at 7:51 pm

      แนะนำให้คุณ Lek กรอก DS-160 ใหม่อีกครั้งและ print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ออกมา วันพุธให้นำ DS-160 Confirmation Number ทั้งของเก่าและของใหม่ไปที่สถานทูตค่ะ

  • Lek  On February 3, 2013 at 11:04 am

    ขอบคุณมากครับ จะทำตามคำแนะนำครับ จะไปเที่ยวครับกับทัวร์ แต่เค้ากรอกข้อมูลให้ผิดไปนิดหน่อย ถึงตอนนี้ทำใจแล้ว ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เสียค่าทัวร์เอาไปเที่ยวที่อื่นก็ได้ สบายใจดี5555

    • govisa  On February 3, 2013 at 7:11 pm

      คุณ Lek คะ ขอแนะนำว่า ควรจะเตรียมเอกสารและตอบคำถามให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ เพราะการถูกปฏิเสธวีซ่าไม่ว่าจะโดยสถานทูตใดๆก็ตามนอกจากจะทำให้เราเสียความรู้สึกแล้ว ยังทำให้เรามีประวัติที่เราอาจจะไม่มั่นใจนักเวลาไปขอวีซ่าของบางประเทศที่มีคำถามถามว่า คุณเคยถูกปฏิเสธวีซ่าของสถานทูตใดมาบ้างหรือเปล่าค่ะ

      โชคดีวันพุธค่ะ ถ้าได้วีซ่าแล้วเขียนมาบอกกันบ้างนะคะ

  • Lek  On February 6, 2013 at 9:14 pm

    ผ่านเรียบร้อยแล้วครับ ถาม2-3คำถามเอง สงสัยเห็นว่าแก่แล้ว55555

    ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำครับ

    • govisa  On February 7, 2013 at 5:18 am

      ดีใจด้วยค่ะคุณ Lek ถ้าแวะเข้ามาอ่านเรื่องราวในนี้อีกค่ะ ขอความกรุณาแชร์ประสบการณ์คำถามให้ท่านอื่นทราบด้วยได้ไหมคะ

  • Lek  On February 7, 2013 at 9:05 am

    คำถามที่ถามกลุ่มผม(ไป3คน สามี,ภรรยา,หลาน)เข้าสัมภาษณ์พร้อมกัน

    ถามผมคนแรก

    ไปเที่ยวกี่วันคะ
    ก่อนเกษียนทำงานที่ไหนคะ
    จบจากไหน คณะอะไร

    จากนั้นถามภรรยาผม(ยังทำงานอยู่ บริษัทมีชื่อเสียงดีเงินเดือน6หลัก)

    ทำงานที่ไหนคะ (แค่นี้จริงๆ)

    จากนั้นขอดูPassportเล่มเก่า พอดีของหลานไม่มีเป็นPassoprtหน้าขาวเลยละ ส่วนของผมกับภรรยามีไปเที่ยวญี่ปุ่นกับยุโรป

    จากนั้นเริ่มถามหลาน(หลานอายุประมาณ32 ที่ทำงานปัจจุบันแค่2ปี เงินเดือน2หมื่นต้นๆเอง แต่มีเงินในบัญชีของตัวเอง3แสนกว่า)

    คำถาม

    จบจากไหน
    พ่อ แม่ทำงานอะไร(พ่อรับราชการ,แม่เสียแล้ว)
    ไปเทียวด้วยเงินใคร(เงินตัวเอง)
    ทำงานที่ไหน

    จากนั้นท่านกงสุลคุ้นคิดอยู่นานพอสมควร ก่อนตัดสินใจให้ผ่านคืนใบสีฟ้ากลับมา

    ถ้าให้ผมทาย กรณีหลานผม ถ้าไปคนเดียวมีโอกาสที่จะไม่ผ่าน เพราะตอนดูใบรับรองจากที่ทำงาน. เค้าคงไม่แน่ใจเรื่องระยะเวลาที่ทำงานกับบริษัทนี้(โชคดีที่เป็นบริษัทที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี)เพราะทำมาแค่2ปีเอง(ก่อนหน้านี้ทำบริษัทอื่นมาประมาณ5ปี-แต่ท่านกงสุลไม่ได้ถามตรงนี้) แล้วก็passportขาวอีกด้วย แต่ท่านกงสุลคงเห็นใจว่ามากับคนแก่อีก2คนเลยให้ผ่าน

    ลุ้นว่าจะได้แบบกี่เดือนกี่ปี แต่ก็คงยังไงก็ได้ เพราะคงกว่าจะได้ไปอีกคงกี่นาน เฉลยไปที่อื่นบ้าง55555

    • govisa  On February 7, 2013 at 7:38 pm

      คุณ Lek เป็นคนเขียนหนังสือได้น่าอ่านมากค่ะ เห็นภาพเหตุการณ์และดูไม่น่ากลัวเลย ต้องขอขอบพระคุณอีกครั้งค่ะที่กรุณาให้ข้อมูลเป็นวิทยทานแก่ท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่านเพื่อเตรียมตัวไปขอวีซ่าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาค่ะ จะอย่างไรก็ตาม ขอให้คุณ Lek ไปเที่ยวกับครอบครัวให้สนุกและได้รับประสบการณ์ที่ดีๆกลับมาค่ะ

  • เจนิสา  On February 10, 2013 at 10:50 pm

    เรียน คุณ go visa คะ
    มีข้อสงสัยในการกรอกวีซ่า ขอคำปรึกษาดังนี้ คะ
    การกรอกวีซ่าแต่ละครั้งแต่ละคนนั้น แต่ละคนจะมีคำถามเดียวกัน เหมือนกันทุกคนมั้ยคะ
    เพราะเคยกรอกวีซ่าให้คุณน้าจะมีคำถามเรื่อง ชื่อบริษัท และธุรกิจที่ทำ , เคยถูกจ้างงานมาก่อนมั้ย ชื่อบริษัทจ้างงานเดิม ,ประวัติการศึกษา , กีภาษาที่เราพูดได้…….แต่….พอกรอกให้เพื่อน กลับไม่มีคำถามเรื่องประวัติการจ้างงานครั้งก่อน ประวัติการศึกษา หรือ กี่ภาษาที่เราพูดได้ ตรงจุดนี้ไม่ทราบว่าของเราผิดปกติหรือไม่คะ หรือมีข้อผิดพลาดที่เราต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ (คุณน้า อายุ 56 ปี มีธุรกิจส่วนตัว เคยทำงานบริษัทก่อนที่จะมาทำธุรกิจส่วนตัว และ การศึกษาจบวิศวช่างกล / ส่วนเพือน อายุ 49 ปี ยังเป็นพนักงานบริษัท ระดับหัวหน้าบริหารงาน )
    รบกวนด้วยค่ะ
    เจนิสา

    • govisa  On February 11, 2013 at 5:38 am

      น้องเจนิสาคะ อย่ากังวลไปเลยค่ะ หลายคนที่มีปัญหามแบบเดียวกับที่น้องกำลังเผชิญอยู่ ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยให้การกรอกฟอร์ม DS-160 เป็นไปตามแต่ละกรณีของแต่ละคนที่จะพบกับคำถามใดตามที่โปรแกรมเซ็ตไว้ค่ะ กรณีที่ไม่มีคำถามว่า เคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง หากท่านผู้นั้นเคยไปเที่ยวมาหลายแห่ง ให้ทำ resume แนบไปด้วยก็ได้ค่ะว่า ปี ค.ศ.ไหนไปเที่ยวประเทศอะไรมาบ้าง ส่วนเรื่องสถานที่เรียนอย่ากังวลไปเลยค่ะ เพราะขอโทษนะคะแต่ละท่านก็อายุพอสมควรแล้วคงไม่ได้ไปเรียนแล้ว ถ้ากงสุลจะถามว่า เคยเรียนจบมาจากที่ไหน ก็ให้ท่านทั้งสองเตรียมคำตอบไว้ค่ะ แต่พี่ไม่คิดว่า ท่านกงสุลจะซักถามเรื่องสถานที่จบการศึกษาในกรณณีนี้ค่ะ กงสุลท่านคงจะอยากซักถามว่า จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ไปนานเท่าไร มีงบประมาณเท่าไร พักกับใคร อะไรทำนองนี้มากกว่าค่ะ

  • เจนิสา  On February 11, 2013 at 9:22 am

    ขอบพระคุณมากๆๆ ค่ะ สำหรับคำปรึกษา คลายกังวลไปเยอะมากเลยค่ะ
    เจนิสา

    • govisa  On February 11, 2013 at 8:22 pm

      ยินดีค่ะน้องเจนิสา ขออวยพรให้ทั้งสองท่านผ่านวีซ่าค่ะ

  • patcharin  On February 11, 2013 at 11:37 am

    รบกวนถามกรอกชือผู้เป็น sponsor ผิด ค่ะ ทำไงดีคะ กรอก ds 160 ใหม่แล้วแนบไปกับ ใบเก่าใช่มั้ยคะ พรุ่งนี้จะไปสัมภาษณ์ แล้วค่ะ

    • govisa  On February 11, 2013 at 8:23 pm

      ใช่ค่ะน้อง Patcharin โชคดีนะคะ

  • หนิง  On February 12, 2013 at 7:00 am

    รบกวนขอคำแนะนำค่ะ คือว่าลูกชายเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสองและช่วงปิดภาคฤดูร้อนคุณน้าที่อยู่อเมริกาชวนไปเที่ยวและเยี่ยมคุณยายตอนปิดเทอม และได้ไปมาแล้วตอนปิดเทอมที่เรียนปีหนึ่งค่ะตอนนั้นขอวีซ่าได้สิบปีค่ะ ไม่ทราบว่าการไปครั้งนี้ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างคะและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

    • govisa  On February 12, 2013 at 9:23 pm

      น้องหนิงคะ วีซ่าลูกชายยังมีอายุการใช้งานอยู่ ลูกชายสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวได้เลยค่ะ แต่ถ้าลูกชายจะไปเรียนหนังสือ จึงค่อยติดต่อให้มีสถานที่เรียนตอบรับและขอวีซ่า F-1 เพื่อไปเรียนค่ะ ดังนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ลูกชายจะเข้าไปในอเมริกานะคะ ถ้าไปเที่ยวไม่ต้องทำอะไร ซื้อตั๋วเครื่องบินบินไปหาคุณน้าและคุณยายได้เลยค่ะ เพียงให้ลูกชายจดที่อยู่คุณน้าคุณยายและหมายเลขโทรศัพท์ไว้เพราะต้องกรอกในแบบฟอร์ม I-94 ตอนเข้าเมืองว่าจะไปพักที่ไหนค่ะ

  • shasha  On February 20, 2013 at 4:45 pm

    พี่คะ หนูอยากทราบว่า ถ้ากรอก DS-160แล้ว + จองวันสัมภาษณ์ไปแล้วด้วย
    แต่ตอนนี้แผนเปลี่ยน ใน DS บอกไปว่าจะไป Texas แต่จะเปลี่ยนเมืองเป็น Arizona แทน
    หนูต้องกรอกใบDSใหม่มั้ยคะ แล้วจองวันใหม่ด้วยหรือเปล่า

    • govisa  On February 20, 2013 at 8:57 pm

      น้อง Shasha คะ น้องไม่ได้บอกมาว่า น้องขอวีซ่าท่องเที่ยว (B-2) หรือน้องขอวีซ่าไปเรียนหนังสือ (F-1) นะคะ ถ้าขอวีซ่าไปเรียนหนังสือ น้องคงต้องเข้าไปกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่และ print DS-160 Confirmation Number ใบใหม่แนบไปกับใบเก่าด้วยค่ะ แต่ไม่ต้องจองวันนัดสัมภาษณ์ใหม่นะคะ ถ้าเป็นการขอวีซ่าท่องเที่ยว ไม่ต้องเข้าไปแก้ไข DS-160 ใหม่หรอกค่ะ เวลากงสุลสัมภาษณ์ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ให้น้องตอบรวมๆไปก็ได้ว่า มีแผนการไปเที่ยวทั้ง Texas และ Arizona ค่ะ ไม่ต้องจองวันนัดสัมภาษณ์ใหม่นะคะ วีซ่าไปเที่ยวส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานนานประมาณ 10 ปี เวลาจะเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ละครั้ง ไม่ต้องเข้าไปแจ้งสถานทูตสหรัฐฯที่กรุงเทพค่ะ ดังนั้นเมืองที่จะเข้าไปเที่ยวแต่ละครั้งอาจจะไม่เหมือนกับเมืองที่กรอกไว้ในฟอร์ม DS-160 ตอนขอวีซ่าได้ค่ะ

  • shasha  On February 20, 2013 at 5:20 pm

    คำถามที่2 นะคะ คือเพื่อนได้วีซ่าอเมริกามาตอนปีที่แล้ว ตอนนี้ยังมีอายุใช้งานอยู่ เมืองที่จะไป กับเมืองที่บอกไปใน DS 160 ไม่ตรงกัน สามารถเข้าประเทศได้ป่าวคะ

    • govisa  On February 20, 2013 at 9:03 pm

      ตอบบางส่วนไปในคำถามส่วนของน้อง Shasha แล้วนะคะ ดังนั้นถ้าเป็นกรณีวีซ่าไปเที่ยวของเพื่อนยังมีอายุอยู่ เพื่อนน้องสามารถเข้าประเทศได้ค่ะ ยกเว้นถ้าเพื่อนน้องได้เป็นวีซ่านักเรียน F-1 เมื่อปีที่แล้วอาจจะขอวีซ่านักเรียนไปเรียนภาษาช่วงปิดเทอมมีนาคม-เมษายนที่เมืองไทย และบังเอิญวีซ่านักเรียนยังมีอายุอยู่ แต่เพื่อนกลับมาลงทะเบียนเรียนตามปกติที่เมืองไทยเมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว กรณีนี้จะถือว่าอยู่นอกประเทศสหรัฐฯนานเกิน 5 เดือน ตามกฎหมายสหรัฐฯจะเข้าประเทศสหรัฐฯอีกครั้งไม่ได้ค่ะ ต้องติดต่อสถานที่เรียนให้ส่ง I-20 มาให้ใหม่ และขอวีซ่านักเรียนเข้าไปใหม่อีกครั้งค่ะ

  • shasha  On February 21, 2013 at 12:32 pm

    หนูขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะพี่ที่ช่วยตอบ
    ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะคะ ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ

    • govisa  On February 21, 2013 at 11:22 pm

      พี่ขออวยพรให้น้อง Shasha ผ่านการสอบสัมภาษณ์วีซ่าไปด้วยดีค่ะ เตรียมเอกสารไปให้ครบพร้อมเต็มที่นะคะ น้องแต่ละคนจะมีโอกาสคนละไม่กี่นาทีในการสอบสัมภาษณ์ ดังนั้น ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ตอบเสียงดังฟังชัด ยิ้มแย้มด้วยนะคะ และอย่าลืมเอกสารสำคัญๆ ยิ่งถ้าเป็นนักเรียนกำลังเรียนอยู่ที่เมืองไทย ให้ขอจดหมายรับรองจากสถานศึกษาพร้อม transcript เข้าไปด้วยนะคะ

  • shasha  On March 4, 2013 at 12:49 pm

    พี่คะ ถ้าจะเปลี่ยนจำนวนวันของการอยู่ที่อเมริกา จาก 2 เดือน เหลือแค่ 1 เดือน จะต้องเข้าไปแก้ใน DS-160 มั้ยคะ ( ได้วันสัมภาษณ์แล้วนะคะ)

    • govisa  On March 4, 2013 at 10:34 pm

      น้อง Shasha คะ ถ้าน้องคลิก send and submit DS-160 online ไปแล้วเข้าไปแก้ไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าน้องต้องการแก้ไขข้อมูลสามารถทำได้ด้วยการกรอก DS-160 ใหม่และ print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ไปยื่นคู่กับหมายเลขเก่าที่น้องใช้ในการนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วค่ะ

      ในความคิดเห็นของพี่ พี่คิดว่า กรณีที่น้องถามมา ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงไม่จำเป็นต้องถึงขั้นกรอก Ds-160 ใหม่ น้องสามารถเรียนท่านกงสุล(หากถูกถาม)ได้ว่า ตอนแรกน้องวางแผนจะไปเที่ยวประมาณ 7-8 อาทิตย์(ก็ 2 เดือนนะคะ) แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว เพราะน้องต้องกลับมาช่วยงานที่บ้าน หรือเพราะเจ้านายไม่อนุญาตให้น้องลางานนาน หรือเพราะต้องมาเตรียมงานรับน้องที่มหาวิทยาลัย แล้วแต่น้องจะให้เหตุผลตามสถานภาพของน้องในเวลาปัจจุบันนะคะ

  • Biw  On March 5, 2013 at 11:27 pm

    พี่คะ พอดีว่า หนูคอนเฟิร์มวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว และไม่สามารถแก้ไขการนัดได้ แต่หนูไม่สามารถไปตามวันนัดได้ แบบนี้หนูสามารถซื้อพินใหม่ได้เลยมั้ยค่ะ คืออยากทราบว่า เลข DS160 สามารถใช้กับPIN ใหม่ได้มั้ย หรือต้องรอให้พ้นวันนัดสัมภาษณ์ไปก่อน จึงซื้อ PIN ใหม่ได้

    • govisa  On March 6, 2013 at 5:33 am

      น้อง Biw คะ ถ้าไปตามนัดไม่ได้ให้น้องดูในนัดดวันสัมภาษณ์ว่า อนุญาตให้แก้ไขข้อมูลได้วันสุดท้ายคือวันอะไร ถ้ายังแก้ไขได้ทันอยู่ ให้น้อง log in ในเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์ delete วันนัดสัมภาษณ์เก่าก่อน แล้วจึงเลือกวันนัดสัมภาษณ์ใหม่ค่ะ พินที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์หลังจาก confirm วันนัดสัมภาษณ์แล้ว น้องยังมีสิทธิ์ใช้พินเดิมเปลี่ยนแปลงแก้ไขวันนัดสัมภาษณ์ได้อีก 2 ครั้งค่ะ ถ้ายังอยู่ในช่วงเวลาที่อนุญาตให้แก้ไขข้อมูลได้ค่ะ

      ส่วนกรณีที่เลยวันที่ที่อนุญาตให้แก้ไขวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว ให้น้องซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ กรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่หรือจะใช้อันเก่าก็ได้ค่ะ เพื่อความสะดวกและไม่ติดปัยหาใดๆ กรอก DS-160 ใหม่ไปเลยแล้วกันค่ะ และสิ่งที่ควรทำคือ เขียนอีเมล์ไปที่ visasbkk๑state.gov แจ้งว่า ไปตามนัดไม่ได้เพราะติดอะไรค่ะ (ตามมรรยาทแบบฝรั่งนะคะ)เวลาตั้งรหัส username และ password ในการนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ก็ต้องตั้งใหม่เพราะรหัสเดิมใช้ไม่ได้ค่ะ

  • nuch  On March 6, 2013 at 7:04 pm

    แก้เลขยืนยันวีซ่าไม่ได้คะ คลิกตรงช่องเดิมแล้วไม่สามารถแก้ได้ ต้องทำยังไงค่ะ

    • govisa  On March 6, 2013 at 8:58 pm

      น้อง nuch คะ น้องคงหมายถึง การแก้ไขหมายเลข DS-160 ในฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ใช่ไหมคะ ปัจจุบันแก้ไขไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าพี่จำเวลาไม่ผิดนะคะ จะแก้ไขหมายเลขยืนยัน DS -160 ที่แก้ไขด้วยการกรอกใหม่และได้หมายเลขใหม่นั้นมา จะนำหมายเลขใหม่ไปแก้ไขในแบบฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ไม่ได้มาปีกว่าแล้วค่ะ ทางกงสุลยินยอมให้ผู้ยื่นขอวีซ่ายื่นหมายเลขยืนยัน DS-160 ทั้งอันใหม่และอันเก่าในวันสอบสัมภาษณ์ได้ค่ะ ดังนั้นขอสรุปนะคะ น้อง print DS-160 อันใหม่ที่น้องกรอกเพื่อแก้ไขสิ่งที่กรอกผิดไปนั้นออกมาแล้วเอาไปยื่นพร้อมกับ DS-160 อันเก่าที่น้องใช้ในการนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

      • nuch  On March 9, 2013 at 1:23 pm

        ขอบคุณมากคะ โล่งใจหน่อย จะไปสัมภาษณ์วันที่12มีนา แล้วคะ สงสัยจะโดนเจ้าหน้าที่3ช่องแรกเหวี่ยงแน่ๆ เพราะเปลี่ยนข้อมูลวันเดินทางคะ อีกอย่างถ้าเจ้าหน้าที่ถามในดีเอสตัวเก่า น้องจำข้อมูลไม่ได้แล้วคะ เนื่องจากกรอกไปประมาน1เดือนแล้ว หวังว่าเจ้าหน้าที่คงไม่คีย์ข้อมูลอันเก่านะคะ ><"

      • govisa  On March 9, 2013 at 3:41 pm

        ตอบแล้วค่ะน้อง Nuch

  • กี้  On March 7, 2013 at 9:26 am

    พี่ค่ะ หนูนัดวันสัมภาษณ์แ้ล้วค่ะ แต่ไม่สามารถเข้าไปปริ้นท์แบบds160 อันเก่าได้เลย ทั้งๆที่ใส่นามสกุล5ตัวแรกกับปีไปถูก หนูเลยแก้ปัญหาโดยการทำds160ใหม่ ละอันใหม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเข้าได้ปริ้นท์ได้

    แต่ปัญหาคือว่า ใบนัดสัมภาษณ์ไม่สามารถแก้เลขds160อันเก่าได้ ซึ่งอยากจะอีเมล์ไป visasbkk@state.gov แต่ว่าเคยส่งไปถามเรื่องอื่นๆ2สัปดาห์แล้ว ก็ยังไม่ตอบกลับมาเลย ได้คิวนัดสัมภาษณ์วันที่21มีนานี้ เอกสารทุกอย่างครบแล้วอ่ะค่ะ ควรทำอย่างไรดีคะ

    รบกวนด้วยนะคะ
    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On March 7, 2013 at 8:34 pm

      น้องกี้คะ ขอโทษนะคะที่ตอบช้าค่ะ พี่ขอตอบทีละประเด็นในคำถามของน้องนะคะ
      1. คำถามแรกเกี่ยวกับการ print DS-160 อันเก่าไม่ได้เลยนั้น ตัว DS-160 ที่สามารถ print ได้หลังจากกรอกเสร็จแล้วจะมี 2 วลีให้เลือกคือ Print DS-160 Confirmation กับ Print DS-160 Application Form หากจะ print DS-160 Application Form จะ print ได้แค่ครั้งเดียว และจะมีตัวอัการสีแดงบอกว่าไม่ต้องนำเอกสารนี้เข้าไปในวันสัมภาษณ์ ไม่ได้ใช้ ผู้กรอกวีซ่ามักจะ print ออกมาเพื่อดูว่า ตัวเองกรอกอะไรไปบ้าง เวลาสัมภาษณ์กับกงสุลจะได้ตอบแบบเดียวกับที่กรอกไป ส่วน DS-160 Confirmation นั้นจะ print กี่ครั้งก็ได้ค่ะ ทีนี้น้องกี้หมายถึงอันไหนใน 2 แบบนี้ หรือทั้ง 2 อัน ถ้าเป็นทั้ง 2 อันใช้วิธีการคล้ายกับวิธี crop ถามเพื่อนที่เก่งเรื่อง photoshop ดูไหม และ copy ออกมาแล้วก็สั่ง print ออกมา น้องบางคนอาจจะแก้ไขด้วยการถ่ายรูปส่งเข้าไปในอีเมล์น้อง และ print ออกมา อย่างน้อยก้มีเอกสารไปยืนยันกับสถานทูตว่า หน้าตาอันเก่าเป็นแบบนี้ แต่ print เท่าไรก็ไม่ได้ค่ะ พี่คิดว่า กงสุลเข้าใจนะคะ ที่จำเป็นต้อง print ที่ต้อง print อันเก่าออกมาด้วย เพราะน้องใช้อันเก่าจองวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ
      2. น้องทำถูกต้องแล้วที่ print DS-160 อันใหม่ออกมาด้วยให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นในวันสัมภาษณ์
      3. ใบนัดสัมภาษณ์ไม่มีทางแก้ไข DS-160 Confirmation Number ได้แล้วถ้าน้องได้ยืนยันการจองวันนัดไปแล้วค่ะ ซึ่งในบล็อกที่พี่เขียน พี่ทำหมายเหตุไว้ว่า เมื่อก่อนนี้แก้ไขได้จริงๆ แต่ทว่าแบบฟอร์มได้รับการออกแบบใหม่ให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขหมายเลขยืนยัน DS-160 Confirmation ไม่ได้หากตกลงนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วค่ะ
      4. ช่วงนี้คนอาจจะขอวีซ่ากันมาก โดยเฉพาะน้องๆที่ไปโครงการต่างๆ เช่น Work and Travel, แลกเปลี่ยนนักเรียนมัธยม, Summer Program ยังไม่รวมนับพวกไปดูงาน, ประชุม, ไปเที่ยวและอื่นๆ จึงทำให้น้องอาจจะได้รับอีเมล์ตอบกลับมาช้าค่ะ

      ถ้าถามว่าต้องทำอะไรไหม ไม่ต้องทำอะไร เพราะน้องทำเสร็จทุกขั้นตอนแล้วค่ะ ทำใจให้สงบ เตรียมเอกสารให้ครบพร้อม จ่ายเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้วหรือยัง สำรวจทุกอย่างให้ดีๆค่ะ ยังมีเวลาเหลือ ให้เตรียมตัวฝึกพูดถาม-ตอบกับตัวเองว่า ถ้ากงสุลท่านถามแบบนี้ น้องจะตอบอย่างไร เป็นต้น เวลาฟังคำถาม ขอให้ตั้งใจฟังให้ดี บางทีเราจะได้ยินคำถามและคำตอบของคนอื่น ฟังเพลิน ทำให้เราขาดสมาธิฟังคำถามของตัวเอง เวลาตอบขอให้ตอบเสียงดัง พูดชัดเจน มี eye contact เวลาจะตอบคำถาม ขอให้น้องคิดก่อนตอบ ถ้าจะไปเที่ยวก็ควรจะรู้ว่ามีแผนการไปเที่ยวไหนบ้าง ถ้าจะไปเรียนก็ต้องรู้ตัวว่า ตัวเองสมัครโปรแกรมอะไรไป อย่าเผลอตอบไปว่า ให้คนนั้นคนนี้สมัครให้ เลยไม่รู้เรื่อง ตอบอย่างที่ยกตัวอย่างไปไม่ได้เป็นต้นค่ะ ถ้าไม่รู้ฏ้ให้ถามคนที่สมัครให้ว่า เขาติดต่ออะไรให้เรา ถ้าน้องไม่ได้อยู่ในเคสไปเรียนก็ขอโทษนะคะที่เขียนคลุมไปหมดเลย อาจจะทำให้เบื่อค่ะ

      ขอให้น้องโชคดีค่ะ

  • Florence  On March 8, 2013 at 1:38 pm

    ถ้าเลยวันที่ให้แก้ไขวันนัดสัมภาษณ์(7Mar)มาแล้ว ลองเข้าไปedit DS160 ในceac.state ยังทำได้อยู่อะค่ะ คือก่อนหน้านี้กรอกไม่เสร็จ อย่างงี้สถานทูตเค้าจะรับข้อมุลที่แก้หลัง7Mar มั้ยคะ คือจะโอเคมั้ยอะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On March 8, 2013 at 9:30 pm

      น้อง Florence คะ ถ้าน้องยังกรอกฟอร์ม DS-160 ไม่เสร็จ รีบกรอกให้เสร็จ และแก้ไขข้อมูลที่ผิดให้ถูก ทำให้เรียบร้อยนะคะ เพราะน้องจะต้อง print DS-160 Confirmation Number เพื่อนำไปยื่นที่สถานทูตในวันนัดสอบสัมภาษณ์ที่ 11 มีนาคมที่น้องนัดได้แล้วค่ะ

      • Florence  On March 9, 2013 at 10:37 pm

        ขอบคุณนะคะ

      • govisa  On March 9, 2013 at 11:46 pm

        โชคดีค่ะน้อง Florence ได้ผลวีซ่าเป็นอย่างไร เขียนมาให้อ่านกันบ้างนะคะ พี่เอาใจช่วยค่ะ

      • Florence  On March 21, 2013 at 4:01 pm

        สัมภาษณ์วันที่12มีนาค่ะ ได้passportวันที่13 ได้สิบปี(B2)ค่ะ ส่วนน้อง วีซ่าF-1ได้ห้าปี ดีใจๆ เค้าไม่ค่อยดูbank statementเลยค่ะ เปิดผ่านๆมาก

      • govisa  On March 21, 2013 at 8:49 pm

        ขอบคุณน้อง Florence ที่เขียนมาบอกผลการสัมภาษณ์นะคะ พอเล่าได้ไหมคะว่าท่านกงสุลถามคำถามอะไรบ้าง เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาอ่านท่านอื่นค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

      • Florence  On March 22, 2013 at 6:57 pm

        ของตัวเอง วีซ่าท่องเที่ยวถามประมาณ
        -ไปทำอะไร
        -เรียนโทอยู่ที่….หรอ
        -มีพี่สาวอยู่ที่เมกาหรอ
        ของน้อง ขอวีซ่า F1 ถาม
        -ไปเรียนที่ไหน
        -ไปวันไหน
        -ใครสปอนเซอร์

      • govisa  On March 22, 2013 at 9:12 pm

        ขอบคุณน้อง Florence อีกครั้งนะคะที่กลับมาช่วยแชร์ประสบการณ์ค่ะ พี่ขออวยพรให้น้องเดินทางถึงสหรัฐโดยปลอดภัยและท่องเที่ยวให้ได้รับความสนุกสนากลับมาค่ะ

      • Florence  On March 23, 2013 at 12:18 pm

        ขอบคุณค่ะ ^^

  • ฺBim  On March 8, 2013 at 9:00 pm

    ขอถามหน่อยค่ะ มันมีช่องว่าเคยไปอเมริกามาก่อนมั้ย ก็เคยไปแลกเปลี่ยนมา แล้วทีนี้จะขอวีซ่า 10 ปีอะค่ะ แล้วมันมีช่องให้ใส่เบอร์วีซ่าเก่า มันดูตรงไหนหรอคะ Control Number หรือว่าตัวเลขสีแดงๆที่วีซ่าเก่าอะค่ะ

    • govisa  On March 8, 2013 at 9:28 pm

      น้อง Bim คะ ดูที่ตัวเลขสีแดงตรงวีซ่าอันเก่าค่ะ

      • bim  On March 8, 2013 at 11:42 pm

        ขอบคุณค่ะ เจอแล้วค่ะ

      • govisa  On March 9, 2013 at 3:34 pm

        ดีใจด้วยค่ะน้อง Bim

  • golf  On March 9, 2013 at 1:15 am

    Backgroundนะคะ เรามีplanจะไปเที่ยวและเยี่ยมพี่สาว(ลูกของป้า)ที่อเมริกา ช่วงต้นพ.ค.ระยะเวลาประมาณ 2 weeks คนร่วมเดินทางมี 4 คน ได้แก่ 1.คุณป้า(มีวีซ่า10ปีแล้วค่ะ) 2.ลูกชายคุณป้า(มีครอบครัวแล้วที่เมืองไทย) 3.หลานชายคุณป้า อายุ11ขวบ(ลูกชายของลูกสาวป้าซึ่งอยู่ที่อเมริกา) 4.เราเอง (เป็นหลานสาวคุณป้าซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของแม่เรา)

    ซึ่งการขอวีซ่าของคนที่ 2-4 เราทำการกรอกเอกสารให้ทุกคนทั้งหมด
    แต่มีความกังวลบางประการ จึงขอสอบถามคุณ govisa ดังนี้ค่ะ

    1. ถ้าตรง U.S. Contact Information เราระบุชื่อและที่อยู่โรงแรม (แต่ยังไม่ได้จองนะคะ)
    แต่ในส่วน Family Information ตรง Do you have any other relatives in the United States? เราระบุว่า Yes.

    >> เวลาเจ้าหน้าที่ดูแล้ว ข้อมูลมันจะดูขัดแย้งกันไหมคะ หรือเราควรระบุชื่อและที่อยู่ของลูกสาวคุณป้าที่อยู่ในอเมริกาไปเลย ตอนแรกที่ใส่ข้อมูลโรงแรมไป เพราะกังวลเรื่องการมีญาติอยู่ที่นั่นจะทำให้การอนุมัติวีซ่ายากขึ้น เลยใส่ข้อมูลแบบข้างต้น เพื่อเจตนาว่ามีญาติอยู่จริง แต่จะไปพักที่โรงแรมใกล้ๆกับที่อยู่ของญาติ เพื่อสะดวกในการเดินทางมาหากันในช่วงweekendที่ญาติว่าง (ในส่่วน Travel Information เราระบุชื่อที่อยู่โรงแรมค่ะ)

    2. คุณป้าเป็นsponsorให้ทุกคนในทริปค่ะ ดังนั้น statement ของ sponsor สำหรับทุกคนในทริปนี้ควรมีประมาณเท่าไหร่ จึงจะดูเหมาะสมกับระยะเวลาการท่องเที่ยวในอเมริกา 2 weeks คะ planคร่าวๆ เราจะเที่ยวกันแค่ในละแวก Chicago ตลอดทริปค่ะ ส่วนมากคงเป็นทริปชมเมือง ชมตึก เข้าพิพิธภัณฑ์ พาหลานไปสวนสนุก และแวะshoppingนิดหน่อย

    >> ที่เราไม่sponsorตัวเองเพราะเราคิดว่าstatementเราไม่สวยค่ะ มีเงินคงเหลือน้อยมากๆๆๆๆๆๆแต่มีเงินเข้าบัญชีสม่ำเสมอทุกเดือน เพราะเป็นบัญชีเงินเดือนเข้าค่ะ แบบว่าเข้ามาแล้วออกไปตามภาษามนุษย์เงินเดือน พ่อและแม่ของเราก็sponsorให้เราไม่ได้ เพราะท่านไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินบำนาญค่ะ แบบว่าเงินเดือนเราคนเดียว ใช้กัน3คนพ่อแม่ลูก เราจึงมีเงินติดบัญชีไม่เยอะค่ะ แต่ที่คุณป้าชวนไปด้วย เพราะเราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ (เราทำงานกับบริษัทต่างชาติค่ะ เป็นระยะเวลา 7 ปีแล้ว ไม่เคยเปลี่ยนที่ทำงานหลังจากเรียนจบ) ซึ่งคนอื่นๆในทริป ไม่ถนัดภาษาอังกฤษกันเลยค่ะ

    3. เรากังวลแทนหลานเราค่ะ เนื่องจากเราระบุให้หลานว่าแม่ของหลานเราอยู่ที่อเมริกา เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะสันนิฐานว่าหลานเราจะไปอยู่กับแม่เค้าที่นู้น แต่พี่ชายเราไม่ค่อยห่วงเพราะเค้ามีภรรยาและลูกน้อยรออยู่ที่เมืองไทย ยังไงก็ต้องกลับมาดูแลครอบครัว พี่สะใภ้ไม่ไปเพราะต้องดูแลลูกน้อยค่ะ

    >> คำตอบที่เราเตรียมไว้ให้หลาน จะตอบประมาณว่า หลานเราอยู่กับคุณยาย(คุณป้าของเรา)มาตั้งแต่ยังเล็กๆ ติดยายมากกว่าแม่ และเที่ยวได้แค่ 2 weeks เพราะตัองกลับมาเรียนต่อที่ไทยในตอนเปิดเทอมกลางพ.ค.นี้ และที่ไม่ไปช่วงเม.ษ.เพราะสงกรานต์ต้องกลับไปรวมญาติที่ต่างจังหวัด เลยลงตัวกันที่ต้นเดือนพ.ค. อีกอย่างหลานเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ ยังไงเค้าคงเด็กเกินไปที่จะอยู่กับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่การไปเที่ยวครั้งนี้ เราเชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลานเราสนใจภาษาอังกฤษมากขึ้นค่ะ (เตรียมไว้ประมาณนี้โอเคไหมคะ)

    ระบายความกังวลใจซะเยอะเลย แหะๆๆ ยังไงรบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ เราเครียดเพราะเราเป็นคนกรอกเอกสารให้ทุกคน และอยากให้ทุกคนสัมภาษณ์ผ่านค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

    • govisa  On March 9, 2013 at 10:15 pm

      น้อง Golf คะ

      1. อย่ากังวลเรื่องการมีญาติมากเกินไปค่ะ ตอนกรอกฟอร์ม DS-160 น้องได้ระบุให้แม่ของหลานชายอยู่ที่อเมริกาไปแล้ว น้องพอทราบไหมคะว่า ลูกสาวคุณป้าอยู่ในอเมริกาแบบวีซ่าถาวร หรือวีซ่าชั่วคราว หลานชายหรือตัวน้องที่เข้าไปด้วยอาจจะถูกถามแบบลองหยั่งท่าทีดูค่ะ ดังนั้นน้องควรเตรียมทราบข้อมูลรายละเอียดของแม่เด็กว่า จะอธิบายกงสุลอย่างไรค่ะ และถูกต้องแล้วที่ลูกชายคุณป้าและน้องแจ้งว่ามีญาติอยู่ที่อเมริกาค่ะ

      2. คุณป้าเป็น sponsor ให้ทั้งตัวน้อง Golf ลูกชายคุณป้า และหลานคุณป้า ก็พอได้อยู่ พี่หวังว่า statement ของคุณป้าคงมียอดเงินคงเหลือมากพอที่จะอุปการะทั้งสามท่านนะคะ ทางที่ดีคุณป้าน่าจะมีเงินในบัญชีสักประมาณ 3 ล้านจะดูอุ่นใจมากเลยค่ะ แต่ถ้าถามว่า ค่าใช้จ่ายของแต่ละคนทั้งสามท่าน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางท่องเที่ยวและซื้อของช้อปปิ้งน่าจะตกราวประมาณ 200,000-300,000 บาทต่อ 1 ท่านผู้ใหญ่ ส่วนเด็กอาจจะถูกลงไปนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับว่า เด็กจะสนใจซื้อของเล่นไฮเทคด้วยไหมนะคะ

      อย่างไรก็ตาม พี่ขอเสริมว่า statement ของลูกชายคุณป้าและของตัวน้องก็ยังเป็นสิ่งที่ควรจะต้องนำติดตัวไปแสดงด้วยค่ะ ถ้าบุ๊คน้อง Golf มีประมาณ 300,000 บาท ก็จะดูดีกว่าไม่มีบุ๊คไปแสดงค่ะ เพราะการที่น้อง Golf บอกว่า น้องทำงานกับบริษัทต่างชาติมานาน 7 ปีแล้ว ดูเป็นหลักฐานทางการงานที่ดีนะคะ ตัวน้องเองต้องมีจดหมายรับรองการทำงานจากบริษัท ซึ่งในตัวจดหมายจะระบุตำแหน่งงาน เงินเดือน และวันแรกที่น้องเริ่มเข้าทำงาน ถ้ากงสุลท่านขอดูสมุดบัญชีเงินฝากของน้อง จะบอกว่าไม่มีเงินเก็บเลย ก็ดูแปลกๆอยู่นะคะ กงสุลอาจจะมองภาพประมาณว่า (ขอโทษนะคะ) น้องคงเป็นคนไม่ค่อยรับผิดชอบ ไม่ได้วางแผนอนาคตไว้ จึงไม่เคยเก็บเงินไว้ในใช้ในกรณีฉุกเฉินเลยค่ะ ส่วนลูกชายของป้าถ้าไม่นำบุีคไปแสดงก็คงคล้ายๆกันกับกรณีของน้อง คือ ลูกชายของป้าจะสามารถดูแลครอบครัวที่กำลังก่อร่างสร้างตัวได้ไหม พี่เห็นน้องบอกว่า ภรรยาและลูกของลูกชายคุณป้าไม่ได้ไปเที่ยวอเมริกาด้วย รออยู่ที่เมืองไทย ดังนั้นพี่ชายจึงอาจจะดูมั่นใจว่า กงสูลน่าจะไว้วางใจว่า พี่ชายมีคนที่เป็นที่รักรออยู่ที่เมืองไทย แต่ในความคิดเห็นของพี่ พี่ชายควรมีหลักฐานการทำงานเพื่อชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้และบุ๊คบัญชีเงินฝากด้วย เพราะพี่ชายก็อายุพอสมควร มีครอบครัวและลูกแล้วค่ะ

      3. อย่ากังวลเรื่องหลานเลยค่ะ เราสามารถให้เหตุผลได้ว่า แม่เด็กไปทำอะไรที่อเมริกาค่ะ ถ้าแต่งงานมีครอบครัวใหม่ น้อง Golf อาจจะให้เหตุผลว่า แม่เด็กมีลูกใหม่และลูกใหม่ยังเล็กอยู่ แม่เด็กทำงานด้วย ดูแลเด็กหลายคนไม่ไหว จึงให้ลูกที่มีกับสามีเก่าอยู่ในความอุปการะของคุณยายไปค่ะ หรือจะให้เหตุผลตามวิธีการที่น้องบอกมาก็ได้ค่ะ

      พี่แนะนำให้ถ่ายเอกสารหนังสือเดินทางและวีซ่าคุณป้าติดไปด้วย หากมีรายะเอียดการเดินทางและ/เที่ยวบินแนบไปด้วยสำหรับเคสนี้ ปกติพี่ไม่เคยแจ้งว่า จะต้องใช้รายละเอียดเกี่ยวกับเที่ยวบินแต่ครั้งนี้แนะนำ เพราะน่าจะเป็นหลักฐานที่ช่วยเสริมกันได้ดีค่ะ ส่วนหลานชายอย่าลืมนำผลการเรียนหรือ transcript จากโรงเรียนแนบไปด้วยพร้อมทั้งจดหมายรับรองความเป็นนักเรียนจากโรงเรียนค่ะ โรงเรียนหลานชายเปิดเทอมเมื่อไหร่ เป็นข้อมูลที่หลานชายและตัวน้อง Golf ต้องทราบนะคะ การสัมภาษณ์เด็กที่อายุน้อย สถานทูตอนุญาตให้ผูปกครองเข้าไปได้ด้วย ดังนั้นน้องจะทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองเด็ก แม่หลานชายที่อเมริกาอาจจะมีจดหมายชี้แจงมาด้วยก็ได้ว่า ต้องการให้ลูกชายบินไปเยี่ยมโดยจะไปพร้อมคุณป้าชื่อ…. พี่ชายชื่อ…. และลูกพี่ลูกน้องชื่อ….เพื่อพาลูกชายไปเที่ยว 2 สัปดาห์ก่อนโรงเรียนลูกชายในเมืองไทยเปิดเรียนค่ะ

      ได้ผลวีซ่าเป็นอย่างไร เขียนมาแชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันบ้างนะคะ ขอให้โชคดีกันทั้งสามคนค่ะ

  • nuch  On March 9, 2013 at 12:10 pm

    ขอบคุณมากคะ โล่งใจหน่อย จะไปสัมภาษณ์วันที่12มีนา แล้วคะ สงสัยจะโดนเจ้าหน้าที่3ช่องแรกเหวี่ยงแน่ๆ เพราะเปลี่ยนข้อมูลวันเดินทางคะ อีกอย่างถ้าเจ้าหน้าที่ถามในดีเอสตัวเก่า น้องจำข้อมูลไม่ได้แล้วคะ เนื่องจากกรอกไปประมาน1เดือนแล้ว หวังว่าเจ้าหน้าที่คงไม่คีย์ข้อมูลอันเก่านะคะ ><"

    • govisa  On March 9, 2013 at 3:41 pm

      น้อง Nuch คะ เวลาสอบสัมภาษณ์เป็นช่วงหนึ่งที่เราจะถูกทดสอบปฏิภาณไหวพริบของเราด้วยค่ะ กรณีเปลี่ยนวันเดินทางเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ น้องอาจชี้แจงได้หลายอย่าง เช่น ตั๋ววันเดินทางเก่าจองไม่ได้ที่นั่ง เลยต้องเปลี่ยนวันเดินทาง หรือ บังเอิญยังเคลียร์งานที่ที่ทำงานไม่เสร็จ เจ้านายให้เลื่อนการเดินทางออกไป เป็นต้นค่ะ ทางพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า ขอให้รักษาสติคิดให้ดีๆเวลาตอบคำถามนะคะ โชคดีค่ะ

  • sue  On March 28, 2013 at 5:43 pm

    อยากทราบแบบฟอร์ม DS-160 เสร็จแล้ว แต่ไม่มีให้ upload รูปเลย แต่ได้ save จนได้ Application ID แล้ว รูป test แล้ว OK ใช้ได้ จะทำอย่างไรถึงจะ upload รูปเข้าไปได้ค่ะ หรือจะต้อง กรอกแบบฟอร์ม DS-160 ใหม่เพื่อได้ Application ID ใหม่ เพราะยังไม่ได้ submit ค่ะ จะได้หรือไหมค่ะ ช่วยตอบด้วย

    • govisa  On March 28, 2013 at 9:11 pm

      น้อง Sue คะ ปกติหลังจากการตอบคำถามในเรื่อง Security ที่เป็นข้อๆมีคำตอบ yes or no ให้เลือก พอหมดจากชุดคำถามทั้ง 5 ชุดดังกล่าว จะมีไอคอน next photo ให้เลือก เมื่อน้องเลือก next photo จะมีคำว่า upload photo คลิกที่ upload จะได้คำว่า browse เลือกรูปภาพที่จะ upload แล้วคลิกยืนยันว่าจะใช้รูปนี้ค่ะ

      พี่แนะนำให้น้องจะลองกรอก DS-160 ใหม่ดูอีกครั้งก็ได้นะคะ

      ถ้า upload รูปไม่ได้จริงๆ หลังจาก คลิกยืนยันว่าจะ submit DS-160 ตรงที่เป็นกรอบรูปจะมีภาพกากบาทว่า น้อง upload รูปไม่ได้ น้องจึงค่อยถือรูปเข้าไปที่สถานทุตด้วย 1 ใบในวันไปสอบสัมภาษณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีรูปหน้าน้องที่จะสแกนใส่ในหนังสือเดินทางเมื่อวีซ่าผ่านแล้วค่ะ อย่างไรก็ตาม อยากให้น้องลองพยายามให้ถึงที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจว่า ทำม่ได้จริงๆค่ะ

      • sue  On March 29, 2013 at 9:57 am

        ขอบคุณมากค่ะ คำถามคือ ตอนนี้แม้จะได้ AppLication ID no แล้ว ก็สามารถเริ่มกรอก DS-160 ใหม่ในชื่อเดิมและข้อมูลเดิม แล้วจะได้ AppLication ID no code ใหม่ก็ไม่เป็นไรใช่ไม่ค่ะ จะได้เริ่มต้องกรอกใหม่เพื่อได้ AppLication ID no code ใหม่ ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะค่ะ

      • govisa  On March 29, 2013 at 8:57 pm

        น้อง Sue คะ น้องสามารถกรอก DS-160 กี่ครั้งก็ได้ค่ะตราบใดที่ยังไม่ได้เข้าไปจองวันนัดสัมภาษณ์ แต่โดยทั่วไปแล้วเราจะพยายามกรอกให้สมบูรณ์แค่ครั้งเดียว ยกเว้นว่ากด Submit ไปแล้วพบข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง เช่น สะกดชื่อนามสกุลผิด หรืกกรอกหมายเลขหนังสือเดินทางผิด เราจะต้องเข้าไปกรอก DS-160 เพื่อแก้ไขใหม่ให้ถูกต้องค่ะ จึงค่อยนำหมายเลขยืนยัน DS-160 หมายเลขที่แก้ไขถูกต้องแล้วไปทำการนัดวันสัมภาษณ์ แต่ถ้ามาพบความผิดพลาดภายหลังจากทำการจองนัดวันสัมภาษณ์ได้เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องกรอก DS-160 ใหม่ และให้น้องนำ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์ และหมายเลขที่กรอกเพื่อแก้ไขข้อความให้ถูกต้องไปด้วยทั้งสองหมายเลขในวันไปสอบสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ

      • sue  On March 29, 2013 at 10:15 am

        เรียนคุณพี่ GoVisa
        อยากทราบว่าหลังจากกด Submit ไปแล้วจะให้เรา upload รูปอีกหรือเปล่าค่ะ
        เพราะตอบคำถามในเรื่อง Security ที่เป็นข้อๆมีคำตอบ yes or no ให้เลือก พอหมดจากชุดคำถามทั้ง 5 ชุดดังกล่าว จะไม่มีไอคอน next photo ให้เลือกเลยค่ะ มีแต่ให้ submit เท่านั้นค่ะ

      • govisa  On March 29, 2013 at 9:17 pm

        น้อง Sue ไม่สามารถ upload รูปได้หลังจากกด submit ไปแล้วค่ะ ตอนเริ่มต้นหน้าที่จะกรอก DS-160 เมื่อน้องเลือกเมืองกรุงเทพกับประเทศไทยให้กด start application form จะมี Application ID กับคำถามที่จะใช้เป็นรหัสลับที่น้องสามารถเลือกได้ 1 คำถามจากหลายๆคำถาม คำถามที่เลือกนี้จะไปใช้อีกครั้งตอนน้องกรอกไปแล้วหยุดกรอก save ไว้แล้ว วันหลังจะกลับมากรอกอีกครั้ง น้องจะเข้าไปที่จุดเริ่มต้นกรอก DS-160 ใหม่และคลิกคำว่า retrieve application form มีน้องบางคนเคยถามว่า upload รูปก่อนกรอกข้อมูลใช่ไหม คำตอบคือไม่ใช่นะคะ ต้องกรอกข้อมูลให้เสร็จก่อน แล้วจึงจะไปพบกับคำว่า next photo ได้ค่ะ ลองเข้าไปกรอกใหม่ดูอีกครั้งนะคะ

  • sue  On March 30, 2013 at 9:55 am

    สวัสดีค่ะพี่ Govisa ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความกระจ่าง สรุปว่าเราสามารถ key เริ่มต้นใหม่เพื่อรับ Application ID no ใหม่ที่รับมีข้อมูลและรูปทุกอย่างที่สมบูรณ์แล้ว แล้วค่อย Submit

    ส่วน Application ID noเก่า ปล่อยไว้อย่างนั้น แล้วระบบจะลบออกให้ไหมค่ะ Application ID noเก่า ที่ยังไม่ submit ไม่มีผลอะไรในการขอ VISA ใช่หรือเปล่าค่ะ

    ขอบคุณมากนะค่ะ ที่รบกวนค่ะ

    • govisa  On March 30, 2013 at 8:51 pm

      น้อง Sue คะ ที่น้องเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ อย่ากังวลกับ Application ID เก่า ทิ้งไปได้เลยค่ะ กงสุลท่านจะดูเฉพาะอันที่น้องเลือกแล้วว่า ถูกต้องและน้องนำหมายเลข DS-160 อันนั้นไปใช้ทำการนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

      ส่วนผลผลของวีซ่า น่าจะอยู่ที่หลักการใหญ่ๆคือ การเตรียมพร้อมในเรื่องของเอกสารที่จะนำไปยื่นขิวีซ่า การมีแผนการเดินทางหรือวัตุประสงค์ที่จะเข้าไปในสหรัฐฯที่ชัดเจน การเงินที่พร้อม และการเตรียมตัวในการตอบคำถามให้กงสุลท่านมั่นใจว่า เมื่อน้องเสร็จกิจธุระของน้องในการเข้าไปในประเทศสหรัฐฯแล้ว น้องต้องกลับมาที่ประเทศไทยเท่านั้นเองค่ะ โชคดีนะคะ

  • sue  On March 31, 2013 at 11:38 am

    สวัสดีคะพี่Govisa

    ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ ที่ให้คำแนะนำค่ะ

    • govisa  On March 31, 2013 at 8:23 pm

      ถ้าน้อง Sue upload รูปได้สำเร็จแล้ว ส่งข่าวกีนนิดหนึ่งนะคะ พี่เป็นห่วงกลัวน้องจะยัง upload รูปไม่ได้ค่ะ

  • ying  On April 6, 2013 at 3:35 pm

    สวัสดีค่ะ หากกรอก passport เก่าที่หมดอายุไป และจองสำภาษ เราจะสามารถเข้าไปแก้ไข SD-160 ใหม่หลังจากที่ได้ passpst เล่มใหม่ได้ไหมค่ะ

    • govisa  On April 7, 2013 at 11:39 pm

      น้อง Ying คะ แก้ไข DS-160 ไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าน้องทำการยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ วิธีแก้ไขคือ ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่แล้ว print DS-160 Confirmation ใหม่ พร้อมทั้งถือ DS-160 ทั้งหมายเลขเก่าที่ใช้ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์และหมายเลขใหม่เข้าไปในสถานทูตสหรัฐฯในวันไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • Tan  On April 15, 2013 at 12:10 am

    คุณgovisaคะ คือตอนนี้อยากกลับไปแก้ไขวันเดินทางในds-160ค่ะ แต่ไม่ทราบว่าควรจะ Start an application หรือ Retrieve an applicationดี เพราะได้เข้าไปล็อคอินในหน้าจองวันนัดแล้ว ถึงแม้ยังไม่ได้เลือกวันนัด แต่ช่องให้กรอก ds-160 ก็ไม่สามารถแก้ได้แล้วอะค่ะ

    • govisa  On April 15, 2013 at 3:06 pm

      น้อง Tan คะ เรื่องวันเดินทางเป็นแค่การคะเนคร่าวๆว่า เราวางแผนจะเดินทางประมาณวันที่นี้ แต่พอได้วีซ่ามาแล้ว อาจจะมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเลื่อนวันเดินทางช้าออกไปหรือเร็วขึ้นก็ได้ค่ะ วันเดินทางจึงไม่ใช่เรื่องซีเรียสมาก ไม่มีคำว่าผิดไม่ต้องแก้ไขก็ได้ค่ะ

      ส่วนคำถามที่น้องเข้าไปแก้ไขวันที่เดินทางไม่ได้เพราะเมื่อยืนยันการส่ง DS-160 online จนได้ DS-160 Confirmation Number มาแล้ว และยืนยันวันนัดสัมภาษณ์แล้ว หมายความว่า น้องจะเข้าไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าน้อง Tan ต้องการแก้ไขวันเดินทางอย่างที่ถามมา ให้น้อง Tan กรอก DS-160 ใหม่และ print DS-160 Confirmation number หมายเลขใหม่ออกมา วันสัมภาษณ์ให้น้องถือ DS-160 ทั้งหมายเลขเก่าและใหม่เข้าไปด้วยค่ะ

  • ปราง  On April 16, 2013 at 12:49 am

    สวัสดีค่ะพี่ Govisa
    คือจะไปเรียนโทที่มหาลัยนึง ตอนนี้ได้ I-20 มาแล้ว วันที่เริ่มเป็นวันที่ 30 ส.ค.
    แต่เพิ่งสมัครเรียนภาษาของมหาลัยเดียวกันไป โดยจะเริ่มเรียนที่วัน 2 ก.ค.
    แบบนี้ต้องขอ I-20 ใบใหม่ใช่ไหมค่ะ เพราะเท่าที่หาข้อมูลมา คือเราจะสามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้แค่ 30 วันก่อนวันที่ใน I-20

    อีกอย่างคือกรอก DS 160 ไปแล้ว โดยใช้เลข SEVIS ID ของที่เรียนโทไป
    แบบนี้จะมีผลอะไรไหมค่ะ หรือว่าต้องเข้าไปกรอก DS 160 ใหม่เลย

    • ปราง  On April 16, 2013 at 12:59 am

      อ๋อ อีกคำถามค่ะ
      คือถ้ามีวีซ่า B2 อยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยได้ใช้งานเลยค่ะ พอดีเปลี่ยนแผนซะก่อน
      แบบนี้จะโดนยกเลิกของเก่าไปด้วยไหมค่ะ
      คือเสียดายทั้งวีซ่า 10 ปี และค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปอ่ะค่ะ

      • govisa  On April 16, 2013 at 2:28 pm

        สำหรับคำถามเรื่องวีซ่าท่องเที่ยวของน้องปรางที่ยังมีอายุการใช้งานอยู่นั้น น้องปรางไม่ต้องเป็นกังวล ช่วงที่น้องเข้าไปเรียนหนังสือ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะดูจากหลักฐานที่น้องใช้ยื่นว่า น้องเข้ามาในประเทศสหรัฐฯเพื่อมาทำอะไร ถ้าน้องเข้าไปเรียนหนังสือ น้องแสดง I-20 พร้อมกับ F-1 visa ในหนังสือเดินทางเท่านั้นก้จะทำให้น้องอยู่ในสหรัฐฯในฐานะนักศึกษาต่างชาติได้ ส่วนวีซ่านักท่องเที่ยว B-2 จะอยู่ในสภาพไม่ได้ใช้แต่ไม่ได้ถูกยกเลิก หากน้องปรางเรียนจบและวีซ่าท่องเที่ยว B-2 ยังมีอายุการใช้งานเหลืออยู่ เมื่อน้องกลับมาเมืองไทย และจะต้องการกลับเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศศหรัฐฯอีก น้องปรางสามารถใช้วีซ่าท่องเที่ยว B-2 อันเดิมได้ค่ะ

    • govisa  On April 16, 2013 at 2:18 pm

      น้องปรางคะ มหาวิทยาลัยที่รับน้องเข้าเรียนต่อปริญญาโทกับที่เรียนภาษาเป็นที่เดียวกัน ดังนั้นให้น้องแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับน้องเข้าเรียนภาษาด้วยว่า น้องได้จดหมายตอบรับเข้าเรียนต่อปริญญาโทด้านอะไรจากมหาวิทยาลัยชื่อเดียวกัน ขณะเดียวกันให้น้องแจ้งทางอีเมล์ไปที่ Graduate school ที่ตอบรับน้องเข้าเรียนต่อปริญญาโทด้วยว่า น้องได้สมัครไปเรียนภาษาก่อนล่วงหน้า 1 เดือนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมทางภาษาก่อนเข้าเรียนต่อปริญญาโท เพราะทางมหาวิทยาลัยที่รับน้องเข้าเรียนจะได้กรอกข้อมูลเพิ่มเติมของน้องเพื่อรายงานให้ Homeland Security Department ทราบ และน้องก็จะใช้หมายเลข Sevis I-901 หมายเลขเดียวกันกับที่น้องได้ใช้หมายเลขดังกล่าวกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ไปแล้วค่ะ ส่วน I-20 ที่จะใช้ในการเดินทางเข้าประเทศ ก็คือ I-20 ของที่เรียนภาษาเพื่อให้เข้ากฎที่กำหนดว่า น้องจะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯได้ล่วงหน้าก่อนเปิดเรียนไม่เกิน 30 วันค่ะ

      อย่างไรก็ตาม มีบางสถานศึกษาในประเทศสหรัฐฯ ที่อาจจะขอให้ผู้เรียนส่ง I-20 ที่รับเข้าเรียนต่อปริญญาโทกลับไปเพื่อเปลี่ยนเนื้อหาใน I-20 เป็นรับเข้าเรียนภาษาและปริญญาโท กฎนี้ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละมหาวิทยาลัย ดังนั้น ให้น้องปรางเขียนอีเมล์ไปสอบถามมหาวิทยาลัยทั้งในส่วนของหน่วยงานที่รับเข้าเรียนต่อปริญญาโท และหน่วยงานที่รับเข้าเรียนภาษาค่ะเพื่อให้ทั้งสองแห่งรับรู้ว่า น้องปรางจะเข้าประเทศไปเรียนเดือนไหน และเริ่มเรียนอะไรก่อน ที่พี่แนะนำให้เขียนอีเมล์ถึง 2 หน่วยงาน หรือจะใช้วิธีการ CC อีเมล์ด้วยก็ได้นั้น เพราะเท่าที่เคยทราบมาคือ ฝรั่งเค้าจะไม่ทำเรื่องให้ ถ้าเค้าไม่ได้รับการติดต่อจากผู้เรียน และการที่น้องจะไหว้วานให้ฝรั่งแจ้งเรื่องของน้องไปที่อีกหน่วยงานหนึ่ง เช่น บอกให้เจ้าหน้าที่ที่เรียนภาษาแจ้งไปที่ Graduate School ให้หน่อย ส่วนใหญ่แล้วเค้าก็จะไม่ทำกัน ยกเว้นบางแห่งที่อาจจะทำให้ค่ะ

      • ปราง  On April 16, 2013 at 2:35 pm

        ขอบคุณค่ะ พี่govisa
        เดี๋ยวปรางส่งเมล์ไปคุยกับทางมหาลัยดูค่ะ

        ส่วน DS160 ยังไงก็คงต้องทำใหม่อยู่ดีใช่ไหมค่ะอยู่ดี เพราะวันที่ที่กรแกไปมันผิดอ่ะค่ะ
        แบบนี้เราก็แค่ปริ้นท์หน้าคอนเฟิมเลขอันใหม่และวันเก่าไปในวันสัมภาษณ์ใช่ไหมค่ะ

        ขอถามอีกเรื่องนึงนะคะ
        ถ้าปรางมีวีซ่าท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยไปอเมริกาสักครั้งเลย
        แบบนี้วีซ่าเที่ยวของปรางจะถูกยกเลิกไปไหมค่ะ

      • govisa  On April 16, 2013 at 3:05 pm

        น้องปรางคะ ถ้าวันที่กรอกในฟอร์ม DS-160 ครั้งแรก น้องหมายถึงวันที่ที่จะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ โดยยึดจากวันที่ที่น้องมีสิทธิ์เข้าประเทศได้ก่อนล่วงหน้า 30 วันตามวันเปิดเรียนที่ระบุใน I-20 ซึ่งอาจจะหมายถึงน้องกรอกวันที่เดินทางใน DS-160 เป็นวันที่ในตอนปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคมก็ตาม หากได้ I-20 ของที่เรียนภาษาที่ระบุวันเปิดเรียนเป็นต้นกรกฎาคม ซึ่งก็หมายความว่า น้องอาจจะต้องการระบุวันที่ที่จะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯเป็นวันทีในตอนกลางเดือนหรือปลายเดือนมิถุนายน ถ้าเป็นเช่นนั้น น้องควรกรอก DS-160 อีกครั้ง และนำหมายเลข DS-160 ทั้งใหม่และเก่าไปแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม หากน้องยังไม่ได้นำ DS-160 Confirmation Number หมายเลขเก่าไปใช้ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ น้องปรางก็ไม่มีความจำเป็นต้องถือ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่ไป ให้น้องปรางเลือก DS-160 Confirmation อันใหม่ที่กรอกถูกต้องแล้ว และที่น้องจะใช้เข้าไปจองวันนัดสัมภาษณ์หมายเลขนั้นไปหมายเลขเดียวพอในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • Tan  On April 16, 2013 at 2:23 am

    ขอบคุณมากค่ะ ยังไงคิดว่าควรแก้ไขเพราะเขียนเดินทางเดือน พค แต่วันนัดสัมภาษณ์ เดือน มิย อะค่ะ

    • govisa  On April 16, 2013 at 2:53 pm

      ขอบคุณที่น้อง Tan เขียนมาบอกค่ะ ทางเลือกถ้าไม่อยากกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่
      1. น้องสามารถให้เหตุผลท่านกงสุลได้ว่า ตอนกรอกฟอร์มวีซ่า วางแผนจะเดินทางเดือนพฤษภาคม แต่ตอนจองวันนัดสัมภาษณ์ไม่มีคิวเดือนพฤษภาคมว่างเลย ทำให้ต้องคลิกเลือกวันนัดสัมภาษณ์เป็นดือนมิถุนายนแทน แต่ถ้าเหตุการณ์ไม่อำนวยให้กับเหตุผลนี้ เพราะคิวเดือนพฤษภาคมยังมีวันว่างอยู่ น้อง Tan กรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ไปแล้วกันค่ะ จะได้วันที่จะเดินทางไม่ลักหลั่นกับวันสัมภาษณ์
      2. สารภาพกับท่านกงสุลไปว่า ตอนกรอกฟอร์มคิดวางแผนไว้ว่า จะเดินทางตอนพฤษภาคม แต่ตอนจองวันนัดสัมภาษณ์เกิดเหตุสุดวิสัย ลืมเรื่องที่กรอก DS-160 ไป คลิกเลือกวันที่น้องว่างที่จะขอลางานไปขอสัมภาษณ์วีซ่าได้ จึงทำให้วันเดินทางกับวันนัดสัมภาษณ์ดูไม่มีความสมเหตุสมผลค่ะ
      โชคดีนะคะน้อง Tan เขียนมาบอกด้วยนะคะว่า ผลสัมภาษณ์เป็นอย่างไรบ้าง น้องเจอคำถามอะไรบ้างค่ะ

  • ปราง  On April 16, 2013 at 2:40 pm

    หนูเพิ่งเห็นว่าพี่ตอบเรื่องวีซ่าเที่ยวมาแล้ว
    ขอโทษที่ถามซ้ำค่ะ (>/|\<)

    • govisa  On April 16, 2013 at 3:07 pm

      ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ค่ะน้องปราง ได้วีซ่าแล้วเขียนมาแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นที่เข้ามาอ่านได้รับความรู้ด้วยนะคะ พี่ขอบคุณน้องล่วงหน้าค่ะ ขอให้น้องโชคดีค่ะ

  • jane  On April 17, 2013 at 10:24 am

    ขอสอบถามว่า หากมีอาชีพเป็นแม่บ้าน ไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาพร้อมสามี จะได้สัมภาษณ์พร้อมกันหรือป่าวค่ะ และเอกสารทางการเงินใช้ชุดเดียวกันได้หรือป่าวค่ะ

    • govisa  On April 17, 2013 at 10:14 pm

      น้อง Jane คะ ถ้าน้องนัดสัมภาษณ์โดยใช้พินเดียวกันจองวันนัดสัมภาษณ์ก็จะได้เข้าไปพร้อมกันค่ะ และสามารถใช้เอกสารทางการเงินชุดเดียวกันได้ หลักสำคัญคือ ขอให้ยอดเงินในบัญชีธนาคารดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้คนสองคนสามารถดำเนินชีวิตได้โดยไม่มีปัญหาตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการขอวีซ่า เช่น หากขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยว วางแผนไปเที่ยวด้วยกันสองอาทิตย์ ยอดเงินในบัญชีสามารถที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าท่องเที่ยวในสหรัฐฯเป็นเวลา 2 อาทิตย์ได้อย่างสบายๆ ก็จำทำให้น้องไม่มีปัญหาในการขอวีซ่าค่ะ

  • Nam  On April 17, 2013 at 11:41 pm

    สวัสดีค่ะ รบกวนปรึกษาดังนี้ นะคะ
    อายุ 42 ปีค่ะ มีสามีซึ่งไม่ได้จดทะเบียนกัน ไม่มีบุตร เรามีอาชีพค้าขายอาหารตามสั่ง แต่เราเิปิดร้านเป็นกิจ มีหลักแหล่งนะคะ แต่ไม่ได้จดทะเบียนการค้าใดๆ เคยยื่นเรื่องขอวีซ่ามา 1 ครั้ง จะเดินทางไปกับคุณแม่ซึ่งมีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้ว 10 ปี และคุณแม่ออกค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางให้เราด้วย แต่ครั้งนั้นเรายังยื่นไม่ผ่าน เหตุผลคือหน้าหนังสือเดินทางของเรายังไม่เคยเดินทางไปที่ใดๆเลย กงสุลท่านบอกว่าให้ไปเที่ยวใกล้ๆแถวบ้านเราก่อนแล้วค่อยมายื่นขอวีซ่าอีกครั้ง ..ซึ่งครั้งนี้ต้องการยื่นวีซ่าท่องเที่ยว และถือโอกาสเยี่ยมญาติด้วยอีกครั้ง พร้อมคุณแม่ แต่วีซ่าของคุณแม่ที่มีอยู่ 10 ปีก็ได้หมดอายุแล้ว
    คำำถามคือ
    1 .เราควรเขียนอธิบายอาชีพเราอย่างไรดี จึงจะเป็นคำตอบที่เหมาะสม และน่า เชื่อถือคะ เนื่องจากสมุดเงินฝากตัวเลขที่เป็นรายรับไม่ค่อยแน่นอน และไม่สวย แต่มีเงินเก็บนะคะ ในส่วนตัวคิดว่าเงินของคุณแม่ที่มีอยู่เพียงพอที่จะสนับสนุนการเดินทางของเราในครั้งนีี้้้ด้วย
    2. ตอนกรอกวีซ่าให้คุณแม่ ตรงที่ถามหมายเลขวีซ่าครั้งก่อน คอมฯรับหมายเลขที่เราป้อนได้ไม่ทั้งหมดค่ะ เช่น Visa Number : 200017401300 09 เราใส่ 09 ไม่ได้ค่ะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
    ขอบพระคุณมาล่วงหน้าค่ะ
    น้ำ

    • govisa  On April 18, 2013 at 5:42 am

      น้อง Nam คะ การถุกปฏิเสธครั้งที่ 1 จะส่งผลให้การเตรียมการขอวีซ่าครั้งที่ 2 ในเรื่องเอกสารต้องมีความหนักแน่นและมีความสมเหตุสมผลพอควรทีเดียวแม้ว่า ท่านกงสุลที่ปฏิเสธจะแจ้งเหตุผลหลักๆว่า ในหน้าหนังสือเดินทางน้องไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนเลย จะมั่นใจว่า น้องไปเที่ยวสหรัฐฯแล้วจะกลับเมืองไทยได้อย่างไร พี่คิดว่า เหตุผลรองๆลงมาที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยคือ น้องค้าขายอาหารตามสั่ง ไม่มีใบทะเบียนการค้า ถ้าน้องจะทำจดหมายอธิบายก็คงต้องอธิบายไปตามตรงว่า น้องมีกิจการร้านอาหารเล็กๆ ไม่ได้จดทะเบียนการค้า มีรายรับต่อเดือนประมาณเท่าไร หรือรายรับดดยรวมต่อปีเท่าไรค่ะ น้องฝากเงินในบัญชีกับธนาคาร แต่น้องบอกพี่มาว่าตัวเลขไม่สวย ซึ่งพี่ไม่ทราบว่า ตัวเลขนั้นเป็นจำนวนเท่าไร แต่น้องกลับบอกว่า น้องมีเงินเก็บ น้องมีเก็บในรูปแบบใด ถ้าน้องเคยถูกปฏิเสธมาแล้ว วิธีที่จะแสดงว่า น้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลตนเองได้ในตอนไปเที่ยว เพราะน้องก็มีอายุพอสมควรที่จะเก็บเงินได้ประมาณ 5-6 แสนบาทขึ้นไปแล้ว ดังนั้น หากกงสุลถามว่า ทำไมเงินในบัญชีธนาคารมีน้อย น้องจะอาศัยเงินในบัญชีคุรแม่คงดุไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไรนัก เพราะวัฒนธรรมฝรั่ง เด้กของเขาทำงานหาเงินดูแลตนเองตั้งแต่อายุไม่มาก ฝรั่งอาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมเราโตแล้ว อายุประมาณนี้แล้วยังต้องใช้บัญชีเงินฝากคุณแม่ค้ำประกันเราค่ะ ดังนั้น น้องอาจจะชี้แจงไว้ในจดหมายเลยก็ได้ว่า น้องเห็นว่า ดอกเบี้ยที่ฝากกับธนาคารให้น้อย จึงออมเงินในรูปแบบอื่นๆ เช่น นำเงินไปซื้อทองคำแท่ง หรืออื่นๆคิดเป็นเงินประมาณกี่แนบาท เป็นต้นค่ะ ไม่ใช่ให้ท่านกงสุลดูบัญชีเงินฝากที่น้อย แต่แจ้งว่า มีเงินเก็บ ท่านกงสุลคงไม่เข้าใจว่า แล้วเก็บเงินไว้ที่ไหน จำนวนเท่าไรมีมากพอที่จะการันตีตัวเองในการไปที่ยวครั้งนี้แค่ไหนค่ะ ในจดหมายน้องอาจจะระบุว่า น้องมีแผนการจะเดินทางไปกับคุณแม่ซึ่งอายุมากแล้ว ก็ต้องดูแลท่านระหว่างการเดินทาง และจะไปเยี่ยมญาติซึ่งพักอยู่ที่ไหน และไปเที่ยวที่ไหนบ้างค่ะ เป็นเวลานานกี่สัปดาห์ สวนสามีหากมีแหล่งเก็บเงินเป็นธนาคารมีจำนวนเงินเป็นเลขหลักแสนอาจจะช่วยเป็นผู้สนับสนุนน้องอีกทาง น้องอาจจะเขียนในจดหมายอธิบายเรื่องเกี่ยวกับสามีว่า น้องสมรสแล้วแต่เป็นแบบไม่ได้จดทะเบียนสมรส สามีทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกันกับน้อง มีเงินฝากจำนวนเท่านี้ สามีไม่ได้เดินทางไปด้วย ระหว่างที่น้องไปเป็นเพื่อนคุณแม่ไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา สามีจะะดูแลร้านอาหารแทน ดังนั้นน้องต้องกลับเมืองไทยเพราะมีครอบครัวคือสามีรออยู่ที่ประเทศไทยค่ะ

      ส่วนหมายเลขวีซ่าดูที่ตัวเลขสีแดงค่ะ ขอให้น้องตั้งใจเตรียมหลักฐานในส่วนของน้องให้ดี และขอให้วีซ่าผ่านได้ไปเที่ยวพร้อมคุณแม่ค่ะ

  • Ja  On April 24, 2013 at 12:15 am

    รบกวบปรึษาาหน่อยคะ คือหนู Apply visa เรียบร้อยแล้ว นัดวันสำภาษณ์แล้ว คือวันที่ 21/04/13 และวัน Last Date for Editing :16 May’13 คือหนูยังสามารถกลับไปแก้ไขข้อมูลได้ใช่ไหมคะ ? หนูต้องการกลับไปแก้ไขข้อมูลใน DS-160 ตรง ข้อมูลการเดินทาง ที่มันจะมีอยู่บันทัดนึงถามว่า intended Length of stay in US แต่เดิมหนู่ใส่ไป 20 วัน แต่จดหมายรับรองการทำงานของออฟฟิส ออกให้แค่ 10 วัน มันดูขัดกันนะคะ หนูจะเข้าไปเปลี่ยนเป็น 10 วัน ( แต่ถ้าไม่เปลี่ยนจะมีปัญหาไหมคะ )
    ซึ่งตามข้อมูลด้านบนที่พี่เขียนอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน DS-160 หนูก้อ login เข้าไป แล้วไปกดEdit applicant info แล้วก้อ Edit เข้าไปตรงชื่อของหนู ข้อมูลส่วนของ DS-160 Confirmation Number มันเป็นช่องสีเทาๆ ไม่ให้พิมพ์อะไร หนูไม่ทราบจะเข้าไปแแก้ไขข้อมูลตรงไหนคะ ?
    -แต่หน้าหลัก มุมซ้ายบนหนูเห็นมันมีเขียนว่า Application Form (DS-160) แต่พอกดเข้าไปหมายเลข Confirmation number มันเปลี่ยนไป แล้วให้กรอกข้อมูลใหม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งหนูนัดวันวันสำภาษณ์แล้ว ด้วย Confirmation number เดิม หนูกลัวว่ามันจะมีปัญหาต่อวันสำภาษณ์ หนูจะทำไงดีคะ รบกวนพี่ช่วยแนะนำหน่อยคะ ขอบคุณคะ

    • govisa  On April 24, 2013 at 5:42 am

      น้อง Ja คะ ถ้าน้องอ่านที่พี่เขียนไว้ในตอนท้ายๆซึ่งพี่ได้ update ข้อมูลว่า ในปัจจุบันน้องจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลใน Ds-160 ได้แล้วหลังจากน้องยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้ว ถ้าน้องยืนยันต้องการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวทำได้วิธีเดียวคือ กรอก DS-160 ใหม่ตั้งแต้นจนจบแล้ว print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ถือเข้าไปพร้อมกันกับหมายเลขเก่าที่ใช้ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ไปแล้วค่ะ

      อย่างไรก็ตาม พี่คิดว่าข้อมูลที่น้องบอกมาเป็นความผิดเล็กน้อย ไม่ต้องแก้ไขก็ได้ค่ะ แจ้งทางสถานทูตว่า 1. น้องเปลี่ยนใจเรื่องวันที่จะอยู่เที่ยวในสหรัฐฯ หรือ 2.น้องกรอกข้อมูลผิดไปค่ะ เลือกตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง พี่คิดว่าไม่มีปัญหาใดๆค่ะ

    • nam  On April 24, 2013 at 5:57 pm

      เรียนคุณ go visa คะ
      รบกวนขอสอบถามดังนี้ นะคะ
      เรากรอก ds160 เรียบร้อย แล้ว เริ่มกรอกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม และได้วันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วคื่อวันที่ 27 มิถุนายน แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ submit เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมอีก อยากทราบว่า ds160 ยังจะมีอายุใช้งานได้มั้ยคะ ถ้ารอถึงวันที่นัดยื่นวีซ่าค่ะ เราควรรีบ submit ไปทันทีเลยมั้ยคะ รบกวนด้วยค่ะ
      ขอบพระคุณมากค่ะ

      • govisa  On April 24, 2013 at 10:47 pm

        น้อง nam คะ อย่าเป็นกังวลมากไปค่ะ เดี๋ยววันจริงที่จะไปสอบสัมภาษณ์จะยิ่งทำอะไรไม่ถูก ให้ทำตัวตามสบาย คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนไปสอบสัมภาษณ์ทำงานหรืออื่นๆ อย่าเครียดค่ะ น้องควร print ออกมาก่อนล่วงหน้า น้อง nam ลองนึกดูว่า ถ้าใกล้วันที่ 27 มิถุนายน เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านน้องเกิดขัดข้อง print ออกมาไม่ได้ ต้องไปหาสถานที่เช่าคอมพิวเตอร์ตาม internet cafe ยุ่งวุ่นวายค่ะ ดังนั้นหากน้อง nam ตรวจข้อมูลว่าถูกต้องหมดแล้ว อย่าลังเลหรือเป็นกังวล คลิก submit ไปพร้อม print DS-160 Confirmation Number ออกมาได้เลยค่ะ

        ส่วนคำถามที่ถามอายุการใช้งานของ DS-160 เท่าที่พี่จำได้เวลาเริ่มต้นกรอกหน้าแรกที่มุมขวามือด้านบนสุดจะมีวันที่หมดอายุเขียนอยู่ใต้ Application ID เช่น ถ้าน้อง nam จะกรอก DS-160 วันที่ 24 เมาายน 2556 และยังกรอกไม่เสร็จ DS-160 จะหมดอายุวันที่ 30 เมษายน 2557 หรือค.ศ.2014 ประมาณ 1 ปีค่ะ

        น้อง nam ลองอ่านเว็บไซต์ http://travel.state.gov/visa/forms/forms_4401.html ภายใต้คำถาม ” Correcting Answers on a Submitted DS-160 ” หรือที่พี่ก็อปปี้มาให้อ่านเกี่ยวกับการแก้ไข DS-160 ว่าหลังวันที่ 1 เมษายน 2010 แก้ไขข้อมูลใน DS-160 ไม่ได้ค่ะ
        The U.S. Embassy or Consulate where I went for my visa interview denied my application because my DS-160 contained errors or was incomplete. What does this mean and what do I need to do next?
        DS-160 applications submitted before April 1, 2010 cannot be reopened, and therefore, you must complete and submit a new DS-160. The Embassy or Consulate should reopen your DS-160 submitted after April 1, 2010 if your application is denied for this reason and ask you to correct it, as explained below:
        DS-160 applications submitted on or after November 1, 2010: Enter your application ID number and answer additional questions as prompted to access and correct your application.
        DS-160 applications submitted on or after April 1, 2010, but before November 1, 2010: Enter your barcode or confirmation number into the Application ID field and answer additional questions as prompted to access and correct your application.”

      • Yo  On April 24, 2013 at 11:34 pm

        สวัสดีครับพี่ go visa รบกวนปรึกษาดังนี้ครับ ผมได้รับคำแนะนำมาว่า ถ้ามีวีซ่าท่องเที่ยวอยู่แล้ว และระหว่างที่อยู่ที่อเมริกาต้องการหาที่ศึกษาภาษาระยะสั้น เราสามารถแจ้งเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียนที่นั่นได้เลยนั้น จริงหรือไม่ครับ และถ้าทำได้จริง จะมีผลต่อการยื่นขอวีซ่าในครั้งต่อๆๆไปได้หรือไม่ ภายหลังจากที่เราได้เดินทางกลับมาไทยแล้ว เราไม่ต้องการทำผิดกฎหมายการเข้าเมืองของอเมริกาครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
        ขอบคุณมาล่วงหน้าครับ / Yo

      • govisa  On April 25, 2013 at 5:27 am

        น้อง Yo คะ ถ้าน้องต้องการหาที่เรียนภาษาระยะสั้นในอเมริกา น้องสามารถเข้าไปศึกษาได้ที่เว็บไซต์ http://www.intensiveenglishusa.org/ ก่อนเพื่อจะได้ทราบว่าที่เมืองและรัฐที่อยากไปมีที่เรียนภาษาที่ไหนบ้าง ราคาค่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัวประมาณเท่าไร พอที่ทางบ้านน้องจะสนับสนุนได้หรือไม่ค่ะ พี่แนะนำให้ติดต่อที่เรียนไปจากเมืองไทยและขอวีซ่า F-1 ไปจากประเทศไทยง่ายกว่าค่ะ

        ถ้าถามว่าจะเปลี่ยนสถานภาพจากวีซ่าท่องเที่ยว B-2 เป็น F-1 ทำได้ไหม คำตอบคือ ทำได้ค่ะ แต่ระยะเวลาที่ใช้เปลี่ยนนานมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป ซึ่งตามกฎหมายน้องต้องได้รับการอนุมัติเปลี่ยนแปลงวีซ่าก่อนจึงจะลงทะเบียนเรียนได้ น้องลองศึกษาจากเว็บไซต์ของบรรดาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆในสหรัฐฯที่จะเขียนชี้แจงผู้ที่มีวีซ่าท่องเที่ยวและต้องการเข้าศีกษาต่อในสหรัฐฯได้นะคะ เช่น ของ Cornell University เขียนอธิบายไว้ในเว็บไซต์ http://www.isso.cornell.edu/immigration/f1/b2tof1.phpPlease note: Your application to change to F-1 student status MUST BE APPROVED before you may legally enroll in classes.” และขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงวีซ่าศึกษาจากเว็บไซต์ของ US Citizenship and Immigration Services : http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=f0df81a19d68a210VgnVCM100000082ca60aRCRD&vgnextchannel=e34c83453d4a3210VgnVCM100000b92ca60aRCRD
        โดยน้องจะต้องกรอกฟอร์ม I-539 พร้อมชำระเงิน 290 US$ ตอนยื่นเอกสารขอเปลี่ยนค่ะ http://www.uscis.gov/portal/site/uscis/menuitem.5af9bb95919f35e66f614176543f6d1a/?vgnextoid=94d12c1a6855d010VgnVCM10000048f3d6a1RCRD&vgnextchannel=db029c7755cb9010VgnVCM10000045f3d6a1RCRD

        น้องควรทำให้ถูกระเบียบตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้ในอนาคตการขอวีซ่าท่องเที่ยวครั้งต่อๆไป เมื่อวีซ่าหมดอายุเกิดปัญหาขึ้นได้ค่ะ

  • Ja  On April 25, 2013 at 9:21 pm

    พี่ govisa ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำด้านบน หนูอยากรบกวนถามพี่อีกสักรอบคะ ถ้าจ๋าเข้าไปแก้ไขข้อมูล DS-160 ใหม่แล้ว และปริ้นใบคอนเฟริ์มใบใหม่แล้ว แต่ใบ Appointment confirmation Information ยังคงเป็นหมายเลขConfirmation Number เก่า มันไม่สามารถแก้ไขให้เป็นหมายเลขใหม่ได้ใช่ไหมคะ ? เเนื่องจากเราใช้ PIN ไปกับ
    หมายเลขเก่าแล้ว หลังจากนั้นในขั้นตอนต่อไป จ๋าก้อไปจ่ายเงินค่าสัมภาษณ์วีซ่าที่ไปรณีย์ และ เอาใบ confirmation Number หมายเลขใหม่ไปพร้อมกับ confirmation Number หมายเลขเก่าในวันที่นักสัมภาษณ์ ใช่ไหมคะ ?
    ขอบคุณมากนะคะพี่ ^-^

    • govisa  On April 25, 2013 at 9:42 pm

      ที่น้องจ๋าเขียนอธิบายมาทั้งหมดเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ขอให้เตรียมเอกสารไปให้ครบ และมีสมาธิในการฟังคำถามให้ดีๆ จะได้ตอบคำถามได้ถูกต้องค่ะ เสียงดังฟังชัด กล้าสบตาท่านกงสุลอย่าก้มหน้าเหมือนมีคนมีอะไรปิดบังอยู่ในใจนะคะ ขอให้น้องจ๋าสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน ได้ไปอเมริกาค่ะ

  • B  On May 6, 2013 at 7:07 pm

    รบกวนสอบถามหน่อยนะคะ
    คือเคยไปอเมริกาด้วยวีซ่า J1 ตั้งแต่ปี 2547 แต่ก่อนหน้าจะได้วีซ่ารู้สึกจะโดนปฏิเสธก่อนตอนสัมภาษณ์รอบแรก (ไม่แน่ใจว่าเป็นการปฏิเสธไหม เห็นแต่หลักฐานเป็นรอยประทับตรายื่นเอกสารของสถานทูต USA 3 รอบติดๆกัน) แต่พอยื่นเอกสารเพิ่มเติมก็ผ่านภายในเวลาประมาณครึ่งเดือนหลังจากนั้น จำเหตุผลที่โดนปฏิเสธไม่ค่อยได้ค่ะ แต่คงเกี่ยวกับเอกสารไม่ครบ หรือต้องการเอกสารยืนยันอะไรซักอย่างเพิ่มเติม จะขอถามว่า
    1. กำลังจะยื่นวีซ่าเพื่อไปงานสัมมนาที่อเมริกา (B1) ค่ะ แล้วเจอคำถามใน DS160 ว่า Have you ever been refused a U.S. Visa? เราควรจะตอบ YES ใช่ไหมคะ แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน และสุดท้่ายเค้าก็ให้ VISA ในที่สุด แล้วมันจะมีผลทำให้เค้าปฏิเสธเราไหมคะ และเราควรให้เหตุผลเค้าว่ายังไงดีว่าทำไมโดนปฏิเสธครั้งที่แล้วเพื่อให้ดูโอเค เพราะจำเหตุผลจริงๆไม่ได้แล้ว
    2. จากคำถามใน DS160 ว่า Have you been ten-printed? คือจำไม่ได้ เคยไปตั้งแต่ปี 2547 ไม่รู้ว่าได้พิมพ์ลายมือไหม ควรตอบยังไงคะ
    ช่วยตอบหน่อยนะคะ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On May 7, 2013 at 5:29 am

      น้อง B คะ การที่ถูกประทับตราวันที่ด้านหลังหนังสือเดินทางหมายถึงน้องยังไม่ได้รับวีซ่าค่ะ ถ้าต้องถูกประทับตราถึง 3 ครั้งให้ตอบไปได้เลยว่า เคยถูกปฏิเสธวีซ่าค่ะ ทางสถานทูตเขามีบันทึกเก็บไว้อยูค่ะ พี่คิดว่า ตอนนั้นน้องถูกปฎิเสธวีซ่าเรื่องนำ I-20 ของที่เรียนภาษาไปขอวีซ่านักเรียนใช่ไหมคะ ถ้าน้องผ่านวีซ่าและเรียนจบกลับมาที่ประเทศไทย ถือว่าเป็น record ที่ดีไม่ควรจะทำให้การขอวีซ่าไปสัมมนาครั้งนี้ถูกปฏิเสธได้ค่ะ อีกประการหนึ่ง การไปสัมมนาก็ต้องมีจดหมายเชิญและรายละเอียดการเข้าร่วมสัมมนาอย่างเป็นทางการน่าจะมีน้ำหนักของเหตุผลในการยื่นขอวีซ่าค่ะ อย่ากังวลเลยนะคะ ส่วนคำถามเกี่ยวกับเคยแสกนนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วไหม ถ้าจำไม่ได้ใส่ไม่เคยไปนะคะ ทางสถานทูตมีรายละเอียดของทุกคนที่เคยเข้าไปขอวีซ่าอยู่แล้ว คงจะบอกน้องให้แสกนนิ้วมือถ้าน้องยังไม่เคยทำมาก่อนค่ะ

      • B  On May 7, 2013 at 5:43 am

        ขอบคุณมากเลยค่ะ ตอบเร็วมาก ช่วยให้หายกลุ้มใจได้มากเลยค่ะ ถ้ามีปัญหาอะไรจะสอบถามเข้ามาอีกนะคะ

      • govisa  On May 7, 2013 at 10:44 pm

        ด้วยความยินดีค่ะน้อง B ได้วีซ่าแล้วเขียนมาบอกเล่าประสบการณ์กันบ้างนะคะ เผื่อจะได้เป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาอ่านและกำลังจะไปขอวีซ่าค่ะ

  • Noi  On May 8, 2013 at 4:23 pm

    สวัสดีค่ะรบกวนสอบถามนะคะ คือมีแพลนจะไปเที่ยวอเมริกาปีหน้าทั้งครอบครัว ( พ่อแม่ และลูกสองคน) ds 160 ของสามีตรงช่อง where will you plan to stay in the U.S. กรอกไปแล้วและก็เซฟแล้ว แต่พอย้อนกลับไปดูที่หัวข้อ travel ข้อมูลตรงนี้จะว่างตลอด เหมือนว่าเราไม่ได้กรอกลงไป ลองทำเป็นสิบๆทีก็เหมือนเดิม ไม่ทราบว่าเคยเจอปัญหาแบบนี้มั้ยคะ ลองกรอก application อันใหม่ก็ติดปัญหาตรงที่เดิมเหมือนกันค่ะ ต้องทำยังงัยดีคะเนี่ย
    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On May 8, 2013 at 10:34 pm

      น้อง Noi คะ พี่ยังไม่เคยพบปัญหาแบบที่น้องพบค่ะ อันที่จริงเมื่อกรอกข้อมูลแต่ละหน้าเสร็จถ้ามีปัญหาว่าไม่ได้กรอกข้อมูลหรือกรอกข้อมูลไม่ครบ เราจะคลิก next เพื่อกรอกหน้าถัดไปไม่ได้ค่ะ หรือแม้แต่กรอกผิด เป็นต้นว่า ใส่เครื่องหมายประเภท , / โปรแกรมของ DS-160 onlineจะไม่ยอมรับ น้องจะเห็นมีลูกศรสีแดงขึ้นที่ช่องคำตอบที่กรอกพร้อมคำอธิบายว่าต้องกรอกแบบใดจึงจะถูก หลังจากนั้นน้องจึงจะคลิกหน้าถัดไปที่จะต้องกรอกได้ค่ะ

      พี่แนะนำให้น้องลองทดสอบกรอกข้อมูลเรื่องที่พักที่น้องและครอบครัวจะไปพัก และคลิกหน้าถัดไป ลองกรอกต่อไปประมาณสามสี่หน้าก่อนค่อย save หรือจะลองกรอก DS-160 ให้เสร็จสมบูรณ์ และถ้าตรวจทานแล้วคิดว่าไม่มีอะไรต้องแก้ไข ลองคลิก submit ดูก็ได้ค่ะ และลอง print application form ออกมาดูว่า มีข้อมูลที่น้องกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักหรือไม่ ซึ่งพี่คิดว่าควรจะต้องมีข้อมูลดังกล่าวขึ้นนะคะ อย่างไรก็ตาม หากน้องคิดว่า น้องมีข้อมูลที่ต้องการแก้ไขใหม่โดยที่น้องคลิก submit ไปแล้ว น้องสามารถกรอก DS-160 ใหม่ได้ เพื่อนำหมายเลข DS-160 ใหม่ที่มั่นใจว่า ข้อมูลที่จะใช้ถูกต้องกว่าครั้งแรกไปทำการจองวันนัดสัมภาษณ์อีกทีก็ได้ค่ะ

  • B  On May 9, 2013 at 7:23 pm

    ขอถามเพิ่มเติมหน่อยนะคะ คือ กรอกและ confirm ฟอร์ม DS-160 และนัดวันสัมภาษณ์แล้ว แต่มีคำถามดังนี้ค่ะ
    1. เลือกขอ VISA แบบ B1 ไป เพราะจะไปสัมมนา แต่จริงๆจะไปเที่ยวต่อประมาณ 3 วัน เลยมีคนทักว่าทำไมไม่เลือก B1/B2 ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาไหมคะ (อ่าน comment ข้างบนเหมือนจะได้ แต่ไม่แน่ใจปัจจุบันจะยังโอเคอยู่ไหมคะ) แล้วจริงๆ ควรเลือกอะไรดีที่สุดคะ
    2. สัมมนาประมาณ 1 อาทิตย์ แต่เขียนไปว่าจะอยู่ 2 อาทิตย์ ถ้าตอนสัมภาษณ์โดนถามว่าทำไม จะตอบว่ามีไปเที่ยวต่อได้ไหมคะ
    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On May 9, 2013 at 9:19 pm

      น้อง B คะ ไปสัมมนาขอวีซ่าแบบ B-1 ถือว่าเลือกประเภทของวีซ่าถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าจะอยู่เที่ยวต่ออีก 1 อาทิตย์ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้ามองออกมาจากประเทศสหรัฐฯ รัฐบาลอเมริกันน่าจะชอบที่หลังจากประชุมหรือสัมมนา มีคนอยู่เที่ยวต่อ เพราะถือว่าคนๆนั้นได้นำเงินเข้ามาใช้จ่ายในประเทศสหรัฐฯ ทำให้เกิดการกระจายรายได้แก่พลเมืองในประเทศสหรัฐฯ วิธีคิดและมุมมองคงไม่แตกต่างจากรัฐบาลและหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆในโลกนี้ เมืองไทยเราก็สนับสนุนให้ชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวบ้านเรา ยิ่งเข้ามาประชุมๆเสร็จแล้วอยู่เที่ยวต่อยิ่งดี เพราะก่อให้เกิดรายได้กับคนในประเทศไทยเรา เช่น โรงแรม ผู้คนตามสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร เป็นต้นค่ะ ดังนั้น คำถามข้อ 2 คงจะทำให้น้องสบายใจได้นะคะว่า น้องสามารถอยู่ต่ออีก 1 อาทิตย์เพื่อท่องเที่ยวได้ สำคัญที่วิธีการตอบ เช่น เรามีแผนการไปเที่ยวที่… เป็นต้นว่า ดิสนีย์แลนด์ หรือฯลฯ (หากถูกถามว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างค่ะ)

      • B  On May 10, 2013 at 5:25 am

        ขอบคุณค่ะ แล้วอย่างนี้ส่วนมากเวลาเค้า approve วีซ่า จะเป็นแบบ B1/B2 หรือเปล่าคะ

      • govisa  On May 10, 2013 at 5:31 am

        ถูกต้องค่ะน้อง B ขอให้น้องสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่านไปด้วยดีนะคะ และเดินทางไปถึงอเมริกาโดยปลอดภัยค่ะ ถ้ามีเวลาน้อง B กรุณาเขียนมาเล่านิดหนึ่งนะคะว่า ท่านกงสุลสัมภาษณ์อะไรน้องบ้าง เพื่อเป็นวิทยทานให้คนอื่นๆที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้นะคะ

  • B  On May 9, 2013 at 8:53 pm

    ขอแถมอีกคำถามค่ะ พอดีพยายาม upload รูปแล้วทำไม่ได้ คงต้องนำไปยื่นที่สถานทูตให้เจ้าหน้าที่ scan แต่ไม่ทราบว่าเราต้องเอาไปยื่นตอนเจอพนักงานสัมภาษณ์เลย หรือให้เจ้าหน้าที่อื่นก่อนหน้านั้นคะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On May 9, 2013 at 9:28 pm

      หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารด้านหน้าพบว่า DS-160 Confirmation Number ไม่มีรูปหน้าน้อง B เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารจะถามน้องเลยว่า นำรูปเข้ามาหรือเปล่าถ้าคุณ… upload รูปไม่ได้ค่ะ ดังนั้นเตรียมรูปติดตัวไปและยื่นพร้อมยื่นเอกสารอื่นๆ น้อง B จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารก่อนเลยก็ได้ว่า upload รูปไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะแนะนำน้อง B ว่าให้ยื่นตอนไหนหรือเจ้าหน้าที่อาจจะแบรูปไปพร้อมเอกสารเก็บไว้ในแฟ้ม ให้น้อง B ถือเข้าไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารด้านในอีกจุดก่อนถึงจุดรอสัมภาษณ์ค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องนำรูปน้อง B scan ใส่ในหน้าวีซ่าถ้าน้องได้รับวีซ่าค่ะ

      • B  On May 10, 2013 at 5:23 am

        ขอบคุณมากมายค่ะ

  • j  On May 18, 2013 at 12:19 pm

    สวัสดีครับ คือ กรอก DS-160 ผิด แต่ทำเสร็จจนได้ confirm no. มาแล้ว (แต่ยังไม่ได้จองสัมภาษณ์) เลยกรอกใหม่ตั้งแต่ต้น เพื่อให้ได้ confirn no. มาใหม่ แล้วก็ไปกดจองสัมภาษณ์
    แบบนี้ ตัวเก่าจะมีผลในการพิจารณาหรือไม่ครับ

    • govisa  On May 18, 2013 at 2:25 pm

      น้อง J คะ DS-160 Confirmation Number หมายเลขเก่าไม่ต้องใช้ยื่นวันสัมภาษณ์เลยค่ะ เพราะน้องใช้ DS-160 หมายเลขใหม่ที่กรอกในการจองวันนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ

  • pim  On May 25, 2013 at 11:36 pm

    พี่คะสนใจไปเรียนภาษา ตอนแรกตั้งใจจะขอวีซ่า F-1 ไป แล้วทางญาติบอกมาว่าขอเป็น B-2 ไปก่อนแล้วค่อยไปเปลี่ยนที่เมกาได้ หนูไปถามจากคนที่อยู่ที่ เมกา เขาบอกว่าเปลี่ยนได้แต่ใช้เวลานาน ให้ทำมาจากไทยเลย แต่ตอนนี้หนูได้จองวันสัมภาษณ์วีซ่าประเภท B-2 ไปแล้วอะคะ ไม่ทราบว่าแก้ไขยังไงได้บ้างคะ หรือต้องยกเลิกวันสัมภาษณ์แล้วซื้อ PIN ใหม่คะ

    • govisa  On May 27, 2013 at 7:34 am

      น้อง Pim คะ การเปลี่ยนสถานภาพจากวีซ่านักท่องเที่ยวไปเป็นวีซ่านักเรียนใช้เวลาประมาณตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปแล้วแต่กรณีของแต่ละบุคคลค่ะ ระหว่างที่ยังไม่ได้วีซ่านักเรียน ยังลงทะเบียนเรียนไม่ได้ค่ะ สิ่งที่ถูกต้องตามระเบียบการเข้าประเทศของสหรัฐฯคือ ควรชี้แจงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงและขอวีซ่าให้ถูกประเภทค่ะ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลังนะคะ
      ส่วนคิวนัดวันสัมภาษณ์ที่ทำไปแล้ว น้องสามารถเลือกที่จะเข้าไปสัมภาษณ์เมื่อไดวีซ่าแล้วยังไม่ใช้ได้ เพราะวีซ่าท่องเที่ยวมีอายุนาน 10 ปีค่ะ หรือจะยกเลิกการนัดหมายไปสอบสัมภาษณ์และปล่อยให้พินหมดอายุไปก็ได้ค่ะ

  • Giselle  On May 29, 2013 at 11:44 pm

    สงสัยช่วง Travel plans ใน DS 160 ค่ะ

    พี่คะ ตรงช่วง
    Have you made specific travel plans? ที่มีให้ตอบ yes or no

    ถ้าเราตอบว่า NO: เพราะเรายังไม่แน่ใจว่าจะเดินทางได้เมื่อไร ก็กลัวว่าจะมีค.เสี่ยงที่จะโดนปฏิเสธวีซ่าน่ะค่ะ เพราะมันอาจดูเหมืนอว่า เราไม่ได้ plan จริงจังว่าจะไปเมื่อไร
    หรือ ใครมีประสบการณ์ เคยกรอกแบบนี้แล้ว วีซ่าผ่าน ไม่มีปัญหาอะไรไหมคะ?

    แล้วถ้าเราเลือกที่จะตอบว่า YES:
    แล้วเราใส่วันที่จะเดินทางไปกลับแบบคร่าวๆไว้ก่อน แต่สำหรับช่อง LOCATION ที่เรา plan to visit เนี่ย ควรจะกรอกแบบไหนดีคะ เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง แล้วต้องละเอียดมากไหมคะ
    เราสามารถกรอกแบบนี้ได้ไหมคะ
    เช่น ช่องแรก กรอกว่า los angeles: Walk of Fame,Hollywood Sign and disneyland
    แล้ว ก็เพิ่มอีกช่องและใส่: Florida: Orlando Theme Park, sightseeing
    แล้วเพิ่มช่อง ไปเรื่อยๆใส่เมืองอื่น ได้ไหมคะ?
    หรือว่า ต้องกรอกให้ละเอียดกว่านี้คะ

    • govisa  On May 30, 2013 at 5:33 am

      น้อง Giselle คะ ถ้าน้องมีแผนการไปเที่ยวที่ไหนบ้างให้ใส่คร่าวๆไม่ต้องละเอียดก็ได้ค่ะ ถ้าน้องจะไปเที่ยวทั้ง 2 ฝั่ง คือ CA กับ FL อย่าลืมประเมินค่าใช้จ่ายตัวเองในใจแล้วดูว่า ตัวเลขในบัญชีที่เราจะนำไปแสดงจะมีความเป็นไปได้สอดคล้องกับการเดินทางครั้งนี้ไหมนะคะ ส่วนคนที่ใส่ว่า No เค้าอาจจะขอวีซ่าท่องเที่ยวเก็บไว้ก่อนแต่ยังไม่มีแผนการว่าจะไปเที่ยวที่ไหนที่ชัดเจน เมื่อสัมภาษณ์อาจจะตอบคร่าวๆในตอนนั้นก็ได้ว่า วางแผนจะไปเที่ยวอีกสามเดือนข้างหน้า แต่ขอวีซ่าไว้ก่อน เพราะได้ยินมาว่า คิววีซ่าแน่นมากเป็นต้นค่ะ สรุปคืออยู่ที่วิธีการตอบคำสัมภาษณ์ของผู้ยื่นขอวีซ่าค่ะ

      • Giselle  On May 30, 2013 at 6:22 pm

        ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ
        ถ้าอย่างนั้นแม้เราจะยังไม่มีplan ที่แน่นอนว่าจะไปเมื่อไรก็ขอได้ใช่ไหมคะ
        อยากทราบว่ากรณีแบบนี้มีโอกาศโดนปฏิเสธวีซ่ามากกว่าแบบมี plan ไว้แล้วรึเปล่าคะ?

      • govisa  On May 30, 2013 at 10:24 pm

        น้อง Giselle คะ พี่คิดว่า คนที่ถูกปฏิเสธวีซ่าคงมาจากหลายๆสาเหตุ อาทิ เช่น ฐานะการเงินน้อยไม่มากพอที่จะไปเที่ยวได้, หรือไม่ได้แสดงหลักฐานที่แสดงว่ามีความผูกพันกับครอบครัว เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมไทย ที่จะโยงใยไปได้ว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทยไหมหลังจากได้ไปท่องเที่ยวในอเมริกาแล้ว หรือบางท่านอาจจะเคยมีประวัติว่าเคยทำความผิดทางกฎหมายที่ร้ายแรงมาก่อนขอวีซ่า ส่วนเรื่องแผนการไปเที่ยวอาจจะมีส่วนนิดหน่อยแต่ไม่น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก คนที่ขอวีซ่าไปเที่ยวน่าจะพอตอบได้บ้างว่า กะจะไปเที่ยวที่ไหนหรือถ้ามีมุขอาจจะบอกว่า ให้เพื่อนพาไปเที่ยว(ถ้าคนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ)

  • Giselle  On May 31, 2013 at 5:53 pm

    ขอบคุณมากๆอีกครั่งสำหรับคำแนะนำค่ะ

    • govisa  On May 31, 2013 at 9:23 pm

      ด้วยความยินดีค่ะน้อง Giselle

  • พรรณภา  On May 31, 2013 at 7:10 pm

    สวัสดีค่ะคุณ Govisa ไม่แน่ใจว่าจะยังจำกันได้มั๊ย เพราะเคยเข้ามาปรึกษาการขอวีซ่าแล้วก็ได้ไปเที่ยวกับมาแล้วเมื่อปีทีแล้ว… วันนี้รบกวนอยากสอบถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการขอวีซ่าโดยตรง คือ ในกรณีที่เราจะให้เพื่อนช่วยซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านทางเวปไซด์ของสายการบิน Unitedairline โดยใช้บัตรเครดิตของเพื่อนแต่เราเป็นผู้เดินทาง (เพราะได้ราคาถูกกว่าเราจ่ายเงินกับเอเจนซี่ที่ไทยประมาณหมื่นกว่าๆ) จะมีปัญหาเวลาเราไปเช็คอินขึ้นเครื่องมั๊ยค่ะ…มีเพื่อนบอกว่าเค้าจะขอดูบัตรเครดิตแล้วอาจจะมีปัญหาตั๋วใช้ไม่ได้ รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On May 31, 2013 at 9:55 pm

      น้องพรรณภาคะ พี่เข้าไปอ่านในเว็บไซต์ของ United Airline ไม่มีพูดถึงปัญหาที่น้องกล่าวมาเลยค่ะ แต่เว็บไซต์อื่นๆพอมีคำถามใกล้เคียงกับที่น้องถามมานะคะ ซึ่งคำแนะนำก็มีหลากหลายอย่างคือมีทั้งใช้บัตรเครดิตของคนอื่นได้และไม่ได้ค่ะ รวมทั้งให้ไปสอบถามกับเอเจนซี่ที่จะเป็นผู้ออกตั๋วให้ด้วยค่ะ พี่แนะนำให้น้องโทรศัพท์ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ United Airline โดยตรงจะดีกว่า เพราะกฎระเบียบของแต่ละหน่วยงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆเกิดขึ้นได้เสมอ หากโทรศัพท์ไปแล้วไม่มีคนรับสาย น้องคงต้องไปสอบถามด้วยตนเองที่ Paso Tower, 12th Floor, 88 Silom Road,Bangkok 10500 Tel: 02-3533939,02-3533900 ค่ะ

      อย่างไรก็ตาม United Airline อนุญาตให้ผู้โดยสารจ่ายเงินได้หลายรูปแบบนอกเหนือไปจากบัตรเครดิต เช่น จ่ายด้วยเงินสด,จ่ายผ่าน PayPal น้องลองเข้าไปอ่านรายละเอียดที่เว็บไซต์ของ United Airline นะคะ https://www.united.com/web/en-US/content/help/flightsearch.aspx

  • B  On June 1, 2013 at 7:39 pm

    เข้ามารายงานความคืบหน้าค่ะ หลังจากรบกวนสอบถามและได้ความกระจ่างคลายกังวลมาหลายครั้ง ทั้งเรื่องที่เคยโดนปฏิเสธวีซ่า และเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าเลือกประเภทวีซ่าถูกหรือไม่ตอนกรอก DS160 ตอนนี้ขอรายงานตามสัญญาค่ะว่า…ได้รับวีซ่าเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่งด่วนเมื่อวานสดๆร้อนๆค่ะ
    …ขอเล่าประสบการณ์ตอนไปสัมภาษณ์นิดนึงนะคะ จริงๆไม่ค่อยจะมีอะไรมาก เพราะไปในนามบริษัท ค่อนข้างมีหลักฐานครบทั้งหนังสือตอบรับ หนังสือส่งตัวจากที่ทำงาน จะกังวลนิดหน่อยก็เรื่องที่เคยโดนปฏิเสธกับเรื่องประเภทวีซ่า แต่พอไปถึงจริงๆ ด่านที่หินสุดกลับเป็นตอนฝากของ คือจริงๆ รู้ว่ามีของที่เค้าห้ามไม่ให้เอาเข้าบริเวณสถานทูต ต้องฝากไว้ข้างหน้า เลยจัดทุกอย่างใส่กระเป๋าใบนึง และกะจะฝากทั้งกระเป๋านั้นเลย แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ให้ฝากทั้งกระเป๋า ต้องแยกออกมาแต่ละชิ้น ซึ่งส่วนตัวชอบซ่อนพวกที่ตัดเล็บ คลิป หูฟัง สายชาร์จ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายแหล่กระจายทั่๋วกระเป๋า แล้วจำไม่ได้ว่าซ่อนไว้ที่ไหนบ้าง เพราะมีกระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อยและซิปหน้าหลังซิบข้างๆเต็มไปหมด พอเข้าเครื่องสแกนเลยไม่ผ่านซักที เกรงใจคนที่ต่อแถวและเจ้าหน้าที่มากๆ ซึ่งซักพักก็ต้องหลีกทางให้คนข้างหลังไปก่อนหลายคน ส่วนเจ้าหน้าที่ 2-3 คนก็น่ารักมาก ช่วยเหลือดีมากๆ โดยไม่บ่นเลย ตอนสแกนผ่านก็หันมายิ้มให้ด้วย (อาจจะแอบขำด้วยรึเปล่า) แถมตอนสัมภาษณ์เสร็จออกมารับของคืนก็แอบทักเราว่าเสร็จเร็วนะครับ เราเลยแอบหยอดไปว่าเร็วกว่าตอนฝากของอีกค่ะ:)
    ….หลังจากฝากของเสร็จ ก็ได้รับใบสีฟ้าให้กรอกชื่อที่อยู่และเลขที่ passport แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ตอนนี้เค้าจะถามว่าเคยได้รับ US VISA ไหม ก็ยื่นวีซ่าของเก่าให้เค้า ซึ่งก็เอาไปรวมกับเอกสารสำหรับสัมภาษณ์ใส่ซองพลาสติก แล้วเค้าก็ stamp บางอย่างลงบนเอกสารเรา (หรือใบสีฟ้า ไม่แน่ใจ) ซึ่งจะมีส่วนที่ที่เขียนว่า “B1/B2 or ……” ตรงนี้แหละที่กังวล เพราะขอ B1 ไป แต่จริงอยากได้ B1/B2 ก็เลยแอบถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้น:ซึ่งตอบว่าส่วนใหญ่ก็ให้ B1/B2 แต่ก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ พอเข้าไปถึงหน้าต่างแรก รอซักพัก พอได้เวลา ก็มีเจ้าหน้าที่คนไทยมาถามข้อมูลเบื้องต้นและคีย์ข้อมูลเราเข้าระบบ คำถามก็เช่น ไปที่ไหน ไปทำอะไร ใครเป็นคนออกเงินให้ เป็นต้น พอเสร็จก็สแกนลายนิ้วมือ จากนั้นเค้าก็คืนเอกสารให้เรา ซึ่งตอนนี้เค้าวงกลมรอบ “B1/B2” เลยค่อนข้างแน่ใจว่าน่าจะได้วีซ่าประเภทนี้ กลับไปนั่่งรอซักพัก ก็มีเสียงเรียกให้ไปต่อแถวรอสัมภาษณ์เรียงตามบัตรคิว ซึ่งตอนนี้จะไม่ใช่คนไทยแล้ว แต่พูดภาษาไทยได้ทุกคน ซึ่งเค้าจะพยายามสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก่อน คนที่สัมภาษณ์น่าจะเป็นแอฟริกัน-อเมริกัน ใจดี ถามคล้ายๆ หน้าต่างแรก แต่จะ relax กว่า มีแถมว่่าไปเมืองนี้ก็มีทีแวะเที่ยวที่นู่นที่นี่ ไม่พูดถึงเรื่องที่เคยถูกปฏิเสธวีซ่าด้วย เสร็จแล้วสแกนนิ้วอีก 1 ครั้ง แล้วเค้าก็เก็บ passport ของเราไปเพราะต้องเอาไปทำ visa ให้เรา จากนั้น ออกมาจ่ายเงินค่าซองและ EMS สำหรับส่ง passport กลับคืน เป็นอันเสร็จ เริ่มสัมภาษณ์ประมาณ 7 โมงกว่า. เสร็จประมาณ 8 โมง กลับไปทำงานต่อได้สบาย ไปสัมภาษณ์วันพุธ พอวันศุกร์ก็ได้เล่ม passport กลับมาพร้อมวีซ่า 10 ปี
    …ขอถามอีกนิดค่ะ ปกติถ้าวีซ่าประเภทนี้ (B1/B2) เค้าจะให้ 10 ปี ตลอดรึเปล่าคะ คือพอดีมีคนฝากมาถามค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

    • govisa  On June 2, 2013 at 12:00 am

      น้อง B คะ พี่ดีใจด้วยกับน้องทีได้รับวีซ่าแล้วนะคะ และพี่ขอบคุณน้อง B มากที่น้องเขียนประสบการณ์มาให้อ่าน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆและอีกหลายๆท่านที่เข้ามาศึกษาข้อมูลของคนที่เคยมีประสบการณ์เข้าไปขอวีซ่ามาแล้วค่ะ ขอให้น้อง B เดินทางไปประชุมที่อเมริกาด้วยความราบรื่นและได้ไปเที่ยวก่อนกลับตามที่น้องตั้งใจไว้ค่ะ

      สำหรับคำถามที่เพื่อนฝากถามมา พี่เคยได้ทราบจากบางคนที่รู้จักว่า ขอวีซ่าท่องเที่ยวและได้รับวีซ่าที่มีอายุนานแค่ 1 ปี ไม่ใช่ 10 ปีอย่างเพื่อนคนอื่น ถ้าน้องได้อ่านคำถามของน้องคนหนึ่งที่เขียนเข้ามาถามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะยิ่งรู้สึกว่า ที่น้องได้วีซ่านาน 10 ปีนั้น นับเป็นโชคดีของน้องอย่างมากค่ะ เพราะน้องท่านนั้นได้วีซ่าท่องเที่ยวนานแค่ 3 เดือนเท่านั้น ดังนั้น พี่จึงตอบไม่ได้หรอกค่ะว่า คนไหนจะได้วีซ่านาน 10 ปี อีกคนจะได้วีซ่าท่องเที่ยวที่มีระยะเวลาสั้นกว่า 10 ปี พี่สันนิษฐานเอาเองว่า คนที่ได้วีซ่าไม่ถึง 10 ปี คงจะมีบางเรื่องที่ท่านกงสุลไม่แน่ใจที่จะให้วีซ่าที่มีอายุการใช้งานนาน 10 ปี แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่มากพอจะปฏิเสธวีซ่าได้ จึงให้วีซ่าที่มีช่วงระยะเวลาสั้นกว่าเวลาปกติ 10 ปี หากคนที่ได้วีซ่าที่มีอายุไม่ถึง 10 ปี มีความซื่อสัตย์คือไปเที่ยวอเมริกาเสร็จแล้วกลับมาเมืองไทย หากต้องเข้าไปยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวครั้งใหม่ น่าจะได้รับวีซ่าที่มีอายุนาน 10 ปี เพราะได้พิสูจน์ให้ท่านกงสุลเห็นความดีและทำให้กงสุลเกิดความไว้วางใจในตัวท่านผู้นั้นได้ค่ะ

      • B  On June 2, 2013 at 8:58 am

        ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับความเอาใจใส่ ช่วยตอบคำถามอย่างรวดเร็วให้คลายกังวลได้ทุกครั้ง บอร์ดนี้เป็นบอร์ดที่มีประโยชน์และให้ข้อมูลเยอะมากสำหรับคนที่จะไปอเมริกา ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องกรอก DS-160 แต่ถามอะไรก็หาข้อมูลมาตอบให้ได้แบบทันใจทุกเรื่อง เป็นบอร์ดที่อบอุ่น ใจดีมากๆค่ะ save เป็น favorite ไว้แล้วค่ะ และเผื่อมีคนรู้จักที่มีปัญหาเรื่องนี้จะแนะนำให้เข้ามาที่นี่นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

      • govisa  On June 2, 2013 at 11:27 pm

        ขอบคุณมากค่ะน้อง B ที่เห็นว่าบอร์ดนี้มีประโยชน์ พี่ยินดีช่วยทุกคนเท่าที่จะช่วยได้ค่ะ

  • พรรณภา  On June 2, 2013 at 6:37 pm

    ส่วนตัวไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะขอดูบัตรเครดิตแต่พอดีไปบริษัททัวร์ให้เค้าเช็คราคาให้ (บริษัทเดิมที่เคยใช้บริการ แต่เที่ยวนี้ราคาแพงมากกว่าในเวปหมื่นกว่า ๆ ค่ะ เลยกะจะจองออนไลน์) และก็ได้บอกเค้าไปว่าเพื่อนเราจองในเวปได้ xxxx บาท เจ้าหน้าที่ของบริษัทเลยบอกว่าเค้าจะขอดูบัตรเครดิตเวลาขึ้นเครื่อง และเพื่อนบางคนที่ใช้บัตรเครดิตซื้อก็เคยโดนตรวจเหมือนกันแต่พอดีบินพร้อมกับเจ้าของบัตรเลยไม่มีปัญหาค่ะ ต้องขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเดี๋ยวดิฉันจะลองสอบถามไปที่ Uniteairline อีกทีค่ะต้องทำวิธีไหนได้บ้าง

    • govisa  On June 2, 2013 at 11:45 pm

      น้องพรรณภาคะ เท่าที่พี่ทราบมาก็คือ ใช้บัตรเครดิตของคนอื่นในการซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์ทำได้แต่ต้องบินไปเที่ยวพร้อมเจ้าของบัตรเครดิตค่ะ ดังนั้นพี่จึงได้แนะนำให้น้องสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่น้องจะใช้บริการโดยตรงน่าจะดีกว่าค่ะ
      อนึ่ง พี่ได้สอบถามเอเจนซี่ขบางแห่งเรื่องที่ตั้งของสายการบิน United เพราะได้ทดลองโทรไปติดต่อไม่มีคนรับสาย จึงทราบมาว่า United Airline ได้ย้ายที่อยู่เป็น Paso Toer ชั้น12 อยู่ติดกับ ITF Tower บนถนนสีลมค่ะ หมายเลขโทรศัพท์คือ 02-353-3939, 02-353-3900 จากแหล่งข้อมูลน้องใช้บัตรเครดิตชำระเงินค่าซื้อตั๋วออนไลน์ได้วิธีเดียวถ้าน้องอยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ และน้องสามารถใช้บัตรเครดิตของผู้อื่นในการซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์ได้หากการตัดเงินนั้นได้รับการ verified ค่ะ

  • B  On June 2, 2013 at 7:30 pm

    ขอถามเพิ่มอีกนิดนึงนะคะ
    1. กรณีที่ได้วีซ่า B1/B2 10 ปี ในเล่ม passport ราชการ ถ้าต่อไปจะไปเที่ยวเองภายในช่วง 10 ปีนั้น ต้องขอวีซ่าใหม่สำหรับ passport เล่มเลือดหมูไหมคะ
    2. ถ้า passport หมดอายุ แต่วีซ่าจะ valid อยู่ สามารถถือเล่มเก่าที่มีวีซ่ากับเล่มใหม่คู่กันไปตอนไปต่างประเทศได้ไหมคะ
    ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On June 2, 2013 at 11:41 pm

      น้อง B คะ ขอตอบคำถามเลยนะคะ
      1. พี่เคยมีเพื่อนทำงานราชการ เพื่อนเป็นคนมีอุดมการณ์มากค่ะ เค้าบอกพี่ว่า ถ้าเค้าจะไปเที่ยวเค้าจะใช้หนังสือเดินทางธรรมดาแบบบุคคลทั่วไปไม่ใช่หนังสือเดินทางราชการที่มีวีซ่า B-1/B-2 ไปใช้เพื่อเรื่องส่วนตัวค่ะ อย่างไรก็ตาม พี่ได้ทราบมาว่า ถ้าใช้หนังสือราชการที่มีวีซ่า B-1/B-2 เข้าประเทศอาจจะพบกับคำถามจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทำนองว่ามาประชุมใช่ไหม ขอดูหลักฐาน เป็นต้นค่ะ พี่คิดว่า น้อง B ขอหนังสือเดินทางเล่มธรรมดาเพื่อไปเที่ยวจะดีกว่าค่ะ ไม่เสี่ยงต่อการถถูกซักถามที่ตม.มากค่ะ
      2. หากหนังสือเดินทางของน้องหมดอายุ น้องต้องทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ แต่วีซ่าอเมริกายังมีอายุอยู่ ให้น้อง B แจ้งเจ้าหน้าที่ทำหนังสือเดินทางเรื่องที่ยังมีวีซ่าค้างอยู่ในหนังสือเดินทางเล่มเก่า เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำคำรับรองลงในหนังสือเดินทางเล่มใหม่ว่า เจ้าของหนังสือเดินทางเล่มใหม่นี้เคยครอบครองหนังสือเดินทางหมายเลขเดิมคือหมายเลขอะไรค่ะ และเวลาจะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา น้อง B ต้องนำหนังสือเดินทางไปทั้งสองเล่ม เจ้าหน้าที่ตม.จะทราบได้จากข้อความดังกล่าวว่า เจ้าของหนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่มนี้เป็นบุคคลคนเดียวกันค่ะ

      • B  On June 3, 2013 at 12:28 am

        อืม…แปลว่าอาจต้องขอวีซ่าอเมริกาใหม่สำหรับเล่มบุคคลทั่วไปใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นจะกลายเป็นว่ามีวีซ่าประเภทเดียวกันซ้ำซ้อนกันในช่วงเดียวกันรึเปล่าคะ หรือจริงๆก็ไม่เป็นไร
        แล้วถ้าลองเทียบเคียงกับกรณี passport หมดอายุแต่วีซ่ายังไม่หมดอายุ จะคล้ายๆกันไหมคะ คือ ตอนไปทำ passport บุคคลทั่วไปเล่มใหม่ ก็เอาวีซ่าที่ได้มาไปให้เจ้าหน้าที่รับรองหรืออะไรประมาณนี้น่ะค่ะ
        คือ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าหลังจากทริปนี้จะไปอเมริกาอีกเร็วๆนี้ค่ะ แต่อยู่ดีๆก็รู้สึกสงสัย และพอดี passport เล่มเลือดหมูใกล้หมดอายุแล้ว ถ้าไปทำใหม่จะได้ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนจะได้ไม่ยุ่งยากภายหลังค่ะ
        ขอขอบคุณล่วงหน้าอีกทีค่ะ

      • govisa  On June 3, 2013 at 5:32 am

        น้อง B คะ ควรจะเป็นการขอวีซ่าเข้าอเมริกาใหม่สำหรับหนังสือเดินทางเล่มธรรมดาค่ะ ส่วนกรณีหนังสือเดินทางหมดอายุ ทำหนังสือเดินทางใหม่ และให้เจ้าหน้าที่รับรองว่าวีซ่าที่ยังเหลืออยู่ในหนังสือเดินทางราชการไม่น่าทำค่ะ เพราะหนังสือเดินทางคนละประเภท คำถามหนึ่งในแบบฟอร์ม DS-160 คือท่านถือหนังสือเดินทางประเภทใด มีความหมายชัดเจนว่ากงสุลท่านทราบดีว่า น้องทำงานประเภทไหนค่ะ อีกประการหนึ่งค่ะ วัตถุประสงค์ตอนที่น้องที่ขอวีซ่าในหนังสือเดินทางราชการก็เพื่อไปประชุม สัมมนา และอื่นๆของหน่วยงานราชการที่ส่งไปค่ะ

      • B  On June 3, 2013 at 6:36 pm

        เข้าใจกระจ่าง ไม่คาใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

      • govisa  On June 3, 2013 at 9:27 pm

        น้อง B คะ พี่ได้ลองสอบถามไปยังกรมการกงสุลที่ออกหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าการจะทำหนังสือเดินทางราชการต้องมีหนังสือจากทางการรบุว่าให้ไปประชุมหรือไปดูงาน มิเช่นนั้นไม่สามารถขอมีหนังสือเดินทางราชการได้ค่ะ และการจะขอ endorse วีซ่าที่มียู่ในหนังสือเดินทางเล่มเก่ากับหนังสือเดินทางเล่มใหม่จะทำให้กรณีที่หนังสือเดินทางเป็นหนังสือเดินทางประเภทเดียวกัน เช่นเป็นหนังสือเดินทางแบบธรรมดาทั้งคู่ หรือเป็นหนังสือเดินทางราชการทั้งคู่เป็นต้นค่ะ

  • Giselle  On June 3, 2013 at 3:01 am

    สวัสดีค่ะ คุณ Govisa

    คือพอดีอยากรู้ว่า เราจะสามารถ ไปขอวีซ่าที่ เชียงใหม่ แทนที่จะไปขอที่ กทม ได้ไหมคะ ทั้งๆที่เราไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ภาคเหนือ
    เพราะพอดี plan จะไปอยู่เชียงใหม่เร็วๆนี้ เลยคิดว่า ขอที่นั่นเลยน่าจะสะดวกกว่า
    ไม่ทราบว่าทางสถานทูต จะขอรายละเอียด ที่จะยืนยันที่อยู่ของเราในเชียงใหม่ไหมคะ
    หรือว่า เค้ามีกฎอะไรหรือเปล่าคะ

    แล้วถ้าขอได้ เราสามารถ แก้ไขสถานที่ที่จะไปขอ ก่อนที่เราจะ Retrieve application ได้ใช่ไหมคะ

    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On June 3, 2013 at 5:25 am

      น้อง Giselle คะ น้องต้องแสดงหลักฐานการมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ และหากจะไปทำงานควรจะต้องมีหลักฐาน อาทิ จดหมายรับรองการทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่มาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน ลองเข้าไปศึกษาดูที่หน้าเว็บไซต์การนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ https://thailand.us-visaservices.com/forms/DetermineTCN.aspx ดังนั้น ในกรณีของน้อง พี่แนะนำให้ขอที่กรุงเทพจะดีกว่าค่ะ น้องไม่ต้องแก้ไขเรื่องสถานที่ที่จะไปขอแล้วนะคะ เพราะถ้าตามข้อมูลที่สถานทูตกำหนดไว้ “ หากอาศัยหรือทำงาน/ศึกษาเป็นเวลาอาศัยอย่างน้อย 3 เดือนในรอบปีปฏิทิน 12 เดือนก่อนหน้า ใน 15 จังหวัดต่อไปนี้:” น้องยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะขอที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ

      • Giselle  On June 3, 2013 at 7:51 pm

        ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ คุณ Govisa

      • govisa  On June 3, 2013 at 9:30 pm

        ถ้าน้อง Giselle ขอวีซ่าผ่านแล้ว กรุณาเขียนมาแช่์ประสบการณ์ด้วยนะคะ ขอให้น้องโชคดีสอบสัมภาษณ์ผ่านไม่ยากค่ะ

  • Giselle  On June 4, 2013 at 12:30 am

    ok ค่ะ
    ถ้าไปสัมพากแล้ว เป็นยังไงจะมาบอกให้ทราบอีกทีนะคะ 😀

    • govisa  On June 4, 2013 at 9:31 pm

      ขอบคุณมากค่ะน้อง Giselle พี่ขอให้น้องประสบความสำเร็จสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่านนะคะ

  • Giselle  On June 4, 2013 at 4:06 pm

    มีคำถามมาอีกแล้วค่ะ คุณ Govisa

    คำถามตรง Have you been ten-printed? ตรงนี้คือทั้ง 10 นิ้วเลยรึเปล่าคะ?
    หากเราจำไม่ได้ว่าเราเคย รึเปล่า จะตอบว่า No แทนได้ไหมคะ?

    • govisa  On June 4, 2013 at 9:30 pm

      ถูกต้องค่ะน้อง Giselle ให้ตอบ No พี่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า แสกนนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วจะเริ่มราวๆปี 2553 ตอนปลายๆปีแล้วค่ะ

      • Giselle  On June 4, 2013 at 9:37 pm

        หรอคะ คือจิงๆแล้วน้องเคยได้วีซ่ามาแล้วค่ะ แต่ตอนนั้นขอเป็น F-1
        พึ่งขอเมื่อต้นปี 2012
        แต่จำไม่ได้จิงๆว่า พิมลายนิ้วมือทั้ง 10 หรือเปล่า ถ้าพิม แค่ 2 เราจะสามารถตอบว่า YES ไหมคะ
        หรือว่า ให้ตอบ NO ไปเลยดีคะ คิดว่าคงไม่มีปัญหาหรอกมั้งคะ

      • govisa  On June 5, 2013 at 5:25 am

        ถ้่น้อง Giselle ขอวีซ่าไปเมื่อปี 2012 น้องพิมพ์ลายนิ้วมือ 10 นิ้วแล้วค่ะ แต่ถ้าน้องยืนยันในฟอร์ม DS-160 และ submit ไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทางกงสุลคงคิดว่า น้องคงลืมไปแล้ว ที่จริงเครื่องแสกนบาลนิ้วมือก็อยู่ด้านหน้าที่ผู้สัมภาษณ์ทุกคนต้องแสกนอยู่แล้ว ท่านกงสุลคงจะให้น้องแสกนลายนิ้วมืออีกครั้งเพื่อพิสูจน์ว่าเหมือนเป็นคนเดียวกับปีที่แล้วไหมคะ อย่าวิตกไปเลยค่ะ ถ้าตอบ No ไปแล้วก็บอกท่านได้ ถ้าท่านถามว่ายังไม่ได้แสกนลายนิ้วมือหรือว่า น้องงงอยู่กับคำศัพท์ตัวนี้ ไม่แน่ใจว่าแสกนไปแล้วหรือยัง จำไม่ได้ค่ะ

  • Giselle  On June 5, 2013 at 7:56 pm

    พึ่ง submit ไปค่ะ แต่แก้เป็น YES แทนแล้ว ขอบคุณมากๆอีกครั้งสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ

    • govisa  On June 5, 2013 at 11:49 pm

      ได้ผลวีซ่าเป็นอย่างไร น้อง Giselle เขียนมาบอกกันบ้างนะคะ

  • พรรณภา  On June 6, 2013 at 7:58 pm

    พี่ Govisa ค่ะตอนนี้เพื่อนซื้อตั๋วให้แล้วค่ะ ของ KE+AA ลองโทรไปถามทาง Koreanair วว่าเราต้องโชว์บัตรเครดิตมั๊ยเค้าบอกว่าซื้อผ่านเอเจนซี่ (ของ American express) ทางสายการบินไม่เกี่ยว แบบนี้แสดงว่าไม่ต้องโชว์บัตรเครดิตใช่มั๊ยค่ะ… หรือว่าจะให้เพื่อถ่ายสำเนาบัตรแล้วเซ็นรับรองให้เราถือไว้เผื่อเค้าตรวจดีค่ะ

    • govisa  On June 6, 2013 at 10:02 pm

      น้องพรรณภาคะ ตามที่พี่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามสายการบินสองสามสายที่บินเข้า-ออกอเมริกาหลังจากที่ได้รับคำถามเรื่องการใช้บัตรเครดิตซื้อตั๋วเครื่องบินออนไลน์จากน้อง เจ้าหน้าที่สายการบินอเมริกันในเมืองไทยชี้แจงว่า ถ้าการซื้อด้วยบัตรเครดิตผ่านขั้นตอน verified บัตรและสามารถออกตั๋วเครื่องบินให้ผู้โดยสารท่านนั้นได้ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการเดินทางแล้วค่ะ สามารถใช้เดินทางได้เลยค่ะ น้องไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ การที่น้องถ่ายสำเนาบัตรเครดิตไปทั้งด้านหน้าบัตรและด้านหลังบัตรกลับอันตรายมากกว่า น้องต้องเก็บรักษาให้ดีนะคะ เพราะถ้าใครที่มีจิตใจไม่ซื่อตรงได้หมายเลข 16 ตัวด้านหน้ารวมทั้งรหัสลับแสดงตัวตนของเจ้าของบัตรสามตัวที่อยู่ด้านหลังบัตรไป เขาคนนั้นสามารถนำรายละเอียดดังกล่าวไปใช้ชำระค่าสินค้าอย่างน้อยก็ออนไลน์ได้เลยนะคะ ถ้าไม่ได้เป็นอะไรที่สนิทกันจริงๆ เราไม่ควรให้ใครหมายเลขบัตรนั้นกับใครนะคะ

  • พรรณภา  On June 6, 2013 at 11:26 pm

    ขอบคุณค่ะที่ช่วยสอบถามข้อมูลให้ตอนนี้คลายกังวลไปเยอะแล้วค่ะ คงไม่ต้องต้องขอสำเนาบัตรเพื่อนแล้วค่ะเพราะกลัวจะทำหายแล้วยิ่งทำให้เพื่อนเดือนร้อนไปใหญ่ไม่รู้จริงๆ ว่าคนอื่นสามารถเอาเลขบัตรไปซื้อของได้ค่ะ… แสดงว่าเราได้ ticket no. มาเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีปัญหาใช่มั๊ยค่ะ… โทรสอบถามเจ้าหน้าที่สายการบินเค้าบอกมีชื่อเราแล้ว แต่ว่าทำไมเราไปตรวจสอบ e-ticket online ไม่สามารถทำได้ค่ะ แบบนี้เราต้องโทรสอบถามสายการบินเพือยืนยันสถานะอีกครั้งแล้วจองที่นั่งด้วยจะได้มั๊ยค่ะ

    • govisa  On June 7, 2013 at 5:31 am

      น้องพรรณภาลองถามสายการบินดูอีกทีในสิ่งที่สงสัยค่ะค่ะ พี่คาดว่า น้องอาจต้องการจะจองที่นั่งออนไลน์หรือ check-in เข้าไป บางสายอนุญาตให้ทำได้ก่อนขึ้นเครื่องบินได้ 1-2 วันก่อนหน้าเดินทางเท่านั้นเองค่ะ

  • พรรณภา  On June 7, 2013 at 9:04 pm

    โทรถามสายการบินและจองที่นั่่งเรียบร้อยแล้วค่ะ หมดกังวลไปซะที แต่มีเรื่องรบกวนถามเพิ่มเติมให้หลานสาวค่ะ… ว่าถ้าหลานไปขอวีซ่าแล้วแจ้งสถานทูตบินไปพร้อมกับน้า (ตัวเรา) แต่ถ้าถึงเวลาจริง ๆ ไม่ได้ไปจะเป็นอะไรมั๊ยค่ะ ในกรณีที่ได้วีซ่าค่ะ

    • govisa  On June 7, 2013 at 10:55 pm

      ไม่เป็นไรค่ะน้องพรรณภา หลานสาวสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวเก็บไว้ได้ วีซ่าท่องเที่ยวมีอายุการใช้งานตามปกติ 10 ปี จะเดินทางเมื่อไหร่ก็ได้ภายใน 10 ปีค่ะ

  • พรรณภา  On June 8, 2013 at 9:52 am

    ขอบคุณค่ะ…จะได้ให้หลานสาวเตรียมเอกสารแล้วก็นัดสัมภาษณ์เลย

    • govisa  On June 8, 2013 at 11:41 pm

      น้องพรรณภาเตรียมเอกสารขอวีซ่าของหลานสาวคล้ายกับของน้องนะคะ และหลานสาวสามารถที่จะเลือกให้เหตุผลได้ดังนี้คือ
      1. ไปเที่ยวกับน้องพรรณภา โดยหลานสาวเพิ่งตัดสินใจ เพราะที่ทำงานหลานสาวอนุญาตให้หลานสาวลางานไปได้ในช่วงเวลาเดียวกับที่น้องพรรณภาจะไปเที่ยวค่ะ ให้หลานสาวแนบสำเนาเอกสารหน้าหนังสือเดินทางและหน้าวีซ่าของน้องพรรณภาเข้าไปด้วย หรือ
      2. หากหลานสาวเป็นคนคล่องแคล่ว มีเงินในบัญชีธนาคารของตนเองพอสมควร หรือหากมีน้อยแต่มีของคุณพ่อคุณแม่หลานสาวยื่นเอกสารของคุณพ่อคุณแม่หลานสาวเข้าไปประกอบด้วยก็ยิ่งดี หรือจะให้คุณพ่อคุณแม่ของหลานสาวขอวีซ่าไปท่องเที่ยวอเมริกาพร้อมกันกับหลานสาวเลยก็ได้ค่ะ ไปกับทั้งครอบครัวนอกจากจะสนุกแล้วยังมีความผูกพันกันที่เดินทางกันไปเป็นครอบครัวด้วยค่ะ

  • กัญญกา  On June 10, 2013 at 1:59 pm

    สวัสดีค่ะ กรอกแบบฟอร์มds 160 เพื่อท่องเที่ยวเสร็จ แต่ไม่ได้ใส่คำนำหน้าชื่อจะเป็นส่วนที่ผิดที่ถือเป็นสาระสำคัญมั๊ยค่ะ แล้วคำถามที่ถามว่าเกิดเมืองอะไร แทนที่จะใส่ชื่อจังหวัด (เพราะบรรทัดถัดมาถามเกิดจังหวัดอะไร) แต่ดันตอบชื่ออำเภอไปค่ะพอปริ๊นหน้าแบบฟอร์มที่มีโค้ด มันเลยโชว์สถานที่เกิดเป็นชื่ออำเภอ กับประเทศค่ะ แง่ๆๆ

    • govisa  On June 10, 2013 at 9:24 pm

      ถ้าน้องกัญญภายังไม่ได้ยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่และ print DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ออกมาเพื่อนำหมายเลขใหม่นี้ไปใช้จองวันนัดสัมภาษณ์ แต่ถ้าน้องได้ใช้ DS-160 Confirmation Number หมายเลขที่น้องบอกพี่ว่าได้กรอกเรื่องสถานที่เกิดผิดนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วก็ไม่มีปัญหา ให้น้องกรอก DS-160 ใหม่เพื่อแก้ไขอะไรที่กรอกผิดไปให้ถูกค่ะ และ print หมายเลข DS-160 Confirmation Number หมายเลขใหม่ออกมา เพื่อนำทั้งหมายเลขใหม่และเก่าไปยื่นในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • nam  On June 10, 2013 at 9:35 pm

    เรียน P’Gosa คะ รบกวนขอคำปรึกษาดังนี้ค่ะ น้ำได้กรอก DS160 ไว้ตั้งแต่เดือนเมษายนค่ะ แต่ยังไม่ได้ submit และได้วันนัดสัมภาษณ์ 27 เดือนมิถุยายน เรียบร้อยค่ะ พอมาวันนี้จะ submit ก็ sign in เข้าไปปรากฎว่า ข้อมูลในแบบฟอร์มที่เคยกรอกเข้าไปและบันทึกไว้เรียบร้อยแล้วนั้น หายหมดเลยค่ะ รวมทั้งรูปที่เคยโหลดไว้ด้วยค่ะ (ไม่แน่ใจว่าหมดอายุใช่มั้ย) แต่น้ำได้กรอกเข้าไปใหม่ในเลขที่ฟอร์มเดิมระบบก็รับค่ะ คำถามคือ เราจะอ้างอิงใช้เลขที่แบบฟอร์มเดิมของเรานี้ยังได้มั้ยคะ หรือว่าควรจะกรอกแบบฟอร์มใหม่ดีคะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ //ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On June 10, 2013 at 10:31 pm

      น้องน้ำคะ ก่อนหน้าวันที่ 8 มิถุนายน 2556 ได้มีประกาศปรากฏอยู่บนเว็บไซต์การกรอกฟอร์ม DS-160 online เตือนให้ผู้ที่กรอกฟอร์ม DS-160 ค้างอยู่และ save ไว้รีบจัดการกรอกฟอร์มให้เสร็จและ print ออกมา เพราะวันที่ 8 มิถุนายน 2556 จะมีการปิดปรับปรุงการกรอกฟอร์ม DS-160 ชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีผลกระทบทำให้ข้อมูลของบางท่านที่ save ไว้หายไปได้ ดังนั้นกรณีของน้องที่เกิดขึ้นอาจจะอยู่ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคำเตือนเมื่อ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาค่ะ ถ้าน้องจะอ้างอิงฟอร์มเดิมน้องสามารถ print DS-160 Confirmation Number ออกมาได้ไหมคะ ถ้าทำไม่ได้ ให้น้องน้ำกรอก DS-160 ใหม และนำหลักฐานหมายเลข DS-160 Confirmation Number เก่าที่ข้อมูลหายไปแต่นำไปใช้จองวันนัดสัมภาษณ์และหมายเลข DS-160 Confirmation หมายเลขที่เกิดจากการที่น้องได้กรอกฟอร์มใหม่อีกครั้งไปแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • กัญญกา  On June 11, 2013 at 12:20 pm

    พี่ govisa ค่ะ ถ้านัดจองสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว หมายถึงแบบฟอร์มที่กรอกใหม่ เราก็ต้อง sign submit เข้าไปใหม่ แล้วปริ๊นออกมา วันสัมภาษณ์ก็ให้เอาแบบฟอร์มทั้งเก่าและใหม่ไปยื่นใช่มั๊ยค่ะ

    • govisa  On June 11, 2013 at 9:44 pm

      น้องกัญญภาคะ คำถามที่น้องถามมาน้องเข้าใจถูกแล้วค่ะ

  • กัญญกา  On June 11, 2013 at 3:28 pm

    ขอถามอีกข้อได้มั๊ยค่ะ เอกสารที่เตรียมไปสัมภาษณ์ เช่นบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารอื่นๆที่เตรียมไป ต้องเตรียมตัวจริงไปหรือถ่ายสำเนาไปก็ได้ค่ะ

    • govisa  On June 11, 2013 at 9:52 pm

      เอกสารที่น้องกัญญภาต้องนำไปแสดงที่สถานทูตสหรัฐฯเป็นเอกสารตัวจริง ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสารเหมือนการยื่นขอวีซ่าของบางประเทศค่ะ บัตรประชาชนไม่ต้องใช้ค่ะ เพราะหนังสือเดินทางเปรียบเสมือนบัตรประชาชนอยู่แล้วค่ะ ส่วนทะเบียนบ้านไม่ต้องใช้เช่นเดียวกัน ยกเว้นน้องต้องการใช้ทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานสนับสนุนบางเหตุผล ยกตัวอย่างเช่นสมมติว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ในทะเบียนบ้านตรงชื่อน้องจะมีระบุชื่อผู้ให้กำเนิดน้องคือพ่อและแม่

  • กัญญกา  On June 12, 2013 at 5:35 pm

    พี่ govisa ค่ะ statement ที่จะขอจากธนาคาร กับหนังสือรับรองฐานะทางการเงิน มันคืออันเดียวกันรึเปล่าค่ะ แล้วต้องขอทั้งสองอย่าง หรืออย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ

    • govisa  On June 12, 2013 at 8:11 pm

      น้องกัญญภาคะ statement มีลักษณะคล้ายกับรายการแสดงจำนวนเงินเข้าและออกในแต่ละเดือนของเจ้าของบัญชี ส่วนหนังสือรับรองฐานะการเงินจากธนาคารจะเป็นการรับรองโดยธนาคารที่คนที่จะเป็น sponsor ให้น้องกัญญภาฝากเงินไว้ ธนาคารจะรับรองว่าท่านผู้นั้นมีเงินฝากบัญชีประเภทใดและมียอดเงินในบัญชีเงินฝากคงเหลืออยู่จนถึง ณ วันที่ขอให้ธนาคารออกหนังสือรับรองจำนวนเท่าไร ธนาคารแต่ละแห่งจะมีแบบฟอร์มหรือหน้าตาของหนังสือรับรองฐานะการเงินแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในเรื่องของสำนวนการเขียนแต่เนื้อความหลักๆคล้ายกันค่ะ ลองสืบค้นจาก google พบเว็บไซต์ของ
      ธนาคารกรุงไทย ( http://www.ktb.co.th/ktb/th/product-detail-sme.aspx?product=yRNFeZBGcAwX%2FZaYw0OtZw%3D%3D )บรรยายเกี่ยวกับบริการการออกหนังสือรับรองฐานะการเงินพร้อมมีแบบฟอร์มคำขอให้ธนาคารออกหนังสือรับรอง น้องสามารถเข้าไปดูเป็นตัวอย่างได้ พี่คิดว่า ธนาคารอื่นๆก็มีวิธีการอย่างเดียวกันค่ะ

      ถ้าน้องกัญญาภาจะขอวีซ่าไปประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้หนังสือรับรองฐานะการเงินจากธนาคารและบุ๊คบัญชีเงินฝากตัวจริงไปแสดงได้ค่ะ ส่วน statement จะนำไปแสดงเพื่อยื่นขอวีซ่าของสถานทูตบางประเทศ หรือในกรณีผู้เป็น sponsor เป็นเจ้าของบัญชีประเภทกระแสรายวัน หรือบัญชีประเภท overdraft ซึ่งธนาคารอาจจะไม่มีบุ๊คให้กับท่านเจ้าของบัญชีค่ะ

  • nong  On June 26, 2013 at 12:01 am

    พี่่ govisa ค่ะ น้องมีข้อสงสัยคือ
    1. ถ้าเราเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไม่ได้มีตำแหน่งทำงานในบริษัท เราใช้หลักฐานทางการเงินอะไรได้บ้างค่ะในการขอวีซ่า และการกรอก เลือก business+กรอกชื่อที่อยู่บริษัท แต่ตรงเงินเดือนจะกรอกอย่างไร ถ้าได้นัดสัมภาษณ์สิงหา-กันยา บริษัทจะเปิดได้ 6 เดือนจะพอน่าเชื่อถือหรือไม่ หรือควรให้บริษัทออกใบรับรองการทำงานระบุตำแหน่งเงินเดือน วันเวลาไปและกลับไว้ด้วย
    2. น้องมีลูกพี่ลูกน้องคนละนามสกุลเป็นโรบินฮูด ปัจจุบันได้กรีนการ์ดแล้ว และแฟนของเค้าก็เช่นกัน เค้าให้ชื่อที่อยู่แฟนเค้าให้น้องอ้างเป็นผู้ติดต่อ น้องควรอ้างหรือไม่ และอ้างว่าเป็นญาติหรือเป็นอะไร ส่วนที่พักน้องกรอกที่โรงแรม
    มีลูกพี่ลูกน้องอีก 1 คน นามสกุลเดียวกัน แต่สะกดไม่เหมือนกัน อยู่คนละเมืองกับที่จะไป มีร้านอาหารเอง
    คำถามว่ามีญาติใกล้ชิดอยู่หรือไม่ ตอบไม่
    คำถามว่ามีญาติอยู่หรือไม่ ตอบ มี ใช่หรือไม่
    น้องมีแผนอยู่ 2 ทาง คือ ดูโปรแกรมทัวร์ไว้ช่วงตุลา แต่กลัวจองไม่ทันเพราะวีซ่ายังไม่แน่
    กับ ไปเองโดยพักโรงแรมแต่ให้ลูกพี่ลูกน้องพาเที่ยว น้องควรจะกรอกอย่างไรให้ได้วีซ่าค่ะ
    3. ครอบครัวเดียวกัน 4 คน สะกดนามสกุลไม่เหมือนกัน 1 คน จะมีปัญหาอะไรหรือไม่
    สองคนทะเบียนบ้านเดียวกัน 1 พิน / อีกหนึ่งคนคนละทะเบียนบ้านอีก 1 พิน / อีกหนึ่งคนทะเบียนบ้านเดียวกับสองคนแรก แต่สะกดนามสกุลไม่เหมือนกัน อีก 1 พินหรือไม่ / ทั้งหมดอยู่บ้านเดียวกันตามความเป็นจริง เวลาจองใช้ 1 พิน (แต่ซื้อ 3 พิน) ได้หรือไม่
    อีก1 คน คนละนามสกุลคนละทะเบียนบ้าน แต่จริงๆอยู่บ้านเดียวกัน อีก 1 พิน นัดต่างหากใช่หรือไม่
    4. พ่อกับลูกสะกดนามสกุลต่างกันมีปัญหาหรือไม่
    5. คำถามการศึกษาเคยได้ใบประกาศวิชาชีพก่อนและต่อปริญญาตรี กรอกเฉพาะปริญญาตรีใช่หรือไม่
    6. เคยถูกปฏิเสธวีซ่าเมื่อ 14 ปีก่อนแต่ไม่รู้เหตุผล ควรตอบว่าไม่เคยถูกปฏิเสธหรือ เคยแต่ไม่รู้เหตุผล
    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On June 26, 2013 at 12:59 pm

      น้อง Nong คะ
      1. ก่อนหน้าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทนี้ ทำงานอะไรมาก่อนคะ ให้ขอหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทเก่าและระบุเงินเดือนเก่าไปด้วยก็ได้ ถ้าต้องการแสดงว่าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทใหม่ นำหนังสือจดทะเบียนบริษัทที่จะมีรายชื่อระบุว่ามีใครบ้างถือหุ้นและถือหุ้นจำนวนเท่าไรไปเพิ่มเติมได้ค่ะ ส่วนเงินเดือนที่ต้องกรอก อาจจะตีความเฉลี่ยจากกำไรที่ทางบริษัทแบ่งมาให้น้องว่าตกประมาณเดือนละเท่าไร หรือหากจะมีจดหมายรับรองจากทางบริษัทว่า ทำงานตำแหน่งอะไรและเงินเดืินโดยประมาณเท่าไรด้วยก็ดีค่ะ ถ้าเป็นบริษัทของญาติกันเอง น่าจะออกจดหมายมาให้น้องได้เร็วนะคะ
      2. ถ้ากรอกที่พักเป็นโรงแรมและจำนวนเงินในธนาคารก็มีพอสมควร ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงญาติที่เคยเป็นโรบินฮู้ดก็ได้ค่ะ ส่วนน้องจะดูว่าเค้าเป็นญาติไหมก็คงต้องดูที่สายของญาติ เช่น ถ้าเป็นลูกของพี่หรือน้องของคุณพ่อคุณแม่จริงๆของเรา เค้าก็เป็นญาติที่สนิทกับเรานะคะ ควรจะแจ้งไปด้วยค่ะ
      ส่วนการที่น้องควรจะระบุว่า มีญาติไหม ถ้าตอบตามความถูกต้องของกฎหมายการเข้าประเทศสหรัฐฯก็ควรจะต้องใส่ค่ะ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของน้องที่จะตัดสินใจเองค่ะ เพราะบางท่านก็มีคนที่เป็นญาติห่างที่ิอาจจะมีคุณลักษณะที่มีผลกระทบกับเรา และเค้าเองก็ไม่เคยติดต่อกับเรามานานหลายสิบปีแล้วก็ไม่น่าจะต้องใส่ชื่อเค้าค่ะ
      หากน้องวางแผนจะอยู่โรงแรมและให้ญาติพาเที่ยว ก็คงต้องใส่ไปว่ามีญาติค่ะ แต่ถ้าเค้าห่างกับเรามากไม่ค่อยสนิทกัน แต่ผู้ใหญ่ทางเมืองไทยฝากไป จะนับเค้าเป็นเพื่ิอนได้ไหมคะ น้องลองพิจารณาเองนะคะ เพราะพี่ไม่ทราบว่า ความสัมพันธ์นั้นใกล้ชิดกันมากน้อยเท่าไรค่ะ
      3. เรื่องการซื้อพินนัดวันสัมภาษณ์ ตามกฎต้องเป็นคนที่อยู่ในลักษณะความสัมพันธ์ พ่อ-แม่-ลูก ;พี่-น้องกันจริงที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกับเรา สามี-ภรรยา และต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน น้องลองเข้าไปอ่านได้ที่ http://bangkok.usembassy.gov/uploads/O0/2t/O02tTMhEsjrIRIBgOS_y2Q/pinhowto_english.pdf
      เวลาจองนัดวันสัมภาษณ์ ถ้าน้องทำการนัดจ่กหน้าเว็บไซต์นัดพร้อมกันในเวลาใกล้เคียงกันพอจะได้วันและเวลาเดียวกัน แต่ถ้าน้องเลือกที่จะซื้อสามพินแต่ใช้แค่พินเดียวนัดก็ได้ไม่มีปัญหาค่ะ เอาสองพินที่เหลือติดเข้าไปในสถานทูตวันสิบสัมภาษณ์ด้วยนะคะ
      4. ไม่มีปัญหาเรื่องตัวสะกดค่ะ
      5. กรอกดีกรีหรือปริญญาล่าสุดที่เรียนจบมาได้ค่ะ
      6. ควรตอบว่าเคยถูกปฏิเสธ เพราะสถานทูตเก็บ record ไว้เสมอค่ะ ในฟอร์ม DS-160 จะถามแต่เพียงว่า ถูกปฏิเสธวีซ่าประเภทอะไรและวันที่เท่าไรค่ะ ถ้าต้องการทราบความหมายของการปฏเสธวีซ่า และรหัสประเภทวีซ่าที่ถูกปฏิเสธ เช่น 221g แปลว่า เอกสารไม่ครบค่ะ http://travel.state.gov/visa/frvi/denials/denials_1361.html

  • nong  On June 26, 2013 at 12:08 am

    น้องขอเพิ่มอีกหนึ่่งคำถามค่ะ ถ้าเราเป็นผู้ถือหุ้นไม่มีตำแหน่งงานในบริษัท ตรงช่องให้ระบุหน้าที่การงานสั้นๆ จะกรอกอย่างไรค่ะ

  • nong  On June 27, 2013 at 12:07 am

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
    น้องขอคำแนะนำเพิ่มเติมอีหน่อยค่ะ
    1. ตอนนนี้น้องอายุ 24 ปี แม่ของน้องเคยเปลี่ยนชื่อให้ตอนที่น้องเกิดมาได้ไม่กี่เดือน มีใบเปลี่ยนชื่อ (แต่ไม่มีตัวจริงหาย) และมีชื่อเก่าระบุในสูติบัตร น้องต้องกรอกใน DS 160 ว่าเคยเปลี่ยนชื่อมาก่อนหรือไม่ค่ะ
    2. พูดและฟังภาษาอังกฤษกันไม่ค่อยได้ค่ะ ถ้าบอกว่าจะไปเอง ไม่ได้ไปกับญาติ จะได้หรือไม่ค่ะ
    3. หากบอกว่าจะไปกับทัวร์ตามโปรแกรมที่หามา (ยังไม่จอง) แต่ถึงเวลาเดินทางจริงไปเองจะได้หรือไม่ค่ะ
    4. น้องมีญาติ คือ ลูกชายของพี่สาวพ่ออยู่เมืองเดนเวอร์ เปิดร้านอาหาร เข้าเมืองถูกต้อง และลูกชายของน้องชายแม่อยู่ LA เป็นโรบินฮูด ปัจจุบันได้กรีนการด์แล้ว
    น้องจะไป LA โดยไม่ได้ไปเดนเวอร์
    น้องจะกรอกที่พัก : ชื่อโรงแรมที่ LA
    กรอกชื่อผู้ติดต่อ : 1 ชื่อญาติเข้าเมืองถูกต้อง (ลูกชายของพี่สาวพ่อ) ที่อยู่เดนเวอร์ หรือ
    2 ชื่อร้านอาหารของญาติที่เดนเวอร์ หรือ
    3 ชื่อโรงแรมที่ LA ที่จะไปพักตอนแรก ดีค่ะ
    “มีญาติลำดับต้น (brother/sister) อยู่หรือไม่ ตอบ No
    “มีญาติคนอื่นอยู่หรือไม่ ตอบ Yes หมายถึงลูกชายของพี่สาวพ่ออยู่เมืองเดนเวอร์ (โดยไม่เอ่ยถึงลูกชายของน้องชายแม่ที่อยู่ LA เป็นโรบินฮูด และได้กรีนการด์แล้ว เลยได้หรือไม่ค่ะ)

    • govisa  On June 27, 2013 at 6:03 pm

      น้อง Nong คะ
      1.ไม่ต้องใช้สูติบัตรในการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา น้องบอกว่า เปลี่ยนชื่อหลังจากแจ้งเกิดได้ไม่กี่เดือน ถ้าน้องจะตอบว่า น้องไม่เคยเปลี่ยนชื่อก็ได้ เพราะเอกสารทางการศึกษา บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทางก็ล้วนแต่ใช่ชื่อใหม่หมดแล้ว ถ้าน้องต้องการตอบตรงตามความเป็นจริงในกรณีนี้ควรจะนำใบเปลี่ยนชื่อไปแปลและรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมกงสุลด้วยค่ะ อ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://www.consular.go.th/main/th/services/1303
      2. พูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ จะทำให้เกิดปัญหาในการเที่ยวพอสมควร ถ้าน้องต้องไปเที่ยวเอง เพราะจะต้องสื่อสารกับฝรั่งที่ส่วนใหญ่จะพูดค่อนข้างเร็วกว่าตอนที่เราเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติที่เมืองไทย อาจจะทำให้การซื้อทัวร์ ซื้อของ และอื่นๆด้วยตนเองมีอุปสรรคบ้างค่ะ แต่ถ้าน้องลุยและสู้ทุกอย่างก็คงไปได้ค่ะ
      3. บอกว่าไปกับทัวร์โดยยังไม่ได้จองก็ได้นะคะ เพราะทางทัวร์เองไม่ได้เข้าไปขอวีซ่าให้เนื่องจากผู้ขอต้องแสกนลายนิ้วมือด้วยตนเองต่อหน้ากงสุล ทัวร์คงเข้าใจว่า เมื่อน้องได้วีซ่าแล้วคงจะมาจองจ่ายเงินกับทัวร์ในภายหลังค่ะ อย่าลืมนำใบรายการทัวร์ไปแสดงด้วยนะคะ สุดท้ายเมื่อได้วีซ่าแล้วเกิดเปลี่ยนใจไม่ไปกับทัวร์ก็ได้ โดยน้องอาจจะเปลี่ยนใจให้ญาติเป็นคนพาเที่ยวก็ได้ค่ะ
      4. น้องสามารถเลือกที่พักเป็นโรงแรมในแอลเอได้ถ้าน้องเลือกจะไปกับทัวร์ และจะใส่ชื่อญาติในเมริกาเป็นญาติที่อยู่ที่เดนเวอร์คนเดียวก็ได้ค่ะ โดยอาจจะใช้ที่อยู่ที่บ้านเค้าที่เดนเวอร์ หากกงสุลถามแบบชวนคุยว่าทำไมไม่ไปเดนเวอร์เลย อาจจะบอกได้ว่า ไปเที่ยวกับทัวร์ก่อน 4-5 วันหลังจากนั้นแวะไปเยี่ยมญาติที่เดนเวอร์ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการควบคุมตนเองของน้องเวลาอยู่ต่อหน้ากงสุล บางคนตื่นเต้นมากจนพูดผิดพุดถูก ต้องพยายามมีสมาธิและควบคุมตนเองไม่ให้ตื่นเต้นมากค่ะ และใช้ไหวพริบปฏิภาณคิดก่อนตอบคำถามนั้นๆค่ะ ส่วนญาติที่อยู่ที่แอลเอ อย่ากังวลคิดมากไปเลยค่ะ เราไม่ใช่ตัวญาติไปควบคุมอะไรไม่ได้ ต่างคนต่างมีเหตุผลของตนเอง ขอให้น้องแสดงท่าทางที่มั่นใจให้กงสุลเห็นในส่วนของเราว่า เราไม่ต้องการไปอยู่ที่อเมริกา เราแค่อยากไปเที่ยวและจะกลับเมืองไทยหลังจากเที่ยวเสร็จค่ะ

  • nong  On June 27, 2013 at 12:10 am

    ข้อ 2. พูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ไปเองไม่ได้ไปกับญาติ หมายถึงไปเที่ยวกันเองไม่มีใครที่นั่นพาเที่ยว จะขอวีซ่าได้หรือไม่ค่ะ

    • govisa  On June 27, 2013 at 6:08 pm

      น้อง Nong คะถ้าน้องสามารถทำให้กงสุลเชื่อมั่นได้ว่า น้องมีแผนการจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง หรือน้องรู้จักที่เที่ยวในแอลเอหรือรู้วิธีการเดินทางไปยังจุดนั้นๆได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ พยายามตอบคำถามกงสุลให้ชัดเจน ตรงประเด็นให้มากที่สุดค่ะ ส่วนปัญหาอื่นๆที่ควรระวังคือ การเงินว่ามีมากพอไหมและพูดคุยสื่อสารกับกงสุลได้ชัดเจนจนกงสุลเข้าใจได้ดีไหมค่ะ พี่ตอบแทนท่านกงสุลไม่ได้หรอกว่าน้องจะได้หรือไม่ได้วีซ่า พี่ได้แต่แนะนำขอให้น้องเตรียมเอกสารให้ครบและตอบคำถามให้ดีที่สุดค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ

  • panita  On June 27, 2013 at 5:03 pm

    รบกวนสอบถามนะ อ่านมาในกลูเกิลแล้วมีหลายคำตอบมากเลยคะ
    1. ดิฉันกับสามี(คนไทย) จดทะเบียนสมรสกัน แต่ชื่ออยู่คนละทะเบียนบ้าน ต้องใช้คนละpinใช่มั้ยคะ
    2. พอดีสามีทำงานสายการบิน ได้ตั๋วสแตนบาย ตามที่เราระบุในds-160 เดินทาง 10/10/2013 เราสามารถไปก่อนหรือหลังได้มั้ยคะ ( เพราะไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงไฮท์หรือเปล่า เสี่ยงกับการสแตนบายมากคะ )
    3. ถ้าคาดว่าจะไป 10/10/2013 เราควรนัดวันสัมภาษณ์ช่วงไหนดีคะ

    ขอบคุณมากคะ

    • govisa  On June 27, 2013 at 8:23 pm

      น้อง panita คะ
      1. ถ้าจะทำให้ถูกต้องตาม powerpont ที่อยู่ในรูป file pdf.ของสถานทูตสหรัฐฯ http://bangkok.usembassy.gov/uploads/O0/2t/O02tTMhEsjrIRIBgOS_y2Q/pinhowto_english.pdf ถ้าอยู่บ้านคนละหลัง น้องก็ต้องซื้อ 2 พิน แต่น้องสามารถใช้พินเดียวกันนัดทั้งสองคนเพื่อจะได้เข้าไปสัมภาษณ์พร้อมกันได้ค่ะ ส่วนอีกพินให้น้องนำไปในวันสอบสัมภาษณ์ด้วย แต่บางท่านก็ซื้อพินเดียว และนัดสัมภาษณ์ไปพร้อมกันเพราะเป็นสามี-ภรรยากันและเขาทั้งสองทราบดีว่า ในการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ กงสุลไม่ได้ขอดูทะเบียนบ้านค่ะ สรุปคือขึ้นอยู่กับ integrity หรืออาจจะคิดอีกอย่างก็ได้ว่า ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละท่านนะคะ
      2. ได้ค่ะ ลองนึกจำลองภาพคนที่ได้วีซ่าท่องเที่ยวนาน 10 ปี เวลาจะเข้าไปเที่ยวในสหรัฐฯแต่ละครั้ง เขาเหล่านั้นไม่ต้องไปแสดงตัวตนอีกครั้งที่สถานทูตเลย จะเข้าไปเที่ยวสหรัฐฯเมื่อไรก็ได้ค่ะ ตราบใดที่วีซ่ายังมีอายุการใช้งานอยู่ค่ะ
      3. คำตอบคล้ายข้อ 2 คือถ้าน้อง panita ว่างหรือสะดวกตอนนี้จะเข้าไปขอตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ ถ้าเกรงว่า กงสุลท่านจะถามว่าทำไมเข้ามาขอเร็ว น้องก็ตอบได้ว่า กลัวคิวนัดวันสัมภาษณ์แน่นจนจองไม่ได้ก็ได้ค่ะ

      • panita  On June 28, 2013 at 12:37 pm

        ขอบคุณมากคะ กระจ่างขึ้นมากเลยคะ ถ้าสงสัยอะไรแล้วจะรบกวนถามอีกรอบนะคะ

  • nong  On June 27, 2013 at 10:06 pm

    เพื่อนของน้องเปลี่่ยนชื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย ใบเปลี่ยนชื่อตัวจริง เค้าต้องนำไปแปลและรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมกงสุลหรือไม่ค่ะ
    หากที่บ้านเค้าทำกิจการส่วนตัว ไม่ได้จะทะเบียนนิติบุคคล ไม่มีทะเบียนการค้า มีแต่ใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงาน เค้าสามารถยื่นใบอนุญาติเป็นหลักฐานการงานของพ่อได้หรือไม่ และต้องนำใบอนุญาติไปแปลและรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมกงสุลหรือไม่ค่ะ
    ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ

    • govisa  On June 27, 2013 at 10:37 pm

      น้อง nong คะ
      1. ถ้าเปลี่ยนชื่อตอนโตแล้ว ควรจะนำหนังสือการเปลี่ยนชื่อไปแปลและรับรองให้เรียบร้อยค่ะ
      2. ไม่มีทะเบียนการค้าไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าเพื่อนของน้องจะนำใบอนุญาตประกอบประกอบกิจการโรงงานไปแสดงแทนค่ะ และไม่ต้องนำเอกสารดังกล่าวไปแปลค่ะ

  • si  On July 1, 2013 at 3:35 pm

    พี่ govisa ค่ะ
    ถ้าเราจะสมัครวีซ่าเป็นกลุ่ม4คน เราต้องกรอกแบบฟอร์ม DS160 ของใครของมันรวมเป็น 4ชุด หรือสามารถกรอกได้แค่ชุดเดียวแต่ใส่ชื่อ 4 คน แล้วตอนสัมภาษณ์ เราขอเข้าสัมภาษณ์พร้อมกัน 4 คนได้รึเปล่าค่ะ ถ้าเข้าได้พร้อมกัน บอกเจ้าหน้าที่่ที่สัมภาษณ์ขั้นต้น หรือท่านกงศุลค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On July 1, 2013 at 8:03 pm

      น้อง Si คะ น้องเข้าใจถูกแล้วค่ะว่า ทั้ง 4 คนต้องกรอก DS-160 ของแต่ละคน

      ในการกรอก DS-160 จะมีให้คลิกตอนสุดท้ายหลังจาก submit ไปแล้วว่า จะกรอก DS-160 ของคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันเพิ่มอีกไหม ถ้าไม่มีก็ exit ออกไปได้ค่ะ ถ้ามีก็กรอกต่อไปได้เลย ข้อดีของการ generate family คือ บางทีเราอาจจะเบื่อการกรอกอะไรที่ซ้ำซาก เช่น ทั้ง 4 คนจะมีที่พักที่เมืองไทยเป็นืี่อยู่เดียวกัน พูดง่ายๆก็คือ ใช้ permanent address เหมือนกัน น้องก็ไม่ต้องกรอกข้อความเดิมอีก เพราะโปรแกรมที่ให้กรอก DS-160 จะขึ้นข้อความที่เแป็นที่อยู่ที่เคยกรอกไปแล่วครั้งแรกมาให้เลยค่ะ หรือถ้าจะไปพักที่ิอเมริกาเป็นโรงแรมชื่อเดียวกันก็อาจจะมีขึ้นที่อยู่ให้เหมือนกันค่ะ ถ้าเราไม่ต้องการใช้วิธีการนี้จะลองลบที่อยู่ที่ขึ้นมาเอง แล้วกรอกใหม่ได้ไหม ทำได้ค่ะน้องกรอกที่อยู่ใหม้ไปได้ค่ะ ถ้าน้องไม่ต้องการใช้วิธีการ generate family ก็ไม่มีปัญหา เพราะจะเข้าไปที่หน้าเริ่มต้นกรอก DS-160 ใหม่ น้อง Si ก็เริ่มดำเนินการกรอกของแต่ละคนไป ชอบแบบไหนก็เลือกเอาหนึ่งอย่างค่ะ

      ส่วนพินที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์ใช้พินนัดอันเดียวกันได้ ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้ง 4 เป็นไปตามเงื่อนไขที่สถานทูตตั้งกฎเกณฑ์ไว้ค่ะ

  • พรรณภา  On July 5, 2013 at 9:07 am

    ขอสอบถามนอกเหนือจากการขอวีซ่าหน่อยนะค่ะ พอดีตัวเองเป็นหวัดมีน้ำมูกนิดหน่อย แต่ไม่มีไข้ จะบินไปอเมริกาวันที่ 8 กรกฎาคม นี้ จะได้มั๊ยค่ะ หรือว่าเราต้องไปหาหมอให้ฉีดยาให้หายก่อนแล้วค่อยบิน หรือสามารถบินไปได้เลยค่ะพี่ Govisa…. ตอนนี้กังวลกลัวเค้าจะไม่ให้ผ่านตอนตรวจค่ะ

    • govisa  On July 5, 2013 at 7:46 pm

      น้องพรรณภาคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ยินว่ามีข่าวเรื่องไข้หวัดใหญ่ทำนองซาร์ระบาด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเดินทางค่ะ น้องอาจจะเตรียมผ้าปิดปากปิดจมูกไปด้วย เพราะคนที่นั่งใกล้ๆกับน้องในเครื่องบินน่าจะรู้สึกอึดอัดว่า น้องจะแพร่เชื้อหวัดให้เขาหรือเปล่าค่ะ เพราะที่นั่งในเครื่องบินถ้าเป็นชั้นประหยัดจะไม่กว้างขวางเหมือนกับที่นั่งในชั้นนักธุรกิจ ความน่าจะเป็นไปในการแพร่เชื้อโรคน่าจะมีสูงอยู่ค่ะ พี่คิดว่าวันศุกร์นี้หรือหยุดเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้น้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลให้หมอฉีดดยารักษาให้ทุเลาดีกว่าค่ะ อีกประการหนึ่งการไปเจ็บป่วยที่อเมริกา จะไปหาหมอรักษา หมอมักจะไม่จ่ายยา แต่จะให้แนะนำให้เรานอนพักผ่อนมากๆ ทำร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำเยอะๆ เดี๋ยวก็หาย และก็จะคิดค่าปรึกษาหมอโดยประมาณถ้าเป็นนักเรียนมีประกันสุขภาพ จะอยู่ที่ราคาประมาณ 25 US$ เป็นอย่างต่ำค่ะ ถ้าไม่มีประกันสุขภาพ พี่ไม่ทราบราคาว่าจะอยู่เท่าไร อย่าป่วยได้ดีที่สุดค่ะ รักษาตัวให้หายเร็วๆก่อนหน้าเดินทางวันจันทร์นี้นะคะ ขอให้เดินทางโดยราบรื่นค่ะ จะได้เที่ยวให้สนุกค่ะ

  • พรรณภา  On July 6, 2013 at 1:29 pm

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำอีกครั้งค่ะ… เมื่อวานไปหาหมอมาแล้วปรากฎหมอบอกไม่เป็นไรมาก แต่กลัวเราจะมีปัญหาหูอื้อเวลาเครื่องลงค่ะก็เลยให้ยามาทาน พร้อมทั้งแนะนำว่าหากปวดหู หรือ หูอื้อ (อาจจะเกิดได้เพราะเราเพิ่งหายจากหวัด) ควรจะทำยังไงค่ะ

    • govisa  On July 6, 2013 at 2:49 pm

      ถ้าน้องพรรณภาหูอื้อเวลานั่งเครื่องบินเท่าที่ทราบกันก็คือ เคี้ยวหมากฝรั่ง แต่ถ้าเป็นนานและยังเป็นอยู่อีกเมื่อถึงอเมริกาแล้ว ให้ทานยาตามที่คุณหมอสั่งและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอค่ะ พี่ต้องขอโทษที่พี่ไม่ใช่แพทย์ ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักการที่ควรจะเป็นได้ค่ะ น้องลอง search เว็บไซต์โรงพยาบาลหรือคลินิกทางการแพทย์ที่มีบทความเสริมความรู้ให้ประชาชนดูนะคะ พี่อ่านพบเว็บไซต์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ ข้อมูลดูมีประโยชน์ดีค่ะ http://haamor.com/th/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD/

      เคยมีคนเล่าเรื่องอาการได้ยินเสียงแว่วในหู คนที่เล่าเรื่องนี้มีประกันสุขภาพแต่ประกันไม่ได้ครอบคลุมทุกโรค ต้องอ่านกรมธรรม์ให้ดีๆค่ะ โรคเสียงแว่วในหูของท่านผู้นี้ไม่ได้อยู่ในรายการของกรมธรรม์ประกันสุขภาพของท่านผู้นี้ ท่านผู้นี้จึงพยายามหาข้อมูลที่จะไปรักษาตนเองในโรงพยาบาลที่มีราคาไม่แพงนัก จึงเลือกโรงพยาบาลของผู้มีรายได้น้อยในเมืองที่ตนอยู่ในสหรัฐฯเป็นที่รักษา ค่ารักษาครั้งเดียวคือ 125 US$ ถ้าเป็นโรงพยาบาลทั่วไปอาจจะต้องมีค่าทำการจองวันนัดและค่ารักษาพยาบาล รวมแล้วน่าจะมากกว่า 125 US$ นั่นคือสิ่งที่พี่เตือนน้องให้ไปรักษาสุขภาพก่อนเดินทางค่ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยและหายป่วยทันวันจันทร์ค่ะ

  • aern  On July 18, 2013 at 10:55 pm

    มีเรื่องรบกวนถามค่ะ คือว่าจะไปเรียนภาษาที่อเมริกาโดยพักอยู่กับญาติห่างๆ แต่จะแจ้งว่าไม่มีคนรู้จักหรือญาติอยู่ที่นั่น แล้วอย่างงี้ควรกรอกที่อยู่ในDS-160เป็นที่พักอพาร์ทเมนต์ซักแห่งหนึ่งไปเลยหรือควรกรอกที่อยู่มหาลัยไปดีคะ แต่มันติดอยู่ที่ว่ามหาลัยที่จะไปเรียนไม่มีที่พักจัดให้สำหรับนักเรียนนี่สิ เลยไม่รู้ว่าควรกรอกยังไงและถ้าถูกถามควรให้เหตุผลว่ายังไงดีคะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On July 18, 2013 at 11:17 pm

      น้อง aern คะ
      1. น้องสามารถใส่ที่อยู่ของญาติห่างๆได้ค่ะ ถ้าญาติห่างๆคนนั้นไม่เคยทำผิดกฎหมายอะไร ก็ไม่น่าต้องกังวลเกินไปค่ะ การไปอยู่ในเมืองที่ไม่มีใครรู้จักเลย คุณพ่อคุณแม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วงและฝากให้ลูกอยู่ใกล้หูใกล้ตาคนรู้จักก่อน และเมื่ออยู่ไปได้สักเดือนสองเดือนค่อยขยับขยายหาที่พักใหม่ได้ค่ะ ดังนั้นน้องคงพอจะอนุมานได้แล้วนะคะว่า หากจะใช้ที่อยู่ของญาติห่างๆควรเตรียมตัวตอบคำถามอย่างไรเมื่อถูกถามค่ะ หรือ
      2. น้องอาจจะใส่เป็น care of หรือ อ้างถึงในภาษาไทยว่า เป็นชื่อและที่อยู่ของมหาวิทยาลัยได้ โดยปกติหน่วยงาน Housing Office ของแต่ละสถานศึกษาจะมีหน้าที่ให้คำแนะนำและความช่วยเหลือแก่นักเรียนต่างชาติในเรื่องเกี่ยวกับการหาที่พักอยู่แล้วค่ะ แล้วแต่น้องจะตัดสินใจนะคะ

  • ปณิตา  On August 3, 2013 at 7:33 pm

    รบกวนถามอีกครั้งคะ
    – ดิฉันกรอกข้อมูลของตัวเอง และของสามี จึงพบความแตกต่างตรง work/education (จำไม่ได้แน่นอนคะ) คือของเรามีแค่ งานปัจจุบัน แต่ของสามี มีข้อมูล previous งานเดิม/สถาบันการศึกษาใน5 ปีที่ผ่านมา และ additional ใน5 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมา.
    แต่เราไม่มี มีแต่ present อย่างเดียว เราจึงเปิดฟอร์มของเรา เทียบกับของสามี ก็ติ้ก กรอกเหมือนกันหมด
    จึงไม่แน่ใจว่าของคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง หรือเราทำผิดตรงไหนไป แต่ข้อมูลก่อนหน้านั้น เหมือนกันหมดเลยคะ มีแต่ตรง work ที่ไม่เหมือนกันคะ

    • govisa  On August 3, 2013 at 8:25 pm

      น้องปณิตาคะ คำถามของผู้กรอกฟอร์ม DS-160 อาจจะมีไม่เหมืิอนกันบ้าง เช่น บางคนอาจจะได้คำถามให้ยืนยัน reference ที่เมืองไทย หรือบางท่านให้บอกชื่อประเทศที่เคยเดินทางไปเที่ยวเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา หรือให้บอกชื่อสถานศึกษาเก่า แต่บางท่านก็ไม่พบคำถามเหล่านั้นเลยก็มีค่ะ เมื่อเรากรอกเสร็จสมบูรณ์ ถือว่าเราได้ทำตามขั้นตอนของการกรอกฟอ์มวีซ่า DS-160 เรียบร้อยแล้ว สถานทูตจะไม่บอกให้น้องต้องกรอกใหม่ค่ะ

      • ปณิตา  On August 3, 2013 at 8:45 pm

        ขอบคุณคะ หายเครียดไปเลย

  • น้อง  On August 15, 2013 at 10:22 pm

    สวัสดีค่ะพี่ govisa
    น้องไปสัมภาษณ์มาแล้วทั้งครอบครัว 5 คน น้องแจ้งว่าจะไปกับทัวร์พร้อมทั้งยื่นโปรแกรมทัวร์ที่เตรียมไปให้กับท่านกงศุล เอกสารท่านไม่ได้เก็บอะไรมาก มีแค่โปรแกรมทัวร์ หนังสือรับรองบริษัทและรายชื่อผู้ถือหุ้นที่แสดงว่าเราเป็นเจ้าของ จดหมายรับรองงานของคนที่ทำงาน จดหมายแนะนำตนเองว่าเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวอีกแห่งหนึ่งพร้อมระบุว่ารับรองรายจ่ายให้ทุกคนและยืนยันว่าจะกลับไทย แสดงใบอนุญาติโรงงานให้ดูแต่ไม่เก็บสำเนา Statement ใบรับรองธนาคาร สมุดบัญชีไม่ดูเลย ทั้งช่องด้านนอกและด้านในไม่ทราบว่าเพราะอะไร
    ถามว่าจะไปไหน ไปเมื่อไหร่ ไปกี่วัน สัมพันธ์กันอย่างไรในครอบครัว
    มีญาติอยู่ที่นั่นมัีย : มี เป็นลูกอา ส่วนชื่อที่อ้างเป็นผู้ติดต่อนั้นเป็นแฟนลูกอา เพราะลูกอาอาจจะไม่ค่อยอยู่เลยไม่สะดวก ให้ติดต่อแฟนเค้าสะดวกกว่า
    จะไปหาเค้ามั๊ย : ไป เพราะเค้าอยู่ที่นั่น ใกล้กับที่เราจะไป
    ท่านกงศุลก็ให้ใบสีฟ้ากลับ 5 ใบ ไปซื้อซองไปรษณย์
    แสดงว่าได้วีซ่าใช่มั๊ยค่ะ แต่จะได้นานเท่าไหร่ ต้องดูตอนได้พาสปอร์ตกลับมารึป่าวค่ะ
    น้องขอบคุณพี่ govisa มากค่ะที่ให้คำแนะนำในการตอบคำถาม
    น้องมีข้อสงสัยเพิ่มเติมค่ะ ถ้าน้องได้วีซ่าแล้ว
    1. พ่อของลูก (อายุ 12 ปี มารดาเสียชีวิต) ที่เป็นผู้รับรองค่าใช้จ่ายให้ทุกคน เกิดทิ้งงานไปด้วยกันไปได้ ลูกเดินทางกับญาติคนอื่นอีก 3 คนได้มั๊ย และต้องมีเอกสารใดติดตัวน้องไปด้วยมั๊ย
    2. อา (น้องชายแม่) มีกรีนการ์ด แต่ปัจจุบันกลับมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เดือนเมษายน คิดว่าจะอยู่เป็นปี แต่พอทราบว่าได้วีซ่ากัน จึงคิดว่าเค้าจะบินไปด้วยและจะพาเที่ยวเอง ส่วนขากลับเค้าจะไม่กลับพร้อมกัน เพราะอีกสองเดือนเพื่อนอาจะไปเที่ยวอีกเค้าจะรอพาเพื่อนเที่ยว
    น้องให้อาพาไปโดยไม่ไปกับทัวร์แล้วได้มั๊ยค่ะ แล้วถ้าไปจะมีปัญหาตอนเข้าเมืองมั๊ยค่ะ ต้องเตรียมตอบคำถามอย่างไรบ้างค่ะ
    ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ

    • govisa  On August 16, 2013 at 9:39 pm

      น้องคะถ้าได้ใบสีฟ้ามาแปลว่าได้วีซ่าแต่จะได้นานกี่ปี รอดูผลจากในหนังสือเดินทางที่จะส่งกลับมาค่ะ ถ้าเป็นของผู้ใหญ่อาจจะได้วีซ่านาน 10 ปี ถ้าเป็นของเด็กบอกพี่มาดัวยนะคะว่า ได้กันคนละกี่ปีค่ะ ส่วนคำถามที่ถามมานะคะ
      1. ขอให้คุณพ่อของเด็กเขียนจดหมายภาษาอังกฤษขึ้นมาหนึ่งฉบับระบุว่า อนุญาตให้เด็กชื่อ…. เดินทางไปกับผู้ใหญ่ชื่อ……. ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็น เช่นเป็นคุณอาของเด็กเป็นต้น เด็กจะไปพักกับคุณอาชื่อนี้และจะท่องเที่ยวในอเมริกานานกี่วัน โดยอาจจะเสริมไปด้วยก็ได้ว่า ตอนนี้ที่เมืองไทยปิดเทอมหรือเพราะอะไร(ตรงนี้พี่ไม่ทราบเหตุผลของน้องค่ะ)
      2.ไม่ไปเที่ยวกับทัวร์ ไปเที่ยวกับคุณอาก็ได้ค่ะ ตอนตอบคำถามที่อิมมิเกรชั่น น้องก็ตอบเหมือนตอบท่านงสุลก็ได้ค่ะว่า จะไปพักกับลูกของคุณอาเพื่อให้ลูกของคุณอาพาเที่ยว ถ้ามีรายละเอียดตั๋วเครื่องบินตอนกลับเข้าประเทศไทย ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดูด้วยก็ได้ค่ะ จะได้เป็นหลักฐานประกอบว่า คณะของน้องจะกลับเมืองไทยวันที่เท่าไรค่ะ
      อนึ่ง คุณอาคนที่มีกรีนการ์ดเดินทางเข้าประเทศวันเดียวกับน้องอาจจะไม่ได้ตรวจหนังสือเดินทางจุดเดียวกับน้อง เหตุผลคือตรงจุดตรวจคนเข้าเมืองตามปกติแล้วผู้ที่มีกรีนการ์ดจะเข้าไปสัมภาษณ์ตรงช่อง US Citizen แต่ถ้าผู้เข้าประเทศเป็นคนต่างชาติจะตรวจเอกสารตรงช่อง Non-US Citizen แต่ในนกฎก็อาจมีข้อยกเว้นได้เป็นบางกรณี เช่น ลูกที่เดินทางไปกับผู้ปกครองที่มีกรีนการ์ดก็อาจจะได้รับการอนุญาตให้ตรวจเอกสารที่ช่องเดียวกับผู้ปกครองที่มีกรีนการ์ดได้ แล้วแต่การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่อเมริกันตรงบริเวณตรวจหนังสือเดินทางค่ะ ดังนั้น ในกรณีของน้องถ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจหนังสือเดินทางช่องเดียวกับคุณอาที่ได้รับกรีนการ์ดแล้ว ขออย่าตกใจ เพราะถ้าน้องเป็นคนกรอกฟอร์มวีซ่าให้กับทุกคน ภาษาอังกฤษของน้องคงใช้ได้ดีพอสมควร น้องน่าจะช่วยคนเหลือคนในกลุ่มที่เดินทางพร้อมน้องได้ในการตอบสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯค่ะ

  • น้อง  On August 15, 2013 at 10:26 pm

    ขอโทษค่ะน้องพิมพ์ผิดข้อ 1 ถ้าพ่อทิ้งงานไปไม่ได้ ลูกเดินทางกับญาติ 3 คนได้ม๊ย ต้องทำเอกสารอะไรติดตัวไปมั๊ย

    • govisa  On August 16, 2013 at 9:44 pm

      น้องคะ พี่ตอบคำถามไปแล้วว่า ให้คุณพ่อของเด็กเขียนจดหมายว่า เด็กจะเดินทางไปกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกับเด็ก ส่วนตัวคุณพ่อเผอิญติดงานเดินทางไม่ได้ค่ะ และเด็กจะต้องเดินทางกลับเมืองไทยวันไหน เพื่อกลับมาให้ทันเข้าชั้นเรียนที่โรงเรียนในเมืองไทยก็ดีค่ะ

  • น้อง  On August 16, 2013 at 10:24 pm

    สวัสดีค่ะพี่ govisa
    วันนี้น้องได้รับหนังสือเดินทางกลับมาแล้วค่ะ วีซ่าได้คนละ 10 ปี รวมถึงหลานของน้องที่อายุ 12 ด้วยค่ะ ดีใจมากค่ะ (สถานฑูตส่งหนังสือรับรองบริษัท รายชื่อผู้ถือหุ้น จดหมายรับรองงานและจดหมายแนะนำตัวของผู้ออกค่าใช้จ่ายคืนกลับมาในซองด้วยค่ะ)
    ขอบคุณพี่ govisa มากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆ ตั้งแต่การเริ่มกรอก ds 160 การนัดสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ และการเตรียมเข้าเมือง หากไม่มีคำแนะนำต่างๆ น้องคงไม่ได้วีซ่าแน่ค่ะ
    ปัญหาที่เจอและขอบอกต่อเผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่น คือ สถานฑูตไม่ให้พกโทรศัพท์มือถือเข้าไปฝากหลายเครื่อง รับฝากแค่คนละเครื่อง / ไอพอด ไอแพด คอม เป้ ไม่ให้เอาเข้าเลยและไม่รับฝาก ต้องหาฝากเอาเองหน้าสถานฑูต ใครไม่มีญาติไปรอหน้าสถานฑูตจะลำบากมาก ต้องหาคนรับฝากหรือต้องหาที่เก็บ และจะวางไว้หน้าสถานฑูตขอวีซ่าเสร็จแล้วค่อยออกมาเอาก็ไม่ได้ จะเสียเวลาในการหาวิธีฝากหรือต้องเดินไปเก็บที่รถ

    • govisa  On August 17, 2013 at 9:42 pm

      ขอบคุณน้องมากค่ะ ถ้าน้องติดตามเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการขอวีซ่าชั่วคราว จะสังเกตเห็นได้ว่า มักจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎอยู่เรื่อยๆเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์หลังจากการใช้ระเบียบเดิมไปพักหนึ่งค่ะ พี่เห็นข่าวดังกล่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ออนไลน์บางฉบับ จึงไม่ได้โพสต์ข้อความซ้ำ

      อย่างไรก็ตามพี่ขอขอบคุณน้องมากๆค่ะที่แจ้งเรื่องเครื่องมือสื่อสารประเภทต่างๆที่สามารถนำเข้าไปในสถานทูตได้ค่ะ http://thai.bangkok.usembassy.gov/non-immigrant_visas.html

      พี่ดีใจด้วยที่น้องได้รับวีซ่านาน 10 ปีค่ะ และขอบคุณที่เห็นว่าคำแนะนำที่พี่ให้มีประโยชน์ ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ของการเขียนบล็อกของพี่ที่อยากช่วยคนที่ที่ต้องการอยากทำอะไรด้วยตนเอง เช่น กรอกฟอร์มวีซ่า สมัครเรียนต่อต่างประเทศ และอื่นๆ มีมีอีกช่องทางหนึ่งในการรับรู้ข้อมูล และพอช่วยเหลือตนเองได้ค่ะ พี่อยากให้เราเคารพและให้เกียรติประเทศอื่นด้วยการไม่อยากเข้าไปอยู่ประเทศอื่นแบบผิดวัตถุประสงค์ที่ขอวีซ่าเข้าประเทศนั้นๆ เพราะจะทำให้คนชาติเดียวกันถูกมองภาพไม่ดีด้วยค่ะ ขอให้น้องและหลานเที่ยวอเมริกาให้สนุกนะคะ 🙂

  • mameoww  On August 20, 2013 at 11:24 pm

    สวัสดีคุณ govisa

    หนูเคยไป work and travel และ เคยได้หมายเลข social security number ปี 2007
    อยากทราบว่า ในการกรอก DS-160 ที่มีให้กรอก จำเป็นต้องกรอกลงไปด้วยไหม
    ถ้าไม่กรอกจะมีผลกระทบอะไรไหม กลัวว่าเจ้าหน้าทีจะเช็คแล้วเจอว่าเคยไปแล้วทำไมถึงไม่มีเลข SSN พอดีว่ามันนานมาแล้วหนูหาเลข SSN ไม่เจอ

    • govisa  On August 21, 2013 at 5:24 am

      น้อง mameoww คะ แจ้งไปได้ค่ะว่า เคยมี Social Security Number แต่ถ้าฟอร์ม Ds-160 ถามถึงหมายเลขและหาไม่พบหรือทำหายไปแล้วก็ตอบไปได้ว่าไม่ทราบค่ะ

  • joy  On August 23, 2013 at 5:44 pm

    ใบแบบ DS-160 ไม่ถามถึงประวัติงาน และประวัติการศึกษา(เฉพาะของดิฉัน) แต่ Submit ส่ง และนัดวันสัมภาษณ์ วันที่ 17 กย 56 นี้แล้ว จ่ายค่าสมัครแล้วด้วย และมีคนเดินทางร่วมกัน อีก 2 คน ดิฉันกรอกให้เรียบร้อยแล้วด้วย
    จึงขอรบกวนถามว่า ต้องกรอกใบ DS-160 ใหม่ไหมค่ะตรงที่เราไม่ได้กรอกประวัติงาน และประวัติการศึกษา ต้องทำอย่างงัยต่อดีค่ะ เครียดมากเลยค่ะ ขอไปเที่ยวครั้งแรก พาพ่อ กับแฟนไปเยี่ยมพี่สาวที่นู้น

    • govisa  On August 23, 2013 at 9:38 pm

      น้อง Joy คะ ถ้าน้องได้อ่านคำถามของคนอื่นๆที่มีเข้ามาถามพี่ในลักษณะคำถามเดียวกับที่น้องถามพี่มาจะเห็นได้ว่า มีคนกลุ่มหนึ่งพอสมควรที่เป็นเพื่อนน้องคือ กรอก Ds-160 ไปแล้วแต่ไม่ได้กรอกประวัติการทำงานบ้างหรือไม่ได้กรอกประวัติการศึกษาบ้าง อาจเป็นไปได้ว่า ตรงส่วนที่ถามว่าเวลานี้ทำอะไร ถ้าน้องไม่ได้ใส่ว่า น้องทำงานประเภทใด ก็จะไม่มีรายละเอียดในการทำงานให้กรอกค่ะ ที่จริงน้อง joy ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะถือว่าน้องกรอกฟอร์ม DS-160 ตามขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบขั้นตอนการกรอก หากถูกสัมภาษณ์ว่า เวลานี้น้องทำอะไรอยู่ และน้องนำจดหมายรับรองการทำงานเข้าไปแสดงด้วยก็ไม่ควรจะมีปัญหาอะไรค่ะ แต่ถ้าน้อง joy ยังเป็นกังวลอยู่อีก กว่าจะถึงวันที่ 17 กันยายน อีกเกือบเดือนน้องอาจจะไม่สบายได้ค่ะ ถ้าอยากสบายใจด้วยการทดลองกรอกใหม่อีกครั้งก็ได้ค่ะ เผื่อจะเจอคำถามเรื่องเกี่ยวกับการทำงานค่ะ น้องอย่าลืมนำ DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขเก่าที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วกับหมายเลขใหม่ที่พยายามจะกรอกให้ครบสมบูรณ์อีกครั้งไปด้วยนะคะ โชคดีนะคะน้อง joy ทำใจให้สบายนะคะ

  • Natcha Suasangunsak  On September 2, 2013 at 2:22 pm

    สวัสดีค่ะคุณ govisa
    ดิฉันมี 2 คำถามค่ะ
    1.คือตอนนี้ดิฉันมีปัญหาเรื่องการกรอก ds 160 ค่ะ คือว่า เมื่อดิฉันออกจากระบบแล้ว และจะเข้าไปใหม่ ดิฉันเข้าไปไม่ได้ค่ะ ซึ่งดิฉันก็มั่นใจแล้วว่ารหัสที่ใส่เข้าไปนั้นถูกต้องแล้ว ไม่ทราบว่า ดิฉันกรอก ds 160 ใหม่ทั้งหมดเลยได้หรือไม่คะ
    2. คำถามญาติที่อยู่ในสหรัฐ ดิฉันมีจริงค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้ไปพักที่นั่น และก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วด้วย ไม่ทราบว่าควรจะใส่ชื่อญาติคนนั้นดีหรือไม่คะ

    ขอบพระคุณมากเลยค่ะ
    Natcha

    • govisa  On September 2, 2013 at 9:36 pm

      น้อง Natcha คะ
      1. กรอกฟอร์ม Ds-160 ใหม่ได้ค่ะและเมื่อกรอกเสร็จแล้ว submit ไป หลังจากนั้น print DS-160 Confirmation Number ออกมาเพื่อนำไปยื่นในวันสัมภาษณ์ ส่วน DS-160 Application น้องจะ Print ได้แค่ครั้งเดียวหลังจากกรอกเสณ็จ บางคน print ออกมาเพื่อทบทวนก่อนไปสัมภาษณ์ว่า ตัวเองกรอกอะไรไปบ้าง แต่ไม่ต้องยื่น DS-160 Application ให้สถานทูตค่ะ
      2. ถ้าไม่ใช่ญาติสนิท และถ้าคนละนามสกุลกัน ไม่เคยติดต่อกันมานานแล้ว จะไม่ใส่ชื่อก็ได้ค่ะ

      • natcha  On September 2, 2013 at 9:54 pm

        ขอบพระคุณมากเลยค่ะ คุณ govisa

      • govisa  On September 2, 2013 at 11:38 pm

        ด้วยความยินดีค่ะน้อง natcha

  • joy  On September 4, 2013 at 10:47 am

    ขอถามหน่อยค่ะ ถ้าเราทำการแก้ไขแบบ DS-160 ให้ถูกต้อง แต่ (Submit) แล้วหลายฉบับคือใส่นามสกุล แม่ กับชื่อ สลับกันบ้าง ใส่เป็น B2 แทนที่จะเป็น B1/B2 อีก คือแก้ไปแก้มา ได้คนละ 3 ฉบับ แล้ว ทางสถานพูตเค้าจะว่าเรา และไม่ให้เราผ่านไหมค่ะ โอ๊ยกังวลใจจริงๆ ถ้าไปแล้วได้ไม่ได้ จะรีบมาบอกเล่าให้ทราบเลยค่ะ แต่ตอนนี้อยากรู้จังว่าเราทำผิดร้ายแรงไหม?

    • govisa  On September 4, 2013 at 11:39 pm

      น้อง joy คะ การกรอกเอกสารผิดไม่น่าจะใช่ปัญหาที่ถูกปฏิเสธค่ะ แต่อาจจะถูกมองว่า ขาดสมาธิและความตั้งใจในการกรอกให้เรียบร้อยค่ะ การถูกปฏิเสธวีซ่าส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่ไม่สามารถแสดงแผนการเดินทางหรือวัตถุประสงค์ที่จะเดินทางเข้าไปในสหรัฐอเมริกาได้อย่างชัดเจน กับฐานะทางการเงินของน้องเองหากขอวีซ่าท่องเที่ยว หรือของผู้ปกครองหากขอวีซ่านักเรียนไม่สามารถทำให้กงสุลท่านเชื่อมั่นได้ว่า น้องจะสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในอเมริกาได้โดยไม่มีปัญหา ทั้งนี้เพราะค่าครองชีพในอเมริกาแพงกว่าเมืองไทยมากค่ะ 1 ดอลลาร์ตอนนี้ประมาณ 32 บาทเศษแล้วค่ะ

      พี่ขอขอบคุณน้อง joy ล่วงหน้าที่จะกรุณาอนุเคราะห์เขียนมาเล่าเรื่องราวในวันที่ไปสัมภาษณ์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่จะเข้ามาอ่านค่ะ พี่ขอให้ความตั้งใจดีของน้องส่งผลให้น้องโชคดีสอบสัมภาษณ์วีซ่าผ่านนะคะ

  • joy  On September 4, 2013 at 10:57 am

    ต่ออีกนิดนะค่ะ แต่ที่ แก้ไข DS-160 ไปแล้ว ก่อนหน้านี้ฉบับบแรกที่เสร็จก็ลงนัดวันสัมภาษณ์แล้วด้วยค่ะ พอจ่ายตังเสร็จ นั่งดูไปดูมา มีผิด จึงแก้ไขใหม่ Sumit ใหม่ จะมีผลกับตอนใส่หมายเลขตอนนัดวันไว้ไหมค่ะ เพราะในแบบนัดวันแก้ไขประวัติ ไม่ให้แก้เลขที่ DS-160 ที่กรอกใหม่นี่คะ เท่ากับ เราต้องถือฉบับใหม่ไปได้หรือค่ะ และเค้ามีข้อจำกัดไหมว่าแก้ได้กี่ฉบับ

    • govisa  On September 4, 2013 at 11:33 pm

      น้อง joy คะ เลือก DS-160 Confirmation Number หมายเลขที่น้องใช้จองวันนัดสัมภาษณ์ กับ DS-160 Confirmation Number หมายเลขสุดท้ายที่คิดว่าได้ทำการแก้ไขถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ ดังนั้นน้องจะถือ DS-160 Confirmation Number เข้าไปในวันนัดสัมภาษณ์เพียง 2 หมายเลขเท่านั้นค่ะ ส่วนเรื่องอื่นอย่าไปกังวลมากค่ะ เตรียมเอกสารประกอบที่จะยื่นในวัสัมภาษณ์ให้เรียบร้อยและดีที่สุดเท่าที่น้องจะเตรียมได้ ตั้งใจฟังคำถามให้เข้าใจก่อนตอบ คิดในใจเสมอว่า ต้องตอบคำถามเพื่อให้กงสุลท่านเข้าใจว่า ที่น้องจะเข้าไปอเมริกาครั้งนี้เข้าไปด้วยวัตถุประสงค์อะไร ฐานะทางการเงินของที่บ้านดีพอที่จะทำให้น้องสามารดำเนินชีวิตในอเมริกาได้โดยไม่ต้องไปหางานทำ และเมื่อเสร็จภารกิจตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งท่านกงสุลไว้ เช่น ถ้าไปเรียนหนังสือ เมื่อเรียนสำเร็จแล้วก็ควรจะกลับประเทศไทย พี่คิดว่า ถ้าเรามีความจริงใจและเอกสารครบพร้อม การขอวีซ่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆค่ะ

  • Natcha Suasangunsak  On September 6, 2013 at 4:29 pm

    สวัสดีค่ะ
    ตอนนี้ดิฉัน ได้ใบ confirm เรียบร้อย และจองวันสัมภาษณ์แล้วค่ะ แต่เมื่อเตรียมตัวสัมภาษณ์ ศึกษาข้อมูลมากขึ้น เลยเกิดคำถามที่ว่า ที่อยู่ที่ดิฉันใส่เข้าไปใน ds160 เป็นที่อยู่ที่อาศัย ณ ปัจจุบันจริง (อาศัยกับคุณน้า) ไม่ใช่ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ไม่ทราบว่าจะเกิดปัญหาอะไรหรือไม่คะ ตอนนี้ยิ่งหาข้อมูลสัมภาษณ์ยิ่งวิตกค่ะ

    • govisa  On September 6, 2013 at 10:06 pm

      น้อง Natcha คะ เวลาขอวีซ่าไม่ต้องแสดงทะเบียนบ้านให้กงสุลดูค่ะ ดังนั้น้องไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้มากไปนะคะ ถือว่าน้องพูดตามความเป็นความจริงแล้วว่าน้องพักอยู่บ้านคุณน้าค่ะ คนไทยหลายคนมักจะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังนี้ แต่เวลาพักจริงๆพักอีกหลังหนึ่งค่ะ ดูตอนเลือกตั้งเป็นตัวอย่างว่า บางคนมีที่พักอยู่ในกรุงเทพ แต่ต้องกลับไปออกเสียงลงคะแนนในเขตเลือกตั้งต่างจังหวัดก็มี ดังนั้นอย่าวิตกจนเกินไปค่ะ

      • natcha  On September 6, 2013 at 10:35 pm

        ขอบพระคุณมากค่ะ เบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ถ้าสอบสัมภาษณ์วีซ่าเสร็จจะมาแชร์ประสบการณ์นะคะ

      • govisa  On September 6, 2013 at 10:59 pm

        พี่จะคอยฟังผลวีซ่าของน้อง natcha นะคะ และจะรออ่านประสบการณ์วันสัมภาษณ์วีซ่าด้วยค่ะ โชคดีนะคะ 🙂

  • Chairut R.  On September 11, 2013 at 1:36 am

    สวัสดีครับ ผมมีเรื่องข้องใจว่า ผมเป็นลูกเรือใหม่ เพิ่งเทรนเสร็จกำลังจะเริ่มบินครั้งแรก มีจดหมายรับรองจากสายการบิน และสายการบินให้ไปขอวีซ่า ประเภท c1/d แต่ผมได้เลือกเป็น D ในใบสมัคร DS160 ซึ่งทั่งสองนี้ก็เป็นวีซ่าลูกเรือเหมือนกัน คำถามคือว่า วันนัดสัมภาษณ์ผมจะขอท่านกงสุลได้ไหมว่าขอเป็น c1/d แทน D … แอบกลุ้มใจนิดหน่อยครับ เพระผมกรอก DS160 ผิดเป็นครั้งที่สาม และ ครั้งนี้ก็ซื้อพินใหม่ และนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ไปแล้วกับ code ds160 นี้

    • govisa  On September 11, 2013 at 10:31 pm

      น้อง Chairut คะ หากเป็นลูกเรือน้องเลือกประเภทของวีซ่าเป็น D ก็ถูกต้องแล้วค่ะ อ่านรายละเอียดที่เว็บไซต์ http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_5005.html ซึ่งระบุไว้ว่า

      Crewmember (D) visas are nonimmigrant visas for persons working on board vessels (such as cruise liner or fishing ship) or international airlines in the United States; their employment is required for normal operation and services. You must intend to depart the United States on the same vessel or any other vessel within 29 days. If you travel to the United States to join the vessel you will work on, in addition to a crewmember (D) visa, you also need a transit (C-1) visa or a combination C-1/D visa.
      บุคคลที่จะขอวีซ่าประเภท D มีดังนีี้คือ
      1. Pilot or flight attendant on a commercial airplane
      2. Captain, engineer, or deckhand on a sea vessel
      3. Lifeguard, cook, waiter, beautician, or other service staff on a cruise ship
      4. Trainee on board a training vessel
      อนึ่งถ้าน้องเข้าไปอ่านที่เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพ เรื่องประเภทของวีซ่า http://bangkok.usembassy.gov/niv_visa_classification.html จะมีคำอธิบายประเภทวีซ่าที่รัฐบาลสหรัฐฯออกให้ มีคำว่า C-1/D เมื่อคลิกไปที่ C-1/D ก็จะได้กลับไปที่หน้าเว็บไซต์ที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_5005.html

      ” For information on bringing your domestic employee to the U.S. for U.S. citizens, please click here. For information on bringing your domestic employee to the U.S. for nonimmigrant foreign nationals, please click here.
      B-1/OCS: For crewmembers working on Outer Continental Shelf (B-1/OCS) and yachts (B-1)
      C-1: People transiting through the U.S.
      C-1/D: Crewmembers (Airlines and Ships)”

      ส่วน C หมายถึง transit visa http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_4383.html ส่วนการที่น้องจะได้วีซ่าประเภท C-1/D ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเอกสารที่น้องยื่นและการพิจารณาของกงสุลด้วยค่ะ หากไม่ได้ C-1/D แต่ถ้าน้องมีวีซ่าประเภท B ที่มีอายุนาน 10 ปีอยู่แล้ว ก็สามารถใช้แทน C ได้ค่ะ
      ” Transit (C) visas are nonimmigrant visas for persons traveling in immediate and continuous transit through the United States enroute to another country, with few exceptions.
      If you already have a valid visitor (B) visa, you may be able to use it to transit the United States.”

  • Chairut R.  On September 12, 2013 at 11:09 pm

    ขอบคุณมากครับผม พี่มีความรู้ดีมากครับ ผมจะไม่กัลวลแล้วครับเพราะยังไงวีซ่าสองประเภทนี้ก็ครอบคลุมเหมือขกันหมดครับ

    • govisa  On September 12, 2013 at 11:29 pm

      น้อง Chairut ได้วีซ่าแล้วเขียนมาเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันบ้างนะคะ ขอบคุณน้องเช่นกันค่ะ

  • tomato  On September 24, 2013 at 1:27 pm

    อยากสอบถามคุณ govisa ว่า ถ้ายอดเงินในบัญชีเหลือประมาน 5000 บาท จะมีผลต่อการพิจารณาออกวีซ่าหรือไม่ แต่ว่าเงินหมุนเวียนในบัญชีมีเกิน 1 แสนบาท 6 เดือนย้อนหลัง

    • govisa  On September 24, 2013 at 11:26 pm

      น้อง mameoww tomato คะ โดยปกติจดหมายรับรองฐานะการเงินที่ออกจากธนาคารเพื่อรับรองบัญชีเงินฝากในการยื่นขอวีซ่าไปอเมริกามักจะแสดงยอดเงินหรือตัวเลขสุดท้ายที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารแห่งนั้น ส่วนกงสุลท่านพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ผู้ยื่นขอวีซ่าได้วีซ่าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของหลักทรัพย์ที่น้องใช้ยื่นค้ำประกันค่ะ ถ้าน้องยื่นเงินในบัญชีน้อยแต่บอกว่าไปเที่ยว 10 วัน ตัวเลขในยอดบัญชีเงินฝากมีน้อยไม่น่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายภายใน 10 วัน จะส่งผลให้การขอว๊ซ่าออกมาในทางลบคือถูกปฏิเสธไม่ได้รับอนุมัติให้เดินทางไปเที่ยวได้ค่ะ

      • suttipak  On September 25, 2013 at 12:02 am

        ขอบคุนคุนพี่govisa มากๆ คะ ที่มาช่วยตอบให้หนู
        หนูถอนเงินจากบัญชีนั้นไปใส่อีกบัญชีนึง ก็เลยเหลือ5000บาท
        หนู​อาจ​ต้องใช้2บัญชี​ยื่น

      • govisa  On September 25, 2013 at 5:25 am

        น้อง suttipak คะ ทั้งสองบัญชีน่าจะมีสักประมาณห้าแสนขึ้นไปจะดูมีหลักประกันที่ดี่ในการขอวีซ่าท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามสถานทูตสหรัฐฯไม่ได้มีกำหนดตัวเลขที่แน่นอนตายตัวว่าผู้ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวต้องมีเงินในบัญชีธนาคารเท่าไร ขอให้มีครอบคลุมค่าใช้จ่าย เที่ยวกินและพักผ่อนในช่วงไม่กี่วันที่บอกว่าจะเข้าไปอยู่ในสหรัฐฯ และมีหลักฐานว่า มีงานทำที่เมืองไทย มีรายได้ที่แน่นอน เพื่อแสดงว่า เราจะกลับมาเมืองไทยหลังจากเที่ยวเสร็จค่ะ การที่น้องนำบุ๊คบัญชีเงินฝากไปแสดงทั้งสองเล่มก็ดีค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์จะได้ทราบว่าเงินถูกถอนออกจากบัญชีเล่มไหนไปใส่เล่มไหน เพื่อวัตถุประสงค์อะไร เป็นต้นค่ะ

  • Waraporn Ice  On September 29, 2013 at 12:13 pm

    พี่ค่ะตอนนี้หนูเครียดมากเลย หนูกรอกแบบสัมภาษDS160 ผ่านเรียบร้อยหมดแล้ว แต่พอเข้ามากรอกใบนัดเวลาดันใสเลขหนังสือเดินทางเกินไป สมสุดคือ T121122 แต่ใส่เป็น T1221122 และกดบันทึกพอมาอ่านทวนดูรู้ว่าผิด เลยหยุดกรอกและไม่ได้กรอกให้เสร็จ อยากทราบว่าจะแก้ได้อย่างไรไหมหรือต้องซื้อpinมากรอกสัมภาษใหม่ดีค่ะ

    • govisa  On September 30, 2013 at 12:23 pm

      น้อง Waraporn Ice คะ
      1. แนะนำให้น้องลองเข้าไปในหน้าเว็บไซต์นัดวันสัมภาษณ์ดูอีกครั้ง เพราะน้องยังไม่ได้จองวันนัดสัมภาษณ์ เมื่อถึงหน้าที่ต้องกรอกหมายเลขหนังสือเดินทางให้กรอกหมายเลขที่ถูกต้องอีกที และถ้าคลิกหน้าถัดไป ฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์จะให้น้องตรวจทานสิ่งที่กรอกไปอีกครั้ง หากพบที่ผิด โปรแกรมจะให้เรากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดได้ค่ะ เมื่อกรอกไปถึงหน้าที่มีปฏิทินให้เลือกวันนัดสัมภาษณ์และน้องตัดสินใจเลือกวันและเวลาพร้อม confirm ไปแล้ว น้องจะกลับไปแก้ไขอะไรอีกไม่ได้ ดังนั้น เวลาน้องกรอกข้อความขอให้น้องมีสมาธิดีๆ ตอนนัดไม่ต้องเร่งทำ เพราะไม่ได้มีเวลามาเป็นตัวเร่งในการกรอกเหมือนกรอกฟอร์ม DS-160 พี่แนะนำนิดเดียวว่า ถ้าน้องเป็นกังวลระหว่างการกรอกหรือเป็นคนตื่นเต้นง่าย อย่าทำอะไรอย่างอื่นไปในเวลาเดียวกักับที่กรอกฟอร์มวีว่าหรือฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ เช่น การพูดโทรศัพท์ค่ะ เพราะบางครั้งเราอาจลืมสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตรงหน้าได้ว่า ทำไปถึงไหนนะคะ
      2. หากน้องแก้ไขหมายเลขหนังสือเดินทางไม่ได้ ให้เขียนอีเมล์ไปแจ้งไว้ที่ visasbkk@state.gov พร้อม print email ฉบับนั้นออกมาด้วยเพื่อเอาไปในวันสัมภาษณ์ว่า พอน้องทราบว่าน้องกรอกหมายเลขหนังสือเดืนทาง น้องรีบอีเมล์แจ้งสถานทูต และน้องได้ print หลักฐานออกมาด้วยค่ะ และอย่าลืมดูในอีเมล์น้องด้วยนะคะว่า visasbkk ตอบอีเมล์น้องกลับมาด้วยหรือเปล่าค่ะ

  • Dao Sirada  On October 1, 2013 at 11:26 pm

    ขอโทษนะคะ มีปัญหาด่วนมาก
    คือวันพรุ่งนี้นัดสัมภาษณ์กับทางสถานทูตไว้ตอน 7 โมงเช้า
    เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย….แต่ลืมจ่ายตังค์ที่ไปรษณีย์ค่ะ!!!!
    (ที่สุวรรณภูมิมีเปิด 24 ชม แต่บ้านหนูอยู่ห่างจากสนามบินมากค่ะ เลยไปจ่ายตอนดึกไม่ได้)

    ไม่ทราบว่าทางสถานทูตจะอนุโลมให้จ่ายที่นั่นได้มั้ยคะ จะเปลี่ยนวันนัดก็ไม่ทันแล้ว
    หรือสามารถไปจ่ายที่ไปรษณีย์ตอนสายๆแล้วเอาใบเสร็จตามมาให้ได้คะ?? หนูกังวลมาก

    ขอบพระคุณพี่ๆมากค่ะ

    • govisa  On October 2, 2013 at 5:20 am

      น้อง Dao Sirada คะ น้องคงต้องไปจ่ายไปรษณ๊ย์ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอาคารสินธรเป็นชื่ออาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานทูตอเมริกา น้องจะเห็นมีธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งอยู่ด้านหน้านะคะ แต่ไปรษณ๊ย์สาขานั้นไม่ได้เปิดเช้า ซึ่งปัญหานี้คงจะทำให้น้องไม่ได้เข้าไปสัมภาษณ์ตรงตามเวลาเจ็ดโมงที่ได้นัดเอาไว้ ตอนที่น้องตรวจเอกสารกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าประตูสถานทูตไป น้องคงต้องขอเจ้าหน้าที่ไปจ่ายเงินโดยเดินข้ามสะพานลอยไป(ถ้าเจ้าหน้าที่ยังผ่อนผันให้อยู่ไม่ถือเอาเรื่องการลืมจ่ายเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปรษณีย์นี้เป็นเรื่องซีเรียสนะคะ) แต่น้องจะขอเข้าไปจ่ายที่ไปรษณีย์ในสถานทูตไม่ได้เพราะไปรษณีย์ในสถานทูตมีหน้าที่เพียงรับชำระเงิน 75 บาทค่าซองจดหมายส่งหนังสือเดินทางกลับเท่านั้นค่ะ

  • JAY  On October 13, 2013 at 2:19 am

    มีคำถามคะ ถ้าไม่มี printer หลังจาก sign, แล้วค่อย print the confrimation ทีหลังได้ไหมคะ? ต้องเป็น pringสีใช่ไหมคะ?

    • govisa  On October 13, 2013 at 9:12 pm

      น้อง Jay สามารถ print DS-160 Confirmation Number ในภายหลังได้ค่ะ แต่อาจจะเกิดกรณีที่ต้องการ Print Applcation ID แต่ print ไม่ได้ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะไม่ได้ใช้ Application ID ในการยื่นเอกสารสัมภาษณ์ หลายคนที่ต้องการ print ออกมาเพื่อทบทวนว่าได้กรอกอะไรไปบ้างเท่านั้นเองค่ะ น้อง Jay สามารถ print ขาว-ดำได้ค่ะ

  • Jay  On October 14, 2013 at 4:40 am

    ขอบคุณมากค่ะ, ขอถามเพิ่มเติมนะคะ สำหรับ Home Address ควรใช้ ตามสำเนาทะเบียนบ้านหรือเปล่าค่ะ ของเจ ที่อยู่ปัจจุบันไม่ตรงกับทะเบียนบ้านแต่ตรงกับ Mailing Address, ตอนนี้สับสนว่าควรจะใช้อันไหน
    อีกคำถามหนึ่งนะคะ สำหรับ work, ถ้าที่ทำงานปัจจุบันเดียวกันกับ คำถามที่ Were you previously employed? ตรงนี้ควรตอบ Yes หรือ No? เพราะ ถ้าตอบ Yes เขาถามอีกว่า วันสุดท้ายวันไหน ไม่มีช่องให้ใส่ว่า until Present อันนี้ควรตอบ No ใช่ไหมคะ
    ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้ามากค่ะ

    • govisa  On October 14, 2013 at 5:20 am

      น้อง jay คะ

      1. Home Address ใส่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
      2.Mailing Address ใส่ึี่ที่อยู่ที่ต้องการให้สถานทูตส่งหนังสือเดินทางกลับค่ะ
      3.Were you previously employed? หมายความว่า เคยทำงานที่อื่นมาก่อนที่ทำงานปัจจุบันไหม คำตอบคือ No ค่ะ

  • Jeab  On October 20, 2013 at 1:07 am

    มีคำถามค่ะ ตอนที่ print the confirmation page ออกมา แล้วสังเกตุว่า ใน place of birth ไม่ได้ใช้ จังหวัด แต่ดึงข้อมูลตรง city เมือง ซึ่งมันไม่ได้อยู่ใน passport จะมีปัญหาไหมคะ เราต้องเข้าไปกรอกใหม่หรือเปล่าคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

    • govisa  On October 20, 2013 at 9:25 pm

      น้อง Jeab คะ พี่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่น้องเขียนมา ถ้าน้องหมายความว่าตรง City น้องใส่คำว่า Muang เพราะคิดว่าจะใส่ความหมายอำเภอเมืองลงไป และตรงจังหวัดน้องยังคงใส่จังหวัดตรงกับจังหวัดที่น้องเกิดคะ ในกรณีนี้ เวลากรอกเสร็จแล้วควรจะขึ้นทั้งคำว่า Muang และจังหวัดที่น้องเกิดค่ะ แต่ถ้าน้องหมายความว่าน้องใส่จังหวัดที่น้องเกิดตรงช่องที่เป็น City และตรงช่องจังหวัดน้องไม่ได้ใส่อะไร ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ

      ดังนั้น ถ้าความหมาย Place of birth คือชื่อจังหวัดที่น้องเกิดก็ไม่ต้องไปทำอะไรค่ะ แต่ถ้าผิดความหมายไปเป็นอย่างอื่นไปเลย ก็ต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ หากน้องยังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์ก็ให้ใช้ DS-160 Confirmation Number ใหม่ไปนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าได้เลยค่ะ แต่ถ้าน้องได้นัดวันสัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้ว และคิดจะแก้ไข DS-160 ใหม่ก็ต้องนำไปทั้ง DS-160 หมายเลขเดิมและหมายเลขใหม่ค่ะ

  • jate  On November 5, 2013 at 12:56 pm

    มีปัญหา รบกวนสอบถามครับ
    คือผมจะขอ j1 visa โดยได้รับ DS-2019 จากอเมริกามาเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากผมต้องไปเรียน 2 ที่ ที่แรก 7 เดือน อีกที่นึง 12 เดือน ทำให้เกิดปัญหาเวลาที่กรอกฟอร์ม DS-160 ผมสงสัยว่า ผมควรจะกรอกแบบฟอร์ม DS-160 2 ฉบับไหมครับ เพราะแต่ละฟอร์มให้อ้างอิงเลขจาก DS-2019 ได้เพียงเลขเดียว และค่า SEVIS ผมต้องจ่าย 2 รอบไหมครับ พอดีโทรไปถามเจ้าหน้าที่สถานทูตแล้วให้คำตอบไม่ได้เลยครับ บอกแค่ว่าให้ถามตอนวันสัมภาษณ์ ซึ่งผมว่ามันฉุกละหุกมากครับ ขอบคุณครับ

    • govisa  On November 5, 2013 at 11:02 pm

      น้อง jate คะ ไม่น่าที่จะต้องกรอก DS-160 สองใบหรอกค่ะ ถ้า DS-2019 เป็นชื่อสถานที่เรียนที่เดียวกันควรจะมีหมายเลข Sevis I-901 หมายเลขเดียวกัน แต่ถ้าเป็นคนละโรงเรียน น้องควรจะเขียนอีเมล์ไปสอบถามกับโรงเรียนที่สองว่า จะขอใช้หมายเลข Sevis I-901 หมายเลขเดียวกันกับโรงเรียนที่หนึ่งเลยได้ไหมนะคะ เพราะตามกฎ เวลากรอกฟอร์มวีซ่าให้แจ้งโรงเรียนที่หนึ่งไปโรงเรียนเดียวก่อน เมื่อไปถึงอเมริกาเรียนได้สักห้าเดือนเศษ ให้น้องลองติดต่อกับ International Student Office ของโรงเรียนที่หนึ่งว่า จะขอทำเรื่องโอนย้ายหมายเลข Sevis I-901 จากโรงเรียนที่หนึ่งไปยังโรงเรียนที่สองค่ะ โดยทั่วไปน้องที่มีการย้ายที่เรียนใหม่ จะต้องแจ้งโรงเรียนเดิมว่าเราจะย้ายไปเรียนที่ใหม่ที่ไหน และแจ้งโรงเรียนใหม่ด้วยว่าเราย้ายออกมาจากที่เรียนเก่าชื่ออะไรค่ะ โรงเรียนจะให้น้องกรอกฟอร์ม transfer จากโรงเรียนที่หนึ่งไปโรงเรียนที่สอง เพราะถ้าไม่ขอทำ transfer น้องอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม Sevis I-901 ใหม่ได้ค่ะ เพราะคนละโรงเรียนกัน และถ้ายังอยู่ที่เมืองไทยยังไม่ได้เดินทางไปสหรัฐฯ และได้ขอวีซ่าผ่านแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจเพราะได้รับการตอบรับจากที่เรียนใหม่ที่ถูกใจมากกว่า กรณีหลังนี้น้องคนนั้นต้องขอวีซ่านักเรียนใหม่ค่ะ

      พี่อยากให้น้องลองอ่านรายละเอียดเรื่องการโอนย้ายหมายเลข Sevis I-901 ที่มหาวิทยาลัยต่างๆในสหรัฐฯจะเขียนชี้แจงนักศึกษาต่างชาติไว้ในหน้าเว็บไซต์ของ International Student office ในที่นี้ขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์ของ International Student Office ที่ University of Washington นะคะ http://iss.washington.edu/procedures/change-school ตัวอย่างแบบฟอร์มดูได้ที่เว็บไซต์ http://www.iss.washington.edu/sites/default/files/u20/Transfer%20Out%20Request%20Form%2020130514.pdf

  • meaw  On November 21, 2013 at 2:06 am

    หวัดดีคะ มีปัญหารบกวนหน่อยค่ะ คือว่าจะขอวีซ่าไปอเมริกากับสามีนะค่ะ
    1. สามีได้กรอกDS-160 เรียบร้อยแล้วคะและได้ทำการ submit/confirm และปริ้นออกมาเรียบแล้วค่ะแต่ปัญหามีอยู่ว่าตอนกรอกช่องที่ถาม work/education สามีได้กรอกไปว่าเป็น business นะค่ะ คือว่าสามีรับราชการตำรวจนะค่ะและก็ทำธุรกิจส่วนตัวกับทางบ้านด้วยนะค่ะ ตอนแรกก็เลยคิดว่าทางหน่วยงานที่สามีทำงานจะต้องทำเรื่องขอยุ่งยากมีปัญหากับหน่วยงาน ก็เลยได้กรอกไปว่าทำธุรกิจแต่พอมาเช็คดูแล้วปรากฎว่าเราต้องมีชื่อร่วมอยู่ในทะเบียนการค้าด้วยซึ้งปรากฎว่าทะเบียนการค้าเป็นชื่อของแม่สามีคนเดียว ก้เลยอยากจะแก้ไขตรงหัวข้อนี้ใหม่นะค่ะว่าเป็นข้าราชการเพราะสามีได้ทำหนังสือขอกับหน่วยงานผ่านแล้วนะค่ะก็เลยคิดว่าถ้ากรอกว่าเป็นข้าราชการไม่น่าจะมีปัญหามากเท่าไหร่นัก อยากทราบว่าเราจะเข้าไปแก้ไขได้อย่างไรค่ะ แต่ว่าเราสองคนยังไม่ได้ทำการนัดสัมภาษณ์เลยแต่อย่างใดมีแค่ได้ทำการ submit DS-160 แล้วเท่านั้นเองค่ะ
    2. คือดิฉันไม่ได้ทำงานเลยเป็นแม่บ้านอย่างเดียวเลยคะไม่ทราบว่าจะมีปัญหาอะไรรึป่าวค่ะและตอนนี้ดิฉันก้ได้ตั้งท้องอ่อนๆ ด้วย และพอดีพ่อเลี้ยงของดิฉันท่านเสียชีวิตก้เลยอยากจะไปเยี่ยมคุณแม่ด้วยนะค่ะ อยากขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On November 21, 2013 at 9:10 pm

      น้อง meaw คะ
      1. ถ้าสามีของน้องยังไม่ได้ทำการจองวันนัดสัมภาษณ์ สามารถกรอก DS-160 ใหม่เลย เพื่อระบุว่าสามีทำงานเป็นข้าราชการตำรวจไปอย่างเดียวก็ได้ค่ะ แต่เวลาสัมภาษณ์หากคุณสามีต้องการพูดเพิ่มเติมว่า ช่วงวันหยุดที่ไม่ได้ไปทำราชการช่วยคุณแม่ทำธุรกิจของที่บ้านย่อมพูดได้ค่ะ ส่วนหมายเลขยืนยัน DS-160 เก่าไม่ต้องนำไปแสดงในวันสัมภาษณ์ค่ะแต่ถ้าสามีและน้องยืนยันวันนัดไปแล้วและกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ต้องหมายเลขยืนยัน DS-160 ทั้งเก่าและใหม่ไปแสดงด้วยค่ะ
      2. น้องซึ่งกำลังท้องอ่อนๆ ให้น้องลองปรึกษากับสายการบินด้วยว่า จะมีเงื่อนไขอะไรหรือเปล่าในการเดินทางด้วยเครื่องบิน เช่น ท้องกี่เดือนห้ามขึ้นเครื่องบิน เพราะสายการบินเกรงว่า เด็กในครรภ์อาจจะได้รับผลกระทบกระเทือนจากการเดินทางไกลค่ะ ส่วนการท้องจะมีผลกระทบต่อการขอวีซ่าไหม ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของท่านกงสุลดีกว่านะคะ ถ้าน้องจะไปเยี่ยมคุณแม่ เพราะคุณพ่อเพิ่งจากไป ให้คุณแม่เขียนจดหมายหรืออีเมล์มาหาแสดงความต้องการให้น้องเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ เพราะคุณพ่อ(เลี้ยง)เพิ่งเสีย หรือจะมีเอกสารของทางการยืนยันการจากไปของคุณพ่อก็คงจะดูดีค่ะ

  • อาย  On December 18, 2013 at 10:58 am

    สวัสดีค่ะ สมัครวีซ่านักเรียนเอฟวันไป อยากสอบถามว่า พอดีเขียนอำเภอที่เกิดผิดไปน่ะค่ะ คราวนี้เราสามารถกรอกข้อมูลใหม่ได้เลยมั้ยคะ เนื่องจากยังไม่ได้จองวันสัมภาษณ์หรืออะไรไป แค่กรอก DS-160 อย่างเดียว ที่มีอยู่ตอนนี้คือใบ confirmation แล้วถ้ากรอกใหม่ต้องนำใบเก่าที่กรอกผิดไปด้วยมั้ยคะ ตอนนี้กังวลว่าจะมีผลต่อการขอวีซ่าน่ะค่ะ ดูซ้ำซ้อน ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On December 18, 2013 at 1:31 pm

      น้องอายคะ ถ้าน้องยังไม่ได้จองวันนัดสัมภาษณ์ น้องสามารถกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ได้เลยค่ะ และไใ่ต้องนำใบเก่าไปในวันสัมภาษณ์นะคะ เพราะน้องใช้หมายเลข DS-160 Confirmation จาก DS-160 ที่น้องกรอกใหม่ค่ะ

  • auichan  On December 25, 2013 at 11:00 pm

    สวัสดีค่ะ สอบถามเกี่ยวกับการกรอก DS-160 คือว่าได้กรอกและนัดสัมภาษณ์แล้ว คือดิฉัน ทำงานบริษัททัวร์ ที่ต้องไปดูแลลูกค้าที่ได้รางวัลเดินทางไปอเมริกา ตอนที่กรอก มีช่องที่ให้ใส่ Oganization ก็ได้ใสชือบริษัท ที่ดิวเรื่องทัวร์ และโรงแรมที่เมืองไทยลงไป แต่ไม่ทราบที่อยู่ ก็ได้ใส่ที่อยู่ โรงแรมแรกที่ไปนอนค้าง คือ อยากถามว่า มันเป็นปัญหาหรือเปล่าคะ เพราะทางเราก็ไม่แน่ใจว่าทาง บริษัทที่ติดต่อ โรงแรมแ่ละเรื่องทัวร์ให้กับเราเค้ามีที่อยู่ในอเมริกาหรือเปล่า เราควรกรอก DS-160 ใบใหม่แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง พร้อมปริ้นแนบไปกับใบเก่าด้วยใช่มั้ยคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On December 27, 2013 at 1:30 pm

      น้อง auichan ควรกรอก DS-160 ใหม่ให้ถูกต้อง และนำหมายเลขยืนยัน DS-160 ทั้งอันเก่าและอันใหม่ไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์คะ ส่วนเรื่องช่องว่างที่ให้กรอกตรง organization ควรจะกรอกชื่อบริษัทที่ USA ที่บริษัทน้องที่เมืองไทยติดต่อด้วย และถ้าจะใส่ชื่อโรงแรมที่จะไปพัก ควรจะใส่ชื่อโรงแรมในอเมริกาค่ะ ส่วนที่อยู่หากน้องทำงานในบริษัททัวร์ ลองปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่ขายตั๋วเครื่องบินในบริาัททัวร์ที่น้องทำอยู่ เพราะเจ้าหน้าที่ด้านขายตั๋วเครื่องบินอาจจะมีหนังสือที่มี list รายชื่อโรงแรม ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรมในต่างประเทศค่ะ หากไม่ได้ข้อมูลจริงๆ search ใน google คงพอหาได้ค่ะ

  • auichan  On December 25, 2013 at 11:47 pm

    สวัสดีอีกครั้งค่ะ คือดิฉันกรอก นามสกุล พ่อและแม่ สลับกันน่ะค่ะ Print Confirm แล้ว นัดเรียบร้อยแล้วด้วย ต้องทำใหม่ เลยมั้ยคะ

    • govisa  On December 27, 2013 at 1:33 pm

      น้อง auichan คะ การกรอกชื่อ-นามสกุลผิด ถือว่าเป็นความผิดที่ serious ควรจะกรอก DS-160 ใหม่ ถ้า confirm วันนัดไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็จะอยู่ในสถานการณ์เดียวกับน้องคือ กรอก DS-160 ใหม่เรียบร้อย และให้นำ DS-160 Confirmation Number ทั้งของใหม่และของเก่าไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ

  • auichan  On December 29, 2013 at 9:07 pm

    สอบถามอีกนะคะ แล้วการที่ไปดูแ่ลกรุ๊ปทัวร์เนี่ย เลือก จุดประสงค์ คือ BUSINESS & TOURISM (TEMPORARY VISITOR( B1/B2) ถูกต้องแล้วใช่มั้ยคะ

    • govisa  On December 31, 2013 at 9:19 am

      น้อง auichan คะ เลือกถูกแล้วค่ะ

  • gus  On January 10, 2014 at 10:29 pm

    มีเรื่องสอบถามหน่อยคะ คือ ถ้าครอบครัวจะเดินทางไปเที่ยวอเมริกา มี พ่อแม่ และลูก 3 คน 9 ปี 8 ปี และ 2 ปี จะยื่นวีซ่า และทำเอกสารอย่างไรคะ และเรื่องการนัดสัมภาษณ์ ต้องทำอย่างไรคะ เอกสารที่ต้องใช้ ต้องมีอะไรที่จำเป็นบ้างคะ

    • govisa  On January 11, 2014 at 7:23 pm

      น้อง gus เข้าไปดูภาพยนต์ที่สถานทูตสหรัฐฯแนะนำเรื่องการนัดวันสัมภาษณ์วีซ่า กับเรื่องการกรอกฟอร์มวีซ่า DS-160 ให้เข้าใจก่อนได้ที่หน้าเว็บไซต์สถานทูตสหรัฐฯ http://bangkok.usembassy.gov/non-immigrant_visas.html น้องจะเห็นว่าทางขวามมือของหน้าเว็บไซต์เขียนว่า Applying for a visa “How-To” videos มีด้วยกันสองเรื่องนะคะ

      ส่วนคำถามที่ว่าต้องทำอะไรบ้าง

      1. น้องต้องกรอกฟอร์มวีซ่า DS-160 ให้ตัวน้อง, สามี, ลูกทั้ง 3 คนค่ะ ถ้าน้องไปที่หน้าเว็บไซต์นี้ http://bangkok.usembassy.gov/niv_howtoapply.html ใต้คำว่า Application Process มี step 2 ที่จะลิงก์ไปที่หน้าฟอร์มวีซ่า DS-160 ออนไลน์ค่ะ

      2. ถ้าน้องต้องการคำแนะนำในการกรอกคำถามทีละข้อให้ดาวน์โหลดคู่มือการกรอกที่สถานทูตจัดทำไว้ได้ที่ http://bangkok.usembassy.gov/root/pdfs/ds_160_step_by_step_guide.pdf หรือดูที่ step 2 จะพบคำว่า” US Embassy Bangkok’s detailed guide…” คลิกที่คำดังกล่าวจะได้เว็บไซต์หน้าที่พี่บอกน้องไว้ข้างต้น

      3. จากหนังสือคู่มือ ให้น้องดูที่หน้า 23 มีคำว่า” family and group option” น้องคงจะไม่อยากกรอกรายละเอียดซ้ำๆกันเพราะเดินทางด้วยกันพ่อ-แม่-ลูก หากน้องเลือก Family and Group Option คำตอบที่ซ้ำกันมันจะเด้งขึ้นมาเองได้โดยที่น้องไม่ต้องเสียเวลากรอกใหม่ของแต่ละคน เช่น บ้านเลขที่เดียวกันค่ะ

      4.เอกสารที่ต้องใช้ในวันสัมภาษณ์ดูที่ step 3 ” Gather the required documents” จะมีคำแนะนำเรื่องเอกสารที่จะต้องนำไปแสดง เช่น หนังสือเดินทางของคนที่จะยื่นทั้ง 5 คน, จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของน้องและสามีว่าจะรับผิดชอบคนทั้ง 5 คน กงสุลอยากทราบว่าท่านทั้งสองมีเงินในธนาคารเท่าไร, หากเป็นไปได้นำบุ๊คบัญชีเงินฝากตัวจริงไปด้วยเผื่อเหลือเผื่อขาด หากถูกถามถึงจะได้แสดงหลักฐานดังกล่าวได้, ทะเบียนสมรส,จดหมายรับรองจากโรงเรียนของเด็กอายุ 9 ปีและ 8 ปี(เด็กที่อายุ 2 ปียังไม่ได้เข้าเรียนไม่ต้องแสดงหลักฐานเรื่องเรียนค่ะ)ว่า เด็กปิดเทอมจะไปเที่ยวกับพ่อ-แม่ หากโรงเรียนเปิดเทอมเด็กจะกลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิม หากมีหลักฐานเกี่ยวกับที่พักที่จะไปพักที่อเมริกา เป็นต้นว่า เวาเชอร์ (voucher) ของโรงแรมที่จองไปให้นำติดตัวเข้าไปในสถานทูตด้วย, หรือหากจะไปอยู่บ้านญาติก็ให้ญาติเขียนจดหมายรับรองว่าจะมีคนทั้ง 5 ชื่ออะไรกันบ้างไปพักอยู่ด้วย นานกี่วันค่ะ, แต่ถ้าไปกับบริษัททัวร์ ให้นำรายละเอียดการเดินทางและที่เที่ยวของบริษัททัวร์นั้นติดไปด้วย

      5.เมื่อกรอกฟอร์มเสร็จจึงค่อยทำการนัดวันสัมภาษณ์ ชื้อพินเดียวจองนัดได้ทีเดียว 5 คนเลยค่ะ ลองอ่าคำถามและคำตอบน่ารู้ที่สถานทูตสหรัฐฯจัดทำไว้ก่อนเพื่อให้เข้าใจค่ะ https://thailand.us-visaservices.com/Forms/SelfServiceFAQ.aspx การกรอกฟอร์มวีซ่า จะมีหน้าหนึ่งที่มีไอคอนสองไอคอนให้เลือกคือ “Add family member” หรือ “Skip family member” ให้น้องเลือก “Add family member’ จะได้ใส่ชื่อบุคคลที่เหลืออีก 4 คน เวลาไปสัมภาษณืจะได้เข้าไปสัมภาษณ์พร้อมกันในวันและเวลาเดียวกันค่ะ

      หวังว่าน้อง gus คงกรอกเองได้ หากมีอะไรสงสัยเขียนมาหากันอีกนะคะ

  • gus  On January 11, 2014 at 11:57 pm

    ขอบคุณสำหรับคำตอบที่ละเอียดดีมากเลยค่ะ สรุปคือว่า
    – ทุกคน ไม่ว่า พ่อ แม่ และลูก 3 คนก็ต้องกรอก DS-160 คนละชุด พร้อมใบ confirm ของแต่ละคนอยู่แล้ว
    – ทำนัด ใช้พินเดียวกันได้หมด 5 คน
    – เอกสารที่ประกอบการสัมภาษณ์ เข้าใจแล้วค่ะ ก็จัดเป็นชุดๆ ของแต่ละคน

    แต่ที่ยังสงสัยคือ ในวันสัมภาษณ์เราต้องพาลูกทั้ง 3 คนเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยหรือไม่คะ หรือไปเฉพาะพ่อแม่ เคยเปิดหาในเน็ต เหมือนมีคนบอกว่า ถ้าเด็กอายุไม่ถึงกี่ปี (จำไม่ได้) ไม่ต้องไปเข้ารับการสัมภาษณ์

    ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

    • govisa  On January 13, 2014 at 5:26 am

      น้อง gus เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ส่วนการสัมภาษณ์เด้ก อายุน้อยกว่า 13 ปีเว็บไซตืกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ http://travel.state.gov/content/visas/english/visit/visitor.html#overview บอกว่า “generally not required” แต่ไม่ได้บอกว่าทุกคนทุกกรณีที่จะได้รับการยกเว้นทั้งหมดค่ะ หากเด้กไม่ซนมากก็น่าจะพาเข้าด้วยค่ะ

  • gus  On January 13, 2014 at 11:39 am

    คือ อยู่ ต่างจังหวัด (ชลบุรี) แล้วเด็กๆ ก็เรียนด้วย คงไม่ต้องพามาสัมภาษณ์มั้งเนอะ

    • govisa  On January 13, 2014 at 8:19 pm

      น้อง gus คะ น้องลองเขียนอีเมล์ไปขอความเห็นที่ visasbkk@state.gov ด้วยดีไหมคะ จะได้เข้าไปสัมภาษณ์ในวันนั้นด้วยความมั่นใจค่ะ

  • Nongluck Suriyavirun  On January 15, 2014 at 8:01 am

    สวัสดีค่ะ คุณ GoVisa

    อยากจะขอรบกวน สอบถามเรื่อง แบบฟอร์ม I – 94 หน่อยค่ะ
    คือลูกชายได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน กลับไปเรียนต่อที่ อเมริกาวันที่ 16 Jan. 2014 ( Thursday ) ที่จะถึงนี้

    อยากทราบว่า ตอนนี้ ที่สนามบิน LAX ( Los Angeles )
    ได้เปลี่ยนแบบฟอร์ม I-94 เป็นแบบใหม่หรือยัง คะ ?
    หรือว่า ยังใช้แบบเก่า ที่เป็นกระดาษสีขาวแผ่นยาวๆ อยู่คะ

    และ ถ้าเปลี่ยนเป็น แบบฟอร์ม I-94 แบบใหม่ ต้องกรอกออนไลน์ ใช่ไหมคะ
    และต้องเข้าไปทำที่ไหน และ ทำล่วงหน้าได้กี่วัน

    ลูกชายต้องกรอกเองใช่ไหมคะ
    จะเข้าไปหาข้อมูลได้ที่ไหนคะ

    ตอนนี้ ได้ซื้อตั๋วแล้ว และ จะเดินทาง วันที่ 16 Jan. 2014 (Thursday ) นี้คะ

    รบกวนคุณ GoVisa ช่วยตอบกลับมาด้วย นะคะ

    ขอบคุณมากๆ ค่ะ

    คุณแม่ หนุ่ย

    • govisa  On January 16, 2014 at 5:45 am

      น้อง Nongluck คะ ไม่ต้องกรอกฟอร์ม I-94 ไปกรอกเมื่อลูกชายเดินทางเข้าไปในประเทสสหรัฐแล้วค่ะ กรอกที่ https://i94.cbp.dhs.gov/I94/request.html;jsessionid=4b1LSXPCyJpkBC1MnGpKDsXSTlrlLGl66SxrppTqmJlWDkh2GpZq!-78553316 อ่านรายละเอียดที่ http://www.cbp.gov/linkhandler/cgov/newsroom/fact_sheets/travel/i94_factsheet.ctt/i94_factsheet.pdf ค่ะ

      • Nongluck Suriyavirun  On January 16, 2014 at 7:30 am

        ขอบคุณมากๆ ค่ะ คุณ govisa
        กำลังจะออกจากบ้าน เดินทางไปสนามบินพอดีเลยค่ะ
        ได้คำตอบมาทันเวลาพอดี
        ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ 🙂

      • govisa  On January 17, 2014 at 5:22 am

        น้องนงลักษณ์อย่ากังวลไปเลยค่ะ เมื่อลูกชายเดินทางไปถึงมหาวิทยาลัยๆจะมีปฐมนิเทศก์นักศึกษาใหม่ (Orientation) ซึ่งเ้าหน้าที่ที่ดูแลนักศึกาาต่างชาติจะอธิบายเรื่องการรักษาสถานภาพนักเรียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย, การกรอก I-94 กรณีนักศึกษาต้องการมี driver license ของรัฐนั้นๆ หรือต้องการมี Social Security เพื่อขอทำงานในมหาวิทยาลัย, การเปิดบัญชีธนาคาร, การใช้ชีวิตและอื่นๆที่นักศึกษาต่างชาติควรทราบค่ะ อันที่จริงเว็บไซต์ของหลายๆมหาวิทยาลัยตอนตอบรับนักศึกษาก็จะมีชี้แจงอยู่บ้างแล้วค่ะ

  • oran  On January 15, 2014 at 10:56 am

    สวัสดีค่ะ กำลังจะกรอก DS-160 .ให้กับญาติ แต่มีข้อสงสัยเล็กน้อยค่ะ คือ ญาติเป็น ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และได้เคยเปลี่ยนชื่อ และเปลี่ยนนามสกุลตอนแต่งงาน เราต้องกรอกช่องที่ว่า มีชื่ออื่นๆ ด้วยใช่มั้ยคะ

    • govisa  On January 16, 2014 at 5:42 am

      ถูกต้องคะน้อง oran

  • sandy  On January 18, 2014 at 12:21 pm

    สวัสดีค่ะ

    มีเรื่องสงสัย คือว่า จะทำการจองคิวสัมภาษณ์ให้ญาติ ใน Passport ตรงวันเกิด เป็น xxxx1935 แล้วทีนี้พอจะใส่รายละเอียดผู้นัดสัมภาษณ์ จะใส่ตัวเลขอะไรดีคะ พอเว้นไว้ ไม่ใส่ระบบก็ให้ใส่ อันนี้ไม่ทราบวันเกิดจริงๆ คุณลุงเค้าจำไม่ได้อ่ะคะ เลยไม่กล้าใส่ กลัวผิดแล้วจะไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก

    • govisa  On January 18, 2014 at 1:43 pm

      น้อง Sandy คะ ไม่มีลูกคุณลุงคนไหนหรือคนในครอบครัวคุณลุงเคยทำอะไรให้คุณลุงในวันเกิดใช่ไหมคะ ลองนึกทบทวนดูอีกครั้ง ถ้าพอจำเดือนได้ จะใส่เลขวันเกิดเป็นวันที่ 1 หรือวันสิ้นเดือนก็ได้ค่ะ พี่เคยเห็นผู้ใหญ่รุ่นอายุ 60 ขึ้นไปจำวันเดือนปีเกิดไม่ได้ ก็จะใส่เป็นวันต้นเดือนหรือสิ้นเดือน ถ้าไม่ทราบเดือนเกิดอีกก็ใส่เป็นเดือนมกราคมหรือเดือนธันวาคมของปี 1935 ไปค่ะ

  • sandy  On January 18, 2014 at 10:49 pm

    ขอบคุณมากค่ะพี่ มีอีกเรื่องนึงค่ะ address ที่ต้องกรอกเนี่ย กรอกตามที่อยู่ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบันใช่มั้ยคะ เพราะไม่ตรงกับทะเบียนบ้านอ่ะค่ะ จะมีปัญหาหรือเปล่าคะ หรือต้องกรอกให้ตรงตามทะเบียนบ้านคะ

    • govisa  On January 19, 2014 at 11:04 am

      น้อง sandy คะ เอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯไม่มีทะเบียนบ้านค่ะ น้องใช้ที่อยู่ที่น้องอยู่จริงดีแล้วค่ะ เพราะเมื่อน้องได้วีซ่า สถานทูตสหรัฐฯจะได้ส่งหนังสือเดินทางให้น้องตามที่อยู่ที่น้องอยู่จริงๆค่ะ

  • sandy  On January 20, 2014 at 10:17 am

    ขอบคุณพี่ govisa มากเลยค่ะ

    • govisa  On January 21, 2014 at 5:52 am

      ถ้าน้อง sandy เข้าไปสัมภาษณ์วีซ่าแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไรเขียนมาแชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันบ้างนะคะ โชคดีนะคะ

  • sandy  On January 21, 2014 at 1:38 pm

    ได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะมารายงานผลให้ทราบเลยค่ะ ^^

    • govisa  On January 22, 2014 at 5:24 am

      ขอบคุณค่ะน้อง sandy

  • auichan  On January 28, 2014 at 12:24 pm

    สวัสดีค่ะ พี่ govisa มาแจ้งค่ะ ว่าได้ทำตามคำแนะนำทั้งหมดในที่นี้ อ่านแล้วเข้าใจดีมากเลย แล้วได้นำไปใช้ในการกรอกเอกสารให้ลูกทัวร์ ตอนนี้ยื่นให้ลูกค้าผา่านหมดไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ ดีใจจัง

    และในวันที่ 31 มค. นี้ ดิฉันเองต้องไปยื่นของตัวเองค่ะ เพราะต้องเดินทางไปด้วย (ถ้าวีซ่าผ่าน) อยากได้คำแนะนำค่ะ ว่าถ้าโดนถามว่าไปทำอะไร จะตอบยังไงดี เพราะ ไม่ได้ว่าจะไปเที่ยว แต่คือไปทำงาน ดูแ่ลคนที่ไปเที่ยว พอดีว่าตื่นเต้นน่ะค่ะ

    ปล. เอกสารทั้งหมดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ทั้งจม.รับรองจากบริษัทเราเองและจม. จากบริษัทลูกค้าที่ระบุว่าให้บริษัทเรา เป็น Travel agency for Traveling นี้ด้วย แค่นี้พอมั้ยคะ
    และอีกอย่างดิฉันก็เดินทางไปหลายประเทศแล้วด้วย ทั้งยุโรป อังกฤษ

    • govisa  On January 28, 2014 at 10:22 pm

      พี่ดีใจมากๆที่สิ่งที่พี่เขียนให้อ่านได้มีโอกาสช่วยเหลือคนในสังคมได้ไม่มากก็น้อยค่ะ และขออวยพรให้น้อง auichan ผ่านวีซ่านำกลุ่มเดินทางไปสหรัฐฯได้ค่ะ น้องมีทั้งจดหมายรับรองจากบริษัทที่น้องทำงานอยู่และจดหมายจากบริษัทลูกค้าก็น่าจะเป็นหลักฐานที่ดีว่า น้องไปทำงานในหน้าที่ group tour leader ค่ะ พี่ตอบแล้วนะคะว่า น้องจะไปทำหน้าที่อะไรค่ะ ถ้าน้องมี itinerary ของเที่ยวบินทั้งไปและกลับด้วยก็ดีนะคะ ขอให้สมหวังทุกอย่างในวันตรุษจีน และขอให้บริษัทน้องคิดราคาทัวร์อย่างสมเหตุสมผลนะคะ เพื่อบริษัทน้องจะได้ใจจากลูกค้ามาใช้บริการที่บริษัทกันมากๆค่ะ

  • Jeab ja  On January 29, 2014 at 3:22 pm

    สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามค่ะ คือ ตอนกรอก Ds 160 มีช่องถามถึงสถานที่เกิด เราเลยใส่อำเภอและจังหวัดไปค่ะ CHIANG YUEN, MAHASARAKHAM แต่ในพาสปอร์ต จะโชว์ ว่า Place of Birth = MAHASARAKHAM และใบคอนเฟิมร์ ก้จะโชว์ แค่ Place of Bith = CHIANG YUEN ตอนนี้เจี๊ยบเลยไม่มั่นใจเลยค่ะว่าตกลงเจี๊ยบควรกรอกใหม่ หรือไม่คะ ได้พินมาแล้วกำลังจะจองวันสัมภาษณ์ มาเห็นใบคอนเฟิม กะพาสปอร์ต ระบุที่เกิดไม่ตรงกันอย่างนี้ ควรทำอย่างไรดีคะ แต่ได้ตรวจใน ds 160 แล้ว เจี๋็ยบกรอก ไปทั้งสองอย่างนะคะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

    • govisa  On January 30, 2014 at 5:36 am

      น้อง Jeab ja กรอก DS-160 ใหม่และ print ของใหม่ไปยื่นพร้อมของเก่าด้วยเพื่อความสบายใจค่ะ เพราะ Place of Birth คือ จัหวัดที่เกิดเท่านั้นค่ะ ไม่ต้องใส่ อำเภอ

  • jeab ja  On January 30, 2014 at 5:27 pm

    ขอบคุณค่ะ คุณ govisa ขอถามอีกนะคะ ว่าตอนจองวันสัมภาษณ์ เจี๊ยบใช้เลขที่ใบคอนเฟิรม เดิมจองได้เลยใช่ไหมคะ เพราะซื้อพินมาและลอคอินเข้าไปแล้วด้วยเลขที่ใบคอนเฟิรม ใบแรกค่ะ

    ขอบคุณนะคะ ขอให้คุณ govisa ได้อังเปาเยอะๆ นะคะ สุขสันต์วันตรุษจีนค่ะ

    • govisa  On January 31, 2014 at 5:25 am

      น้อง jeab ja ถ้าน้องยังไม่ได้ confirm วันนัดสัมภาษณ์ ให้น้องกรอกฟอร์มนัดวันสัมภาษณ์ด้วยหมายเลข DS-160 อันใหม่ไปเลยค่ะ แต่ถ้าพี่ตอบช้าไปน้องใช้หมายเลข DS-160 เก่าไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ นำหมายเลข DS-160 Confirmation อันใหม่ติดตัวไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์ค่ะ ขอบคุณค่ะที่อวยพรให้พี่ได้รับอังเปาเยอะๆนะคะ พี่ก็ขอให้น้องมีความสุขมากๆในวันตรุษจีนและขอให้สมหวังได้วีซ่าเข้าไปในสหรัฐฯค่ะ

  • ya  On January 30, 2014 at 6:32 pm

    เรียน Go Visa คะ
    รบกวนปรึกษาดังนี้ นะคะ คือเราได้กรอกแบบฟอร์ม DS160 4 คน เป็นครอบครัวนามสกุลเดียวกันค่ะทั้งหมด มีปัญหาคือ ตอนโหลดรูปภาพไปแต่ละคนถูกต้องถูกคน แต่พอเปิดอีกครั้งเพื่อแก้ไขข้อมูลบางส่วนเพิ่มเติม ปรากฎว่ารูปคนในครอบครัวสลับวนเวียนกัน เช่นเรากดคลิกไปที่ complete แล้วลองคลิกไปที่ Review ทำอย่างนี้สลับไปมาปรากฎว่ารูปคนในบ้านก็สลับหน้ากันขึ้นมาเช่นกัน ตอนนี้ไม่กล้า submit ค่ะ เพราะกลัวว่ารูปที่โหลดหน้าจะออกมาไม่ตรงกับชื่อบุคคลในฟอร์ม ไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดีคะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ/Ya

    • govisa  On January 31, 2014 at 5:34 am

      น้อง ya คะ พี่อยากให้น้องลองกรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่ และกรอกให้เสร็จทีละคนไม่ต้องกรอกแบบครอบครัว ไม่ต้องกรอกแบบครอบครัว การกรอกแบบครอบครัว ให้ความสะดวกสบายดีที่ข้อมูลเก่ามันจะปีอบอัพขึ้นมาได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลากรอกใหม่ เช่น การกรอกบ้านเลขที่ค่ะ ถ้าน้องลองกรอกทีละคนดูและค่อยๆตรวจทาน รูปอาจจะไม่มีปัญหาในเรื่องความสับสน การเกิดเหตุการณ์แบบที่น้องบอกมา พี่สันนิษฐานว่า
      1. โปรแกรมการกรอกฟอร์มอาจจะมีปัญหาในช่วงจังหวะเวลาที่น้องกรอก หรือ
      2. ขอโทษนะคะ พี่ไม่ได้กล่าวหาน้อง แต่ไม่แน่ใจว่าระหว่างน้องกรอก น้องเกิดความตื่นเต้น ทำให้เกิดผิดพลาดด้วยตัวเราเองหรือเปล่าค่ะ

      • Ya  On January 31, 2014 at 2:05 pm

        ขอขอบคุณพี่ go visa มากๆ นะคะ จะพยายามทำอย่างรอบคอบตามคำแนะนำค่ะ
        นับถือ /Ya

      • govisa  On January 31, 2014 at 9:10 pm

        ขอให้ทำสำเร็จค่ะน้อง Ya

  • kwan  On February 5, 2014 at 11:32 pm

    ดีค่ะ kwan นะค่ะ พอดีให้ทางเอเจนซี่เป็นคนกรอกฟอร์ม DS-160 พร้อมนัดวันสัมภาษณ์เรียบร้อยวันที่ 10 กพ.57 นี้ ยีนยันพอปริ้นอกมาตรวจดูมีข้อที่ผิดคือ นาสกุลของขวัญกับกับของพ่อไม่ตรงกับของคุณย่าที่เป็น สปอร์นเซอร์ให้นะค่ะ แบบนี้ต้องแก้ไขเอกสารโดยการกรอกและปริ้นแบบฟอร์มใหม่มั้ยค่ะ.?

    • govisa  On February 6, 2014 at 5:36 am

      น้อง Kwan คะ ควรกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ http://bangkok.usembassy.gov/niv_howtoapply.html ตรง application process คลิกที่ข้อ 2 จะ เข้าไปสู่หน้า application form ของ DS-160 เมื่อกรอกเสร็จ นำไปทั้ง DS-160 เก่าและใหม่ค่ะ

  • We  On February 9, 2014 at 1:28 pm

    สวัสดีค่ะพี่ Go Visa คะ
    ขอเรียนปรึกษาดังนี้ นะคะ คือเราซื้อพินและได้วันนัดสัมภาษณ์วันที่ 14 ก.พ.นี้ เรียบร้อยแล้ว แต่พอจะไปจ่ายค่าธรรมเนียมปรากฎว่าได้เปลี่ยนรูปแบบใหม่ในการรับชำระเงินเมื่อวันที่ 7 ก.พ. จึงมีความสับสนว่า แล้วถ้าชำระเงินค่าธรรมเนียมแล้วตามรูปแบบใหม่ เราจำเป็นต้องเข้าไปดูวันนัดยื่นวีซ่าใหม่มั้ยคะ หรือให้เรายึดวันนัดเดิมที่เราได้วันที่ 14 ก.พ.นี้ ตามพินเก่า รบกวนพี่ go visa ด้วยค่ะ //ด้วยความนับถือ/ We

    • govisa  On February 10, 2014 at 9:16 pm

      น้อง We คะ ถ้าน้องได้วันนัดสัมภาษณ์วีซ่าที่ยืนยันแล้วก็เข้าไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า 160 US$ แต่จ่ายเป็นเงินบาทโดยเข้าไปในเว็บไซต์ใหม่ จะเลือกอ่านเป็นภาษาไทยก็ได้นะคะ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-paymentinfo.asp#section2 น้องสามารถเลือกจ่ายเป็นเงินสดผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา และพิมพ์ pay-in slip ออกมาเพื่อนำเงินบาทไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยาค่ะ ระบบใหม่นี้ช่วยให้ผู้ยื่นขอวีซ่าประหยัดเงินโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการจองวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ และลองตรวจสอบดูวันนัดสัมภาษณ์อีกครั้งนะคะว่ามีชื่อน้องกับวันนัดที่ 14กุมภาพันธ์ไหม ถ้าไม่มีก็ลองเข้าไปนัดหมายใหม่ดูค่ะ หรือจะลองเขียนอีเมล์ไปถามเพื่อยืนยันที่ support-thailand@ustraveldocs.com ค่ะ

      หากยังไม่แน่ใจในคำตอบที่พี่ให้มานี้ ทางหน่วยงาน ustraveldocs ที่เป็นผู้จัดทำโปรแกรมการกรอกฟอร์มวีซ่าและการนัดหมายวีซ่าแบบใหม่ของสถานทูตสหรัฐฯมีบริการเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น.ตามเวลาในประเทศไทยปิดทำการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของไทยที่ตรงกับวันปิดทำการของสถานทูต น้องลองเข้าไปอ่านได้ที่ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-main-contactus.asp

      หากท่านต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับใบคำร้องขอวีซ่าของท่านหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ท่านสามารถติดต่อเราผ่านวิธีใดก็ได้ต่อไปนี้ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการข้อมูลวีซ่าพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือท่านผ่านอีเมล โทรศัพท์ หรือแชท
      อีเมล: หากท่านต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการข้อมูลทางอีเมล โปรดส่งอีเมลมาที่ support-thailand@ustraveldocs.com
      โทรศัพท์: โปรดติดต่อตัวแทนศูนย์บริการข้อมูลโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์หมายเลขใดหมายเลขหนึ่งต่อไปนี้:
      โทรมาจากประเทศไทย: โทร 6621054110
      โทรมาจากสหรัฐอเมริกา โทร +17036657349
      Skype: หากต้องการใช้ Skype เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าระหว่างเวลาทำการ ให้เพิ่มชื่อ Skype ustraveldocs-thailand เป็นผู้ติดต่อใหม่ในบัญชี Skype ของท่าน
      แชท: หากท่านต้องการแชทกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า…..

      ซึ่งจะมีรูปภาพสี่เหลี่ยมลายธงชาติไทย และภาษาอังกฤษเขียนว่า “Live Support Online” ถ้านอกเวลาทำการจะขึ้นคำว่า “Live Support Offline’ ค่ะ

      • We  On February 12, 2014 at 12:19 pm

        เรียนพี่ Go Visa คะ ขอขอบคุณมากๆๆ นะคะ สำหรับคำแนะนำ เรื่องพินเก่าที่นัดไว้แล้วแต่มาจ่ายค่าธรรมเนียมตามระบบใหม่ เราตรวจดูรายชื่อการนัดก็ไม่พบชื่อเราที่นัดไว้ค่ะ จึงสอบถามไปยัง จนท ได้ความมาว่า…. ผู้สมัครสามารถไปตามวันและเวลาที่ได้ทำการนัดหมายสัมภาษณ์เดิมได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องทำการนัดหมายใหม่ค่ะ…หน่วยบริการวีซ่าสหรัฐ …ด้วยความนับถือ/We

      • govisa  On February 12, 2014 at 9:58 pm

        ขอบคุณน้อง We มากค่ะที่ช่วยกรุณาเขียนมาบอกนะคะ จะได้ช่วยบอกเพื่อนๆได้ว่า เดี๋ยวนี้สถานทูตสหรัฐฯมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตอบข้อซักถามได้ในวันทำงานระหว่างเวลา 8.00-20.00น.ค่ะ http://www.ustraveldocs.com/th/th-main-contactus.asp#HoursofOperation

  • Franc San  On April 11, 2014 at 3:24 am

    สวัสดีค่ะ พี่ Govisa พอดีจะเดินทางไปอเมริกากับเพื่อนอีก 2 คน ประมาณ 3 อาทิตย์ ในการกรอก DS 160 ที่ถามว่ามีผู้ร่วมเดินทางหรือไม่ ต้องเป็นครอบครัว คู่สมรสหรือหมู่คณะ ดิฉันควรเลือก YES/NO ดีคะ เพราะเป็นเพื่อนกันไม่ใช่คนในครอบครัวและเราก็แยกกันขอ

    และอีกคำถาม หากดิฉันเคยถูกปฎิเสธวีซ่าไปแล้ว 1 ครั้ง สัมภาษณ์ไม่ผ่าน TT ต้องเลือก YES ในข้อที่ถามว่าท่านเคยถูกปฏิเสธวีซ่าหรือไม่ ใช่มั้ยคะ

    ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On April 11, 2014 at 11:41 pm

      น้อง Fran San คะ ถ้าน้องเคยถูกปฏิเสธแล้ว 1 ครั้งก็จะมี record เกิดขึ้นแล้วค่ะ ควรตอบตามความเป็นจริงว่า เคยถูกปฏิเสธวีซ่าค่ะ ซึ่งจะมีคำถามตามมาใน DS-160 ว่า ถูกปฏิเสธวีว่ามื่อไรค่ะ

      แม้น้องไปกับเพื่อนแต่ต่างคนต่างก็แยกกันขอไม่มีความเกี่ยวข้องกันจะตอบ No ไปได้ค่ะ และถ้าน้องเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง มีหลักทรัพยืทางการเงินดี ไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อเพื่อนก้ได้ค่ะ แต่ถ้าตรงกันข้ามทุกประการกับที่กล่าวมา น้องจะบอกว่าเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนอีก 1 หรือ 2 คน แต่ยังไม่ทราบว่าเพื่อนจะขอวีซ่าเมื่อไร แต่ถ้าเพื่อนได้วีซ่าแล้วจะตอบข้อนั้น yes ไปก็ได้ และอย่าลืมถ่ายสำเนาเอกสารหนังสือเดินทางตรงหน้าที่เพื่อนได้วีซ่าด้วยนะคะ เผื่อถูกถามถึงจะได้มีหลักบานแสดง แต่ถ้าไม่มีการถามถึงให้ถือเสียว่า เตรียมเอกสารไปเยอะดีกว่าเตรียมเอกสารไปขาดแล้วมาเสียใจภายหลังค่ะ

  • Franc San  On April 12, 2014 at 3:18 am

    ขอบคุณสำหรับคำตอบก่อนหน้ามากนะคะ แต่ขออนุญาตถามอีก 2 คำถาม คือดิฉันมีญาติอยู่ที่นั่น 1 คน ใน DS 160 ที่ถามว่ารู้จักใครในอเมริกาบ้าง ควรใส่ญาติไหมคะ หรือจะทำให้เครดิตเสีย แต่ในการไปครั้งนี้ไม่ได้จะไปหาญาติคนนั้นแต่รู้จักกันจริงๆ (แต่ในการขอวีซ่าไปครั้งแรกนั้นเคยบอกไปแล้วว่ามีญาติ) คำถามที่2 เพื่อนที่จะไปด้วยไม่มีญาติหรือคนรู้จักที่นั่นเลย ควรใส่อะไรในข้อที่ถามว่ารู้จักใครบ้างหรือองค์กรที่จะไปเยี่ยมชม ใส่โรงแรมที่จะไปพักได้ใช่ไหมคะ ขอบคุณมากนะคะ พอดีว่าตั้งใจจะกรอกใหม่เร็วๆนี้ อยากมั่นใจว่าเขาถามอะไรและเราควรตอบยังไงให้เหมาะสมมากขึ้น ไม่อยากผิดพลาดอีกแล้วค่ะ

    • govisa  On April 12, 2014 at 10:40 am

      น้อง Franc San คะสำหรับคำถามของน้อง 2 ข้อ
      1. ถ้าเคยมีการระบุว่า เคยมีญาติและเคยใส่ชื่อญาติไปแล้ว แม้ว่าครั้งนี้ไม่ได้ไปหาญาติคนนั้น แต่ทุกคำตอบที่ได้เคยคีย์ข้อมูลใส่ในฟอร์ม DS-160 และ submit ไปแล้วจะถูกบันทึกไว้ในแฟ้มประวัติของน้องอยู่ ดังนั้น ถ้ามีคำถามว่า รู้จักใครไหม ก็คงต้องใส่ชื่อคนเดิมเพื่อแสดงความจริงใจของน้องค่ะ
      2. เพื่อนที่ไปด้วยไม่มีญาติก็ไม่ต้องใส่ ลองทบทวนถามเพื่อนดูอีกครั้งว่ามีเพื่อนไหม ถ้ามีก็ใส่ชื่อเพื่อนไปก็ได้ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ แต่ถ้าจะไปดูงานบริษัทใส่ชื่อบริษัทที่จะไปเยี่ยมได้ค่ะ และควรมีจดหมายยืนยันจากบริษัทนั้นด้วยว่า น้องจะไปดูงานที่บริษัทนั้นค่ะ
      3. เรื่องที่พักก็ต้องใส่ชื่อโรงแรมค่ะ

  • Franc San  On April 12, 2014 at 4:11 am

    ขอบคุณสำหรับคำตอบก่อนหน้านะคะ ได้ประโยชน์มาก แต่อยากทราบเพิ่มเติมว่า พอดีมีญาติอยู่ที่อเมริกา และเคยระบุว่ามีญาติไปแล้วในการขอวีซ่าครั้งแรก รอบสองในDS160ที่ถามว่ามีคนรู้จักในอเมริกาหรือไม่ ควรใส่ชื่อญาติอีกดีไหมคะ เครดิตจะเสียรึเปล่า อาจทำให้สถานฑูตระแวงว่าจะหนีไปอยู่หรือไม่ แต่การไปครั้งนี้ไม่ได้จะไปหาญาติค่ะ และหากเพื่อนที่ไปด้วยไม่มีญาติ ควรใส่องค์กรที่เชื่อถือได้เป็นโรงแรมดีไหมคะ และคำถามสุดท้าย ในข้อที่ตอบว่าเคยถูกปฏิเสธวีซ่า ควรใส่เหตุผลที่ถูกปฏิเสธตามที่เราเข้าใจหรือเอาเหตุผลจากใบที่รับมาจากครั้งแรกที่ถูกปฏิเสธ ขอบคุณค่ะ ตั้งใจจะกรอกอีกครั้งเร็วๆนี้ อยากจะเช็คคำถามและคำตอบที่เหมาะสมให้มากกว่านี้ ไม่อยากผิดพลาดแล้วค่ะ

    • govisa  On April 12, 2014 at 10:58 am

      น้อง Franc San คะ พี่ไม่ทราบว่า เหตุผลตามที่น้องเข้าใจคือ เรื่อง เงิน หรือ เรื่องยาติคะ

      ถ้าความหมายในฟอร์มที่ถูกปฏิเสธวีซ่า ฟอร์มส่วนใหญ่ที่ได้รับกันมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบที่ยังไม่ถือว่าร้ายแรงมากคือ

      *** 221 (g) ยังขาดเอกสารอยู่ให้นำเอกสารไปแสดงเพิ่มเติมกับ
      *** 224 (b) ไม่ได้แสดงหลักฐานว่า มีความผูกพันทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และครอบครัวในประเทศไทย

      แต่ถ้าใครถูกปฏิเสธด้วยเหตุผล 212(a)(6)(C)(i) หรือ 212(a)(9)(B)(i) จะทำให้การขอวีซ่าใหม่ของคนๆนั้นขอยากขึ้น คนๆนั้นต้องอ่านความหมายของการปฏิเสธให้ดีและแก้ไขให้ตรงจุดค่ะ ดูความหมายของแต่ละประเภทการถูกปฏิเสธวีซ่าได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ http://travel.state.gov/content/visas/english/general/denials.html

  • Franc San  On April 12, 2014 at 12:16 pm

    ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ถามไปสองครั้งเพราะมัน error ไม่โชว์ว่าคำถามที่พิมพ์ไปขึ้นแล้ว จึงพิมพ์ไปอีกรอบ 5555 มีข้อข้องใจแค่นี้ค่ะ ขอบคุณพี่ Govisa มากนะคะ

    • govisa  On April 12, 2014 at 8:45 pm

      ค่ะน้อง Franc San ถ้าวีซ่าผ่าน เขียนมาบอกเล่ากันบ้างนะคะ

  • Franc San  On April 16, 2014 at 7:51 pm

    ตอนนี้พบปัญหาว่ากรอก DS 160 ใหม่เรียบร้อยแล้ว กำลังจะนัดสัมภาษณ์รอบใหม่ จึงเข้าไป log in user ที่เคยสมัครตั้งแต่นัดรอบแรกในเว็บ ustraveldocs เพื่อจะปริ้นใบโอนเงินใหม่ แต่เปลี่ยน profile เปลื่ยนเลข DS 160 ใหม่ แต่พบว่าได้เลข Receipt number และ Virture acoount เลขเดิม เหมือนเดิมหมดเลย แบบนี้.. สามารถนำไปใช้ได้อีกหรือไม่ หรือในการนัดใหม่แต่ละครั้ง เลขก็ต้องเปลี่ยนไป หรือจริงๆแล้วใช้เลขเดิมเพราะ Acoount เดิม กลัวว่าต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อน รบกวนอีกรอบนะคะ

    • govisa  On April 16, 2014 at 9:04 pm

      น้อง Franc San คะ ถ้าครั้งแรกยังไม่ได้ยืนยันวันนัดสัมภาษณ์ก็ใช้ record เดิมได้อยู่ค่ะ

  • Franc San  On April 17, 2014 at 12:21 am

    เคยสัมภาษณ์ไปรอบนึงแล้วค่ะ แต่ไม่ผ่าน 55 วันนี้จึงกรอก DS 160 ใหม่อีกรอบค่ะ แต่ log in account เดิม จะไปปริ้นใบโอน แต่ receipt number และ virture account เป็นเลขเดิมเหมือนตอนชำระเงินครั้งแรก เลยไม่แน่ใจว่าต้องใช้เลขเดิมแล้วไปชำระเงินใหม่เพื่อนัดสัมภาษณ์ใหม่รอบสองนี้รึเปล่า หรือการได้เลขเดิมแสดงว่าเป็น record เก่าที่เคยชำระไปแล้ว ไปสัมภาษณ์แล้ว และไม่ผ่าน ควรสมัคร account ในการนัดสัมภาษณ์ใหม่รึเปล่าคะ หรือสามารถใช้ account เดิมในการนัดได้เลย รบกวนจริงๆนะคะ เหลือขั้นตอนสุดท้ายแล้ว พอดีติดสงกรานต์ แบงค์ไม่เปิดด้วย จึงอยากศึกษารายละเอียดส่วนนี้ให้แน่ใจก่อน

    • govisa  On April 17, 2014 at 5:25 am

      น้อง Frans San คะ พี่คิดว่า เพราะน้องใช้ username เก่า ข้อมูลเลยเป็นของเก่าหมดค่ะ ถ้าอยากจะเปลี่ยน account ใหม่ลองเปลี่ยนอีเมล์ใหม่เป็น username ดูนะคะ แต่พี่คิดว่าคงไม่มีอะไรแตกต่างมากในเรื่องของ account เพราะคนที่ยื่นขอวีซ่ายังเป็นคนชื่อเดิมจะ account เก่าหรือใหม่น้อง Franc San ก็จะต้องเข้าไปขอวีซ่าใหม่อีกครั้งเพื่อแก้ไขให้ได้รับวีซ่า เรื่องการชำระเงินออนไลน์ด้วยการโอนไปเข้าบัญชี Bank of America เป็นเพียงเอกสารชิ้นหนึ่งในการยื่นสัมภาษณ์เท่านั้น

      สิ่งที่น้องต้องเตรียมให้ดี คือ พิจารณาว่า สัมภาษณ์ครั้งแรกไม่ผ่านเพราะอะไร น้องควรนำเอกสารอะไรเข้าไปเพิ่มเพื่อให้กงสุลมั่นใจว่า น้องควรได้รับวีซ่า น้องมีแผนการชัดเจน ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปอยู่ในสหรัฐฯค่ะ ขอให้น้องโชคดีค่ะ

  • Franc San  On April 18, 2014 at 2:41 am

    เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ จะลองดูอีกครั้ง แล้วจะมาบอกผลนะคะ 🙂

    • govisa  On April 18, 2014 at 5:34 am

      ขอบคุณค่ะน้อง Franc San

  • Kook  On April 25, 2014 at 11:15 pm

    สวัสดีค่ะ พอดีจะเดินทางไปอเมริกากับน้อง 1 คน ประมาณ 3 อาทิตย์อ่ะค่ะ ในการกรอก DS 160 ที่ถามว่ามีผู้ร่วมเดินทางหรือไม่ เราก็ตอบไปมามี แล้วเค้าก็ถามความสัมพันธ์กับเราว่าเป็นอะไรกัน พอดีเลือก other อ่ะค่ะด้วยความทีไม่รู้และงงๆ จริงๆไปกับน้องแท้ๆที่เป็นฝาแฝดอ่ะค่ะ เลยเครียดเลยว่ามันอาจจะมีปัญหาเพราะเราไม่ได้ตอบ Relative แล้วพอดีจ่ายเงินค่าสัมภาษณ์และนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้วด้วย พอมีทางที่จะแก้ไขข้อมูล DS 160 ได้บ้างไหมค่ะ เครียดมากเลยค่ะ 😦 ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On April 27, 2014 at 3:54 pm

      น้อง kook คะ กรอก DS-160 ใหม่อีกชุดหนึ่งได้ค่ะ และนำ DS-160 ทั้งหมายเลขเก่าและหมายเลขใหม่ไปด้วยในวันสอบสัมภาษณ์นะคะ ถ้าเจ้าหน้าที่สอบถามว่า ทำไมมีสองชุด แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า น้องมาตรวจทานอีกครั้ง พบว่าใส่ความสัมพันธ์ของน้องฝาแดผิดเลยกรอก DS-160 ใหม่อีกครั้ง เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องค่ะ อย่ากังวลมากนะคะ เดี๋ยวจะดูไม่พร้อมในวันสัมภาษณืและทำให้หลุดคำตอบผิดๆไปได้ค่ะ พี่แนะนำให้น้องเตรียมเอกสารเรื่องการเงินไปให้พร้อมให้กงสุลมั่นใจว่า จะเพียงพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายตลอด 3 อาทิตย์ที่ไปเที่ยวค่ะ และถ้าน้องยังเป็นนักศึกษาอยู่ หวังว่าน้องทั้งสองคงจะมีใบรับรองความเป็นนักศึกษาและ transcript อยู่แล้วนะคะ นำติดตัวไปด้วยเพราะกงสุลท่านจะได้ทราบว่า เที่ยวเสร็จแล้วน้องจะต้องกลับมาลงทะเบียนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศไททยค่ะ

  • Kook  On April 27, 2014 at 12:09 am

    ขอความกรุณาช่วยด้วยนะค่ะ ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ เครียดมากเลยตอนนี้ หรือว่าผิดพราดเล็กน้อยสถานฑูตจะแก้ไขให้ได้ค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่ากรณีนี้มันผิดพราดเล็กน้อยหรือผิดพราดมากน่ะซิค่ะ ช่วยหน่อยนะค่ะ 😦

    • govisa  On April 27, 2014 at 4:25 pm

      น้อง kook คะ พี่ตอบน้องไปแล้วว่า ให้กรอก DS-160 ใหม่อีกชุด และนำทั้ง DS-160 ทั้งชุดเก่าที่ใช้จองนัดวันสัมภาษณ์กับชุดใหม่ที่แก้ไขข้อมูลไปด้วยค่ะ พี่ขอโทษน้องที่ตอบช้าเพราะไม่สบายค่ะ ขอให้น้องโชคดีนะคะ น้องถูกสัมภาษณ์อะไรบ้างเขียนมาแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ

  • Jriya Namz Palanachsuk  On May 8, 2014 at 5:02 pm

    สวัสดีค่ะ เคยไปเรียนป โทที่อเมริกาค่ะเมือ่สามปีที่แล้วค่ะ เคยขึ้นศาลหนึ่งครั้งค่ะพี่ เรื่องการขับรถยนต์ค่ะ แบบว่า ไม่ทันเห็นตำรวจที่ตามเรามา เรยไม่ได้จอด แบบไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไม่ทันเหนเรยค่ะ และพอเห็นก็เอะใจว่ารถตำรวจตามเราหรือใคร เรยได้ ข้อหา disobey officer ค่ะ เรยโดนปั้มนิ้วมือ 10 นิ้ว แล้วก็ โดนเป็น criminal record. วันที่ไปขึ้นศาล เรื่องจบโดยการ เราไม่เข้าใจกฏหมาย และ ไม่ได้มีเจตนาร้าย ใดๆ ทั้งสิ้น ศาลเรย เปลี่ยนคดีความเป็น violation ค่ะ และเสียค่าปรับ นิดหน่อย เหมือนเป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ อันนี้ น้ำไม่แน่ใจเรยค่ะว่าเราต้องตอบ yes or no ใน ข้อที่ถามว่า เคยโดน arrest มาก่อนหรือป่าวค่ะ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ตอนนี้ กรอก DS160` ไปว่าเคยโดนจับ และก็อธิบายไปค่ะ ว่าคดีจบแล้ว เปลี่ยนเป็น violation และจ่ายเงิน จบคดีเรียบร้อย แล้ว เรื่องแบบนี้ จะเป็นสาเหตุให้ ท่านกงสุลติดใจไม่คิดให้วีซ่าไหมคะ ตอนนี้น้องมี จดหมายจากศาลด้วยค่ะ ว่าเราจ่ายเงินแล้ว คดีจบแล้ว รบกวน ขอความคิดเห็นด้วยนะคะ 🙂 ตอนนี้ ขอวีซ่า ท่องเที่ยวค่ะ –//น้องน้ำค่ะ

    • govisa  On May 9, 2014 at 5:31 am

      ถ้าคดีจบไปแล้วตอบไปว่า No ดีไหมคะ ขณะเดียวกันน้องน้ำก็ได้นำหลักฐานที่น้องมีติดตัวเข้าไปในสถานทูตด้วยเผื่อจะถูกซักถามถึงเรื่องในอดีต น้องจะได้บอกเค้าไปว่า น้องคิดว่าน้องตีความคำว่าเคยถูกจับเฉพาะกรณีร้ายแรงเท่านั้นเลยตอบ NO ใน case ของน้องค่ะ อย่างไรก็ตามน้องได้นำใบถูกตำรวจจับเรื่องขับรถเร็วมาด้วยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจค่ะ อย่าลืมแชร์ประสบการณ์มานะคะ

  • Aom  On May 13, 2014 at 3:26 am

    สวัสดีค่ะ ออมกรอกDs160 ปริ้นแล้ว จ่ายค่าวีซ่าแล้ว แต่​ยัง​ไม่ได้​นัด​สัมภาษณ์ ต้องการอยากเปลี่ยน โรงแรง จาก san mateo ไป San Francisco จะทำไงดีค่ะ ทำได้ไหมค่ะ? ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • govisa  On May 14, 2014 at 5:24 am

      น้อง Aom แก้ไขข้อมูลใน DS-160 ไม่ได้แล้ว ถ้าอยากเปลี่ยนชื่อโรงแรมต้องกรอก DS-160 ใหม่อีกหนึ่งครั้งและนำ DS-160 Confirmation ทั้งเก่าและใหม่ไปในวันสอบสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ ถ้าถามพี่ว่าจำเป็นต้องแก้ไขข้อมูลไหม พี่ตอบได้ว่า ไม่จำเป็น เพราะเราอาจจะเปลี่ยนใจเรื่องที่พักเนื่องจากเลื่อนวันเดินทางไม่ตรงกับที่กรอกใน DS-160 ก็ได้ค่ะ ทำให้ที่พักช่วงเวลานั้นเต็ม ต้องหาที่พักใหม่ หรือไปอ่าน review ของที่อื่นมา เห็นว่าโรงแรมใหม่มีอะไรดีกว่า อยากพักที่นี่มากกว่า กงสุลไม่ว่าอะไรเรื่องนี้หรอกค่ะ

  • Aom  On May 15, 2014 at 2:17 am

    ขอบคุณมากค่ะ ไม่​เปลี่ยนแล้วค่ะ แต่ว่าตอน​นี้ หา พาสปอร์ต เล่มเก่าไม่เจอ จะ​เป็น​อะไรไหมค่ะ นัด​สัมภาษณ์วัน​ศุกร์ที่23 นี้ 8.00 น. ออม มี c1d วีซ่า 5ปี เคยทำงานบนเรือเมื่อปีก่อน เขาจะตัดวีซ่านี้ทิ้งไหมค่ะ และออมจะไปเที่ยวคนเดียว 7 วัน มีโกาสได้วีซ่าไหมค่ะ

    • govisa  On May 15, 2014 at 5:32 am

      น้องออมหาหนังสือเดินทางเล่มเก่าไม่เจอก้แจ้งเหตุผลที่หาไม่เจอเป็นต้นว่าย้ายบ้าน, น้ำท่าวมใหญ่ หรือบอกไปตรงๆว่า หาไม่พบจริงๆเพราะจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหนค่ะ ส่วนเคยมีวีซ่า C1D น้องควรจะกรอกในฟอร์ม DS-160 ว่าเคยมีวีซ่า ถ้าถามอะไรเกี่ยวกับวีซ่าตัวนั้นเช่น หมายเลขวีซ่าก็คงต้องใส่ I do not know เพราะน้องคงจำไม่ได้ เนื่องจากว่าหาหนังสือเดินทางเก่าไม่เจอค่ะ ถ้าน้องพอจะหาหลักฐานเก่าอะไรที่แสดงว่าเคยเป็นลูกเรือได้บ้างก็ให้น้องนำติดตัวไปด้วยเผื่อถูกซักถามถึงค่ะ ถ้าพูดภาษาอังกฤษดต้ตอบได้ อย่างน้อยเป็นลูกเรือเก่ามาก่อน กงสุลคงเชื่อว่าน้องคงจะเอาตัวรอดด้วยการเดินทางคนเดียวได้ค่ะ ที่สำคัญขอให้เตรียมหลักฐานการเงินให้ดีพอว่า น้องมีพอไม่ต้องลำบากระหว่างเดินทางค่ะ โชคดีค่ะ

  • บัว  On May 15, 2014 at 2:46 pm

    สวัสดีค่ะ พี่ govisa คะ บัวมีเรื่องอยากจะถามค่ะ พอดีว่าได้กรอก ds 160 ไปเรียบร้อบแล้วและได้นัดสัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่พอดีว่าติดธุระเลยยกเลิกนัดสัทภาษณ์ไปเรียบร้อยโดยที่ไม่ได้เลื่อนนัดค่ะ พอดีตอนนี้จะเข้าไปกรอกใบสมัครใหม่อีกทีหนึ่ง แต่จะเข้าไปใช้username เดิมหรือว่าสร้างusername ใหม่เลยคะ เพราะว่าเข้าไปuserใหม่เค้าบอกว่าเหมือนได้เรคคอร์ดชื่อข้อมูลเราไว้แล้ว เลยไม่แน่ใจค่ะ แล้วยังเห็นเรคคอร์ดการนัดสัมภาษณือันเดิมอยู่เลยค่ะ แต่จิงๆอยากจะเข้าไปทำใหม่หมดเลยค่ะ

    • govisa  On May 15, 2014 at 8:36 pm

      น้องบัวคะ ถ้าน้องกรอกฟอร์ม DS-160 online เข้าหน้าเว็บไซต์นี้เพื่อไปกรอกข้อมูลใหม่ได้ค่ะ https://ceac.state.gov/genniv/
      ส่วนการนัดวันสัมภาษณ์ ถ้าน้องคิดว่าจะกรอกข้อมูลใหม่เมือนเป็น user ใหม่คงทำได้ยาก เพราะชื่อ-นามสกุลน้องยังเป็นชื่อ-นามสกุลเดิมที่เคยเข้าไปขอนัดวันสัมภาษณ์แล้วค่ะ https://cgifederal.secure.force.com/SiteRegister?country=Thailand&language=en_US
      ดังนั้นเวลาจะนัดวันสัมภาษณ์ถ้าพินเดิมยังไม่หมดอายุก้ใช้พินเดิมนัดวันสัมภาษณ์แต่ถ้าเวลาผ่านไปยกตัวอย่างสามอาทิตยืแล้วก้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าโดยใช้ username ก้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าลืม password คลิก forgot your password กรอกชื่ออผู้ใช้คืออีเมล์ จะมีข้อความนี้ปรากฏอยู่ ” หากคุณทำรหัสผ่านหายหรือลืมรหัสผ่าน ให้คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อกรอกอีเมลของคุณ คุณจะได้รับอีเมลแจ้งรหัสผ่านชั่วคราว หากคุณยังไม่สามารถลงทะเบียนหรือเข้าถึงเว็บไซต์นี้โดยใช้รหัสผ่านชั่วคราวได้ กรุณาโทรศัพท์ติดต่อเราที่หมายเลขศูนย์บริการที่หน้าติดต่อเรา ” ตรงคำว่า “ติดต่อเรา” http://www.ustraveldocs.com/th/th-main-contactus.asp จะมีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อนะคะ 02-105-4110 หรือ skype: ustraveldocs-thailand สอบถามเจ้าหน้าที่เองนะคะ การสอบถามจะต้องอยู่ในช่วงเวลา 8:00 เช้าถึง 20.00 น.ค่ะ ปิดการบริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของไทยค่ะ

  • บัว  On May 15, 2014 at 5:43 pm

    เขียนใหม่นะคะเพื่อความเข้าใจ ตัวเองเขียนตัวเองยังงงเลยค่ะ พอดีว่าจะเปลี่ยน profile ด้วยค่ะ จะทำได้มั้ยคะ พอดีลืมpassword แล้วใช้อีเมล์ตัวใหม่สมัครไป และก็กรอกข้อมูลไป เค้า บอกว่าอีเมลล์นี้อยู่ในฐาานข้อมูลเขาแล้ว เลยดำเนินการต่อไปไม่ได้ค่ะ แต่อยากใช้อีเมลลตัวใหม่ค่ะ

    • govisa  On May 15, 2014 at 8:38 pm

      ใช้อีเมล์ใหม่ก็ได้ค่ะ แต่ยังเป็นคนชื่อ-นามสกุลเดิมอาจเกิดอุปสรรคได้บ้าง ลองโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ที่หมายเลข 02-105-4110 ระหว่างแปดโมงเช้าถึงสองทุ่ม ไม่เปิดบริการวันหยุดนะคะ http://www.ustraveldocs.com/th/th-main-contactus.asp

  • บัว  On May 16, 2014 at 3:16 pm

    ขอบคุณมากค่ะพี่ govisa พี่ govisa ใจดีมากเลยค่ะ แล้วไม่ทราบว่า ค่าธรรมเนียมวีซ่า จะหมดอายุเมื่อไหร่คะ พอดีนัดสัมภาษณ์ไปแล้วและได้ยกเลิกการนัดสัมภาษณ์ไปแล้วค่ะ

    พอดีว่า ได้สมัครวีซ่าท่องเทียวไปค่ะ ทำงานแล้วค่ะ และกรอกชื่อบริษัทไปแต่พอดีกำลังจะลาออกจากบริษัทนี้แล้วไปขอใบรับรองการทำงาน เค้าไม่ออกให้ค่ะ เพราะได้ที่ทำงานใหม่ เลยเครียดตรงนี้ค่ะ เลยคิดว่าจะกรอกข้อมูลใหม่ จะทำยังไงดีคะ จะแก้ขยังไงดีคะ ยกเลิกนัดสัมภาษณ์ไปเรียบร้อยแล้วเพราะเอกสารไม่ครบ แต่ที่ทำงานใหม่รู้จักกับเจ้าของบริษัทค่ะ และสนิทกับเค้าก็เลยให้มาทำงานให้ และได้ตำแหน่งและเงินเดือนดีกว่าค่ะ
    เลยตัดสินใจลาออกจากที่เดิมแต่เผอิญไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาแบบนี้ค่ะ ตอนนี้กลุ้มใจมากเลย เงินก็เสียไปแล้วกับค่าธรรมเนียม

    • govisa  On May 17, 2014 at 2:22 pm

      น้องบัวคะ ค่าธรรมเนียมวีซ่ามีอายุการใช้งานนานหนึ่งปีค่ะ อ่านคำอธิบายที่หน้าเว็บไซต์ของการยื่นคำร้องขอวีซ่านะคะ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-visafeeinfo.asp

      ข้อจำกัด
      เมื่อท่านชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าแล้ว ท่านจะไม่สามารถขอคืนเงินหรือโอนให้บุคลอื่นได้ หลังการชำระค่าธรรมเนียม ผู้สมัครจะได้รับใบเสร็จรับเงินจากทางธนาคารซึ่งจะมีอายุการใช้งานหนึ่งปี ผู้สมัครต้องใช้ใบเสร็จนี้เพื่อทำการจองนัดสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาภายในหนึ่งปีนับจากวันที่ชำระค่าธรรมเนียม มิเช่นนั้น ใบเสร็จรับเงินจะหมดอายุและท่านจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใหม่อีกครั้ง

      แต่เนื่องจากสถานทูตสหรัฐฯได้เปลี่ยนเว็บไซต์หน้าขอวีซ่าใหม่โดยผนวกกค่านัดวันสัมภาษณ์กับค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่มีการไปซื้อพินที่ไปรษณีย์พื่อชำระค่านัดวันสัมภาษณ์เหมือนในอดีตอีกต่อไป ดังนั้นถ้าน้องเข้าไปอ่านที่” ทางเลือกชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า…” http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-paymentinfo.asp พี่ได้ลอกมาให้น้องอ่านบางส่วนนะคะ

      การชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำร้องขอวีซ่า ให้สิทธิผู้สมัครทำการนัดหมายเข้าสัมภาษณ์และเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ไม่เกิน 3 ครั้ง (ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเข้ามาทำการสัมภาษณ์ตามวันและเวลานัดหมายได้) หากเกินจำนวนวัน….. ผู้สมัครจะต้องชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าอีกครั้ง เพื่อจะทำการนัดหมาย……ท่านไม่สามารถขอค่าธรรมเนียมวีซ่าคืนได้ในทุกกรณี….ผู้สมัครทำการนัดหมายเข้าสัมภาษณ์และเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ……….หากเกินจำนวนดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าอีกครั้ง เพื่อจะทำการนัดหมายเข้าสัมภาษณ์วีซ่าได้………”

      ดังนั้นในกรณีของน้องบัวๆคงจะต้องชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่อีกครั้ง หากต้องการสอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูตโดยตรง น้องบัวต้องติดต่อในเวลาทำการที่สถานทูตกำหนดค่ะ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-main-contactus.asp คือโทรไปที่หมายเลข 02-105-4110 ระหว่างแปดโมงเช้าถึงสองทุ่มนะคะ

  • Pump  On May 28, 2014 at 1:37 am

    ขอถามพี่govisa ครับ ผมได้กรอกds-160 คอมเฟริม จ่ายเงินและนัดวันสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วครับ
    อยากจะถามว่า 1. ในds-160 ช่อง passsport book no. ตอนกรอกหาในpasssport ไม่มีก่อนเลยติ้ก does not apply ไป เพิ่มมาอ่านตอนหลังว่าอยู่ด้านหลังpasssport ยังงี้ ผมควรทำds-160ใหม่ไหมครับ (ทางกงสุลเค้าซีเรียสไหมครับ) ข้อ2. ผมกรอกว่าไปกับคุณแม่ และ แฟน(ยังไม่แต่งงาน)ซึ่งในส่วนของแฟนผมติ้กfriend ไป เป็นไรไหมครับ(มันไม่มีgirlfriend) แล้วตอนlogin ก้อทำuserผมคนเดียวเลย เป็นไรไหมครับ ขอบคุณมากๆๆเลยครับ

    • govisa  On May 28, 2014 at 8:01 pm

      น้อง Pump คะ
      1. ไม่ต้องกรอกใหม่ค่ะ ถ้าหมายเลขหนังสือเดินทางถูกต้องแล้วใช้ได้ค่ะ
      2. น้องใช้รหัส username ของน้องคนเดียวได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ คนที่รับจ้างกรอกฟอร์มวีซ่าก้อาจจะใช้วิธีเดียวกันกับน้องคือ ใช้ชื่อ username ของเขา เพราะสะดวกดีที่จะเป็นคนรับข้อมูลต่างๆให้ เช่น เป็นผู้ได้รับอีเมล์ยืนยันการนัดหมาย เป็นต้น เพราะคนที่มาจ้างให้กรอกฟอร์มวีซ่าให้อาจจะใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องค่ะ แต่ถ้าคนที่กรอกเองได้ อาจจะไม่ชอบให้บุคคลที่สามเข้ามารู้เรื่องส่วนตัวของเค้าค่ะ

  • buth  On May 30, 2014 at 1:59 pm

    สวัสดีค่ะ. พี่โกวีซ่า. หนูอยากจะรบกวนถามพี่นูโกวีซ่าหน่อยค่ะว่า. หนูได้สมัครขอวีซ่าไปแล้ว.หนูเคยเปลี่ยนนามสกุลด้วยค่ะ. ไม่ทราบว่าหนูต้องเอาใบเปลี่ยนนามสกุลไปแปลด้วยมั้ยคะ. และถ้าแปลแล้วจะต้องรับรองคำแปลอย่างเดียว. หรือต้องให้ทางกงสุลรับรองด้วย. ของหนูเป็นวีซ่าท่แงเที่ยวค่ะ

    • govisa  On May 31, 2014 at 9:54 pm

      น้อง buth คะ นำใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลภาษาไทยไปอย่างเดียวก็ได้ค่ะถ้าน้องขอวีซ่าท่องเที่ยว หรือหากจะรับรองรับรองคำแปลอย่างเดียวก็ได้ค่ะ หากน้องขอวีซ่าเพื่อไปอยู่ที่อเมริกาถาวรน้องควรจะนำใบแปลไปรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมกงสุลด้วยค่ะ

  • ann  On June 2, 2014 at 9:04 pm

    พี่คะ ถ้ากรอก ds160 ผิด จ่ายค่า visa ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้นัดวันสัมภาษณ์ จะแก้ไขข้อมูลอย่างไรได้บ้างคะ?

    • govisa  On June 2, 2014 at 11:28 pm

      น้อง ann คะ ถ้ากรอกข้อมูลสำคัญๆ ประเภทข้อมูลส่วนตัวผิดอย่างร้ายแรง เช่น กรอกวันเดือนปีเกิดผิด หรือกรอกหมายเลขหนังสือเดินทางผิด ให้กรอก DS-160 ใหม่ แล้วนำ DS-160 ที่กรอกใหม่ถูกต้องแล้วไปยื่นในวันสัมภาษณ์พร้อม DS-160 เก่าที่ใช้จองวันนัดสัมภาษณ์ค่ะ แต่ถ้าความผิดเล็กน้อย เช่น เดิมบอกว่าจะเดินทางวันนี้ อยากจะเปลี่ยนเป็นวันเดินทางใหม่ ไม่จำเป็นต้องแก้ไขก็ได้ค่ะ เพราะกว่าจะเดินทางจริงๆอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกได้ เพราะยังไม่พร้อม และอื่นๆค่ะ

  • ann  On June 3, 2014 at 9:16 pm

    ขอบคูณมากคะ แล้วถ้า เรามีลูกพี่ลูกน้องเรียนอยู่ที่นั่น แล้วตัวหนูเองกำลังจะไปเรียนต่อ ในช่องที่กรอก contact person มันให้เลือกกรอก อันใดอันหนึ่ง ไม่ คน ก็ โรงเรียน ควรเลือกกรอกอะไรดีคะ? แล้วในช่องที่ถามว่า do you know any other relatives in US. ก็ต้องตอบ yes ถูกมั้ยคะ

    • govisa  On June 4, 2014 at 5:25 am

      น้อง ann คะ ถ้าเป็นวีซ่านักเรียน ช่อง Contact person ใส่ชื่อคนที่เซ็นต์ชื่อในหน้แรกของ I-20 ค่ะ และคลิกเลือก school official ค่ะ

  • ann  On June 6, 2014 at 11:50 pm

    คะ แล้วถ้าเรา register ds160 ใหม่ไป(แต่ยังไม่ได้กด confirm) แล้วเราเปลี่ยนใจไม่แก้แล้ว ลบอันใหม่ทิ้งได้ไหมคะ? หรือมันไม่มีผลอะไรอยู่แล้วเพราะ เรายังไม่ได้ confirm?

    • govisa  On June 7, 2014 at 12:39 am

      ได้ค่ะ น้อง ann หรือไม่ต้องกด submit เพียงแค่ปล่อยทิ้งไปเลยไม่เข้าไปดู Ds-160 ใหม่ที่กรอกเลยก็ได้ค่ะ

  • buth  On June 17, 2014 at 9:13 am

    สวสดีค่ะ พี่govisa บุษเพิ่งไปสัมภาษณ์มาไม่ผ่านค่ะ แต่มีข้อสงสัยเลยมาถามตรงนี้ให้พี่govisa ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เพราะจะไปสัมภาษณ์อีกรอบเร็วนี้ คือ บุษสมัครไปเที่ยวโดยมีพี่ชายลูกพี่ลูกน้องที่อยู่เมกาเค้าเป็นสปอนเซอรค่ะ เค้าเป็นสัญชาติเมกาค่ะ ตอนที่ไปสัมภาษณ์เค้า ถามว่า ไปทำอะไร ตอบ ไปเที่ยวค่ะ ถาม ไปเที่ยวที่ใหน ตอบ ไปเที่ยวที่minnesota ค่ะ ถาม ไปกับใคร ตอบ ไปคนเดียว ถาม ไปพักที่ใหน ตอบ ไปพัก กับญาติ ถาม ญาติเป็นอะไรกัน ตอบ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แล้วก็ยื่นเอกสารที่ญาติเชิญและรับรองให้เค้าดู เค้าก็พลิกดูๆๆๆเสร็จ แล้วถามว่า ญาติทำงานอะไร ตอบ ทำงาน social woreker ค่ะ เสร็จก็จ้องหน้าคอม พิมพ์ๆๆๆๆ เสร็จเหยิบกระดาษขาวออกมา เซ็นชือ ปั้นวันที่ และ คำตอบก็ ทุกคนน่าจะรู้อะค่ะ แต่ด้วยความงงเลยถามเค้าว่าทำไมถึงไม่ผ่านคะ เค้าตอบมาว่า เพราะความสัมพันธ์ของญาติคลุมเครือ แค่นี้แหละค่ะ บุษเลยไม่แน่ใจว่าที่บอกเค้าไปว่า ลูกพี่ลูกน้องเนี่ยเค้าจะเข้าใจมั้ยคะ แล้วบุษกำลังจะเตรียมไปสัมภาษณ์อีกรอบ ควรจะทำยังไงต่อคะ ต้องเตรียมเอกสารอะไรเพิ่มมั้ยเพราะว่าไม่มีเอกสารหรือหลักฐานอะไรอย่างอื่นเลยค่ะ จากตอนแรกบุษลางานจะไปเที่ยว 14วันตอนนี้เลยคิดว่าจะ ไปแค่ 7 วันแล้วจ่ายเอง แต่ต้องไปพักบ้านของญาติคนนี้อยู่ดีเพราะไม่รู้จักใครแล้วพูดอังกฤษก็ไม่ค่อยเก่งด้วย แต่มีเงินแค่แสนต้นๆ ค่ะ จะพอมั้ยคะ

    • govisa  On June 17, 2014 at 9:36 pm

      น้องบุษคะ
      1. การใช้ญาติชาวอเมริกันเป็นผู้ค้ำประกันทำให้ดูไม่มีความผูกพันกับคนที่เมืองไทยเลยค่ะ มีญาติที่เมืองไทยที่พอมีเงินในบัญชีพอสมควรเป็นผู้ค้ำอีกคนจะดูดีกว่าในเรื่องความผูกพันกับประเทศไทยค่ะ
      2. น้องแจ้งว่า จะเดินทางคนเดียว น้องก็คงจะถูกประเมินว่าน้องจะทำได้ไหม โดยอาจจะดูหลักฐานในหนังสือเดินทางของน้องทำนองว่า เคยไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนมาก่อนบ้างไหม
      3. คนไทยที่ไปอยู่ที่โน่นถ้าไม่ได้เกิดที่โน่นสถานทูตก็คงจะมีข้อมูลตอนมาขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯว่า เคยขอวีซ่าประเภทอะไรเข้าไป เคยทำอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสถานภาพวีซ่ามาก่อนไหม ทำถูกหรือเปล่า เรียกได้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถดึงข้อมูลของบุคคลเหล่านั้นออกมาดูได้ค่ะ ดังนั้นการพิจารณาใช้ญาติควรดูด้วยว่าญาติไม่เคยทำอะไรผิดระเบียบของเค้านะคะ
      4. น้องบุษถามว่า เค้าเข้าใจลูกพี่ลูกน้องไหมก็อยู่ที่การอธิบายของน้องว่า ตอนนั้นน้องอธิบายให้เข้าใจได้ดีไหมค่ะ ถ้าไม่แน่ใจคิดว่าอธิบายยากก็ทำผังแบบ family tree ยื่นประกอบการอธิบายค่ะ ฝรั่งเชื่อถือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรมากกว่าพูดปากเปล่าโดยไม่มีหลักฐานพยาน เพราะพบกันไม่ถึง 5 นาที ไม่แน่ใจว่าผู้ถูกสัมภาษณ์พูดจริงหรือไม่ค่ะ
      5. ผู้หญิงเดินทางคนเดียว พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง นับเป็นจุดบอดที่จะเดินทางคนเดียวได้ค่ะ Minnesota อยู่ตรงกลางประเทศด้านเหนือๆ น้องจะถูกมองว่า จะต่อเครื่องบินได้ไหม จะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤาอย่างไรค่ะ
      6. เงินมีแสนต้นๆไม่ทราบว่าประมาณเท่าไรแน่ ถ้าน้องทำงานนาน 5 ปีเก็บเงินได้แสนก็ดูน้อยไป

      สิ่งต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดสื่อไปในทิสทางว่า น้องไม่น่าจะมีความผูกพันกับเมืองไทยเท่าไรนักค่ะ ถ้าจะตอบว่า ซื้อทัวร์ไปก็น่าจะทิ้งระยะห่างในการยื่นขอวีว่าไปสักสามเดือน ถ้าจะไปขอเลยตอนนี้ก็คงต้องลุ้นค่ะ

  • ann  On June 25, 2014 at 12:26 am

    พี่คะ transcript ตอนไปสัมภาษณ์นี่จำเป็นต้องเอาผลเทอมล่าสุดมั้ยคะ?
    แล้วต้องไปหมอตรวจสุขภาพเพื่อเอา ใบรับรองแพทย์ไปวันสัมภาษด้วยไหมคะ? ถ้าใช่ ต้องตรวจละเอียดแค่ไหนคะ ขอบคุนมากคะ

    • govisa  On June 25, 2014 at 5:30 am

      น้อง ann คะ ถ้าน้องจะไปสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนเพื่อไปเรียนต่อสหรัฐฯไม่ต้องใช้ผลตรวจสุขภาพค่ะ แต่ถ้าน้องจะขอวีซ่านักเรียนเพื่อไปเรียนต่อสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แคนาดาและยุโรปบางประเทศต้องมีผลตรวจสุขภาพค่ะ ส่วนเรื่อง transcript ถ้ามีผลคะแนนเทอมล่าสุดนำติดตัวไปด้วยพร้อม transcript ที่ยังไม่สมบูรณ์ค่ะ ถามว่ากงสุลขอดุไหม หากน้องได้รับ I-20 เรียนต่อปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ กงสุลแทบจะไม่ดู transcript ค่ะ พี่ไม่ขอยืนยันว่าจะเกิดกับทุก case นะคะ ขอใช้คำว่าส่วนใหญ่ค่ะ แต่ถ้าเป็น I-20 ตอบรับเข้าเรียนภาษาอย่างเดียวก็มักจะดู transcript ด้วยค่ะ

  • ann  On June 30, 2014 at 7:13 pm

    ขอบคุนมากคะพี่ มีอีกคำถามคะ คือว่าตอนกรอก ds 160 ไม่ได้ปริ้นไว้ แล้วตอนนี้ใกล้ถึงวันสัมภาษณ์ อยากกลับไปปริ้นข้อมูลมาอ่านเพื่อเตรียมสำหรับสัมภาษ มันย้อนกลับไปปริ้นไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ? บางอันไม่แน่ใจว่ากรอกอะไรลงไป TT ขอบคุนมากคะ

    • govisa  On June 30, 2014 at 10:08 pm

      น้อง ann คะ ถึงแม้จะ print ไม่ได้แล้ว แต่ถ้าน้องเป็นคนกรอกเองทั้งหมด น้องก็ไม่น่าจะวิตกมากนะคะ เพราะพี่มั่นใจว่า น้องต้องตอบคำถามกงสุลได้ค่ะ คนที่ไม่ได้กรอกเองให้คนอื่นกรอกให้ทั้งหมด อาจลืมได้ว่า กรอกอะไรไปค่ะ ขอให้น้อง ann โชคดีได้วีซ่านะคะ

  • ann  On July 5, 2014 at 9:54 am

    ขอบคุนมากคะพี่ สัมภาษเรียบร้อยแล้ว เขาดูแค่ ใบคอนเฟิม ds160 ใบเสร็จ sevis ds 2019 เอง แต่ว่าเขาไม่ได้ให้ ds 2019 คืนมาอะคะ เขาจะส่งมาทีหลังใช่ไหมคะ? เพราะต้องใช้อีกทีตอนเข้าอเมริกา

    • govisa  On July 6, 2014 at 8:45 pm

      น้อง ann คะ เอกสารทั้งหมดของน้องจะถูกส่งกลับคืนมาในซองเดียวกับหนังสือเดินทางที่ประทับตราว่า น้องได้รับวีซ่าแล้วค่ะ โชคดีในการเดินทางนะคะ

      น้อง ann พอจะแชร์ประสบการณ์ได้ไหมคะว่า กงสุลท่านถามคำถามอะไรน้องบ้าง เพื่อเป็นความรู้ให้แก่น้องคนอื่นๆที่เข้ามาหาข้อมูลอ่านค่ะ

  • MUI THUMMASITT  On September 10, 2014 at 3:13 pm

    สวัสดีดีครับ ผมอยากทราบว่าสถานทูติอเมริกาจะมีการเก็บข้อมูลของผู้ที่ขอวีช่า หรือประวัติในการเดินทางเข้าออกประเทศไว้นานแค่ไหนครับ

    • govisa  On September 10, 2014 at 10:45 pm

      น้อง MUI THUMMASITT คะ คำถามของน้องเหมือนชี้นำให้คิดว่า น้องหรือคนใกล้ชิดเคยทำอะไรผิดและเกรงว่าจะถูกนำประวัติการเดินทางเข้า-ออกหรืออยู่นานมาเกี่ยวโยงทำให้ถูกปฏิเสธวีซ่าหรือเปล่าคะ การถูกปฏิเสธวีซ่าตามทึ่มีปราฎอยู่ในเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐฯ http://travel.state.gov/content/visas/english/general/denials.html ให้น้องลองอ่านให้ละเอียด น้องจะได้พอเข้าใจว่า กรณีของน้องมีความรุนแรงหรือพอแก้ไขได้
      ***ถ้าถูกปฏิเสธด้วยเหตุผล 221(g) หมายถึง ยังขาดเอกสารบางชิ้นอยู่ โอกาสที่จะได้รับวีซ่าในภายหลังมีสูงถ้าน้องเตรียมเอกสารที่ขาดไปยื่นเพิ่ม
      ***ถ้าถูกปฏิเสธด้วยเหตุผล 214(b) หมายถึง น้องขาดคุณสมบัติที่จะแสดงให้กงสุลเห็นว่า น้องมีความผูกพันทางเศณษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและครอบครัวที่อยู่ในประเทศ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://travel.state.gov/content/visas/english/general/denials.html ถ้าในกรณีการแก้ไขค่อนข้างยากแต่ก็มีสิทธิืยื่นขอวีซ่าใหม่อีกครั้งได้ค่ะ
      ***ถ้าถูกปฏิเสธด้วยเหตุผล 212(a) จะประกอบด้วยความผิดประมาณ 10 ชนิด http://travel.state.gov/content/visas/english/general/ineligibilities.html#visa อาทิ เช่น 212(a)(4)ขาดหลักฐานที่ดีที่จะสนับสนุนเรื่องการใช้ผู้ค้ำประกันเป็นคนที่อยู่ในสหรัฐฯ, 212(a)(6)(C)(i)ใช้เอกสารปลอมหรือประเภทให้ข้อมูลเป็นเท็จ และ212(a)(9)(B)(i)หมายถึงอยู่ในอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น

      ดังนั้น คำถามที่ถามเรื่องระยะเวลาในการเก็บเอกสารของผู้ยื่นขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯเป็นเรื่อง sensitive พี่ไม่ทราบตัวเลขของเวลาที่ชัดเจน แต่มั่นใจว่า ถ้าน้องไม่ได้มีความผิดด้วยเหตุผลต่างๆที่กล่าวมาแล้ว น้องจะไม่มีปัญหาในเรื่องการถูกปฏิเสธวีซ่าค่ะ

  • Jay  On October 26, 2014 at 9:26 am

    ้สวัสดีครับ ผมอยากทราบว่าถ้าใน DS-160 ของผม ผมกรอกวันที่ไปถึงอเมริกาวันที่ 6 Nov 14 แต่ผมเกิดเปลี่ยน plan ไปอเมริกาวันที่ 30 Oct 14 แทน ผมจะมีปัญหากับ ตม. ไหมครับ เพราะตอนนั้นผมแค่วางแผนการเดินทางคร่าวๆ ยังไม่แน่นอน ผมไปในวีซ่านักเรียนครับ เริ่มเรียน 17 Nov 14 นี้ ขอบคุณนะครับ

    • govisa  On October 26, 2014 at 9:24 pm

      ไม่มีปัญหาค่ะน้อง Jay น้องสามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ค่ะ

  • Nongluck Suriyavirun  On November 21, 2014 at 11:48 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ govisa,

    อยากจะรบกวนถามเรื่องพาคุณยาย อายุ 72 ปี ไปทำวีซ่าท่องเที่ยว
    เพื่อไปเยี่ยมหลานชายที่เรียนปริญญาตรีอยู่ ที่ประเทศอเมริกา

    คุณยายยังไม่เคยไปอเมริกาเลย (นี่เป็นการไปครั้งแรกค่ะ)
    คุณยายต้องเข้าไปยื่นเอกสารการขอวีซ่าคนเดียวใช่ไหมคะ
    หรือว่า มีคนอื่น เช่น ลูกสาว หรือ ลูกชาย เข้าไปด้วยได้ไหม วันที่ไปยื่นขอวีซ่า
    คุณยายจะไปอเมริกา กับ ลูกสาว (คือตัวดิฉัน) แต่ดิฉัน และ ทุกคนที่จะไปด้วย มีวีซ่าเข้าประเทศอเมริกาทุกคนแล้วค่ะ

    กรณีนี้ จะเหมือนเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไหมคะ
    ที่อนุญาติให้มี ผู้ปกครอง หรือ คุณพ่อ หรือ คุณแม่ เข้าไปเป็นเพื่อนได้

    รบกวน คุณ govisa ช่วยตอบคำถามด้วยค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On November 22, 2014 at 9:54 pm

      น้อง Nongluck คะ คุณแม่ต้องเข้าไปสัมภาษณ์วีซ่าเองคนเดียวค่ะ แนะนำให้น้องถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางและหน้าวีซ่าของน้องพร้อมทำจดหมายชี้แจงเพิ่มเติมให้คุณแม่ถือติดมือเข้าไปนวันสัมภาษณ์ด้วยว่า คุณแม่จะเดินทางพร้อมน้องเพื่อไปเยี่ยมหลานชายค่ะ สัมภาษณ์ไม่ยากค่ะ

      • Nongluck Suriyavirun  On November 23, 2014 at 9:25 am

        ขอบคุณมากๆ ค่ะ 🙂

      • govisa  On November 25, 2014 at 10:09 pm

        ได้ผลเป็นอย่างไรเขียนแชร์ประสบการณ์เพื่อนๆด้วยนะคะ เพราะบางครั้งกฎระเบียบก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากในอดีตได้ค่ะ ขอให้คุณแม่ผ่านทุกอย่างด้วยความราบรื่นค่ะ

  • Patrick  On December 18, 2014 at 6:28 pm

    เรียนสอบถามครับ
    1. Contact person ผมไม่รู้จักใครเลย ตรงนี้ผมไม่ตอบ แต่ต้องตอบใช่อง organization in U.S. อันนี้ผมตอบเป้นสถานที่ท่องเที่ยว เช่น เทพีเสรีภาพ และที่อยู่ที่ติดต่อได้ผมใส่ี่อยู่โรงแรมถูกต้องไหมครับ
    2.ผมนัดสัมภาษณื์ไปแล้วแต่ยังไม่ส่งฟอร์ม D-160 เพราะคิดว่าจะดูให้แน่ใจก่อน อันนี้จะมีปัญหาไหมครับถ้านัดไปแล้วแต่ยังไม่ส่งฟอร์ม

    • govisa  On December 18, 2014 at 10:22 pm

      น้อง Patrick คะ Organization in US คือ organization ของ contact person ค่ะ ไม่ต้องใส่ชื่อที่เที่ยวค่ะ ที่ยู่ใช้ชื่อโรงแรมถูกต้องแล้วค่ะ

  • buth  On January 6, 2015 at 12:31 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ govisa

    จะสอบถามเรื่องหนึ่งค่ะ พอดีแฟนบุษเป็นคนสัญชาติอเมริกา ค่ะ แล้วจะทำเรื่องขอวีซ่าคู่หมั้นให้ แต่ว่าตอนนี้เขาตกงานอยู่ค่ะ ไม่ได้ทำงานมา น่าจะ 5-6 เดือนแล้ว แต่กำลังจะไปหางานทำอยู่ค่ะ เพราะเพิ่งมาเที่ยวไทยช่วงเดือนธันวาคม 57นี้เอง ส่วนตัวของเขาก็พอมีทรัพย์สินอยู่บ้าง ไม่แน่ใจว่าจะขอวีซ่าช่วงนี้ได้เลยมั้ยคะ หรือต้องรอให้หางานทำได้ก่อนถึงจะขอได้ รบกวนคุณ govisa ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On January 7, 2015 at 5:16 am

      น้อง buth คะ การขอวีซ่าคู่หมั้นคงต้องให้ทางแฟนทำเรื่องจากอเมริกามาก่อนและน้องนำเอกสารไปยื่นที่สถานทูตอเมริกาที่กรุงเทพค่ะ ส่วนเรื่องแฟนตกงานอยู่ น่าจะเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับน้องว่าน้องจะมีความมั่นคงในการไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่อเมริกาไหมค่ะ. เพราะค่าครองชีพในเมืองนอกสูง ถ้าแฟนไม่มีงานทำและน้องก็ยังหางานทำไร่ได้จะดำเนินชีวิตคู่ให้ราบรืนได้ไหมเป็นประเด็นที่ต้องนำไปคิดด้วยค่ะ

  • Nongluck Suriyavirun  On February 15, 2015 at 8:41 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ Govisa

    อยากจะรบกวนถามว่า ตัวดิฉันได้เคยไปขอวีซ่าท่องเที่ยวที่สถานทูตอเมริกา ที่เมืองไทยมาแล้ว ได้วีซ่า เป็นเวลา 10 ปี พึงไปขอมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ค่ะ ตอนนี้ ยังเหลืออายุการใช้งานได้อีก ประมาณ 8 ปีค่ะ แต่ มีปัญหา คือ ดิฉันได้ไปเปลี่ยนชื่อตัวเอง (my name) มาเมื่อเดือนมกราคม 2015 ที่ผ่านมา ค่ะ

    ดิฉันมีคำถามว่า ถ้าปลายปีนี้ ประมาณเดือน ธันวาคม (December 2015 ) ดิฉันจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอเมริกา ประมาณ1 เดือน

    จะใช้วีซ่าท่องเที่ยวอันเดิม ที่เคยขอไว้ ได้ไหมคะ ?

    หรือว่า ต้องทำเรื่องขอวีซ่าใหม่ เพราะเราเปลี่ยนชื่อใหม่
    หรือว่า ทำแต่หนังสือเดินทางใหม่ เท่านั้นคะ

    ไม่แน่ใจว่า ต้องทำอะไรใหม่บ้างคะ ?

    รบกวนคุณ Govisa ช่วยตอบคำถามให้ด้วย ค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

    • govisa  On February 16, 2015 at 10:43 pm

      น้อง Nongluck คะ หลังจากได้หนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้นำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ไปทำการ endorse ที่กรมกงสุลหรือที่ทำหนังสือเดินทางเพื่อแสดงว่าบุคคลในหนังสือเดินทางเล่มใหม่เป็นคนคนเดียวกับหนังสือเดินทางเล่มเก่าค่ะ

      ส่วนคำถามที่ว่าจะต้องขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯใหม่ไหมให้น้องลองอ่านที่เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพค่ะ http://thai.bangkok.usembassy.gov/mobile/non-immigrant_visas/frequently-asked-questions2.html#3
      ถ้าไม่ต้องการถูกซักถามที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองมากนัก ให้เตรียมขอวีซ่าใหม่ค่ะ

      • Nongluck Suriyavirun  On February 17, 2015 at 12:49 am

        ขอบคุณ คุณ Govisa มากๆ เลยค่ะ สำหรับคำตอบ และ ข้อมูลที่มีประโยชน์มากค่ะ 🙂

      • govisa  On February 17, 2015 at 10:16 pm

        ด้วยความยินดีค่ะ ถ้าตัดสิใจจะทำใหม่เพื่อความสะดวกในการผ่านจุดตรวจที่ immigration ก็ขอให้น้องผ่านวีซ่าได้ง่ายๆค่ะ

  • nee  On June 18, 2015 at 10:26 pm

    สวัสดีค่ะ รบกวนถามถึงใบคอนเฟิร์ม DS-160 ปริ้นท์ออกมาแล้วเป็นขาวดำ ทำให้รูปถ่ายไม่ชัด ใช้ได้หรือเปล่าค่ะ เนื่องจากprinter ที่บ้านไม่ค่อยดี ส่งทางเมล์เพื่อที่จะไปprint ที่อื่น ก็ไม่เห็นได้รับเมล์ อ่านเจอว่าช่วงนี้ระบบขัดข้อง แสดงว่าไม่สามารถยื่นขอช่วงนี้ได้เลยหรือค่ะ เพราะสร้างโปรไฟล์ จะจ่ายค่าธรรมเนียม ก็คลิกจ่ายไม่ได้ค่ะ เลยไม่สามารถจองวันสัมภาษณ์ได้ แบบนี้ต้องทำยังไงค่ะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

    • govisa  On June 22, 2015 at 9:05 pm

      น้อง nee คะ ตอนนี้ระบบก็ใช้ได้แล้วค่ะ DS-160 เป็นขาวดำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสีค่ะ น้อง née ไม่จำเป็นต้องส่งทางเมล์ ให้น้องเข้าไปที่เว็บไซต์กรอกฟอร์มวีซ่า DS-160 : https://ceac.state.gov/genniv/ คลิกเลือกประเทศไทย หลังจากนั้นคลิกเลือก retrieve an application ใส่หมายเลขฟอร์มยืนยันที่ขึ้นต้นด้วย AA00….,..หลังจากนั้นใส่อักษรที่เป็นตัวสะกดนามสกุลห้าตัวอักษรแรก ใส่ปีค.ศ.ที่เกิด และตอบคำถามที่เราเลือกไสิในตอนแรกก่อนกรอกฟอร์มวีซ่า หลังจากนั้นคลิกเลือกที่จะดู confirmation form น้องสามารถจะไป print ที่ไหนก็ได้ ยกเว้น print application form จะำการพิมพ์ได้ครั้งเดียวถ้ายัไม่ได้พิมพ์แล้วไปใช้เครื่ออื่นก็จะพิมพ์ไม่ได้ แต่ไม่ต้องกีงวลเพราะกงสุลไม่ใช้ application form ค่ะ

  • Poom  On June 20, 2015 at 11:57 am

    ผมสั่งให้ทางระบบได้ส่ง confirmation page ของ DS160 มาในเมลล์ เเต่มันไม่ได้ส่งมาเลยอะครับ แล้วผมก้ผิดพลาดที่ไม่ได้เซฟ application ลงเครื่อง และี่ก้เลย 30 วันไปแล้ว จะมางที่ผมจะเปิด confirmation page มาอีกได้ไหมครับ

    • Poom  On June 20, 2015 at 11:58 am

      และนี่ก้เลย 30 วันไปแล้ว จะมีทางที่ผมจะเปิด confirmation page มาอีกได้ไหมครับ

      • govisa  On June 22, 2015 at 9:13 pm

        อธิบายไปแล้วค่ะน้อง Poom

    • govisa  On June 22, 2015 at 9:12 pm

      น้อง Poom คะ วิธีการเปิด DS-160 Confirmation คือเข้าไปที่หน้าฟอร์ม DS-160 คลิกเลือก retrieve และะใส่หมายเลขยืนยัน DS-160 ขอน้องที่ขึ้นต้นด้วย AA00…….ใส่รหัสตามที่ฟอร์มสั่ง น้องจะไปสั่งพิมพ์ที่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นก็ได้ค่ะ แต่ application form สั่งพิมพ์ได้ครั้งเดียวหลังกรอกเสร็จ ถ้าไม่ได้สั่งพิมพ์หลังกรอก ทำอะไรไม่ได้แล้วค่ะ และตัว print application form กงสุลไม่ขอดูค่ะ

  • phanna  On June 23, 2015 at 1:21 pm

    รบกวนสอบถามค่ะพอดีเราพิมพ์หน้า confirmation ds160 ออกมาแล้วและได้ส่งให้ทางสถานทูตในเอกสารแพ็คสาม (วีซ่าคู่หมั้น) และดำเนินการจ่ายค่าทำเนียมวีซ่า ได้วันนัดสัมภาษณ์เรียบร้อย แต่ไม่สามารถที่จะพิมพ์ใบ confirmation ds160 ออกมาใหม่เนื่องจากระบบ error (จะต้องนำไปในวันสัมภาษณ์ด้วย) ไม่ทราบว่าเราสามารถทำวิธีไหนได้มั้งค่ะ ต้องพิมพ์ใหม่แล้วนำไปวันที่สัมภาษณ์พร้อมกับอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟัง หรือว่าไม่ต้องนำไปก็ได้เพราะได้เคยส่งไปแล้วค่ะ

    • govisa  On June 23, 2015 at 10:05 pm

      น้อง Phanna คะ เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์กรอกฟอร์ม DS-160 ใหม่หลังจากเลือกประเทศไทยแล้วให้คลิก retrieve an application ใส่หมายเลข DS-160 Confirmation Number และใส่ข้อมูลตัวเราตามที่เว็บไซต์สั่งให้ท่า เลือกขอดู Confirmation Number และสั่งพิมพ์ใหม่ค่ะ

  • Jay  On July 2, 2015 at 1:08 am

    สวัสดีครับ ผมอยากจะทราบว่าถ้า I-20 ของผมใบปัจจุบันหมดอายุ 16/10/15 นี้ ผมจะสามารถอยู่ต่อในอเมริกาได้ไหม ถ้าผมมี I-20 ใบใหม่ซึ่งร.ร.จะเปิดเรียนมกราคมปีหน้า 07/01/16 ซึ่งผมลองนับวันดูแล้วมันเกิน 60 วันไปครับ ขอบคุณครับ

    • govisa  On July 3, 2015 at 5:22 am

      น้อง jay คะ ยังอยู่ต่อได้ค่ะ เพราะโดยทั่วไปแล้วแม้วีซ่านักเรียน F-1 จะหมดอายุแต่ถ้านักเรียนยังลงทะเบียนเรียนอยู่ก็สามารถอยู่ต่อได้เพียงแต่ออกไปในสหรัฐฯไม่ได้ ถ้าออกไปก็จะกลับเข้าสหรัฐฯไม่ได้เพราะวีซ่านักเรียนหมดอายุแล้ว ที่พี่จะเตือนคือน้องแจ้งกับ International Student Office ทั้งที่เรียนเก่าและที่เรียนใหม่เพื่อขอทีเรื่องTransfer Sevis Number จากโรงเรียนเก่าไปอยู่โรงเรียนใหม่เพราะถ้าไม่ทำและใช้ Sevis Number คนละหมายเลขก็ต้องกลับไปขอวีซ่าใหม่ค่ะ และถ้าน้องได้วีซ่านักเรียนที่มีอายุนาน 5 ปีก็อยู่ต่อไปได้เลย แต่ถ้าวีซ่าที่ได้มามีอยุปีสองปีแนะนำว่าหาทางกลับมาเยี่ยมบ้านและขอวีซ่านักเรียนด้วย I-20ใหม่ค่ะ

  • Ohhz Appendix  On July 6, 2015 at 1:18 am

    สวัสดีครับ คือพี่ครับ ผมกรอกข้อมูลใน ds-160 ว่าจะไปวันที่13/07/15แล้วคอนเฟิม แต่ ตอนนัดสัมภาษณ์ ได้วันที่16/07/15 แล้วผมกดยืนยันไปแล้ว ผมจะแก้ ds-160 ไม่ได้ถูกไหมครับแล้วจะทำยังไงอะครับ ขอบคุณครับ

    • govisa  On July 6, 2015 at 9:06 pm

      น้อง Ohhz แก้ DS-160 ไม่ได้แล้วค่ะ ตอนสัมภาษณ์บอกเจ้าหน้าที่ที่ตรวจเอกสารก็ได้ว่าวางแผนจะเดินทาง 13กรกฎาแต่ไม่มีคิวนัดให้เลยต้องจองวันที่ 16 กรกฎาไปแทน สถานทูตคงเข้าใจเพราะระบบคอมพิวเตอร์เค้ามีปัญหานิดหน่อยเมื่อเดือนที่แล้วแต่แก้ไขเสร็จแล้ว คิวก็อาจจะแน่นอยู่นิดหน่อย ว่าแต่น้องไปเรียนหรือไปเที่ยวล่ะค่ะ ถ้าไปเรียนก็ตรวจดูด้วยว่า ยังไม่เลยวันที่เรามีสิทธิ์จะเข้าประเทศสหรัฐฯค่ะ

      อนึ่งถ้าน้อง Ohhz เป็นกังวลไม่สบายใจจะกรอก DS-160 ใหม่อีกครั้ง และนำ DS-160 Confirmation Number ทั้งเก่าแลัใหม่ไปยื่นในวันนัดสัมภาษณ์ก็ได้ค่ะ

  • Ohhz Appendix  On July 6, 2015 at 10:53 pm

    อ้อขอบคุณครับงั้นถ้ากรอกใหม่เผื่อความสบายใจก็ได้ใช่ไหมครับ งั้นตอนกรอกใหม่ก็จะมี confirmation number ใน เบอถูกต้องใช่ไหมครับแล้วจะยื่นอะไรยังไงอะครับ

    • Ohhz Appendix  On July 6, 2015 at 10:54 pm

      confirmation number 2 เบอ ***

      • govisa  On July 7, 2015 at 9:37 pm

        น้อง Ohhz หาเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ล็อกอินใหม่คลิกเลือก retrieve แล้วสั่ง printใหม่ค่ะ

    • govisa  On July 7, 2015 at 9:33 pm

      น้อง ohhz ยื่น DS-160 Confirmation Number ทั้งหมายเลขครั้งแรกที่เอาไปใช้จองวันนัดกับอันใหม่ เจ้าหน้าที่เค้าอาจะถามว่าทำไมมีมาสองชุดน้องบอกเค้าไปว่า บังเอิญกรอกผิดเลยแก้ไขด้วยการกรอกใหม่ค่ะ

  • Papha  On July 9, 2015 at 11:35 pm

    ขอรบกวนสอบถามดังนี้นะค่ะ
    1.เพิ่งไปสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 58 แล้วถูกปฎิเสธมาเพราะกรอกข้อมูลผิด เนื่องจากกรอกเอง ไม่ได้จ้างเอเจ้นทำให้ ใส่ชื่อ MD แทนชื่อบริษัท และไม่ได้ใส่ชื่อพ่อแม่เรา(รายละเอียดในห้วข้อ family) แต่ใส่คำว่า Don’t know เพราะเข้าใจผิด คิดว่าเขาถามชื่อพ่อแม่ของ Mr.Brian
    2. Mr.Brian เป็นแฟนเรา แต่เรากรอกว่าเป็นเพื่อน ตอนสัมภาษณ์เรายืนยันเป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าถ้าตอบเป็นแฟน เขาจะขอเอกสารเกี่ยวกับการเป็นแฟนกัน มันจะยิ่งยุ่งยากอีก
    3. Mr. Brian ทำงานที่ Destination Hotel&Resort ตำแหน่ง Chief Engineer ส่วนเราทำงานที่ บริษัทเกี่ยวกับงาน ทีวี ในตำแหน่ง Advertisement Senior Sales มีเอกสารรับรองจากที่ทำงาน , เงินในบัญชีประมาณ สองแสนกว่าบาท, มีเงินเดือนสามหมื่น ไม่รวมคอม และมีจดหมายเชิญจาก Mr.Brian เราทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้จักกันผ่านเน็ต คุยกันทุกอาทิตย์ คบกันมาเกือบปีแล้ว
    แต่ Mr. Brian ยังไม่เคยมาเมืองไทย
    3. เขาถามเราว่าทำงานที่ไหน เราตอบชื่อบริษัทแต่กงศุส บอกชื่อ MD. เรา ตอนนั้นเรา งงๆ อยู่ เนื่องจากเขาเอ่ยชื่อนายเราไม่ค่อยชัด เราก็ยืนยันว่าเราทำงานชื่อบริษัทนี้ เขาก็เลยปฎิเสธวีซ่าเราค่ะ
    4. เขาถามว่ารู้จัก Mr.Brian ได้อย่างไร เราตอบว่าเพื่อนแนะนำให้รู้จัก
    5. ทางกงศุส ไม่ได้ดูเอกสารที่เราเตรียมไปเลย ดูแต่ใบสมัคร DS-160 ที่เรากรอกผิด แล้วก็ปฎิเสธเลย เราตั้งใจไปเที่ยวแค่ 10 วันเท่านั้น(พักร้อนได้ 10 วัน) ตั้งใจไปปลายเดือนสิงหาคม
    แต่ตอนนี้คงไม่ได้ไปแล้ว
    ถ้าจะขอวีซ่าใหม่ ต้องเว้นระยะสักกี่เดือนค่ะ
    แล้วข้อมูลเดิม ที่เคยกรอกไว้ จะทำอย่างไรดีค่ะ
    หมายเหตุ ทางMr. Brian ได้ยกเลิกตั๋ว ที่ซื้อให้เราไปหาเขาแล้ว และบอกว่า จะเดินทางมาหาเราเอง แต่ต้องรอให้เขาเคลียร์งานให้เสร็จก่อน
    ดิฉันขอรบกวนช่วยแนะนำ และแก้ไขปัญหานี้ให้ดิฉันหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • govisa  On July 11, 2015 at 5:40 am

      น้อง Papha คะน้องสามารถกรอก DS-160 ยื่นขอวีซ่าใหม่ได้เลยทันทีถ้าน้องมั่นใจว่ามีเอกสารที่สมบูรณ์และหนักแน่นกว่าครั้งแรกที่จะทำให้กงสุลเชื่อมั่นได้ว่าน้องเดินทางเข้าไปในสหรัฐฯแล้วจะกลับประเทศไทยจริงค่ะ พี่ขอนุญาตเรียบเรียงคำพูดที่จะตอบน้องอีกครั้งเพื่อให้น้องได้รับข้อมูลที่กระจ่างขึ้นค่ะ

      • Papha  On July 11, 2015 at 3:37 pm

        ก่อนอื่นต้องขอบคุณมาก ที่กรุณาตอบอีเมล์ของน้อง ดีใจมากเมื่อได้เห็นอีเมล์ของพี่ตอบมา น้องมีเอกสารที่เตรียมไปยื่นดังนี้ 1.ใบรับรองจากที่ทำงานของน้อง ระบุชัดเจนว่าเริ่มทำงานเมื่อไร,ตำแหน่งอะไร,เงินเดือนเท่าไร,พักร้อนกี่วันและเริ่มพักร้อนเมื่อไรถึงเมื่อไรและจะกลับมาทำงานเมื่อไร จดหมายฉบับนี้ลงวันที่ 3 ก.ค 58
        2.จดหมายเชิญจาก Mr.Brian ระบุวันมาพักและกลับชัดเจนพร้อมที่อยู่,เบอร์โทร,อีเมล์ ของ Mr.Brian จดหมายลงวันที่ 1 มิ.ย 58 และมีสำเนาพาสปอรต์ของ Mr.Brian ลงนามรับรอง ส่งมาให้ทางไปรษณีย์ ได้รับเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 58 และได้ทำแผนการพาไปเที่ยวที่ไหนบ้างมาให้ด้วย
        3.มีเอกสารจากแบ็งค์กรุงเทพเป็น สเตทเม้น และ แบ็งค์การันตี มายื่นที่สถานทูตด้วย ได้รับมาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย 58
        แต่เสียดายเอกสารเหล่านี้ไม่ได้รับการเปิดดูเลย น้องเคยไปเที่ยวที่ออสเตรเลีย,เกาหลี,ฮ่องกง,มาเลเซีย,
        เวียดนาม มาแล้ว มีพาสปอตร์เล่มเก่ามาโชว์ด้วย
        พี่ค่ะ น้องลองโทรสอบถามบริษัทฯ ที่รับปรึกษาและทำวีซ่า ในเคสของน้องที่ถูกปฎิเสธวีซ่ามา
        เขาบอกว่าน้องไม่สามารถไปยื่นได้อีกเพราะปัญหาอยู่ที่
        Mr.Brian แจ้งว่าเป็นเพื่อนกันและ Mr.Brian ไม่เคยมาเมืองไทย สถานทูตเช็คได้และไม่เชื่อว่าผู้หญิงเดินทางไปหาผู้ชาย จะมีฐานะแค่เป็นเพื่อน ต้องให้ Mr.Brian มาเมืองไทยก่อน และพามาที่บริษัทฯที่รับปรึกษเรื่องวีซ่า การรู้จักกันทางเน็ต สถานทูตไม่เชื่อถือในเรื่องการเป็นเพื่อนกัน และน้องไม่มีสิทธิ์ยื่นขอวีซ่าต้องรอให้ครบ10 ปีไปแล้ว ประวัติที่ยื่นไวัจะถูกลบ ค่อยยื่นขอใหม่ หรืออาจทำวีซ่าใหม่เลย เป็นวีซ่าแต่งงานหรือคู่หมั้น
        เขาจะแนะนำวิธีทำให้ พี่ค่ะที่เขาบอกน้อง มันมีความจริงมากน้อยเพียงไรค่ะ วันนี้น้องก็เพิ่งคุยกับ Mr.Brian ไป Mr.Brian บอกว่ารอให้เขามาเมืองไทยก่อนเดี๋ยวเขาจะดำเนินเรื่องนี้เอง แต่น้องอยากจะดำเนินเรื่องขอวีซ่าเอง น้องบริสุทธิ์ใจแค่ไปเที่ยวเท่านั้นจริงๆไม่ทิ้งงานที่ทำอยู่และสมบัติที่เมืองไทย(บ้าน,รถยนต์)
        พี่ค่ะ รบกวนช่วยตอบคำถามเพิ่มเติมของน้องหน่อยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่

      • govisa  On July 11, 2015 at 9:51 pm

        น้อง Papha คะ ข้อมูลที่น้องให้ครั้งแรกกับครั้งที่สองพอจะทำให้อธิบายน้องได้ว่า กงสุลไม่เชื่อความสัมพันธ์ระหว่างน้องกับ Mr.Brian ว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น ปกติเพื่อนฝรั่งจะไม่ลงทุนออกเงินค่าตั๋ว ค่าที่พัก ค่าไปเที่ยวทั้งหมดให้คนที่ไม่ได้รู้จักสนิทกันมากๆค่ะ บัญชีที่น้องบอกว่ามีเพียงสองแสนยิ่งแสดงให้เห็นว่าน้องต้องพึ่ง Mr.Brian มากๆเลยค่ะเพราะค่าตั๋วไปกลับกรุงเทพอเมริกาก็ประมาณสามถึงห้าหมื่นแล้วแต่จะไปเข้าอเมริกาที่เมืองอะไร ค่าไปเที่ยว กินอาหาร ค่าเดินทางค่าซื้อของประมาณสิบวันใกลเคียงแสนถึงแสนบาทค่ะ ถ้าใช้เงินตัวเองจะเหลือเงินเก็บอีกแค่แสนเดียว จึงทำให้คนสัมภาษณ์ต้องคิดแล้วว่า Mr.Brian ไม่น่าจะใช่เพื่อน ประกอบกับการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มผิดโดยเฉพาะเรื่องชื่อคุณพ่อคุณแม่ พี่ต้องขอโทษถ้าการอธิบายต่อไปจะทำให้น้องไม่ค่อยสบายใจนัก คือ ฟอร์มถามชื่อพ่อแม่ของผู้ยื่น น้องแจ้งว่าไม่ทราบ แสดงว่าไม่ค่อยมีความผูกพันกับครอบครัวที่ไทยเลย แม้น้องจะบอกพี่ว่าเข้าใจว่าถามถึงชื่อพ่อแม่ของคุณ Brian พี่เคยอธิบายน้องหลายคนที่ถามว่า ไม่เห็นกงสุลอ่าน อย่าเข้าใจผิดว่ากงสุลไม่ดูเอกสาร การกรอกฟอร์มออนไลน์กงสุลเค้าทำการบ้านมาก่อนเค้าอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลแล้วเอกสารเป็นเพียงส่วนประกอบที่ทำให้ข้อมูลที่กรอกออนไลน์ดูเป็นเรื่องน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ

        การแก้ไขเคสของน้องคือ หากคุณ Brian มั่นใจในตัวน้องแล้วก็ทำเรื่องขอวีซ่าคู่หมั้นไปเลยค่ะ เพราะถ้าจะทำวีซ่าท่องเที่ยวอีก ฐานะทางการเงินที่แสดงต้องมีมากกว่านี้ ถ้าเพิ่งทำงานหลังเรียนจบไม่กี่ปีจะลองขอให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยค้ำประกันให้ด้วยอีกทางหนึ่งก็จะดีกว่านี้ค่ะ ถ้าไม่ได้แนะนำให้ทำวีซ่าคู่หมั้นหรือจะทำเรื่องแต่งงานเป็นวีซ่าแต่งงานไปเลยดีกว่าไหมคะ คงขึ้นอยู่กับการคุยกันระหว่างน้องกับคุณ Brian แล้วค่ะ

        อนึ่งหลักฐานว่าเคยมีวีซ่าไปเที่ยวหลายประเทศไม่ได้หมายความว่าเราจะเดินทางไปเที่ยวอเมริกาคนเดียวได้เสมอไป การไปเที่ยวของคนไทยส่วนใหญ่มักไปเป็นหมู่คณะ มีน้อยคนที่ไปเที่ยวคนเดียวแบบฝรั่งค่ะ และการเดินทางในอเมริกาเป็นเรื่องยุ่งยากถ้าขับรถเองไม่ได้เพราะบริการรถสาธารณะไม่สะดวกสบายเหมือนประเทศในยุโรปค่ะ

  • Teerapong  On July 28, 2015 at 12:33 am

    สวัสดีครับ ผมอยากจะทราบว่าถ้า I-20 ของผมจะหมดอายุเดือนกันยายนนี้ วีซ่านร.ของผมมีอายุ 5 ปี ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาอยู่ ผมจะเรียนต่อโทในช่วง Fall ปีหน้า ก็เลยจะเรียนต่อภาษาอีกสี่เดือนที่มหาลัยใหม่ในช่วงต้นเดือนมกราคมปีหน้า ผมสงสัยว่าผมจะอยู่ที่อเมริกาจนถึงเดือนมกราคมได้ไหมครับ นับจากเดือนตุาปีนี้ ถ้าผมมีใบ I-20 ใบใหม่จากมหาลัยใหม่แล้ว

    • govisa  On July 28, 2015 at 9:22 pm

      น้อง Teerapong คะ น้อสามารถอยู่ได้ถึงเดือนมกราคม แต่ต้องแจ้งที่เรียนเก่าและที่เรียนใหม่เพื่อทำเรื่องขอโอน หรือ transfer Sevis I-901 Number จากที่เก่าไหยังที่ใหม่ ถ้าไม่ได้แจ้และใช้คนละหมายเลขกัน ตามหลักการของวีซ่านักเรียนคือ นักเรียนต้องขอวีซ่าใหม่ค่ะ หน่วยงานที่น้องต้องไปติดต่อคือ International Student Office ค่ะ

  • Jay  On September 14, 2015 at 2:40 am

    สวัสดีครับ ผมมีเรื่องจะสอบถามดังนี้ครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาอยู่ที่รัฐ Ohio ผมมีวีซ่านักเรียนอายุ 5 ปี ถ้าผมต้องการจะไปเที่ยวจีน ผมจะสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวจีนได้ในอเมริกาไหมครับ

    • govisa  On September 15, 2015 at 9:40 pm

      ได้ค่ะน้อง Jay น้อง Jay เดินไปขอคำแนะนำเจ้าหน้าที่ที่ International Student Office ได้ค่ะ

  • p  On September 27, 2015 at 6:35 pm

    พอดีให้ลูกสาวกรอกDS-160 ให้แต่กรอกนามสกุลไม่ตรงกับพาสปอร์ตของเราๆมีp 2 ตัวแต่ของลูกมีp ตัวเดียว เขากรอกให้p ตัวเดียวทำไงคะ นัดสัมภาษณ์ 22 ตุลาคะ

    • govisa  On September 28, 2015 at 9:16 pm

      ถ้าคุณ P กรอกผิดและนัดวันสัมภาษณ์ไปแล้ว แก้ไขด้วยการกรอก DS-160 ใหม่อีกครั้ง ในวันสัมภาษณ์ให้นำ DS-160 ทั้งของเก่าที่กรอไปแล้วและของใหม่ไปด้วยค่ะ

  • Teerapong  On October 1, 2015 at 2:02 am

    สวัสดีครับ ผมมีเรื่องจะสอบถามดังนี้ครับ ผมจะเรียนภาษาจบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แล้วจะสมัครเรียนปอโท ผมจะสามารถอยู่ในอเมริกาได้นานเท่าไหร่ครับในระหว่างรอ I-20 ฉบับใหม่จากทางมหาลัย และหลังจากได้ I-20 แล้ว ผมต้องบินกลับไทยเลยใช่ไหมครับ ผมจะเริ่มเรียนปอโทในช่วงเดือนสิงหาคมครับ ขอบคุณครับ

    • govisa  On October 5, 2015 at 10:03 pm

      น้อง Teerapong คะ ถ้ากลับไทยไม่เกินห้าเดือน และติดต่อ International Student Office ของทั้งที่เรียนภาษาและ U ที่ตอบรับเข้าเรียนโทเพื่อขอ transfer Sevis I-901 Number ให้เหมือนกันก็ไม่ต้องขอวีซ่าใหม่ค่ะ

      • Teerapong  On October 5, 2015 at 10:20 pm

        ขอบคุณมากครับ ในกรณีได้รับ I-20 แล้วอยู่ยาวจนถึงตอนเปิดเรียนเดือนสิงหาคมได้ไหมครับ จะมีปัญหากับวีซ่าหรือเปล่า ขอบคุณครับ

      • govisa  On October 6, 2015 at 8:37 pm

        ถ้าน้อง Teerapong เคยเรียนภาษามาสักเก้าเดือนแล้วก็ดรอปเทอมหนึ่งได้ค่ะ เปลืองค่าใช้จ่าแค่ค่าที่พักและค่าอาหารที่บ้าน เพราะวีซ่านักเรียนไม่มีสิทธิ์ทำงานเป็นเด็กเสิรฟตามร้านอาหารไทย ผู้ปกครองคงต้องโอนค่าใช้จ่ายไปให้ค่ะ

  • Wandee  On October 30, 2015 at 11:38 pm

    สวัสดีค่ะ คุณ Go Visa คะก็
    ขอเรียนปรึกษา ดังนี้ นะคะ ดิฉันมีลูกศึึกษาอยู่ที่บอสตัน ครอบครัวดิฉันเดินทางไปเยี่ยมเยือนปีละประมาณ 2 ครั้ง ครั้่งนึงอยู่ได้ประมาณ 5 เดือน ถ้าดิฉันต้องการอยู่ที่นั่นนานกว่า 6 เดือนขึ้นไป เพื่อดูแลลูกๆด้วย ดิฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ มีเพื่อนที่อเมริกาแนะนำให้ทำวีซ่าติดตามบุตร แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นติดต่อใคร หน่วยงานใด รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
    ขอแสดงความนับถือ
    วันดี

    • govisa  On November 3, 2015 at 2:28 pm

      น้อง Wandee ค่ะ ถ้าต้องการอยู่นานๆคุณแม่ต้องลงทะเบียนเรียนและขอวีซ่านักเรียนค่ะ วีซ่านักเรียนF-1 หรือ J-1 เท่านั้นจึงจะมีวีซ่าผู้ติดตาม F-2 หรือ J-2 ได้ค่ะ

      ถ้าลูกของน้องถือวีซ่า F-1 น้องซึ่งเป๋นผู้ปกครองไม่สามารถขอ F-2 ได้ค่ะ ลองเสริจน์ในกูเกิ้ลคำนี้นะคะ 9 Fam 41.31 N14.4 Cohabitating Partners, Extended Family Members, and other Household Members not Eligible for Derivative Status จะอธิบายว่า ถ้าแม่จะขอเข้าไปอยู่กะลูกเล็กที่ส่งไปเรียนวีซ่าที่ทำได้คือ B-2 เท่านั้นค่ะ ซึ่งจะแตกต่างจากกฎหมายของบางประเทศที่มี Guardian visa เช่น ไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ค่ะ

      อนึ่ง เว็บไซต์ USCIS http://www.ucscis.gov ตรงช่องว่างที่ให้ใส่คำที่ต้องการค้นหา ให้น้องพิมพ์คำว่า Cohabitating Partners จะมีคำอธิบายว่าด้วยเรื่องที่น้องสอบถามมาค่ะ

  • karn  On January 26, 2016 at 2:45 pm

    ทำการนัดสัมภาษณ์แล้วแต่ยังกรอก D-160 ไม่เสร็จ เป็นอะไรใหมค่ะ

    • govisa  On January 27, 2016 at 12:27 pm

      ไม่เป็นไรค่ะน้อง Karn แต่ต้องระวังนิดหนึ่งว่าต้องรักษาหมายเลข DS-160 ไว้ให้ดี เพราะเราใช้หมายเลขนั้นนัดวันสัมภาษณ์ มีน้องบางคนลืมรหัสเวลาที่จะเข้าไป retrieve application เพื่อกรอกให้เสร็จ แต่เกิดลืมรหัส ทำให้ retrieve ไม่ได้ เลยตัดสินใจกรอกใหม่ ซึ่งจะทำให้ DS-160 ที่ใช้นัดวันสัมภาษณ์ไม่ตรงกับใบที่จะยื่นขอวีซ่าค่ะ

  • Jira  On March 9, 2016 at 8:51 pm

    รบกวนสอบถามค่ะ
    คือว่าตอนนี้ได้วีซ่า อเมริกามาแล้วประเภทท่องเที่ยวค่ะ ไม่เคยไปอเมริกามาก่อน แต่ท่องเที่ยวในยุโรป เอเชียหลายๆ ประเทศค่ะ ปัจจุบันทำงานบริษัทที่มั่นคง ตอนที่ไปทำเรื่องขอวีซ่าไทำเรื่องไปกับพ่อกับแม่ แล้วระบุไปใน DS-160 ว่าจะไปท่องเที่ยวด้วยกันช่วงวันหยุดสงกรานต์ ได้รับวีซ่ามาทั้ง 3 คนค่ะ
    เนื่องจากทางพ่อแม่ไม่สามารถไปอเมริกาในช่วงวันที่ระบุได้ ทางแฟนซึ่งเป็นคนอเมริกันจึงได้จองตั๋วให้ทั้งเราและเค้า เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าวแทน เพราะเห็นว่าเราลางานแล้ว แต่เป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ใจว่าจะไปเที่ยวกันจริงๆ และไม่มีความคิดที่จะไปอยู่ประเทศเค้าเนื่องจากเรามีงานที่มั่นคงที่นี้ มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล

    อยากทราบว่าจะติดปัญหาอะไรไหมค่ะ ถ้าเดินทางเนื่องจากจะไม่ตรงกับเอกสาร DS-160 ที่ระบุไปตอนแรก รวมถึงยังไปพร้อมกับแฟนที่เป็นชาวอเมริกาอีกค่ะ

    รวมทั้งตอนที่จองตั๋วแฟนทำเรื่องจองไปพร้อมกันดังนั้น e-ticket ระบุชื่อเป็นสองคนไปแล้วค่ะ ตอนนี้กลุ้มใจมากกลัวว่าถ้าไปแล้วจะถูกกักตัวแล้วส่งกลับ หลังจากที่เข้าไปอ่านข้อมูลทางอินเทอร์เนตค่ะ

    ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    • govisa  On March 10, 2016 at 9:19 pm

      น้อง Jira คะ เวลาเข้าประเทศน้องไม่ใช่คนอเมริกันคงจะต้องตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯในช่องของ Non-US Citizen เวลาสัมภาษณ์ก็ครจะบอกมาเที่ยวกับเพื่อน เพราะน้องก็ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็ไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นประเด็นในการตอบคำถรมตอนเข้าประเทศค่ะ ส่วนแฟนเค้าก็ควรจะไปตรวจเอกสารในช่องของ US Citizen

      ส่วนวันที่เดินทางเข้าประเทศไม่ตรงกับที่ระบุใน DS-160 ก็ไม่เป็นไรเพราะเราอาจเปลี่ยนแผนการในการเดินทางได้ค่ะ

      • Auem  On March 28, 2016 at 7:02 am

        รบกวนปรึกษาค่ะ แฟนพีไปขอวีซ่าเมื่อ 24 มีนาคม ถูกปฎิเสธพอดีที่ทำงานจะส่งให้ไปดูแลคนป่วยระหว่างที่ท่านเดินทางไป us ท่านมี citizen ค่ะ แต่ถูกปฎิเสธวีซ่า ทาง agent ก็ให้ยื่นใหม่แต่คราวนี้ให้อ้างอิงว่าจะไปท่องเที่ยวแล้วเค้าแก้ ds 160แล้วบอกเราว่าข้อมูลแก้ไขได้ข้อมูลยังไม่ฝังลงไป แต่พี่กลัวว่าจะขัดแย้งกลับครั้งแรกค่ะ ซึ่งทางเราไม่มีวัตถุประสงค์แอบแฝงเพียงแค่รู้สึกว่าเมื่อมีโอกาสก็อยากไปสักครั้ง แต่การจอผ่านทัวร์และไม่เป็นตามความจริงทำให้กังวลค่ะแล้วนัดสัมภาษอีกครั้ง 1 เมษายน นี้รบกวนขอคำแนะนำค่ะ

      • govisa  On March 30, 2016 at 4:54 am

        คุณ Auem คะ แฟนคุณถูกปฏิเสธวีซ่าวันที่ 24 มีนาคม และจะกลับเข้าไปขอวีซ่าใหม่ 1 เมษายน ด้วยวีซ่าคนละประเภท แฟนคงต้องให้เหตุผลเวลากงสุลสัมภาษณ์ว่าเพราะเหตุใด กงสุลจะมีเรื่องราวของคนแต่ละคนที่ได้ยื่นวีซ่าและได้เข้าไปสัมภาษณ์แล้วกับท่าน ดังนั้นจะบอกว่ายังไม่มีข้อมูลฝังอยู่เป็นไปไม่ได้ค่ะ
        อีกประการกนึ่ง คุณเขียนมาไม่ชัดเจนแฟนคุณมีญาติเป็น citizen ใช่ไหมคะ ญาติเป็นอะไรกันกับแฟนเป็นพ่อแม่หรือเป็นอะไร ซึ่งที่จริงแล้วคุณแค่ต้องการไปเที่ยวและแวะเยี่ยมญาติใช่ไหม ถ้าเป็นเช่นนั้นเอเจนซี่ทัวร์แห่งนี้ก็แนะนำคุณผิดตั้งแต่ครั้งแรกและทำให้ประวัติแฟนคุณเสียตั้งแต่แรกแล้ว. การยื่นครั้งแรกเป็นเรื่องสำคัญควรทำให้กงสุลมีความเชื่อว่าคุณไปแล้วจะกลับและไปด้วยวัตถุประสงค์ใดค่ะ พี่คิดว่าคุณให้แฟนเขียนจดหมายอธิบายไปว่าเค้าจะเข้าไปทำอะไรกันแน่และเค้ามีอาชีพอะไร ทำไมที่ทำงานต้องส่งไปดูแลคนป่วยเค้าเป็นแพทย์หรือ เค้าควรจะมีจดหมายยืนยันจากที่ทำงานว่าเค้าเป็นใครและจะเข้าไปทำอะไรเอาไปยื่นด้วยในครั้งแรกใช่ไหมถ้าใช คุณลองคิดดูว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเปลี่ยนใจขอไปเทียาวแทน แฟนนคงต้องอธิบายเยอะว่าทำไมเค้าถึงขอวีซ่าผดประเภท อาจบอกไปเลยว่าได้รับคำแนะนำผิดเลยเข้าใจผิดค่ะทั้งนี้ทั้งนั้นพี่คิดว่าวันที่1เมษาอาจต้องเตรียมใจและถ้าไม่ได้อีกควรทิ้งเวลาไว้สักหกเดือนดีกว่าค่ะที่จะกลับเข้าไปขอใหม่และเตรียมให้พร้อมกว่านี้นะคะ

  • tt  On April 14, 2016 at 4:16 am

    สวัสดีค่ะคุณ govisa
    มีคำถามเกี่ยวกับการขอวีซ่าUSAดังนี้ค่ะ
    1.พอดีว่าเราได้กรอกข้อมูลในDS-160และกดsign/submitไปแล้วค่ะ
    แล้วก็นำIDของapplicationนั้นไปใช้สมัครในเว็บที่จะนัดสัมภาษณ์
    เพื่อเอาข้อมูลมาชำระเงินค่าวีซ่าค่ะ
    แต่ยังไม่ได้นัดสัมภาษณ์นะคะ
    ทีนี้เราพบว่ามีส่วนที่กรอกข้อมูลที่ผิดอยู่เยอะมาก
    เราเลยกรอกapplicationใหม่แล้วเราก็นำเอาIDของapplicationอันใหม่ไปแก้ไขในหน้าเว็บที่จะนัดสัมภาษณ์
    แล้วค่อยนัดสัมภาษณ์โดยในใบนัดหมายเป็นIDของapplicationอันใหม่ค่ะเราเลยอยากถามว่า
    applicationอันเก่าจะมีผลอะไรมั้ยคะทางสถานทูตจะมีข้อมูลที่เรากรอกไว้อันเก่ามั้ยคะ
    2.หากเเจ้าหน้าที่ถามว่านี่เป็นการกรอกds-160ครั้งแรกหรือเปล่าเราควรตอบยังไงดีคะเนื่องจากครั้งแรกเรากรอกข้อมูลผิด
    3.เราเคยมีพาสปอร์ตซึ่งเดินทางไปต่างประเทศมาค่ะแต่ว่าตอนนี้พาสปอร์ตหายไปแล้วและพาสปอร์ตเล่มนั้นก็น่าจะหมดอายุไปแล้วค่ะและในแบบฟอร์มds-160เราก็ไม่ได้บอกว่าพาสปอร์ตหายอย่างนี้ทางเจ้าหน้าที่จะสามารถเช็คข้อมูลของเล่มเก่าเราได้มั้ยคะ
    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ

    • govisa  On April 14, 2016 at 5:36 am

      น้องtt คะกงสุลใช้ DS-160 ฉบับที่ยื่นขอวีซ่า แต่ก็เห็นข้อมูลเก่าด้วยเพราะน้องกดsubmitและจ่ายเงินไปแล้วค่ะ ก็ไม่ต้องกังวลมากเพราะไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงถ้ามีการซักถามพูดตอบไปตามความเป็นจริงว่าหาไม่พบลืมไปว่าเก็บไว้ที่ไหนแต่อยู่ในบ้านค่ะ

      • tt  On April 14, 2016 at 9:07 am

        ขอบคุณมากๆค่ะพี่govisaตอนนี้เครียดและกังวลกับคำถามต่างๆมากกกค่ะอย่างนี้เราต้องเอาใบconfirmationที่กรอกข้อมูลผิดไปด้วยมั้ยคะหรือว่าไม่ต้องเอาไปเพราะในใบนัดเป็นcomfirmationอันใหม่ค่ะ

      • govisa  On April 14, 2016 at 9:23 pm

        น้อง tt คะถ้าเป็นหมายเลขใหม่ที่นำไปใช้นัดวันสัมภาษณ์ก็ไม่ต้องเอาหมายเลขเก่าไปค่ะ

  • Mali  On April 15, 2016 at 2:03 pm

    สวัสดีค่ะคุณgovisaคืออย่างนี้ค่ะเรากรอกds-160ไปและกดsubmitเรียบร้อยแล้วและก็นำหมายเลขอันนั้นไปสมัครอีกเว็บนึงเพื่อเอาใบเสร็จมาจ่ายตังค์แต่ยังไม่ได้นัดสัมภาษณ์นะคะds-160อันนั้นเป็นอันที่เรากรอกผิดค่ะและก็ได้กรอกds-160ใบใหม่ไปเพื่อเอาไปนัดสัมภาษณ์ค่ะและในใบนัดสัมภาษณ์ก็เป็นหมายเลขconfirmationของds-160อันปัจจุบันแล้วค่ะ อย่างนี้เราต้องนำใบเก่าไปด้วยมั้ยคะและหากเจ้าหน้าที่ถามว่ากรอกds-160ครั้งแรกหรือไม่ควรตอบอย่างไรดีคะ
    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ

    • govisa  On April 19, 2016 at 1:57 pm

      น้องMali คะน้องสามารถโทรไปที่call center 021054110 เพื่อยันยันว่าจะใช้ DS-160 อันใหม่จะได้ไม่ต้องลังเลว่าจะต้องเอาหมายเลขเก่าเข้าไปด้วยหรือไม่ค่ะ
      คำถามหลักๆที่กงสุลอยากทราบคือจะเข้าไปทำอะไรใรสหรัฐและฐานะการเงินดีพอที่ตะดูแลตนเองได้ไม่ได้แอบเข้าไปทำงานหรือคิดจะเข้าไปอยู่เลย ถ้าคำตอบของผู้ยื่นและบุคลิกของเราไม่ได้เข้าข่ายนั้นก็วีซ่าผ่านได้ค่ะ
      คำถามจุกจิกไม่มีนะคะอย่ากังวลค่ะ

  • tt  On May 3, 2016 at 12:55 pm

    สวัสดีค่ะพี่govisaหนูไปขอวีซ่าท่องเที่ยวมาแล้วแต่ไม่ผ่านค่ะ:((
    ในเคสของหนูเจ้าหน้าที่เค้าไม่ดูเอกสารอะไรเลยค่ะโดยตอนนี้หนูทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กแบบpart-timeอยู่ค่ะเนื่องจากตอนแรกจะไปเป็นออร์แพค่ะเลยฝึกเลี้ยงเด็กเอาไว้แต่ไม่มีโฮสเข้ามาก็เลยจะไปเที่ยวเองค่ะได้เงินเดือน2หมื่นบาทโดยข้อมูลนี้ก็ได้กรอกลงไปในds-160ด้วยค่ะ
    โดยในds -160มีข้อมูลว่าไปกับเพื่อนระยะเวลา2อาทิตย์ไปพักที่โรงแรมมีคุณลุงเป็นสปอร์นเซอร์คุณลุงมีเงินในบัญชี6หลักแต่คนละนามสกุลกันในพาสปอร์ตหนูไปจีนครั้งเดียวเป็นเวลา5วันค่ะ
    ท่านกงศุลปฏิเสธการขอวีซ่าโดยให้เหตุผลว่าเงินเดือนน้อยเกินค่าครองชีพที่อเมริกาสูงมากและไปต่างประเทศมาเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆเค้าเลยอนุมัติวีซ่าให้ไม่ได้ค่ะ
    ทีนี้หนูอยากสอบถามว่าหากหนูจะไปขอวีซ่าอีกครั้งในฐานะวีซ่านักเรียนโอกาสที่จะได้วีซ่ามีมากน้อยแค่ไหนคะและควรทำอย่างไรดีคะ

    • govisa  On May 4, 2016 at 9:58 pm

      น้อง tt คะการขอวีซ่านักเรียนเงินในบัญชีของผู้ค้ำต้องมีเป็นเลขเจ็ดหลักค่ะ

      • tt  On May 5, 2016 at 3:31 am

        โอ้ววขอบคุณค่ะพี่govisaหนูพิมพ์ผิดเรื่องตัวเลขค่ะจริงๆแล้วผู้ค้ำหนูมีตัวเลข7หลักค่ะถ้าเป็นอย่างนี้แล้วโอกาสที่จะได้วีซ่ามีมากน้อยแค่ไหนคะ

      • govisa  On May 6, 2016 at 7:36 pm

        น้อง tt คะ ถ้าน้องถูกปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวมา และนำ I-20 ของที่เรียนภาษาอย่างเดียวไปยื่นขอวีซ่านักเรียนเกรงว่าจะไม่ผ่าน เพราะการถูกปฏิเสธเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน ถ้าเป็น I-20 ไปเรียนต่อปริญญาโทจะมีภาษีได้วีซ่ามากกว่าค่ะ

  • ขออภัยนะครับถ้า comment ซ้ำ เนื่องจากไม่เห็น comment เดิมของผมในระบบ เลยไม่แน่ใจว่าทำอะไรผิดหรือเปล่า หรือว่าต้องรออนุมัติ comment จึงจะเห็น ถ้าซ้ำรบกวนลบทิ้งด้วยครับ กำลังร้อนใจเรื่องปัญหา DS-160 ขอบคุณครับ

    รบกวนปรึกษาหน่อยครับ ทำเรื่องขอ visa f-1 ให้ลูกชาย แต่สับสนเรื่อง DS-160 เนื่องจากลูกชายมี DS-160 ของปี 2014 อยู่ในระบบ (สำหรับ B visa) เลยเข้าใจว่าใช้ของเดิมได้ หลังจากชำระเงินเมื่อ 6may16 แล้ว วันที่ 9may16 ก็จองวันสัมภาษณ์ (19may16) โดยยังใช้ DS-160 ของเก่า เพิ่งจะมาเข้าใจว่าต้องทำ DS-160 ใหม่ขึ้นสำหรับการขอ f-1 ผมเลยเข้าไปสร้าง DS-160 ใหม่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถ link DS-160 ใหม่เข้ากับ appointment confirmation ที่ทำไว้แล้วครับ ?

    เช่นต้องยกเลิก appointment เดิม แก้ DS-160 confirmation number ใน profile ให้เป็นของ DS-160 ใหม่ แล้วนัดหมายใหม่ …

    หวังว่าไม่ต้องชำระเงินใหม่อีกรอบ
    ขอบคุณมากครับ

  • สวัสดีครับ อยากแจ้งให้ทราบว่ากรณีของผม ทาง support ของ สถานทูตได้ link DS-160 ใหม่เข้ากับ payment และ appointment confirmation ที่ทำไว้แล้วครับ

    ผมทราบว่าเราเองก็สามารถเข้าไปแก้ DS-160 confirmation number ใหม่ได้ แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าทำแล้วจะมีผลกระทบกับเรื่องอื่นในระบบหรือไม่ แต่ก็เพิ่งเห็นว่าเราสามารถส่ง appointment confirmation ได้อีก

    ขอบคุณครับ

    • govisa  On May 10, 2016 at 9:26 pm

      คุณวิชัยคะ ลูกชายเคยกรอก DS-160 เพื่อขอวีซ่าท่องเที่ยวจะแยกส่วนกับวีซ่านักเรียน ถ้าจะเข้าไปเรียนต้องกรอกฟอร์มDS-160 ใหม่ เพื่อขอวีซ่านักเรียนหรือF-1ค่ะ

      ส่วนข้อมูลที่เคยกรอกเพือขอวีซ่าท่องเที่ยว ถ้าต้องการ delete ข้อมูลครั้งนั้นต้องติดต่อ 02-205-1140 หรืออ่านที่เว็บไซต์ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-main-contactus.asp แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เค้าช่วยปลดล็อกข้อมูลเก่าค่ะ

  • เบสท์  On May 12, 2016 at 11:44 am

    พอดีหนูเป็นบริษัททัวร์รับทำวีซ่าค่ะ และพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวต่างประเทศ แต่วีซ่าาอเมริกาไมได้ทำมานานมากแล้ว แล้วมันมีอยู่1ข้อใน Ds160 ที่ถามว่า Do you have a Specific Plan?
    มี ให้ตอบ Yes และ No
    ซึ่งหนูเลือกตอบNo
    มันเลยขึ้นว่า intended date arrived USA?
    แล้วก็อยู่กี้วัน พักที่ไหน ประมาณนี้อะค่ะ

    ซึ่งเวลาถ้าตอบ Yes มันก็จะมีข้อมูลให้กรอกมากกว่านี
    เช่น Date of Arrive USA
    Departure of USA
    Flight
    Arrival City
    Departure City

    ซึ่งข้อมูลพวกนี้มีครบ แต่แค่ไม่ได้ใส่ไป
    และมันก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว เพราะSubmit ไปแล้ว มันจะมีผลอะไรมั้ยค่ะ เวลาสัมภาษณ์
    เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวันสัมภาษณ์ ได้มั้ยค่ะ เช่น ตั๋วเครื่องบิน หรือ ใบItinenary

    • govisa  On May 17, 2016 at 2:51 pm

      ถ้าน้องเบสท์ไม่รังเกียจที่จะกรอกฟอร์มใหม่ ให้กรอกใหม่และนำไปยื่นที่สถายทูตทั้งสองหมายเลขคือหมายเลข DS-160 เดิมที่กรอกไม่สมบูรณ์แจ่ใช้อจ้งตอนจ่ายค่าธรรมเนรยมวีซ่ากับอันใหม่ที่กรอกข้อความครบตามที่น้องต้องการค่ะ

  • surochinee  On May 17, 2016 at 1:52 am

    เรียนคุณ govisa คะ
    ขอเรียนปรึกษาดังนี้ ถ้าท่านที่จะเดินทางเป็นพระ จะเดินทางไปปฏิบัติศาสกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเริ่มต้นทำวีซ่าอย่างไรคะ จำเป็นต้อง ต้องยื่นแบบฟอร์ม พิเศษใดๆเพิ่มเติมไหมคะ รบกวนขอข้อมูลด้วยค่ะ
    ขอบพระคุณค่ะ
    สุโรชินี

    • govisa  On May 17, 2016 at 4:50 pm

      คุณสุโรชินีคะ พระขอวีซ่าได้สองแบบคือ
      1. ขอวีซ่า R-1 สำหรับผู้ที่จะไปทำงานเกี่ยวกับศาสนา นอกจากกรอกฟอร์ม DS-160 แล้วจะต้องมีฟอร์ม I-129 ที่ผ่านการพิจารณาแล้วและ I-797 ที่ผ่านการอนุมัติแล้ว
      2.ขอวีซ่าท่องเที่ยว B-1/B-2 ไปก่อนแล้วค่อยไปเปลียนเป็น R-1

  • tt  On May 31, 2016 at 8:34 am

    พี่govisa : น้อง tt คะ ถ้าน้องถูกปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวมา และนำ I-20 ของที่เรียนภาษาอย่างเดียวไปยื่นขอวีซ่านักเรียนเกรงว่าจะไม่ผ่าน เพราะการถูกปฏิเสธเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน ถ้าเป็น I-20 ไปเรียนต่อปริญญาโทจะมีภาษีได้วีซ่ามากกว่าค่ะ

    tt : ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะพี่govisaถ้าหนูทิ้งระยะเวลาไว้สักพักแล้วสมัครเรียนเป็นPre Graduate ProgramของEnglish Lanquage Instituteของมหาวิทยาลัยจะมีโอกาสได้วีซ่าF-1ไหมคะ

    • govisa  On June 1, 2016 at 9:09 pm

      น้อง tt คะ ก็คงต้องดูหลักฐานการเงินของ sponsor ความสัมพันธ์ระหว่าง sponsor กับน้อง และการคาดคะเนความน่าจะเป็นว่า จะเป็นไปได้ไหมว่า น้องเรียนภาษาจบแล้วจะสมัครเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนั้น พี่คงตอบน้องแบบพี่เป็นกงสุลไม่ได้หรอกค่ะ พี่ให้ได้แค่ข้อคิดและการแนะนำให้เตรียมเอกสา ส่วนผู้อนุมัติคือท่านกงสุลหลังจากพิจารณาเอกสารและการสัมภาษณ์ว่าดูน่าเชื่อถือไหมว่า นักเรียนคนนี้จะตั้งใจไปเรียนจริงสมควรให้วีซ่าไหมนะคะ

  • ืNas  On June 8, 2016 at 4:33 pm

    คุณGOVISAค่ะ รบกวนสอบถามกรณีเป็นพระ ที่ได้จดหมาดเชิญไปงานที่วัดฝั่งอเมริกา ซึ่งท่านไม่ได้รับค่าจ้างใด ๆ

    1. สำหรับพระท่านนี้ ยื่นเป็น R1 ยังต้องใช้ I-129 และ I-797อยู่หรือไม่? โดยอ้างอิงจากข้อมูลทางหน้าเวป ….

    “ผู้ที่จะว่าจ้างต้องยื่นแบบฟอร์ม I-129 ซึ่งเป็นคำร้องสำหรับแรงงานชั่วคราวต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (USCIS) ”

    2. หรือ หนูยังคงต้องยื่นเอกสารข้างต้นอยู่

    3. มีคำถามใน DS-160 ว่า “Application Receipt/Petition Number” เป็น NUMBER ที่ได้มาจากไหนคะ?

    Ps. ลองโทรถามคอลเซ็นเตอร์แล้ว เค้าก็แจ้งว่า คอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถให้ข้อมูลที่หนูส
    ขอบคุณมากค่ะ

  • RB Love Yomni  On June 26, 2016 at 2:02 pm

    สอบถามค่ะ จองคิววีซ่าอเมริกาแล้วเจอว่ากรอกวันเดือนปีเกิดผิด แล้วทำการจ่ายเงิยได้คิวแล้ว จะต้องแก้ไขอย่างไงค่ะ

    • govisa  On June 26, 2016 at 8:06 pm

      น้อง RBคะ กรอก DS-160 ใหม่อีกชุดหนึ่งและเอา DS-160 ใหม่และเก่าไปยื่นในวันสัมภาษาคะ

    • govisa  On June 27, 2016 at 1:12 pm

      ถ้าน้อง RB กรอก DS-160 ใหม่แล้วและต้องการแก้ไขหมายเลข DS-160 ใหม่เพราะไม่อยากถือ DS-160 ทั้งใบเก่าและใบใหม่ไป น้องลองโทรปรึกษา Call center ของ UStraveldocs ดูนะคะว่าจะช่วยแก้ไขในระบบให้ได้ไหมค่ะ หมายเลขคือ 021054110 ค่ะ

  • RB Love Yomni  On June 26, 2016 at 2:05 pm

    สอบถามค่ะ จองคิววีซ่าอเมริกาไปแล้ว แล้วมาดูเห็นว่าวันเดือนปีเกิดผิด จะแก้ไขได้ไหมค่ะ พอดีจ่ายเงินแล้วได้คิวยื่นเรียบร้อยแล้วค่ะ

    • govisa  On June 27, 2016 at 1:18 pm

      พี่ตอบไปแล้วค่ะน้อง RB

  • govisa  On June 27, 2016 at 1:17 pm

    พี่ไม่เข้าใจคำถามของน้องเจี๊ยบค่ะ

    ความหมายของการเดินทางภายในสามสิบวันก่อนหน้าสถานศึกษาเปิดคือ น้องจะเดินทางวันไหนก็ได้แต่ต้องไม่เกิน 30 วันก่อนหน้าทึ่เรียนเปิด น้องบางคนอยากเข้าไปก่อนล่วงหน้า 2 เดือนแบบนี้ทำไม่ได้ด้วยวีซ่านักเรียน เพราะวีซ่านักเรียนมีกฎบังคับไว้ค่ะ หรือจะเดินทางไปเข้าเรียนหลังสถานที่เรียนเปิดไปแล้วก็ไม่ได้ ต้องทำเรื่องขอจดหมายตอบรับกลับมาใหม่เป็นเทอมถัดไปที่สถานศึกษาแห่งนั้นมีเปิดค่ะ

  • หรู  On August 22, 2016 at 6:19 pm

    สวัสดีค่ะ พี่ govisa คะ
    ขอออนุญาตปรึกษาค่ะ คือมีอาชีพเป็นฟรีแลนซ์ค่ะ ทำงานสายงานโฆษณา ตรงช่องที่กรอกอาชีพต้องเลือก other และอธิบายลักษณะงานลงไปใช่ไหมคะ ส่วนที่อยู่ของการงานไม่ทราบต้องใส่ที่ไหนคะ เนื่องจากมีอาชีพไม่เป็นหลักแหล่ง แต่มีที่มาของเงินรายได้ รับเข้าอย่างถูกต้อง เราควรใส่ที่อยู่ที่ไหนคะ รบกวนขอคำแนะนำด้วย นะคะ
    ขอบพระคุณมากค่ะ
    หรู

    • govisa  On August 23, 2016 at 4:56 am

      น้องหรูคะใส่ที่อยู่ที่บ้านได้ค่ะเหมือนน้องทำธุรกิจ่ส่วนตัวค่ะ

    • หรู  On August 23, 2016 at 10:34 am

      ขอบคุณมากๆ นะคะพี่ Govisa ที่ให้คำแนะนำ..หรู

      • govisa  On August 23, 2016 at 1:30 pm

        ด้วยความยินดีค่ะ น้องหรู

  • jernjern  On August 31, 2016 at 12:07 pm

    สวัสดีคะ
    กรอกวีซ่า DS 160 ต้องกรอกภายในระยะเวลากี่วันคะ
    วีซ่าท่องเที่ยว 10 วันต้องมีเงินติดบัญชีเท่าไหร่คะ

    • govisa  On October 3, 2016 at 10:52 am

      น้อง jernjern คะ ไม่มีเงื่อนไขว่าต้องกรอกทิ้งไว้นานกี่วันค่ะ
      ส่วนเงินติดบัญชีมีให้ดูน่าเชื่อถือว่า น้องมีเงินเพียงพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 10 วัน พยายามคิดว่า เงินก้อนนี้อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่น เช่น ญาติหรือเพื่อนค่ะ เงิน 10 วัน จะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วไปกลับ โรงแรม ค่าอาหารสามมื้อ ค่าเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ

  • jernjern  On August 31, 2016 at 12:12 pm

    วีซ่าท่องเที่ยว
    ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่คะ 10 วัน คะ
    ระยะเวลากรอก DS 160 ได้กี่วันคะ
    เป็นพี่น้องจะไปขอวีซ่า สามารถซื้อ พินเดียวกันได้ใช่ไหมคะ

    • govisa  On August 31, 2016 at 7:51 pm

      น้อง jernjern คะ สถานทูตอเมริกันเปลี่ยนระบบการชำระเงินใหม่แล้วค่ะ เป็นแบบจ่ายเงินเป็นรายบุคคลค่ะ พี่น้องกันขอได้แค่สัมภาษณ์วันและเวลาเดียวกันได้เท่านั่นเองค่ะ
      ส่วนหลักทรัพย์ค้ำประกันถ้าทำงานแล้วใช้เงินในบัญชีของคัวเองค้ำ ถ้าเงินน้อยอาจขอ statement ของคุณพ่อหรือคุณแม่ไปยื่นด้วยค่ะเงินในบัญชีควรมีประมาณสี่ห้าแสนบาทค่ะ

  • jittra  On September 11, 2016 at 3:54 pm

    สวัสดีค่ะ คุณgovisa ขอสอบถามเกี่่ยวกับการแก้ไขหมายเลขpassport ในเว็บhttps://cgifederal.secure.force.com/updateprofile ค่ะ เนื่องจากดิชันต้องการปรับปรุงprofile หมายเลขหนังสือเดินทางให้เป็นของpassportเล่มใหม่ แต่มันไม่สามารถแก้ไขได้มันยังเป็นหมายเลขหนังสือเดินทางของpassportเล่มเก่า ดิชั้นต้องทำอย่างไรค่ะ ถึงจะแก้ไขได้ แล้วถ้าไม่สามารถแก้ไขได้จะมีผลกะทบต่อการสัมพาทวีซ่าusa มัยค่ะ

    • govisa  On September 13, 2016 at 6:17 am

      น้อง jittra คะ ต้องแก้ไขให้ได้เพราะเป็นจ้อมูลสำคัญของน้องเองค่ะถ้าหากsubmit ไปแล้วจะแก้ไขข้อมูลไม่ได้ให้โทรเข้าcall center คือ 02-105-4110 เพื่อขอตวามอนุเคราะห์ให้เค้าช่วยแก้ไขในระบบให้ค่ะ

  • jittra  On September 11, 2016 at 3:56 pm

    สวัสวีดีค่ะ

  • nid  On October 3, 2016 at 12:23 pm

    สวัสดีครับ รบกวนปรึกษานะครับ
    คือผมได้แต่งงานกับภรรยาตามธรรมเนียม แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ภรรยาของผมจะเดินทางไปเยี่ยมพี่ที่โคโรลาโด ซึ่งผมเดินทางไปด้วย ตอนลง DS160 ตรงที่ถามว่า คุณมีญาติที่อเมริกา immediate relatives ตัวผมเองตอบว่าไม่มี .. แต่ other relatives ตรงนี้ไม่เข้าใจว่าหมายถึงญาติที่มีความสัมพันธ์ระดับไหน เท่ากับผมมีศักดิ์เป็นน้องเขยซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส..( ตรงสถานะสมรสผมเลือกเป็น.. Common law marriage เราสามารถตอบตรงนี้ได้ไหมว่าเป็น spouse กันใช่ไหม
    รบกวนด้วยครับ
    นับถือ

    • govisa  On October 10, 2016 at 1:01 pm

      สวัสดีค่ะคุณนิด ตอบว่าไม่มีญาติก็ได้ค่ะ เพราะไม่ใช่ญาติเรา แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยว่า ถ้าใน DS-160 ของภรรยาคุณนิดกรอกว่าสถานภาพสมรสและตอบว่า คุณนิดเป็นสามี คุณนิดอาจจะตอบว่ามีญาติก็ได้ค่ะ ไม่ใช่ระดับ immediate relatives ค่ะ ถ้ามีให้เลือก relatives เฉยๆ ก็ค่อยตอบว่า yes ค่ะ หรือถ้าคุณนิดจะต้องไปพักบ้านญาติคนนี้ก็คงตอบว่ามีค่ะ

  • mook  On October 24, 2016 at 7:47 pm

    ถ้าในกรณีที่ นัดวันสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว และยื่นเป็นแบบ ครอบครัว ซึ่งใช้พินเดียวกันได้ แล้ว 1ในสมาชิกครอบครัว ไม่สามารถเข้าสัมภาษณ์ได้ ต้องทำยังไงคะ ?

    • govisa  On October 24, 2016 at 8:10 pm

      น้อวมุกคะ เขียนอีเมล์ support-rhailand@ustraveldocs.com หรือ โทรไปที่ 02-105-4110 โทรแจ้งชิ่อน่มสกุลหมายเลขหระงสือเดินทางของคนที่ไปตามนัดไม่ได้ค่ะ ต้องโทรวันธรรมดาได้ตั้งแต่ 8.00-20.00 น.ค่ะ

  • Mook Sureenut  On October 24, 2016 at 7:59 pm

    ในกรณีที่ นัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ยื่นแบบครอบครัว พินเดียวกัน แล้ว1ในสมาชิกครอบครัวไม่สามารถไปสัมภาษณ์ได้ แล้วไม่ต้องการที่จะเลื่อนวันสัมภาษณ์ คือจะยกเลิกสมาชิก นั้นไปเลย ต้องทำยังไงคะ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ วันที่สัมภาษณ์หรือ ต้องแจ้งก่อนคะ แล้วต้องแจ้งเข้าไปทางไหนยังไงคะ ?

    • govisa  On October 24, 2016 at 8:14 pm

      ตอบแล้วนะคะ

    • govisa  On November 8, 2016 at 12:49 pm

      คุณ Mook Sureenat คะโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐฯที่หมายเลข 02-105-4110 ค่ะ

  • kukkik  On January 19, 2017 at 11:16 am

    พี่ๆคะอยากทราบว่าแก้ไขข้อมูลพาสปอร์ตในระบบที่จองวันสัมภาษวีซ่าไม่ได้ ต้องทำยังไงคะ คือเข้าระบบไปแล้วกดปรับปรุงโปร์ไฟล์แล้ว แต่กดแก้เลขพาส์สปอร์ตไม่ได้ค่ะ เลขที่ขึ้นในระบบเป็นเลขพาส์ปอร์ตเล่มเก่าที่เคยใช้ขอวีซ่าในครั้งก่อนๆแต่ตอนนี้หมดอายุแล้ว ขอพาส์ปอร์ตใหม่มาแล้ว ต้องการแก้ไขในระบบอ่ะค่ะ

    • govisa  On January 19, 2017 at 11:44 am

      น้อง kukkik คะ น้องต้องกรอก DS-160 ใหม่ค่ะ แก้ไขไม่ได้ถ้าsubmitแล้วค่ะ

  • MYMIND  On May 22, 2017 at 1:45 pm

    สอบถามหน่อยค่ะ เราจะสามารถหาข้อมูลDS-160ที่เราเคยกรอกแล้วได้จากลิ้งไหนค่ะ
    พอดีว่าจะปริ้นหน้ายืนยันตัวตนค่ะ

    • govisa  On May 22, 2017 at 2:18 pm

      น้อง Mymind คะ เข้า https://ceac.state.gov/genniv/
      เลือกประเทศ ใส่ code จามที่เห็นจากรูปภาพ และคลิก retrieve application ค่ะ หลังจากนั้นใส่ อักษร 5 ตัวแรกนามสกุล ปีคศที่เกิด และรหัสที่น้องตั้งไว้ในตอนแรกที่กรอกใบสมัคร ถ้าจำไม่ได้ เริ่มต้นกรอกใหม่หมด เพราะไม่สามารถเข้าไปคลิกเพื่อ print DS-160 Confirmation Number ได้ค่ะ

  • mutu  On June 19, 2017 at 9:11 pm

    สวัสดีค่ะ
    ขอสอบถาม ค่ะ เคยขอวีซ๋าอเมริกาไปแล้ว ซึ่งได้ขอแบบกลุ่มไป แต่ไม่ผ่าน ร ครั้งนี้จะขอใหม่ แต่เป็นแบบคนเดียว จะต้องแก้ไข อย่างไรค่ะ

    • govisa  On June 19, 2017 at 10:08 pm

      น้อง mutu คงต้องให้รายละเอียดพี่เพิ่มเติม เช่น ที่ขอเป็นกลุ่มไปทำอะไร แบ็คกราวนด์ความเป็นมาของน้อง และใครเป็นสปอนเซอร์

      ในการขอเดี่ยวครั้งนี้เป็นวีซ่าประเภทเดียวกันกับครั้งก่อนหรือเปล่าคะ ใครเป็นสปอนเซอร์ วัตถุประสงค์ในการเดินทางคืออะไร ฯลฯ ค่ะ

Leave a reply to govisa Cancel reply